ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinite Stories รวมฟิคสั้น Infinite

    ลำดับตอนที่ #3 : Summer Dream [MyungYeol]

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 57


    Title                 Summer Dream

    By                    pop

    Pairing             MyongYeol

    Rating              PG

    Genre              AU / Romantic

     

    ฟิคแปลงอีกแล้วค่า xD แต่งใหม่ไม่ได้เริ่มเอาของเก่ามาหากิน

    เรื่องนี้เคยลงในบล็อคที่ exteen แล้วด้วยค่ะ 

    ในเรื่องนี้มีชื่อเพลงญี่ปุ่นเก่าๆ แทรกอยู่เป็นระยะๆ นะคะ (แต่คงไม่มีใครรู้จักแหงๆ เลย เอิ๊ก)

     

     

    ++++++++++++++++++++

     

     

     

     

     

     

     

    A Day in Vacation…

     

     

     

     

    ชายหาดในฤดูร้อนคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลายเพศหลากวัย และแน่นอน มีนักศึกษาที่ปิดเทอมหน้าร้อนเป็นจำนวนมาก

     

    หนุ่มสาวทั้งหลายต่างก็มาค้นหาคนรักในสายลมร้อนของตัวเอง....

     

    ต่างก็มุ่งหวัง เพียงสักครั้งในรอบปี สายลมร้อนจะพัดพาใครสักคนมาให้หัวใจอุ่น... 

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้ ซองยอล เอาของไปเก็บแล้วไปที่ชายหาดกัน”

     

    เสียงเพื่อนตัวดีตะโกนเรียก ทำให้ซองยอลที่ว่าเบือนหน้าจากทะเลสีฟ้าไปยังบังกะโลหลังเล็กที่เช่าอยู่กับเพื่อนฝูง

     

    “อื้อ” เขารับคำง่ายๆ แล้วย้ายตัวเองจากจุดที่ปักหลักยืนอยู่พักใหญ่เข้าไปด้านในอาคาร โยนเป้หลังใบย่อมกองรวมไว้กับของคนอื่น แล้วเดินตามคนอื่นไปที่ชายหาด

     

    “โห... คนเยอะว่ะ”

     

    ใครบางคนบ่นลอยมาเข้าหู ซองยอลแค่นหัวเราะ

     

    “แกจะเอาอะไรกับทะเลหน้าร้อนวะ หาที่หย่อนตรูดลงไปนั่งได้ก็เก่งแล้ว”

     

    เขาตบบ่าเพื่อนล้อๆ

     

    “แหมๆๆๆ ขอให้ที่ที่ฉันหย่อนตรูดลงไปเป็นตักสาวน้อยน่ารักสักคนละกันนะ”

     

    ประโยคเด็ดเรียกเสียงฮาจากกลุ่มนักศึกษาหนุ่มๆ ได้ดังลั่น ซองยอลเองก็พลอยยิ้มไปกับเพื่อนด้วย

     

    เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าสีจัดเหนือหัว...

     

    สวย... ร้อน แต่ก็สวย ในเมืองไม่มีทางได้เห็นท้องฟ้ากว้างๆ สีจัดๆ แบบนี้ ในเมือง เขาไม่มีทางผ่อนคลายได้ขนาดนี้

     

    ซองยอลยิ้ม เขายอมรับ ถึงจะไม่แสดงออกมากนัก แต่เขาก็แอบหวังไว้ลึกๆ เหมือนกันนั่นแหละ ว่าฤดูร้อนนี้ สายลม จะพัดพาคนรักมาให้เขาสักคน...

     

     

     

     

     

     

    Beach Time…

     

     

     

     

     

    “โหยยยย ดูคนนั้นดิ่ๆ”

     

    “ไหนๆ”

     

    “หุ่นสุดยอดเลยอ่ะ”

     

    “ยู้ฮู~ สาวๆ ครับ เล่นวอลเลย์ชายหาดกันไหม?”

