คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
TITLE CYCLE
PAIRING : CHANYEOL X KAI
พวกเรามาถึงเกาะเชจูในตอนเย็นแล้ว และจงอินกับชานยอลก็กลับมาผูกข้อมือกันเหมือนเดิมอีกครั้ง คนที่เห็นเหตุการณ์บนเรือต่างก็ลอบมองทั้งสองคนไม่วางตาแต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ ดูจะนิ่งสงบเกินไปด้วยซ้ำ ปาร์คชานยอลก็เดินเอาๆ ไม่ได้คิดว่าขายาวๆของเจ้าตัวจะทำให้บัดดี้อีกคนต้องก้าวเร็วขึ้นกว่าจังหวะเดิม แต่มันก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่ถึงคิมจงอินจะเดินหลับตา พอจะชนอะไรเข้าหน่อยปาร์คชานยอลก็กระตุกแขนให้อีกคนสะดุ้งแล้วหลบได้ทัน
‘เฮ้ยยยย มันน่ารักแปลกๆเว้ยยย’
ทุกคนยืนรวมตัวกันอยู่ที่สนามหน้ารีสอร์ทที่พัก ทุกคนถึงกับตื่นเต็มตาเมื่ออาจารย์ประกาศเรื่องห้องพัก หลายคนโอดครวญเพราะบางกลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่ รวมไปถึงเทากับเซฮุนที่หันไปมองคู่ที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับทัศนศึกษาครั้งนี้
จงอินถึงกับตื่นเต็มตาแล้วหันไปมองคนที่ทำตาโตไม่แพ้กันอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้คิดว่าการเป็นบัดดี้กันจะรวมถึงการเป็นรูมเมทตลอดสามวันสองคืนที่เกาะเชจูนี้ด้วย
‘เอาแล้วไง นอนกับใครวะเนี่ย?’
จงอินรู้ว่าอีกฝ่ายชื่อปาร์คชานยอล รู้แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมากกว่านั้น เช่นเดียวกับที่ชานยอลรู้จักว่าอีกคนชื่อคิมจงอิน ไม่ใช่สิ อีกอย่างที่เขารู้คือคิมจงอินเป็นมนุษย์ขี้เซาที่จะหลับได้ตลอดเวลา
หลังจากที่ฟังเสียงโอดครวญของนักเรียนกว่าครึ่งและแจกกุญแจห้องพักเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ถูกปล่อยให้ใช้เวลาส่วนตัวได้ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ โชคยังดีที่ห้องพักของจงอินไม่ห่างจากเทากับเซฮุนมากนักทั้งสองคนเลยไม่กังวลใจเท่าไหร่ ที่จริงมีแค่เซฮุนคนเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนเทาดูจะดีใจออกนอกหน้ามากไปเสียด้วยซ้ำ
“นี่มึงสนับสนุนให้เพื่อนมีเมียเหรอ?” เซฮุนถามขึ้นหลังจากที่เข้ามาในห้องพักเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มนั่งห้อยขาข้างหนึ่งลงจากเตียงพร้อมกับตั้งคำถามให้กับเทาที่เดินเลยไปยังเตียงด้านใน
“มีเมีย? นี่คุณโอครับ” เทาวางกระเป๋าไว้บนเตียงตัวเองแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเตียงของเซฮุนแล้วหันหน้าเข้าหากัน “คิดว่าไอ้หมีเพื่อนเรานี่จะตกอยู่ในสถานะรุกปาร์คชานยอลหรอครับ?”
