ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ (exo) : Geometry series : Circle | #ฟิควงกลมชานไค CHANKAI FT. EXO

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 58








    TITLE CYCLE

    PAIRING : CHANYEOL X KAI

     











    พวกเรามาถึงเกาะเชจูในตอนเย็นแล้ว และจงอินกับชานยอลก็กลับมาผูกข้อมือกันเหมือนเดิมอีกครั้ง คนที่เห็นเหตุการณ์บนเรือต่างก็ลอบมองทั้งสองคนไม่วางตาแต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ ดูจะนิ่งสงบเกินไปด้วยซ้ำ ปาร์คชานยอลก็เดินเอาๆ ไม่ได้คิดว่าขายาวๆของเจ้าตัวจะทำให้บัดดี้อีกคนต้องก้าวเร็วขึ้นกว่าจังหวะเดิม แต่มันก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่ถึงคิมจงอินจะเดินหลับตา พอจะชนอะไรเข้าหน่อยปาร์คชานยอลก็กระตุกแขนให้อีกคนสะดุ้งแล้วหลบได้ทัน

     

    เฮ้ยยยย มันน่ารักแปลกๆเว้ยยย

     

    ทุกคนยืนรวมตัวกันอยู่ที่สนามหน้ารีสอร์ทที่พัก ทุกคนถึงกับตื่นเต็มตาเมื่ออาจารย์ประกาศเรื่องห้องพัก หลายคนโอดครวญเพราะบางกลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่ รวมไปถึงเทากับเซฮุนที่หันไปมองคู่ที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับทัศนศึกษาครั้งนี้

     

    จงอินถึงกับตื่นเต็มตาแล้วหันไปมองคนที่ทำตาโตไม่แพ้กันอยู่ข้างๆ เขาไม่ได้คิดว่าการเป็นบัดดี้กันจะรวมถึงการเป็นรูมเมทตลอดสามวันสองคืนที่เกาะเชจูนี้ด้วย

     

    เอาแล้วไง นอนกับใครวะเนี่ย?

     

    จงอินรู้ว่าอีกฝ่ายชื่อปาร์คชานยอล รู้แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมากกว่านั้น เช่นเดียวกับที่ชานยอลรู้จักว่าอีกคนชื่อคิมจงอิน ไม่ใช่สิ อีกอย่างที่เขารู้คือคิมจงอินเป็นมนุษย์ขี้เซาที่จะหลับได้ตลอดเวลา

     

    หลังจากที่ฟังเสียงโอดครวญของนักเรียนกว่าครึ่งและแจกกุญแจห้องพักเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ถูกปล่อยให้ใช้เวลาส่วนตัวได้ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ โชคยังดีที่ห้องพักของจงอินไม่ห่างจากเทากับเซฮุนมากนักทั้งสองคนเลยไม่กังวลใจเท่าไหร่ ที่จริงมีแค่เซฮุนคนเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนเทาดูจะดีใจออกนอกหน้ามากไปเสียด้วยซ้ำ

     

    “นี่มึงสนับสนุนให้เพื่อนมีเมียเหรอ?” เซฮุนถามขึ้นหลังจากที่เข้ามาในห้องพักเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มนั่งห้อยขาข้างหนึ่งลงจากเตียงพร้อมกับตั้งคำถามให้กับเทาที่เดินเลยไปยังเตียงด้านใน

     

    “มีเมีย? นี่คุณโอครับ” เทาวางกระเป๋าไว้บนเตียงตัวเองแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเตียงของเซฮุนแล้วหันหน้าเข้าหากัน “คิดว่าไอ้หมีเพื่อนเรานี่จะตกอยู่ในสถานะรุกปาร์คชานยอลหรอครับ?”

     

    ประโยคเดียวของเทาทำให้เซฮุนพูดไม่ถูก คิดตามที่อีกคนพูดมันก็จริงอยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวก่อน!! จงอินมันอาจจะไม่ชอบไอ้ปาร์คชานยอลอะไรนั่นก็ได้ เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาก็ยังไม่เห็นว่ามันจะมีอารมณ์หวานแหววกุ๊กกิ๊กกับใครเขาบ้างเลย

     

     

    ชานยอลลอบมองบัดดี้ที่จะเป็นรูมเมทกับเขาตลอดสองคืนที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เข้ามาในห้องพักอีกฝ่ายก็ไม่ทำอะไรนอกจากโยนกระเป๋าลงบนเตียงที่ใกล้ประตูที่สุด แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาที่อยู่ติดผนังห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วนอนดูอะไรสักอย่างอยู่อย่างนั้น

     

    “เฮ้ ฉันจะไปห้องไอ้ลู่หานนะ”