     

    “นี่ๆ ผมมีบัตรกินน้ำแข็งไสฟรี ไปกินกันไหมคร้าบบบ”

     

    “หวัดดีครับ มาคนเดียวเหรอ อยากได้เพื่อนคุยไหมครับ”

     

    “เธอๆ น่ารักจัง ขอเบอร์หน่อยสิ”

     

    “สวัสดีครับ เชิญครับ คืนนี้มีบุฟเฟ่บาร์บีคิวที่ร้าน Beach Time นะครับ นี่ครับ ใบปลิวส่วนลด” 

     

    ซองยอลเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ๆ ก็ยื่นใบปลิวเข้ามาใต้จมูก ผู้ชาย? ส่งยิ้มแก้มยุ้ยตาปิดให้เขาด้วย?

     

    เขากำลังเดินไปกับกลุ่มเพื่อนที่แซวสาวไปเรื่อยๆ

     

    แต่นี่... หมอนี่อะไร? ซองยอลก้มดูใบปลิวในมืออย่างงงๆ

     

    แล้วเขาก็สังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ส่งใบปลิวให้เฉพาะเขา แต่ส่งให้กับทุกคนที่เดินผ่านไปมา เมื่อมองไปด้านหลัง ซองยอลก็เห็นร้านอาหารที่แขวนป้าย “Beach Time” ขนาดใหญ่ทาสีสดใส

     

    อ้อ... พนักงานของร้านสินะ

     

    เขา... คิดมากไปเองสินะ

     

    ซองยอลถอนใจ ค่อยๆ ออกเดินตามกลุ่มเพื่อนไปอีกครั้ง หูยังได้ยินเสียงทุ้มแหบของพนักงานคนนั้นเชิญชวนลูกค้าเข้าร้านอยู่แว่วๆ

     

    คนอะไรเสียงยังกะเป็ด

     

    ความคิดนั้นทำให้เขาลอบยิ้มกับตัวเอง

     

     

     

     

     

     

    ยามบ่ายหมดไปกับการเที่ยวเล่นที่ชายหาดและการจีบสาว

     

    แน่นอนอยู่แล้ว ก็พวกเขาอุตส่าห์ได้มาทะเลทั้งที ก็ต้องรีบหาแฟนสิ ใช่ไหม? เพื่อนในกลุ่มดูเหมือนจะประสบความสำเร็จกันไปสองสามคน เพราะพอตกเย็น ในกลุ่มของซองยอลก็มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักมาร่วมวงอยู่ด้วย

     

    เพื่อนคนหนึ่งเห็นใบปลิวที่ซองยอลพับเก็บไว้ พวกเขาเลยตัดสินใจพาสาวๆ ไปเลี้ยงบาร์บีคิวที่ Beach Time พวกเธอสัญญาจะพาเพื่อนมาให้หนุ่มๆ รู้จักอีกด้วย

     

    ซองยอลไม่ได้สนใจพวกเธอเท่าไรนัก เขารู้สึกว่าเครื่องสำอางหนาเตอะแบบนั้นไม่เหมาะกับชายหาดในฤดูร้อน ถึงเขาจะไม่เคยตั้งแง่อะไรกับผู้หญิงที่แต่งตัวเปรี้ยว แต่เขาก็รู้สึกว่าฤดูร้อนน่าจะเหมาะกับการแต่งหน้าบางๆ เป็นธรรมชาติมากกว่านี้

     

     

    เป็นธรรมชาติ.... ทำไมกันนะ ใบหน้าหล่อๆ ที่ยิ้มจนแก้มดันดวงตาจนยิบหยีของพนักงานร้านคนนั้นถึงลอยกลับเข้ามาในความคิด

     

     

    คนคนนั้น ดูเป็นธรรมชาติ.....

     

     

     

     

     

     

     

    BBQ….

