ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ ::: 成長 seichō ::: CHANKAI FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #3 : 果報 Kahō :: CHAPTER 02

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 57


     

     

     果報 Kahō

     

     

     

     CHAPTER 02



     


     

    มุมบันไดหนีไฟคงเป็นสถานที่โปรดของปาร์คชานยอล

    ตอนนี้คิมจงอินกำลังยืนทำหน้างงใส่ผู้ชายตัวสูงสองคนที่มายืนพ่นควันบุหรี่กันปุ๋ยๆอยู่ที่มุมบันไดหนีไฟของชั้นห้าในเวลาเรียนแบบนี้ และดูเหมือนทั้งสองจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่เจอ กลับเป็นคิมจงอินเสียอีก ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาเจอปาร์คชานยอลตรงนี้ทุกวัน อย่างต่ำวันละสองรอบ 

     

    'มาดักรอผมหรอครับ?' 

     

    'นี่มันที่สูบบุหรี่ประจำของฉัน

     

    เคยถามออกไปตรงๆแต่อีกฝ่ายกลับตอบมาแบบนั้น แต่ก็นั่นแหละ จงอินไม่คิดจะมายืนเถียงอะไรกับปาร์คชานยอลหรอก เพราะฉะนั้นหลังจากประโยคนั้น ก็ไม่มีคำถามหลุดออกมาอีกเลย มีเพียงการก้มหัวทักทาย ตามมารยาทที่รุ่นน้องพึงจะมีเพียงเท่านั้น แต่วันนี้ดูจะแปลกไปสักหน่อย เมื่อปาร์คชานยอลมายืนขวางไว้เต็มทางเดิน เงยหน้ามองก็ไม่ได้คำตอบ มีเพียงการจ้องกลับมา พอหันไปหารุ่นพี่คริส ก็ไม่ได้อะไรกลับมานอกจากการยักไหล่ ยักคิ้ว 

     

     

    จะถามรอบที่สอง ไอ้ยักไหล่ ยักคิ้วนี่มันหมายความว่ายัวไงวะครับ

     

     

    จงอินขยับขวา ปาร์คชานยอลก็ขยับขวาง เบี่ยงไปซ้ายก็ขยับมาบัง โอเคครับโอเค จงอินเงยหน้ามองรุ่นพี่ปาร์คชาคยอลอีกครั้ง ถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินลงบันไดกลับไป แต่ยังไม่ทันจะไปไหน ก็ถูกคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน 

     

    "ไปไหน" 

     

    "เรียนครับ สายมาก"

     

    "ชั้นไหน" 

     

    "ชั้นห้าครับ" 

     

    "มานี่" ปาร์คชานยอลกระชาก เออเรียกไม่ผิดหรอกกระชากแขนจงอินจนตัวปลิวติดมือ เดินออกไปทางประตู ทำให้อู๋อี้ฟานที่ยืนอยู่เงียบๆต้องเอ่ยเรียกไว้ก่อน ชานยอลโคลงหัวไปมา นึกอยากเอาอะไรนาบหน้ามันสักอย่าง 

     

    "เฮ้ กูล่ะ" 

     

    "สิงผนังไปมึงน่ะ" 

     

    ตอบเพื่อนแล้วก็ก้าวยาวๆทั้งๆที่ในมือยังมีแขนจงอินติดไปด้วย ลากกันจนเซแท่ดๆออกมายืนหน้าลิฟต์ จงอินมองอย่างเข้าใจมันดีว่าปาร์ คชานยอลต้องการอะไร หลายๆครั้ง ที่ปาร์คชานยอลหวังดี ทำทุกอย่างให้โดยไม่พูด และจงอินก็รู้ว่าครั้งนี้ รุ่นพี่ปาร์คชานยอลต้องการให้เขาขึ้นลิฟต์ไปเรียนแทนการเดิน 

     

    ติ๊ง 

     

    ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับคนในลิฟต์ ที่มองออกมา ทุกคนโค้งหัวให้ชานยอล และมองทั้งสองคนเผ็นตาเดียวกัน ไม่มีใครขยับ คนในลิฟต์ก็ไม่กล้ากดปิด เพราะมือชานยอลด้นประตูลิฟต์ไว้

     