    “อืออ”

     

     

    คิมจงอินยังคงนอนนิ่งอยู่บนโซฟาโดยไม่ที่ไม่ยอมหันมาสนใจชานยอลสักนิด อะไรวะชักจะโมโหขึ้นมานิดหน่อยแล้วเหมือนกันนะเว้ย เด็กหนุ่มก้าวยาวๆไปยืนค้ำหัวคนที่นอนนิ่งจ้องโทรศัพท์กระพริบตาปริบๆด้วยใบหน้าถมึงทึง

     

    “ถ้าไม่พอใจก็ไปขอครูย้ายไปนอนห้องอื่น”เสียงที่ห้วนสั้นของปาร์คชานยอลทำให้จงอินละสายตาออกมาจากโทรศัพท์และคิดว่าเขากำลังมองเด็กผู้ชายตัวใหญ่ใกล้จะกลายเป็นยักษ์เขียวเข้าไปทุกวินาทีแล้ว

     

    จงอินขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจว่าปาร์คชานยอลโกรธหรือไม่พอใจอะไร เพราะพวกเขาไม่ได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่นักแล้วอยู่ๆจะมาโกรธเขาด้วยเรื่องอะไรกันล่ะ??

     

    “ถ้านายไม่พอใจ ฉันก็ยินดีจะย้าย” จงอินวางมือถือและลุกขึ้นมานั่งดีๆ ยิ่งพอเงยหน้าคุยกันแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าปาร์คชานยอลสูงเป็นบ้าเลย

     

    “ใครกันแน่วะที่มันทำท่าทางไม่พอใจ ไหนพูดดิ๊ไม่พอใจอะไร นี่ยังไม่รู้จักกันเลย” ชานยอลรู้สึกว่าเขาโดนกวนตีนแล้วทำให้เส้นประสาทที่ขมับของเขาเต้นแรงมาก

     

    “ก็นั่นดิ ยังไม่รู้จักกันเลยแล้วฉันจะไม่ไปพอใจอะไรนาย” เอาล่ะ จงอินว่านี่มันจะเริ่มบ้าขึ้นมานิดนึงแล้ว ปาร์คชานยอลอะไรนี่หัวเสียมาจากไหนวะ? ขยับตัวขึ้นยืนบนโซฟาแล้วก้มหน้ามองไอ้คนที่ยืนหน้าหงิกอยู่บนพื้นด้วยสายตา จะเอายังไงก็ว่ามา

     

    ตอนนี้เหมือนเส้นประสาทชานยอลกำลังจะแตกช้าๆ เขาได้เสียงเปรี้ยะดังลั่นในแก้วหู พยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไอ้คนที่ยืนทำหน้ากวนตีนอยู่บนโซฟาอย่างพยายามหักห้ามใจไม่ให้กระชากมันลงมาหักแขนเป็นสองท่อน คิมจงอินนี่ความกวนตีนแทรกซึมในผิวเลือดของมันหรือยังไงกันวะ

     

    “ตกลงจะเปลี่ยนห้องมั้ย?”

     

    “แล้วแต่สิครับ” จงอินตอบไปตามี่ตัวเองคิด เขายังคงยืนอยู่บนโซฟา แต่เปลี่ยนเป็นกอดอกแล้วเอนพิงกำแพงด้านหลังจ้องหน้าอีกฝ่ายแทน และแน่นอนว่าท่าทางนั้นแม่งโคตรน่าหมั่นจนชานยอลต้องข่มใจอีกครั้งก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่นจนจงอินสะดุ้งสุดตัว

     

    “เออ!!! งั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยน!!!

     

     

    จงอินมองตามหลังคนที่เดินหัวเสียออกไปด้านนอกห้องด้วยสายตาไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่พอสมควรที่เขารอดตายมาได้ คิดว่าจะโดนจับหักคอทิ้งคาห้องพักซะแล้วเมื่อกี๊นี้ ไม่รู้หมอนั่นไปหัวเสียอะไรมาถึงได้เอาอารมณ์มาลงที่เขาแบบนี้ แล้วอีกสามวันที่อยู่ด้วยกันนี่มันจะเป็นยังไงกัน

     

    ทางด้านชานยอลที่เดินหงุดหงิดออกมาก็ตรงดิ่งไปห้องของลู่หานกับแบคฮยอนทันที พอได้เริ่มหงุดหงิดปาร์คชานยอลก็จะหงุดหงิดไปหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งเวลาเสี้ยววินาทีที่ลู่หานมันเดินมาเปิดประตูให้เขาช้ายังหงุดหงิดได้

     