     

     

     

     

     

    ร้านอาหารริมหาดยามค่ำคืนดูต่างจากเมื่อบ่ายลิบลับ โต๊ะเก้าอี้ไม้ธรรมดาๆ กลับดูเป็นเงาวาวในแสงไฟจากโคมและกองไฟแบบแคมป์ปิ้งขนาดใหญ่ที่ชายหาด เสียงคลื่นซัดทรายเบาๆ เป็นจังหวะชวนให้ผ่อนคลาย ลมอ่อนๆ หอบกลิ่นเค็มของเกลือโชยมาปะทะเนื้อตัว

     

    ในร้านมีลูกค้าไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย พนักงานที่มีเพียงคุณลุงคุณป้ากับผู้ช่วยอีกสองคน วิ่งไปมาเสิร์ฟอาหารไม่ได้ขาด ซองยอลมองไปรอบๆ เขากำลังหวังอะไรกันนะ...

     

    ไม่นาน ซองยอลกับเพื่อนอีกคนก็ออกไปยืนย่างเนื้อที่เตาขนาดใหญ่ริมหาด เพราะเจ้าเพื่อนตัวดีอยากโชว์แมนบริการสาวๆ รอบเตาคนค่อนข้างเยอะ ทำให้เขาต้องยืนตัวเอียงๆ เวลาย่าง แต่ก็สนุกดี ทำให้ลืมอะไรหลายอย่างไปได้ ไม่นาน ซองยอลก็เพลิดเพลินกับการปิ้งกุ้งหอยปูปลาจนหน้าเริ่มแดงเพราะไอร้อนจากเตา

     

    จังหวะที่เขาหันหลังจะส่งจานอาหารที่ย่างเสร็จแล้วให้เพื่อน ใครบางคนก็ยื่นผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นผืนหนึ่งมาตรงหน้า

     

    “อยู่หน้าเตานานเกินไปจนหน้าแดงหมดแล้วครับ”

     

    ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว ยิ้มเต็มปากเต็มแก้มที่ทำให้หน้าหล่อๆ ดูกลายเป็นเด็กน้อย ยิ้มที่ทำให้เลือดวิ่งแข่งกันขึ้นไปออบนแก้ม

     

    เมื่อเห็นลูกค้าตัวผอมยังนิ่ง มือนั้นเลยยกผ้าขึ้นซับแก้มให้เอง แต่ซองยอลไม่รู้ว่ามันยิ่งทำให้หน้าเขาแดงมากขึ้นหรือเปล่า

     

    คนตัวผอมสูงก้มหน้าหลบตา กัดปากกลั้นยิ้ม มือหนาอีกข้างแย่งจานอาหารไปจากเขา แล้วยัดผ้าขนหนูใส่มือ

     

    “ผมเอาไปเสิร์ฟให้เองครับ พี่ไปพักหน่อยเถอะ”

     

    ซองยอลมองคนคนนั้นเดินลิ่วๆ ไปที่โต๊ะของเขา เพื่อนๆ เฮฮากันใหญ่เมื่อเห็นจานอาหารที่เด็กหนุ่มยกไปเสิร์ฟ

     

    นี่เขาพลาดอะไรไป? บนโต๊ะทำไมมีเบียร์เต็มไปหมด? แล้วสาวๆ หน้าแปลกๆ พวกนั้นใคร? นี่เพื่อนเขาจีบหญิงเพิ่มได้แล้วเหรอ? เขามัวแต่ย่างของจนไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนๆ ทำอะไรไปถึงไหนกันแล้ว

     

    แล้วก็... ทำไมเมื่อกี๊เรียกพี่?...

     

    ซองยอลยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองดูเด็กหนุ่มคนนั้นหยิบสมุดออกมาจดรายการอาหารที่เพื่อนของเขาสั่งเพิ่ม แล้วเดินหายเข้าครัวไป

     

     

    เด็กกว่าอย่างนั้นเหรอ?...