    "ผมไม่ชอบขึ้นลิฟต์.....ครับ" เติมหางเสียงเมื่อรู้สึกว่าประโยคมันดูจะห้วนไปสำหรับการสรทนากับรุ่นพี่ แต่ปาร์คชานยอลก็ยังคงเป็นปาร์คชานยอลอยู่วันยังค่ำ

     

    "เข้าไป"

     

    "ไม่ครับ"

     

    "เข้า ไป ยืน" 

     

    คนในลิฟต์มองสองคนที่กำลังเถียงกัน มันไม่ได้ดุเดือดเอาเป็นเอาตาย แต่บรรยากาศมันมาคุ เหมือนมีเมฆดำลอยวนๆอะไรประมาณนั้น จงอินนิ่ง ชานยอลก็นิ่งจนลิฟต์ร้องเตือน และปาร์คชานยอลตัดสินใจกระชาอีกคนเข้ามาอยู่ในวงแขน 

     

    "เฮ้ยยยยยยยยยย" จงอินร้องอย่างตกใจ เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในลิฟต์ แล้วประตูก็ปิดลงพร้อมกับลิฟต์เคลื่อนตัวไปชั้นต่อไป พร้อมกับความสงบที่เข้ามาเยี่ยมเยียนลิฟต์ตัวนั้น

     

     

     

     

     

    และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ได้กอดกัน นับว่ากอดแล้วกัน *ยักไหล่* 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลิฟต์เปิดออกที่ชั้นห้า และปาร์คชานยอลก็เริ่มต้นลากคิมจงอินอีกครั้ง จงอินถอนหายใจดังๆหลายครั้งจงใจให้รุ่นพี่ได้ยิน และมันประสบความสำเร็จในครั้งที่สามที่เขาทำมัน 

     

     

    "เรียนห้องไหน"

     

    "ผมนึกว่าพี่รู้ครับ"

     

    "....." 

     

    "เดินมาผิดทางตั้งแต่ออกจากลิฟต์แล้วครับ" คิมจงอินพูดแค่นั้น ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อเดินไปอีกทาง แต่ปาร์คชานยอลก็คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน คราวนี้เริ่มจะไม่พอใจขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว เพราะมันสายมาจะสิบห้านาที และปาร์คชานยอลยังลีลากับการดึงแขนเขาอยู่แบบนี้ 

     

    "ไปส่ง" 

     

    "....."

     

    "ห้องไหน?"

     

    "D-61ครับ"  ตอบแค่นั้นแล้วชานยอลก็จัดการลากคิมจงอินเดินกลับไปยังทางที่เดินมา คลาสนี้เป็นคลาส การเต้นประยุกต์ อาจารย์ประจำวิชาค่อนข้างจะเข้มงวด จงอินกลอกตาไปมาระบายความเซ็งสุดขีด ก่อนที่จะหน้าซีดเผือดเพราะปาร์คชานยอลกระชากประตูห้องเรียนเขาออก 

     

    "นี่!! เธอ!!..."

     

    "ขอโทษครับ ผมพาคิมจงอินมาส่ง"

     

    "เข้ามาแล้วก็เงียบๆ จะเริ่มเรียนกันแล้ว" 

     

    จงอินแปลกใจ แสดงสีหน้าที่งุนงงออกมาอย่างชัดเจน ปาร์คชานยอลคนประหลาดมักจะมีเรื่องแปลกใจมาให้เขาเสมอ เป็นที่รู้กันดีว่าอาจารย์วิชานี้เคี่ยวแค่ไหน แต่คิมจงอินกลับไม่โดนตำหนิเลยแม้แต่น้อย จงอินตั้งใจมองอาจารย์หน้าคลาส ส่วนปาร์คชานยอลนั้นเขาไม่รู้ เพราะพอเดินเข้ามาประตูก็ปิดไปทันที และคิมจงอินไม่มีทางรู้แน่ๆว่าปาร์คชานยอลเดินมาแอบดูอยู่ที่ประตูหลังห้อง 

     

     

     

     

     

     

    ชานยอลนึกอยากเอาหัวโขกผนังแรงๆสักทีสองที เผื่อมันจะได้มีอะไรเข้าที่เข้าทางกับเขาบ้าง อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาดักรอคิมจงอินทุกวันที่บันไดหนีไฟเพราะรู้ว่าเจ้าตัวจะต้องใช้ทางนี้แน่ๆ อันที่จริงปาร์คชานยอลไม่ชอบใจเลยแม้แต่น้อยที่คิมจงอินไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับความสะดวกสบายเหมือนคนอื่น 