ประโยคเดียวของเทาทำให้เซฮุนพูดไม่ถูก คิดตามที่อีกคนพูดมันก็จริงอยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวก่อน!! จงอินมันอาจจะไม่ชอบไอ้ปาร์คชานยอลอะไรนั่นก็ได้ เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาก็ยังไม่เห็นว่ามันจะมีอารมณ์หวานแหววกุ๊กกิ๊กกับใครเขาบ้างเลย
ชานยอลลอบมองบัดดี้ที่จะเป็นรูมเมทกับเขาตลอดสองคืนที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เข้ามาในห้องพักอีกฝ่ายก็ไม่ทำอะไรนอกจากโยนกระเป๋าลงบนเตียงที่ใกล้ประตูที่สุด แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาที่อยู่ติดผนังห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วนอนดูอะไรสักอย่างอยู่อย่างนั้น
“เฮ้ ฉันจะไปห้องไอ้ลู่หานนะ”
“อืออ”
คิมจงอินยังคงนอนนิ่งอยู่บนโซฟาโดยไม่ที่ไม่ยอมหันมาสนใจชานยอลสักนิด อะไรวะชักจะโมโหขึ้นมานิดหน่อยแล้วเหมือนกันนะเว้ย เด็กหนุ่มก้าวยาวๆไปยืนค้ำหัวคนที่นอนนิ่งจ้องโทรศัพท์กระพริบตาปริบๆด้วยใบหน้าถมึงทึง
“ถ้าไม่พอใจก็ไปขอครูย้ายไปนอนห้องอื่น”เสียงที่ห้วนสั้นของปาร์คชานยอลทำให้จงอินละสายตาออกมาจากโทรศัพท์และคิดว่าเขากำลังมองเด็กผู้ชายตัวใหญ่ใกล้จะกลายเป็นยักษ์เขียวเข้าไปทุกวินาทีแล้ว
จงอินขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจว่าปาร์คชานยอลโกรธหรือไม่พอใจอะไร เพราะพวกเขาไม่ได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่นักแล้วอยู่ๆจะมาโกรธเขาด้วยเรื่องอะไรกันล่ะ??
“ถ้านายไม่พอใจ ฉันก็ยินดีจะย้าย” จงอินวางมือถือและลุกขึ้นมานั่งดีๆ ยิ่งพอเงยหน้าคุยกันแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าปาร์คชานยอลสูงเป็นบ้าเลย
“ใครกันแน่วะที่มันทำท่าทางไม่พอใจ ไหนพูดดิ๊ไม่พอใจอะไร นี่ยังไม่รู้จักกันเลย” ชานยอลรู้สึกว่าเขาโดนกวนตีนแล้วทำให้เส้นประสาทที่ขมับของเขาเต้นแรงมาก
“ก็นั่นดิ ยังไม่รู้จักกันเลยแล้วฉันจะไม่ไปพอใจอะไรนาย” เอาล่ะ จงอินว่านี่มันจะเริ่มบ้าขึ้นมานิดนึงแล้ว ปาร์คชานยอลอะไรนี่หัวเสียมาจากไหนวะ? ขยับตัวขึ้นยืนบนโซฟาแล้วก้มหน้ามองไอ้คนที่ยืนหน้าหงิกอยู่บนพื้นด้วยสายตา ‘จะเอายังไงก็ว่ามา’
ตอนนี้เหมือนเส้นประสาทชานยอลกำลังจะแตกช้าๆ เขาได้เสียงเปรี้ยะดังลั่นในแก้วหู พยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไอ้คนที่ยืนทำหน้ากวนตีนอยู่บนโซฟาอย่างพยายามหักห้ามใจไม่ให้กระชากมันลงมาหักแขนเป็นสองท่อน คิมจงอินนี่ความกวนตีนแทรกซึมในผิวเลือดของมันหรือยังไงกันวะ
“ตกลงจะเปลี่ยนห้องมั้ย?”
“แล้วแต่สิครับ” จงอินตอบไปตามี่ตัวเองคิด เขายังคงยืนอยู่บนโซฟา แต่เปลี่ยนเป็นกอดอกแล้วเอนพิงกำแพงด้านหลังจ้องหน้าอีกฝ่ายแทน และแน่นอนว่าท่าทางนั้นแม่งโคตรน่าหมั่นจนชานยอลต้องข่มใจอีกครั้งก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่นจนจงอินสะดุ้งสุดตัว
“เออ!!! งั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยน!!!”
