ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : กิจกรรม...ศัตรูตัวร้ายของการเรียน (จริงหรือ) และวิธีรับมือ
เด็กวัยรุ่นสมัยนี้กิจกรรมเยอะแยะเหลือจะเอ่ย เล่นเอารุ่นพี่หลายๆคนงงกันเป็นไก่ตาแตกและแอบอิจฉาเล็กน้อยเมื่อกลับเข้าโรงเรียนทีไรก็มีกิจกรรมให้ดูทุกที ส่วนพ่อแม่ทั้งหลายก็ได้แต่บอกให้ลูกๆเลิกทำกิจกรรมทั้งหลายเหล่านั้นด้วยเกรงว่าการเรียนจะเสีย
ทำไมถึงบอกว่าการเรียนเสียเพราะกิจกรรม
พ่อแม่หลายคนกล่าวว่า การทำกิจกรรมเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลาอ่านหนังสือ เสียเวลาเรียนพิเศษ และด้วยเหตุผลงี่เง่าพรรค์นั้น...การทำกิจกรรมทำให้สอบเข้าไม่ได้
ข้อเท็จจริง 2 ประการที่อ้างว่าการทำกิจกรรมทำให้เสียการเรียน
1. เกิดจากเด็กงี่เง่า ไม่คิดอะไรให้ถี่ถ้วน ไปบอกพ่อแม่เวลาที่พวกท่านบอกให้อ่าน
หนังสือว่า "ก็ทำกิจกรรมเหนื่อยแล้วนี่ พักหน่อยไม่ได้หรือไง" ทำนองนี้ พี่อแม่
ทั้งหลายก็เลยเข้าใจว่าการทำกิจกรรมทำให้เสียการเรียน
2. เกิดจากเด็กงี่เง่าอีกแหละ ที่แบ่งเวลาไม่เป็น ไม่แยกแยะเวลาให้ดี แล้วกิจกรรม
ก็เลยมารบกวนเวลาเรียนจนได้
ข้อเท็จจริงหลายประการที่ได้จากการทำกิจกรรม...แบบที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว
1. โตขึ้น หมายถึง มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีเหตุผล ลดความเอาแต่ใจลง
เยอะ
2. ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เช่น นั่งรถเมล์กลับบ้านครั้งแรกในชีวิต กลับบ้านช้า กิน
ก๋วยเตี๋ยวข้างทางครั้งแรก ไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่หมูกระทะยามดึกครั้งแรก เป็น
ต้น ที่พูดมาเนี่ย...เรื่องจริง มันเกิดขึ้นมาแล้ว
3. ได้รู้จักการเข้าสังคม รู้จักปรับตัวเข้าหาคนอื่น ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เข้าชี้
แจงกับคนอื่น รู้จักวิธีพูดจาให้เข้าหูคนมากขึ้น เป็นต้น
4. ทำงานเป็น เช่นการทำเอกสารหรือแบบฟอร์มขออนุมัติ การประสานงาน การช่วย
เหลือผู้อื่น การเข้าพบอาจารย์ เชื่อเถอะ...เมื่อได้ทำกิจกรรมแล้วก็จะทำไอ้งาน
ยุ่งยากพวกนี้ได้คล่องขึ้น
5. ฯลฯ ประการ....ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี
ทำไงให้กิจกรรมดีและการเรียนเดิ้นพอๆกัน
ง่ายมากหากคุณไม่ขี้เกียจเกินไปและไม่ขยันเรียนมากไป ถ้างงเรามาดูเป็นข้อๆไปดีกว่า อ้อ...ไม่แนะให้โดดเรียนนะ
1. ตอนพักกลางวัน...เอาไปทำกิจกรรมซะ แล้วก็ทำต่อตอนเย็นซัก 2 ชั่วโมงพอ
2. สมมุติให้กลับถึงบ้าน...หนึ่งทุ่ม นี่หมายถึงโอ้เอ้ นั่งเล่น ทำกิจกรรมที่โรงเรียน
แล้วนะ ถึงบ้านปุ๊บก็อาบน้ำล้างหน้าก่อนเลย..จะได้สดชื่น เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ
แล้วก็ทำการบ้านซัก 2ชั่วโมง (เข้าใจว่าการบ้านเยอะ) แล้วก็อ่านหนังสือซักหนึ่ง
วิชาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วก็นอน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวแล้วก็นอนเหอะ ไม่ต้อง
อ่านหนังสือหรอก ช่างมันไปก่อน
3. แต่ถ้าอยากดูละครอ่ะ...ดูได้แต่ไม่ควรเพราะว่ามันทำให้เพลีย ถ้าคิดว่าไหวก็ดูไป
เหอะ ไม่ว่ากัน...
4. ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักได้ อย่างเช่น ถ้าเพื่อนไม่บ้ากิจกรรมเหมือนเราก็
ให้มันเก็บชีทหรือบอกการบ้านให้ และก็อย่าลืมขอสมุดเล็กเชอร์ด้วย จะเอาไป
ลอกหรือซีรอกซ์ก็ได้ แต่แนะนำว่าลอกจะดีกว่าเพราะมันจะซึมเข้าไปในสมอง
ด้วยเล็กน้อย เวลาอ่านสอบมันจะรู้เรื่องกว่าด้วยเพราะเป็นภาษาของคุณเอง
"แล้วถ้ากิจกรรม + เรียนพิเศษมันชนกันล่ะ"
อันนี้ก็ง่าย มาดูตัวอย่างกันเลย...............................................
ให้น้องๆเลิกเรียนตอนบ่าย3 และน้องๆต้องไปเรียนพิเศษที่เซ็นปิ่น ตอน4 โมงเย็น บังเอิญว่ามีกิจกรรมพรุ่งนี้พอดี ต้องช่วยงานเค้า น้องๆควรทำไง
ตอบ...น้องควรของานอันที่น้องช่วยได้หรือแลกงานกับเพื่อน ของานที่ทำที่บ้านได้ไปทำหรือขอรับหน้าที่ทำในวันงานเลย เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็ไปเรียนพิเศษทันทีอย่ารีรอ
"แล้วถ้ามันเหนื่อยจัดพอกลับบ้านมาก็ทำงานและการบ้านไม่ไหวล่ะคะ"
ตอบ...ก็นอนสิคะ เอาแรงซักหน่อยแล้วตื่นแต่เช้ามาทำ แล้วไปนอนต่อที่โรงเรียนอย่างที่เคยสอนไว้
ในบทนี้คือกิจกรรมธรรมดาค่ะ กิจกรรมแบบเด็กๆทั่วไป สามารถจัดการให้เสร็จได้โดยง่าย แต่อีกกิจกรรมนึงค่ะ...อีกกิจกรรมนึง...กีฬาสีไง กิจกรรมที่ยิ่งใหญ่และลำบากแสนสาหัสสำหรับเด็กม.ปลายเตรียมสอบ งานมันจะยุ่งมากๆ แต่ไม่เป็นๆไรค่ะ (อีกแล้ว).....เรื่องนี้จะจัดให้ในบทอื่นนะคะ แล้วเจอกันค่ะ...บาย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น