    “ทำไมวะ ทะเลาะกับบัดดี้มาหรือไง” เป็นแบคฮยอนที่เปิดประเด็นขึ้นมา และเมื่อเห็นชานยอลทำหน้าตาเซ็งหนักกว่าเก่าถึงได้ลอบมองหน้ากันอย่างอ่อนอกอ่อนใจ นี่ยังไม่พ้นวันมันจะรอดมั้ยเนี่ย

     

    “กูว่าแม่งเป็นคนที่กวนตีนสุดๆไปเลย” เหล่มองเพื่อนสนิทแล้วก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนของพวกมันซะอย่างนั้น เขากำลังหงุดหงิดมากๆ กับคิมจงอินนั่นให้ตายเถอะ

     

    “เอ้า ทำไมวะกูเห็นบนเรือยังดีๆกันอยู่เลย มึงยังลูบผมกล่อมเขานอนอยู่เลยนะ” ใช่ ลู่หานจำได้ไอ้ชานยอลยังหันไปหาคนที่นอนพิงไหล่มันเพราะกระเป๋าผูกติดกันอยู่บ่อยๆ พอคิมจงอินขยับตัวยุกยิก เขายังเห็นมันลูบหัวเขาอยู่ตั้งหลายรอบ แล้วนี่อะไร?

     

    “ตอนหลับกับตอนตื่นแม่งต่างกันชะมัดอ่ะ” เหอะ ถ้ารู้ว่าจะเป็นคนกวนตีนขนาดนี้ กูจับหักคอทิ้งตั้งแต่บนรถที่นั่งมาด้วยกันแล้วแม่ง

     

    ลู่หานมองหน้าไอ้คนขี้หงุดหงิดแล้วก็อยากจะถามว่าเขากวนตีนมันหรือมันเองที่คิดไปทั่วว่าคนอื่นกวนตีน แต่อีกใจก็คิดว่ารู้นิสัยเพื่อนตัวเองอยู่ดีพอสมควร เลยเลือกปล่อยเลยตามเลยไปดีกว่าปาร์คชานยอลมันเป็นประเภทโมโหง่ายหายเร็วอะไรประมาณนั้น ยิ่งถ้าได้ระบายออกมาแบบนี้อีกสักพักเท่านั้นล่ะ เดี๋ยวมันก็หาย

     

    “ก็อยู่ห้องกูไปก่อน อารมณ์ดีแล้วค่อยกลับไป”

     

     

     

    จงอินตื่นเพราะแรงสะกิดไม่เบานักเรียกได้ว่าแทบจะเขย่าจนหัวคลอนไปหมด เขาเผลอหลับไปตอนนอนดูคลิปย้อนหลังของเชลซีที่แข่งกับเอฟเวอร์ตันไปเมื่อคืนก่อน เกือบเผลอยกมือขึ้นขยี้ตาแต่ก็จำได้ว่าตัวเองใส่คอนแทคเลนส์ค้างไว้เลยได้แต่กระพริบตาสลับกับกลอกตาไปมาอยู่อย่างนั้น

     

    ชานยอลไม่เข้าใจว่าจงอินกำลังทำอะไร ไอ้ท่าทางประหลาดแบบนั้นมันเป็นเพราะอะไรแต่คิดว่าอีกคนคงเคืองตาเลยจับให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่คิมจงอินยังไม่ตื่นดี สองมือจับเข้าประคองบนใบหน้าแล้วใช้นิ้วถ่างตาของคนที่กำลังจะกระพริบตาปิดลงอีกครั้ง ก่อนที่จะ...

     

    ฟู่ววว

     

    ลมอ่อนๆที่เบาเข้าเต็มเบ้าตาข้างขวาทำให้จงอินนิ่งงัน อาการเคืองตาเกิดขึ้นแทบจะทันทีสองมือยกขึ้นดันปาร์คชานยอลออกแล้วปิดตาข้างขวาที่โดนเป่าอย่างรวดเร็ว  จงอินหลับตากลอกตาไปมาแบบนั้นอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเร็วๆไปคว้าของในกระเป๋าแล้วตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที

     

    ปาร์คชานยอลมองตามด้วยความไม่เข้าใจ ความหงุดหงิดเริ่มขึ้นอีกครั้ง อะไรกันวะ? ก็เห็นทำหน้าตาแปลกๆ นึกว่าเคืองตาก็จะเป่าตาให้แล้วอะไรยังมาทำหน้าตาโกรธขนาดนั้นอีก ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ติดผนังอย่างหัวเสีย ออกมานี่ต้องคุยกันหน่อยแล้วรูมเมทชั่วคราวคิมจงอิน

     

    นั่งรอไม่นาน คิมจงอินก็เดินออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งพร้อมด้วยภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป แว่นตากรอบสี่เหลี่ยมอันใหญ่ที่ปิดไปครึ่งค่อนหน้าทำให้ชานยอลนึกแปลกใจ ที่รีบลุกไปเข้าห้องน้ำก็เพราะแบบนี้น่ะหรอ??