     

     

    หนุ่มตัวสูงถอนใจ เงยหน้าหาดาวบนฟ้า แต่ไม่เห็น เลยเดินออกไปลุยน้ำเล่นที่ชายหาด

     

     

     

     

     

     

     

    I’m in Love with You,…

     

     

     

     

     

    ซองยอลนั่งอยู่ที่นั่นนานแค่ไหนก็ไม่รู้

     

    เขานั่งยืดขายาวลงไปในทะเล ให้คลื่นซัดขึ้นมาถึงข้อเท้าพอดี แต่คลื่นบางลูกที่แรงหน่อยก็ซัดขึ้นมาถึงหัวเข่า เขากำลังเหม่อ มองดาวสีซีดๆ สองสามดวงที่กระพริบอยู่บนฟ้า เขาไม่ได้กำลังคิดอะไรทั้งนั้น

     

    “คิดอะไรอยู่ครับ”

     

    ทำไมซองยอลไม่แปลกใจเลยหละที่เสียงทุ้มแหบ นั่นดังขึ้นข้างตัว เขาไมได้หันไปมองด้วยซ้ำ เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างๆ เขารู้ว่าคนข้างตัวกำลังมองเขาอยู่

     

    ซองยอลส่ายหน้า

     

    “เปล่า ไม่ได้คิอะไร”

     

    “แล้วนี่พี่ทานอะไรบ้างหรือยังครับ? ผมเห็นพี่เอาแต่ย่างเนื้อ”

     

    มีรอยยิ้มในน้ำเสียง ซองยอลไม่ต้องหันไปมองเขาก็รู้

     

    มันทำให้เขายิ้มตอบ แต่ก็ยังคงส่ายหน้า

     

    “ไม่ค่อยหิวน่ะ”

     

    ข้างตัวเงียบไป สักพัก เขาก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มหายไปจากข้างกาย ซองยอลเงยหน้ามองฟ้าอีกครั้ง ดาวพวกนั้นดูซีดกว่าเก่า

     

    แต่แล้วความอบอุ่นข้างตัวก็กลับมา คราวนี้กลับมาพร้อมกลิ่นหอมของอะไรบางอย่าง

     

    จานใบเล็กใส่เนื้อและอาหารทะเลย่างยื่นมาตรงหน้า

     

    “ทานหน่อยนะครับ”

     

    แน่นอน ยื่นมาพร้อมรอยยิ้มแบบนั้น มันทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ และอดยิ้มกลับไม่ได้

     

    “อยากกินเบียร์มากกว่า....”

     

    ลองขอดูด้วยเสียงเบาๆ

     

    “ได้ไหม?...”

     

    ทำไมไม่รู้สึกเหมือนสั่งอาหารกับเด็กเสิร์ฟเลยนะ?

     

    คนข้างตัวเพียงแต่ยิ้ม วางจานอาหารลงบนตักของเขา แล้วหายกลับเข้าร้านไปอีกครั้ง

     

    ไม่นานก็กลับมาพร้อมเบียร์ขวดเล็กเย็นเฉียบ

     

    เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิข้างๆ แล้วส่งขวดเบียร์ให้ ซองยอลรับไปจิบ แล้วก็ส่งขวดให้เด็กหนุ่ม

     

    “ดื่มไหม?...”

     

    อะไรทำให้เขาชวนก็ไม่รู้

     

    แต่คนข้างตัวเพียงแต่ส่ายหน้า

     

    “ผมยังดื่มไม่ได้ครับ”

     

    ซองยอลเลิกคิ้ว

     

    “อายุยังไม่ถึง?”

     

    “อายุไม่ถึงก็ดื่มได้นี่นา”

     

    กระดกเบียร์อีกอึกก่อนจะบ่นอุบอิบ เป็นเด็กดีเสียด้วยนะ

     

    แต่เด็กหนุ่มเพียงแต่ตอบเขาพร้อมรอยยิ้ม

     

     “ไม่ได้หรอกครับ แม่ได้กลิ่นเข้าล่ะเป็นเรื่องแน่เลย”

     

    “เห....?”