จงอินมองตามหลังคนที่เดินหัวเสียออกไปด้านนอกห้องด้วยสายตาไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่พอสมควรที่เขารอดตายมาได้ คิดว่าจะโดนจับหักคอทิ้งคาห้องพักซะแล้วเมื่อกี๊นี้ ไม่รู้หมอนั่นไปหัวเสียอะไรมาถึงได้เอาอารมณ์มาลงที่เขาแบบนี้ แล้วอีกสามวันที่อยู่ด้วยกันนี่มันจะเป็นยังไงกัน
ทางด้านชานยอลที่เดินหงุดหงิดออกมาก็ตรงดิ่งไปห้องของลู่หานกับแบคฮยอนทันที พอได้เริ่มหงุดหงิดปาร์คชานยอลก็จะหงุดหงิดไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งเวลาเสี้ยววินาทีที่ลู่หานมันเดินมาเปิดประตูให้เขาช้ายังหงุดหงิดได้
“ทำไมวะ ทะเลาะกับบัดดี้มาหรือไง” เป็นแบคฮยอนที่เปิดประเด็นขึ้นมา และเมื่อเห็นชานยอลทำหน้าตาเซ็งหนักกว่าเก่าถึงได้ลอบมองหน้ากันอย่างอ่อนอกอ่อนใจ นี่ยังไม่พ้นวันมันจะรอดมั้ยเนี่ย
“กูว่าแม่งเป็นคนที่กวนตีนสุดๆไปเลย” เหล่มองเพื่อนสนิทแล้วก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนของพวกมันซะอย่างนั้น เขากำลังหงุดหงิดมากๆ กับคิมจงอินนั่นให้ตายเถอะ
“เอ้า ทำไมวะกูเห็นบนเรือยังดีๆกันอยู่เลย มึงยังลูบผมกล่อมเขานอนอยู่เลยนะ” ใช่ ลู่หานจำได้ไอ้ชานยอลยังหันไปหาคนที่นอนพิงไหล่มันเพราะกระเป๋าผูกติดกันอยู่บ่อยๆ พอคิมจงอินขยับตัวยุกยิก เขายังเห็นมันลูบหัวเขาอยู่ตั้งหลายรอบ แล้วนี่อะไร?
“ตอนหลับกับตอนตื่นแม่งต่างกันชะมัดอ่ะ” เหอะ ถ้ารู้ว่าจะเป็นคนกวนตีนขนาดนี้ กูจับหักคอทิ้งตั้งแต่บนรถที่นั่งมาด้วยกันแล้วแม่ง
ลู่หานมองหน้าไอ้คนขี้หงุดหงิดแล้วก็อยากจะถามว่าเขากวนตีนมันหรือมันเองที่คิดไปทั่วว่าคนอื่นกวนตีน แต่อีกใจก็คิดว่ารู้นิสัยเพื่อนตัวเองอยู่ดีพอสมควร เลยเลือกปล่อยเลยตามเลยไปดีกว่าปาร์คชานยอลมันเป็นประเภทโมโหง่ายหายเร็วอะไรประมาณนั้น ยิ่งถ้าได้ระบายออกมาแบบนี้อีกสักพักเท่านั้นล่ะ เดี๋ยวมันก็หาย
“ก็อยู่ห้องกูไปก่อน อารมณ์ดีแล้วค่อยกลับไป”
จงอินตื่นเพราะแรงสะกิดไม่เบานักเรียกได้ว่าแทบจะเขย่าจนหัวคลอนไปหมด เขาเผลอหลับไปตอนนอนดูคลิปย้อนหลังของเชลซีที่แข่งกับเอฟเวอร์ตันไปเมื่อคืนก่อน เกือบเผลอยกมือขึ้นขยี้ตาแต่ก็จำได้ว่าตัวเองใส่คอนแทคเลนส์ค้างไว้เลยได้แต่กระพริบตาสลับกับกลอกตาไปมาอยู่อย่างนั้น
ชานยอลไม่เข้าใจว่าจงอินกำลังทำอะไร ไอ้ท่าทางประหลาดแบบนั้นมันเป็นเพราะอะไรแต่คิดว่าอีกคนคงเคืองตาเลยจับให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่คิมจงอินยังไม่ตื่นดี สองมือจับเข้าประคองบนใบหน้าแล้วใช้นิ้วถ่างตาของคนที่กำลังจะกระพริบตาปิดลงอีกครั้ง ก่อนที่จะ...
ฟู่ววว
ลมอ่อนๆที่เบาเข้าเต็มเบ้าตาข้างขวาทำให้จงอินนิ่งงัน อาการเคืองตาเกิดขึ้นแทบจะทันทีสองมือยกขึ้นดันปาร์คชานยอลออกแล้วปิดตาข้างขวาที่โดนเป่าอย่างรวดเร็ว จงอินหลับตากลอกตาไปมาแบบนั้นอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเร็วๆไปคว้าของในกระเป๋าแล้วตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที
ปาร์คชานยอลมองตามด้วยความไม่เข้าใจ ความหงุดหงิดเริ่มขึ้นอีกครั้ง อะไรกันวะ? ก็เห็นทำหน้าตาแปลกๆ นึกว่าเคืองตาก็จะเป่าตาให้แล้วอะไรยังมาทำหน้าตาโกรธขนาดนั้นอีก ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ติดผนังอย่างหัวเสีย ออกมานี่ต้องคุยกันหน่อยแล้วรูมเมทชั่วคราวคิมจงอิน
นั่งรอไม่นาน คิมจงอินก็เดินออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งพร้อมด้วยภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป แว่นตากรอบสี่เหลี่ยมอันใหญ่ที่ปิดไปครึ่งค่อนหน้าทำให้ชานยอลนึกแปลกใจ ที่รีบลุกไปเข้าห้องน้ำก็เพราะแบบนี้น่ะหรอ??