     

    “ฉันขอโทษ ไม่รู้ว่านายใส่คอนแทคเลนส์”

    “อือ ไม่เป็นไร”

    “งั้นก็ไปกินข้าวกัน”

     

    พอรู้ว่าตัวเองเป็นคนผิด จากที่คุกรุ่นอยู่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มตัวสูงลุกยืนขึ้นรอคนที่เดินเอาขวดน้ำยาล้างคอนแทคฯกับตลับไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะกระจก คีย์การ์ดที่เสียบไว้ถูกดึงออกก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินไปห้องอาหาร

     

    “ฉันจะไปนั่งกับเพื่อน”

    “อือ”  

     

    ชานยอลโคตรขัดใจไอ้คำว่าอือนี่เลยนะพูดจริงๆ อยากจะเอากำปั้นยัดเข้าไปในปากแล้วบอกว่า พูดคำอื่นบ้างก็ได้โว้ย!! แต่ก็ได้แค่คิดในจินตนาการ ถึงจะชอบใช้กำลังแต่ชานยอลก็ไม่เคยอัดใครสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเขาแยกกันนั่งแล้วก็ถือว่าโชคยังดีที่อาจารย์ไม่ได้บังคับให้ผูกข้อมือติดกันไว้ตลอดเวลา แค่ช่วงที่ออกไปทัศนศึกษารอบเกาะเท่านั้น

     

    เซฮุนกับเทามองเพื่อนสนิทที่วันนี้ใส่แว่นตาหนาเตอะที่เจ้าตัวบ่นนักบ่นหนาลงมากินข้าว จงอินมักจะบ่นทุกครั้งที่คอนแทกเลนส์หมดอายุแล้วเจ้าตัวลืมซื้อทำให้ต้องใส่แว่นอันหนักนี้ไปไหนมาไหน แต่แปลกแฮะ ทำไมถึงยอมใส่ลงมาทั้งที่ปกติจะใส่แค่ตอนถอนคอนแทคก่อนจะนอนเท่านั้น

     

    “ทำไมวันนี้ใส่แว่นลงมาอ่ะ”

     

    เงยหน้าขึ้นจากจานข้าวใช้นิ้วดันแว่นที่สไลด์ลงมาตามแนวดั้งให้เข้าที่ คนที่นั่งหน้าง่วงอยู่ตลอดเวลาถึงกับหน้าบึ้งใส่เซฮุนที่เป็นคนถามคำถามนี้ ยิ่งคิดแล้วยิ่งหงุดหงิด

     

    “ปาร์คชานยอลเป่าลมใส่เต็มเบ้าตากู เลยต้องถอดคอนแทคออกมันเคืองตา”

     

    คำตอบของเพื่อนทำเอาเทากับเซฮุนเลิกคิ้วมอง เดี๋ยวนะ เป่าตา? นี่มึงไปเป่าตากันท่าไหนทำไมมันถึงเข้าไปเต็มเบ้าตา แล้วอะไรยังไงคนปกติเขาอยู่ดีๆ เดินเข้าไปเฮ้นายฉันขอเป่าตานายงี้หรอ? คิมจงอินเล่าไม่เคลียร์เลยอ่ะ

     

    “เล่นอะไรกัน ทำไมเขามาเป่าตามึงล่ะจงอิน” เทาเป็นฝ่ายถามบ้าง ท่าทางตื่นเต้นระริกระรี้ทำให้เซฮุนนึกอยากถองศอกใส่แรงๆ “ปาร์คชานยอลมาเป่าตามึงทำไม เร็วๆ กูอยากรู้”

     

    “กูหลับอยู่ เขามาปลุก” จงอินนิ่งคิดว่าทำไมปาร์คชานยอลถึงได้มาเป่าตาเขาอย่างนั้น. “ไม่ได้ถอดคอนแทค เลยรู้สึกตาแห้งๆ แล้วเขาก็จับกูถ่างตาเป่าลมเข้าใส่เลย”

     

    เทาถลึงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เรื่องมันชักจะเข้าเค้านิดๆแล้วนี่ไง ผิดกับเซฮุนที่นั่งอ้าปากค้างชอคไปแล้ว ไอ้โพสสิชั่นถ่างตาแล้วเป่านี่มันต้องใกล้ขนาดไหนกันหรือออออ???