     

    ชานยอลเห็นคิมจงอินเดินขึ้นลงตึกเรียนทุกวัน ทั้งวัน ชานยอลเห็นลอคเกอร์ที่มันโคตรจะไม่มีความมั่นคงปลอดภัยอะไรเลย แต่เด็กคนนั้นไม่บ่น ไม่มีสีหน้าไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย ที่เดียวที่ชานยอลเห็นคิมจงอินผ่อนคลายคือสวนหลังโรงเรียน 

     

    คิมจงอินลุกออกไปหน้าห้องน่าจะเพราะอาจารย์เรียก ชานยอลเห็นคิมจงอินก้มหน้าหลับตาอยู่สักพักก่อนจะเริ่มขยับร่างกาย สรีระที่มีเสน่ห์ ทุกท่วงท่า การจัดวางร่างกาย ปลายเท้า ช่วงไหล่ ลำแขน คิมจงอินคือผู้ชายคนแรกที่ปาร์คชานยอลไม่ละสายตาสักนาที  ชานยอลรู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่เกย์ แต่คิมจงอินแค่เป็นผู้ชายคนเดียวที่เขาสนใจ มันไม่ใช่ว่าเป็นเพื่อน คิมจงอินมีอะไรสักอย่าง ที่ชานยอลก็บอกไม่ถูก

     

     

    เสียงเพลงที่ดังออกมานอกห้องทำให้ชานยอลรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นแรง เขาฟังเพลงตัวเองมาหลายร้อยรอบแต่ชานยอลมั่นใจว่าไม่มีครั้งไหน ที่เขาจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันดูลอยๆ มันเป็นความภูมิใจ ที่เห็นใครสักคนใช้เพลงของเขา เพลงนั้นเป็นเพลง R&B แต่จงอินกลับขยับร่างกายอย่างงดงาม ทุกท่วงท่าไม่ว่าจะเป็นการทิ้งสะโพก ขยับช่วงเอว เบี่ยงไหล่ ชานยอลไม่เคยรู้ว่าคนหนึ่งคนจะมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้เวลาขยับร่างกายไปกับเพลงของเขา ชานยอลไม่ได้ดูมันจนจบ เขาค่อยๆเดินออกมาช้าๆ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเดินกลับมาหาคริสที่บันไดหนีไฟได้ยังไง ร่างสูงพิงร่างเข้ากับผนังตึก ใบหน้ายังคงนิ่งเฉยและเหม่อลอย คริสที่เห็นเพื่อนแปลกไปก็ตกใจ ยิ่งชานยอลยกมือขึ้นมากุมหน้าอกคริสยิ่งตื่นตระหนก

     

     

    “เฮ้ย มึงเป็นไร เป็นโรคหัวใจหรอวะ เฮ้! ชานยอล ปาร์คชานยอล..”

     

     

    อา... ไอ้บ้านี่โหวกเหวกชะมัด คนกำลังมีความสุข

     

    มันอาจจะดูมากเกินไป แต่กับปาร์คชานยอล ที่ถูกโยนความสุขของตัวเองทิ้งไป นี่ถือเป็นครั้งแรก เป็นครั้งแรกจริงๆที่ชานยอลรู้สึกว่าหัวใจของเขามันเต้นแรง สูบฉีดเอาเลือดไปเลี้ยงทุกส่วนตอนที่เห็นคิมจงอินขยับร่างกายไปตามจังหวะที่คนเป็นคนรังสรรค์มันขึ้นมา

     

     

    เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันนั้น ที่ชานยอลรู้สึกว่ามีความสุข

     

     

     

     

    ปาร์คชานยอลแม่งคิดอะไรอยู่ในหัวกลมๆของมัน?

    คริสมองเพื่อนที่ดูท่าจะเพ้อเจ้อมาเป็นอาทิตย์ หลังจากอาทิตย์ที่แล้วมันลากเขาไปยืนเฝ้าเด็กมันเดินขึ้นบันได ขอเรียกคิมจงอินว่าเด็กมันก็แล้วกัน อาทิตย์ที่ก่อนนู้นลากเขาไปนั่งกินข้าวที่ห้องอาหาร อาทิตย์ที่แล้วไปยืนเฝ้าที่บันไดหนีไฟ

     

    “นี่กูถามจริง...”