“ฉันขอโทษ ไม่รู้ว่านายใส่คอนแทคเลนส์”
“อือ ไม่เป็นไร”
“งั้นก็ไปกินข้าวกัน”
พอรู้ว่าตัวเองเป็นคนผิด จากที่คุกรุ่นอยู่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มตัวสูงลุกยืนขึ้นรอคนที่เดินเอาขวดน้ำยาล้างคอนแทคฯกับตลับไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะกระจก คีย์การ์ดที่เสียบไว้ถูกดึงออกก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินไปห้องอาหาร
“ฉันจะไปนั่งกับเพื่อน”
“อือ”
ชานยอลโคตรขัดใจไอ้คำว่าอือนี่เลยนะพูดจริงๆ อยากจะเอากำปั้นยัดเข้าไปในปากแล้วบอกว่า พูดคำอื่นบ้างก็ได้โว้ย!! แต่ก็ได้แค่คิดในจินตนาการ ถึงจะชอบใช้กำลังแต่ชานยอลก็ไม่เคยอัดใครสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเขาแยกกันนั่งแล้วก็ถือว่าโชคยังดีที่อาจารย์ไม่ได้บังคับให้ผูกข้อมือติดกันไว้ตลอดเวลา แค่ช่วงที่ออกไปทัศนศึกษารอบเกาะเท่านั้น
เซฮุนกับเทามองเพื่อนสนิทที่วันนี้ใส่แว่นตาหนาเตอะที่เจ้าตัวบ่นนักบ่นหนาลงมากินข้าว จงอินมักจะบ่นทุกครั้งที่คอนแทกเลนส์หมดอายุแล้วเจ้าตัวลืมซื้อทำให้ต้องใส่แว่นอันหนักนี้ไปไหนมาไหน แต่แปลกแฮะ ทำไมถึงยอมใส่ลงมาทั้งที่ปกติจะใส่แค่ตอนถอนคอนแทคก่อนจะนอนเท่านั้น
“ทำไมวันนี้ใส่แว่นลงมาอ่ะ”
เงยหน้าขึ้นจากจานข้าวใช้นิ้วดันแว่นที่สไลด์ลงมาตามแนวดั้งให้เข้าที่ คนที่นั่งหน้าง่วงอยู่ตลอดเวลาถึงกับหน้าบึ้งใส่เซฮุนที่เป็นคนถามคำถามนี้ ยิ่งคิดแล้วยิ่งหงุดหงิด
“ปาร์คชานยอลเป่าลมใส่เต็มเบ้าตากู เลยต้องถอดคอนแทคออกมันเคืองตา”
คำตอบของเพื่อนทำเอาเทากับเซฮุนเลิกคิ้วมอง เดี๋ยวนะ เป่าตา? นี่มึงไปเป่าตากันท่าไหนทำไมมันถึงเข้าไปเต็มเบ้าตา แล้วอะไรยังไงคนปกติเขาอยู่ดีๆ เดินเข้าไปเฮ้นายฉันขอเป่าตานายงี้หรอ? คิมจงอินเล่าไม่เคลียร์เลยอ่ะ
“เล่นอะไรกัน ทำไมเขามาเป่าตามึงล่ะจงอิน” เทาเป็นฝ่ายถามบ้าง ท่าทางตื่นเต้นระริกระรี้ทำให้เซฮุนนึกอยากถองศอกใส่แรงๆ “ปาร์คชานยอลมาเป่าตามึงทำไม เร็วๆ กูอยากรู้”
“กูหลับอยู่ เขามาปลุก” จงอินนิ่งคิดว่าทำไมปาร์คชานยอลถึงได้มาเป่าตาเขาอย่างนั้น. “ไม่ได้ถอดคอนแทค เลยรู้สึกตาแห้งๆ แล้วเขาก็จับกูถ่างตาเป่าลมเข้าใส่เลย”
เทาถลึงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เรื่องมันชักจะเข้าเค้านิดๆแล้วนี่ไง ผิดกับเซฮุนที่นั่งอ้าปากค้างชอคไปแล้ว ไอ้โพสสิชั่นถ่างตาแล้วเป่านี่มันต้องใกล้ขนาดไหนกันหรือออออ???