     

    ซองยอลเงยหน้ามองหาดาวอีกครั้ง.... พวกมันไปซ่อนอยู่ไหนกันนะ

     

    “นี่ร้านของบ้านนายเหรอ”

     

    “ครับ ทุกหน้าร้อนจะมาเปิดร้านที่ชายหาดนี่”

     

    ซองยอลหันมองคนข้างตัว เลิกคิ้ว เหมือนจะบอกให้เล่าต่อ

     

    “บ้านกับร้านที่ขายประจำอยู่ริมถนนเลียบหาดด้านบนน่ะครับ”

     

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถามอะไร นี่เราใช้โทรจิตคุยกันแล้วเหรอ...

     

    “แล้วนาย... อายุเท่าไหร่เนี่ย มาเรียกฉันว่าพี่”

     

    “ฮ่าๆๆๆ”

     

    เสียงหัวเราะร่วนสดใส ของคนคนนี้ทำให้ซองยอลอดยิ้มตามไม่ได้ เด็ก ก็ยังเป็นเด็กสินะ ถึงแม้จะเป็นเด็กที่หล่อแค่ไหนก็เถอะ เสียงใสนั่นสั่นระรัวหัวใจของซองยอลจนอดจะยกแขนขึ้นกอดอกไม่ได้

     

    “หนาวเหรอครับ?”

     

    เด็กหนุ่มถาม ซองยอลส่ายหน้าอีกครั้ง

     

    “ยังไม่ได้ตอบเลย นายอายุเท่าไหร่”

     

    เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนคนข้างๆ จะเอียงหน้ามาพูดใกล้ๆ หู

     

    “ผมเรียนม.ปลายปีสุดท้าย... เด็กกว่าพี่หรือเปล่าล่ะ”

     

    ซองยอลหันไปนิ่วหน้าใส่ ใกล้ไปแล้วนะ แต่เด็กคนนั้นเพียงแต่ฉีกยิ้มกว้างมาให้

     

    “พี่เรียนที่คยองฮีใช่ไหม?”

     

    คราวนี้ซองยอลพยักหน้า

     

    “ปีหน้า ผมจะไปเป็นรุ่นน้องพี่”

     

    มั่นอกมั่นใจจริงนะ ซองยอลไม่ได้ตอบความ เพียงแต่กระดกเบียร์อีกอึก

     

    เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มจ้องอยู่ จ้อง... ที่ริมฝีปากยามเขาแตะกับปากขวดใบเล็ก จ้อง... ที่ลำคอของเขาที่ขยับเป็นลูกเมื่อเขากลืนของเหลวเย็นๆ สีทองอ่อน

     

    เวลาไม่ยิ้ม ดวงตาของเด็กคนนี้ มันไม่เด็กเหมือนอายุเลยนะ คมปลาบแบบนั้น เหมือนมีดที่พร้อมจะกรีด แต่ก็นุ่มนวลเหมือนผ้ากำมะหยี่ที่คลี่ออกห่มร่างคนที่โดนจ้องมองไว้

     

    “เห็นอะไรที่อยากเห็นหรือยัง”

     

    เขายกหลังมือเช็ดปาก แล้วถามออกไป แกล้งจ้องตากลับบ้าง

     

    “เห็นแล้วครับ... แต่อยากเห็นมากกว่านี้อีก”

     

    ตอบออกมาหน้าไม่เปลี่ยนสีสักนิด

     

    ให้ตาย...