     

    “มึงถามกูจริงๆมาทั้งวันแล้วครับ อู๋อี้ฟาน”

     

    “ซั๊ส กูเอาแบบจริงจัง”

     

    “กูก็เห็นมึงจริงจังทุกรอบ” ชานยอลโคลงหัว แล้วก้มหน้าลงไปสนใจกระดาษต่อ คริสเห็นมันเขียนยุกๆยิกๆ เขียนไปอมยิ้มไป คือมึงเป็นบ้าหรือว่าผีเข้าครับปาร์คชานยอลกูขนลุก ตั้งแต่เจอเด็กประหลาดคิมจงอิน ปาร์คชานยอลแม่งก็กลายเป็นคนประหลาดขึ้นมาหลายเท่าตัว

     

    “ทำเหี้ยอะไรอยู่”

     

    “ทำอะไรที่เหี้ยแบบมึงไม่เข้าใจอ่ะ”

     

    โอเคบาย! กูถามดีๆ ก็ตอบกวนตีน กูบอกกูถามจริงจังก็ตอบกวนตีน นี่มึงจะกวนตีนกูให้ได้ใช่มั้ยปาร์คชานยอล ได้ ปาร์คชานยอลได้~

     

    “เชี่ย!!!!...เอามา! อู๋อี้ฟาน”

     

    “เหยดดดดดดดดดดดดดดดดด มึงแต่งเพลงหรอวะ ชานยอลมึงแต่งเพลงหรอวะ” คริสดึงกระดาษที่ชานยอลกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนออกมาดูแล้วก็ร้องออกมาอย่างเหลือเชื่อ กวาดสายตาดูคร่าวๆ ปาร์คชานยอลกำลังเขียนเพลงรัก พระเจ้าช่วย! ปาร์คชานยอลคนหม่นหมองของโลกกำลังเขียนเพลงรัก!

     

    “กูบอกให้เอาคืนมา!!

     

    “เด็กประหลาดนั่นเป็นแรงบันดาลใจมึงหรอวะ! กูไม่คืนกูขออ่านก่อน!

     

    “อู๋อี้ฟาน!!!

     

    เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลอดออกมา ทำให้คนที่กำลังยืนเงียบๆ ได้แต่กลั้นขำ คิมจงอินกำลังยิ้ม ยิ้มแบบที่ยิ้มจริงๆ มันบังเอิญมากที่ชั้นนี้เป็นชั้นของนักเรียนโกลด์คลาส จงอินแค่อยากเดินขึ้นมาสูดอากาศถึงได้เดินขึ้นบันไดหนีไฟ แล้วออกมายังระเบียงข้างนอก แต่กลับกลายเป็นว่า ห้องที่อยู่ริมสุด เป็นห้องที่คริส และปาร์คชานยอลใช้สิงสถิตย์ จงอินไม่ได้อยากเสียมารยาทแอบฟัง แต่คริสกับปาร์คชานยอลดันเลือกที่จะเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ประโยคต่างๆที่ทั้งคู่ทะเลาะกันมันเล็ดรอดออกมาให้คิมจงอินได้ยิน

     

    อา...นี่เขากลายเป็นเด็กประหลาดไปแล้วสินะ??

     

    แล้วการเป็นเด็กประหลาดนี่มันมีความสุขจนต้องอมยิ้มเสียเต็มแก้มเลยรึไงนะคิมจงอิน?











     

    #ฟิคความสุขชานไค

    ประหลาดด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละเนาะ

    555555555555555555555

    แอบมาต่อช้า ขอโทษนะคะ ทำงานหนักเล้ยยยยย

    ดีใจนะคะ ที่หลายคนชอบ รู้สึกดี~

    คือมันเป็นฟิคเรื่อยๆ ไม่มีดราม่า ไม่มีโดนแกล้ง ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละค่า

    แอบมาลงที่ทำงานด้วย แหะๆ แว้บไปแล้วนะคะ ยังไม่ได้แก้คำผิดเลย

    เดี๋ยวมาตรวจให้นะคะ








     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×