     

    “อิ่มแล้ว”

     

    นี่ก็ก้มหน้าก้มตากินไม่ได้สนใจเพื่อนฝูงเลยสักนิด จงอินอาจจะเป็นคนไม่คิดอะไรกับการใกล้ชิดแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าอีกฝ่ายก็คงเหมือนกัน ให้ตายเถอะเซฮุนไม่อยากจะคิดว่าที่เทาพูดมันจะเกิดขึ้นจริง!!

     

     

     

    หลังจากมื้ออาหารพวกเขาก็รับฟังกำหนดการณ์สำหรับพรุ่งนี้อีกเล็กน้อย และพออาจารย์ปล่อยกลับที่พักได้ปาร์คชานยอลก็เดินตรงมาหาเขาทันที เพราะคีย์การ์ดที่ใช้เข้าห้องอยู่ที่อีกคนจงอินเลยต้องบอกลาเพื่อนสนิทแล้วเดินลากขาตามกันกลับไปยังห้องพัก

    “นายจะอาบน้ำก่อนหรือเปล่า”


    “นายอาบก่อนเลย ฉันอาบนาน”

     

    ชานยอลพยักหน้า แล้วเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาหัวเปียกโชก เห็นคิมจงอินนอนคว่ำหน้าแทบจะชิดจอโทรศัพท์ แว่นสายตาถูกทอดวางไว้ด้านข้างชานยอลพึ่งสังเกตว่าเลนส์มันหนามาก สายตาคิมจงอินต้องแย่มากแน่ๆ

     

    “นายสายตาแย่ขนาดนั้นทำไมไม่ใส่แว่น”

    “มันหนัก”

     

    จงอินตอบออกมาสั้นๆ แล้วเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ เขาเห็นภาพทุกอย่างเบลอไปหมดแต่ก็ยังพอจะเดาได้ว่าปาร์คชานยอลอยู่ตรงไหน ผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่เตรียมไว้ระหว่างรอถูกหยิบขึ้นมาผิดกับแว่นสายตาที่ถูกวางทิ้งไว้ มันทำให้ผู้อาศัยร่วมห้องเลิกคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “ไม่เอาไป นายมองเห็นหรือไง”


    “คลำๆหาเอาเดี๋ยวก็เจอ”

     

    ตอบแบบนั้นแล้วก็ค่อยๆเดินไปตามทางเดิน ชานยอลเลิกคิ้วมองในความน่าทึ่งที่คิมจงอินไม่เดินชนอะไรสักอย่าง จนอีกฝ่ายปิดประตูไปนั่นแหละเขาถึงได้ขยับเดินมานั่งเช็ดหัวอยู่บนเตียง แต่ยังไม่ทันจะถึงห้านาที เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดขึ้นออกมาอีกรอบ พร้อมกับคิมจงอินที่ยื่นออกมาแค่หน้าตาง่วงๆ

     

    “ถ้าง่วงก็นอนได้เลย เปิดแค่ไฟหรี่ไว้ให้ฉันก็พอ”

     

    บอกเสร็จก็ปิดประตูเข้าไปใหม่ มันตลกดีเหมือนกันที่เมื่อกี๊อีกฝ่ายพูดกับเขาทั้งที่สายตาพยายามกวาดมองไปทั่วว่าเขานั่งอยู่ตรงไหน นั่งเช็ดผมจนกระทั่งผมแห้งชานยอลก็ยังคงได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัว ไม่รู้ว่าคิมจงอินผ่าเครื่องในออกมาล้างด้วยหรือยังไงกัน แต่หมอนั่นอาบน้ำนานอย่างที่พูดไว้ ตอนแรกเขาก็ว่าจะรอจะได้ไม่ต้องปิดไฟเพราะกลัวคนตาไม่ดีจะเดินเตะนู่นเตะนี่ไปเสียก่อน แต่ตอนนี้เขาง่วงและเพลียจากการเดินทางมาทั้งวันแล้ว และพรุ่งนี้ยังก็ยังต้องตื่นแต่เช้าอีก เพราะแบบนั้นชานยอลก็ขอนอนก่อนแล้วกันนะ

     

     

     

    ปกติฉันก็ไม่เปิดไฟนอนหรอกนะ แต่จะยอมให้เป็นพิเศษซักสองคืนก็แล้วกัน

     

     

     

     

     

    #ฟิควงกลมชานไค

    555555555555555555555 มันจะรอดกันมั้ยเนี้ย!!! หายไปนานเลย กลับมาก็แบบทุลักทุเล ขอบคุณนะคะ ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยน้า ขอบคุณทุกคนอีกครั้งคับ 


    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×