[EXO] G r e e d y V a m p i r e - KAIHUN - [EXO] G r e e d y V a m p i r e - KAIHUN นิยาย [EXO] G r e e d y V a m p i r e - KAIHUN : Dek-D.com - Writer

    [EXO] G r e e d y V a m p i r e - KAIHUN

    ผู้เข้าชมรวม

    594

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    594

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 เม.ย. 58 / 20:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    อารมณ์ชั่ววูบมากๆอ่ะ

    ส่องทวิตเตอร์แล้วมีคนรีรูปแฟนอิดิทมาบวกกับนั่งดูทีเซอร์

    เกิดหน้ามืดตามัวเลยได้ออกมาเป็น OS สั้นๆไม่ถึง 2000 ตัวอักษร

    ใครใครอ่านก็อ่าน ไม่อ่านก็ไม่ว่ากันค่ะ








     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      “เฮ้ใจเย็นหน่อยเหอะ”

      “....”

      “อดใจรอให้ถึงห้องไม่ได้เหรอไงห้ะ จอมตะกละ”

      “พูดมากน่า”

      “ฮะๆ”

      ภายในอุโมงค์ทางเดินใต้ดินท่ามกลางความมืดของเวลาเกินเที่ยงคืน ปรากฏร่างของชายหนุ่มสองคนที่ดูเหมือนต่างคนต่างยุ่งอยู่กับร่างกายของอีกฝ่าย คนนึงผิวขาวซีดราวกับกระดาษที่ดูจะพยายามจะจัดคอเสื้อเชิ้ตให้เข้าที่เข้าทางหลังจากถูกปลดออกโดยชายหนุ่มผิวสีแทนสวยอีกคนที่ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับซอกคอของเขา

      “นี่เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

      “ช่างหัวมันซิ”

                  ความพยายามครั้งที่สองก็ไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายที่กำลังเพลิดเพลินยู่กับร่างกายเขาได้ ให้ตายเหอะ เขาอยากจะบ้า พอหิวขึ้นมาที่ไร เจ้าคนตะกละ ไม่เคยเลือกสถานที่เลยจริงๆ เพราะงี้เขาถึงต้องที่ลูกล่อลูกชนอยู่เสมอ อีกนิดเดียวจะถึงคฤหาสน์ เขาต้องกล่อมอีกฝ่ายให้อดใจไว้ก่อน

                  “นี่ ถ้ากินตรงนี้นายก็จะได้แค่เลือดนะ”

                  “นั่นคือสิ่งที่ชั้นต้องการ” พูดตอบโดนที่ยังไม่ละริมฝีปากออกจากซอกคอขาว

                  “หมายความว่าอยากได้แค่เลือดใช่ไหม” เอ่ยออกไปพร้อมใช้สองมือประคองใบหน้าเจ้าของวงแขนที่กักตัวเขาไว้ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ก่อนจะส่งสายตาสื่อความหมาย “ไม่ต้องการอย่างอื่นมากกว่านั้นใช่ไหม”

                  อีกฝ่ายชะงักไป ชั่วอึดใจเดียวแววตาไร้อารมณ์ก็พลันปรากฏแสงวาววับด้วยความกระหาย เจ้าของผิวซีดยังคงหลอกล่อไม่หยุด ฝ่ามือขาวไล้ไปตามโครงหน้าคมปลายนิ้วเรียวเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหนากดนิ้วหนักลงไป ฝ่ายที่ถูกหยอกล้อก็ไม่ยอมแพ้งับนิ้วเรียวไว้แล้วกัดเบาๆจนเลือดไหลออกมา ซึ่งเจ้าตัวก็รับผิดชอบโดยการไล่เล็มเลือดจนหมดทุกหยด

                  “ฮะๆ” เจ้าของนิ้วเรียวหัวเราะออกมาเพราะสัมผัสของลิ้นหนาที่ไล่เล็มหยดเลือดตามนิ้วของตน

                  “ช่างยั่วจริงนะ”

                  “เปล่าสักหน่อย”

                “ฮึ!” พูดพร้อมผละตัวออกจากคนภายใต้อาณัต “รักษาคำพูดของตัวเองด้วย โอเซฮุน”

               


      --------------------------------------------------------

       

       

                  คฤหาสน์หลังงามแต่ดูน่าเกรงขามมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครั้น ทั้งเตียงนอนคิงส์ไซส์ที่หนานุ่ม หรือจะเป็นโซฟาบุหนังอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้ทั้งสองอย่างคงจะไม่มีความจำเป็นในเมื่อเจ้าของห้องไม่ได้ให้ความสนใจมันเลยสักนิด

                  “นี่! เปิดไฟก่อนซิ”

                  “ไม่”

                  “เดี๋ยวๆ งั้นไปที่เตียงก่อนได้ไหมเล่า”

                  “ไม่”

                  “เฮ้!