“อิ่มแล้ว”
นี่ก็ก้มหน้าก้มตากินไม่ได้สนใจเพื่อนฝูงเลยสักนิด จงอินอาจจะเป็นคนไม่คิดอะไรกับการใกล้ชิดแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าอีกฝ่ายก็คงเหมือนกัน ให้ตายเถอะเซฮุนไม่อยากจะคิดว่าที่เทาพูดมันจะเกิดขึ้นจริง!!
หลังจากมื้ออาหารพวกเขาก็รับฟังกำหนดการณ์สำหรับพรุ่งนี้อีกเล็กน้อย และพออาจารย์ปล่อยกลับที่พักได้ปาร์คชานยอลก็เดินตรงมาหาเขาทันที เพราะคีย์การ์ดที่ใช้เข้าห้องอยู่ที่อีกคนจงอินเลยต้องบอกลาเพื่อนสนิทแล้วเดินลากขาตามกันกลับไปยังห้องพัก
“นายจะอาบน้ำก่อนหรือเปล่า”
“นายอาบก่อนเลย ฉันอาบนาน”
ชานยอลพยักหน้า แล้วเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาหัวเปียกโชก เห็นคิมจงอินนอนคว่ำหน้าแทบจะชิดจอโทรศัพท์ แว่นสายตาถูกทอดวางไว้ด้านข้างชานยอลพึ่งสังเกตว่าเลนส์มันหนามาก สายตาคิมจงอินต้องแย่มากแน่ๆ
“นายสายตาแย่ขนาดนั้นทำไมไม่ใส่แว่น”
“มันหนัก”
จงอินตอบออกมาสั้นๆ แล้วเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ เขาเห็นภาพทุกอย่างเบลอไปหมดแต่ก็ยังพอจะเดาได้ว่าปาร์คชานยอลอยู่ตรงไหน ผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่เตรียมไว้ระหว่างรอถูกหยิบขึ้นมาผิดกับแว่นสายตาที่ถูกวางทิ้งไว้ มันทำให้ผู้อาศัยร่วมห้องเลิกคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
“ไม่เอาไป นายมองเห็นหรือไง”
“คลำๆหาเอาเดี๋ยวก็เจอ”
ตอบแบบนั้นแล้วก็ค่อยๆเดินไปตามทางเดิน ชานยอลเลิกคิ้วมองในความน่าทึ่งที่คิมจงอินไม่เดินชนอะไรสักอย่าง จนอีกฝ่ายปิดประตูไปนั่นแหละเขาถึงได้ขยับเดินมานั่งเช็ดหัวอยู่บนเตียง แต่ยังไม่ทันจะถึงห้านาที เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดขึ้นออกมาอีกรอบ พร้อมกับคิมจงอินที่ยื่นออกมาแค่หน้าตาง่วงๆ
“ถ้าง่วงก็นอนได้เลย เปิดแค่ไฟหรี่ไว้ให้ฉันก็พอ”
บอกเสร็จก็ปิดประตูเข้าไปใหม่ มันตลกดีเหมือนกันที่เมื่อกี๊อีกฝ่ายพูดกับเขาทั้งที่สายตาพยายามกวาดมองไปทั่วว่าเขานั่งอยู่ตรงไหน นั่งเช็ดผมจนกระทั่งผมแห้งชานยอลก็ยังคงได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัว ไม่รู้ว่าคิมจงอินผ่าเครื่องในออกมาล้างด้วยหรือยังไงกัน แต่หมอนั่นอาบน้ำนานอย่างที่พูดไว้ ตอนแรกเขาก็ว่าจะรอจะได้ไม่ต้องปิดไฟเพราะกลัวคนตาไม่ดีจะเดินเตะนู่นเตะนี่ไปเสียก่อน แต่ตอนนี้เขาง่วงและเพลียจากการเดินทางมาทั้งวันแล้ว และพรุ่งนี้ยังก็ยังต้องตื่นแต่เช้าอีก เพราะแบบนั้นชานยอลก็ขอนอนก่อนแล้วกันนะ
ปกติฉันก็ไม่เปิดไฟนอนหรอกนะ แต่จะยอมให้เป็นพิเศษซักสองคืนก็แล้วกัน
#ฟิควงกลมชานไค
555555555555555555555 มันจะรอดกันมั้ยเนี้ย!!! หายไปนานเลย กลับมาก็แบบทุลักทุเล ขอบคุณนะคะ ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยน้า ขอบคุณทุกคนอีกครั้งคับ
ความคิดเห็น