                  “ไม่อะไรทั้งนั้นแหละ นายจะอยู่เฉยๆให้ฉันจัดการได้หรือยัง” ความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด ที่ตรอกนั่นคือการใช้ความอดทนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเขา มาถึงตอนนี้อะไรก็มาหยุดเขาไม่อยู่แล้ว อยากสั่งสอนคนช่างยั่วตรงหน้าให้รู้จักซธบ้าง ว่าไม่ควรมาล่อเล่นกับเขา “ฉันจะไม่ทนหรอกนะโอเซฮุน”

                 

                ก๊อกๆๆ

                “นี่พวกนายทำอะไรก็เกรงใจกันบ้าง คฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้มีแค่นายสองคนนะ”

               

                  “...”

                  “...”

                กิจกรรมที่เพิ่งเริ่มได้ไม่ทันไรถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของพี่ใหญ่ซึ่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังเดียวกัน ทั้งสองคนชะงักค้างอยู่ในท่าทางที่ล่อแหลม สบตากันในความมืด และเงี่ยหูฟังจนได้ยินเสียงฝีเท้าว่าเดินออกไปไกลแล้ว ร่างหนาที่กักกอดคนตัวขาวเอาไว้ก็เริ่มสานต่อกิจกรรมที่ถูกขัดจังหวะไปเมื่อครู่ ริมฝีปากหยักลึกกดจูบลงที่กลีบปากบางอย่างหนักหน่วงจนฝ่ายเสียเปรียบทุบอกเป็นการประท้วงจึงผละจูบออกมา

                  “เดี๋ยวซิ!

                  “เงียบน่า เดี๋ยวพี่มินซอกก็มาบ่นอีกหรอก” โอเซฮุนมีโอกาสได้พูดเป็นครั้งสุดท้าย นอกเหนือจากนั้นถึงแม้จะมีเสียงแต่ก็ไร้ซึ่งการประติดประต่อไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำได้ นอกเสียจากคำว่า

                  “คิมจงอิน!

      และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ทั้งสองคนต่างก็ช่วยเติมเต็มความหิวกระหายของอีกฝ่ายจนเต็มอิ่ม ไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้ก่อน หากคนนึงรุก อีกคนก็จะรับและสวนกลับไปทันที บางช่วงก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงแผดเผาทั้งร่างให้ร้อนรุม แต่บางครั้งก็เต็มไปด้วยความนุ่มนวลจนทำให้เคลิบเคลิ้ม แม้ว่าช่วงเวลาจะผ่านพ้นไปจนดวงอาทิตย์ขึ้นถึงกลางฟ้า แต่นั้นก็ไม่ช่วยทำให้ความกระหายของลดลงแม้แต่น้อย มีแต่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครรู้ว่าจะไปสิ้นสุดลงตรงไหน



       

      ---------------------------------------------------------

       

       

      “ให้ตายซิ เด็กสองคนนั้น ทำอย่างกับว่าคฤหาสน์นี้มีมันอยู่กันแค่สองคนเท่านั้นละ ช่วยไปกินกันที่อื่นได้ไหมเล่า!” คิมมินซอกได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงแปลกประหลาดเล็ดลอดออกมา ทั้งที่ทุกห้องผนังก็เป็นแบบเก็บเสียงหมด คงโทษอะไรไม่ได้นอกจากตัวเองที่ดันเป็นแวมไพร์ทำให้สามารถได้ยินเสียงให้ระดับที่คนปกติทั่วไปไม่ได้ยิน

      “เอาน่าพี่มินซอก บ่นมากี่ร้อยปีแล้วละ ไอ้เจ้าเด็กสองคนนั่นมันฟังซะที่ไหน” เด็กหนุ่มตัวสูงเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังนอนอยู่บนโซฟายาวและสายตายังคงให้ความสนใจกับหนังสือในมืออยู่

      “ฉันจะบ่นจนกว่าจะตายนั่นแหละ”

      “งั้นก็อีกนานเลยนะ กลัวพี่จะเมื่อยปากซะก่อน”

      “ไอ้เจ้าชานยอล จะกวนประสาทอีกคนใช่ไหม” ว่าพร้อมปาหมอนใบเล็กใส่หน้าน้องชายตัวดีที่ดูจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับกิจกรรมของน้องเล็กสองคนในบ้านสักเท่าไหร่

      “ฮะๆ ไม่ลองหาใครสักคนดูละพี่” ไอ้เด็กชานยอบปิดหนังสือและเปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว้ขาบนโซฟาพร้อมทำหน้าเหมือนผู้เชี่ยวชาญกำลังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาระดับชาติอยู่

      “...”

      “เรื่องอย่าว่าน่ะ ลองดูสักครั้ง รับรองพี่จะไม่บ่นเกี่ยวกับเรื่อนี้อีกเลย”

      “...”

      “...”

      “ไอ้!” กำลังอ้าปากจะด่า ไอ้เด็กชานยอลก็วิ่งแจ้นหนีหายไปไหนแล้วไม่รู้ หน็อย! บ้านนี้มันมีแต่เด็กแสบๆทั้งนั้น มินซอกอยากจะบ้าตาย ฮึ่ย!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×