     

    ซองยอลถึงกับหัวเราะ ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กแก่แดด

     

    “ไอ้เด็กแก่แดด”

     

    สุดท้ายก็บ่นออกมาเบาๆ ทำเอาเด็กข้างตัวหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ

     

    เงียบกันไปอีกอึดใจ ก่อนมือหนาๆ จะเอื้อมมาหยิบส้อมจิ้มกุ้งบ้างเนื้อบ้างยื่นมาจ่อให้ที่ปาก

     

    ซองยอลทำอะไรไม่ได้นอกจากอ้าปากงับเข้าไป

     

    “พี่... จำไว้นะ ปีหน้าผมจะไปเป็นรุ่นน้องพี่”

     

    ยังคงจิ้มโน่นจิ้มนี่ยัดเข้าปากเขา ซองยอลจะตอบก็ตอบไม่ได้ ทำได้แค่เคี้ยวๆๆ แล้วรีบกลืน เพราะไอ้เด็กใจร้อนมันจิ้มส่งมาให้อีกแล้ว -*-

     

    นี่คือมันกำลังเขินอยู่เหรอ?

     

    ในที่สุดซองยอลก็ไม่ไหว เขาคว้าข้อมือที่ใหญ่กว่ารั้งเอาไว้ แล้วเบือนหน้าหนีไปรีบเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปาก

     

    ไม่ทันได้สังเกตว่าผิวเนื้อที่จับอยู่อุ่นร้อนแค่ไหน จนกระทั่งกลืนเนื้อในปากลงไปแล้วนั่นแหละ

     

    เขารีบปล่อยข้อมือเจ้าเด็กนั่นทันที

     

    แต่สายไปแล้ว

     

    มือหนาๆ ที่จิ้มเนื้อยัดเข้าปากเขาเมื่อครู่เปลี่ยนมาคว้ามือเขาไปจับแทน

     

    จับไว้อย่างนั้น ไม่ขอก่อนด้วย จับแล้วก็ไม่พูดอะไรด้วย -*-

     

    “นี่ จับมือน่ะ ยังไม่ขอเลยนะ”

     

    “ก็พี่จับผมก่อนนี่”

     

    แน่ะ เถียง... เถียงแล้วก็ทำเฉย ขยับมาใกล้กว่าเดิมด้วย ซองยอลจะขยับหนี แต่คำขู่เบาๆ ทำให้ชะงัก

     

    “อย่าหนีนะ หนีกอดจริงๆ ด้วย”

     

    โห???.... เขาควรโกรธไหมนี่?

     

    แต่น่าแปลก ที่ซองยอลไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด เขาหันมองคนข้างตัวอย่างทึ่งๆ อึ้งๆ แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม

     

    “นี่...”

     

    หลังจากนั่งเงียบๆ ฟังเสียงคลื่นคุยกับทรายอยู่ด้วยกันพักใหญ่ซองยอลก็ทำลายความเงียบขึ้น

     

    “ไม่ได้หนี... แต่...”

     

    หันสบตากับคนข้างตัวอีกรอบ

     

    “กอดหน่อยได้ไหม....”

     

    รอยยิ้มหวานคลี่ออกกว้างขวางเป็นคำตอบที่ต้องการ

     

    “กอดแล้วไม่ปล่อยนะครับ... กอดแล้วกอดเลยนะ...”

     

    พูดไม่ทันจบประโยคแขนยาวๆ แข็งแรงก็ตวัดรอบไหล่ โอบเขาไว้ในอ้อมอกกว้าง

     

    “อือ... ก็ไม่ได้บอกให้ปล่อยนิ่”

     

    ซองยอลทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้ม

     

    “พี่... ปีหน้าผมถึงจะตามไปได้นะ พี่รอผมด้วยนะ อย่ามีคนอื่นนะ….”

     

    อะไรกัน เด็กนี่ ซองยอลยันตัวขึ้น มองหน้ามันเสียหน่อย ก่อนจะโดนดึงไปโอบไว้เหมือนเดิม

     

    “เออ... รีบๆ ตามมาให้ได้ปีหน้าก็แล้วกัน ถ้ามาช้า ฉันจะไม่รอ”

     

    แล้วทำไมตอบมันไปแบบนั้นกันนะ

     

    อ้อมแขนที่โอบอยู่รอบตัวกระชับเข้าหาอีกนิด

     

    “ผมชื่อมยองซู... คิมมยองซู... เอาเบอร์พี่มาซะดีๆ”

     

    หนอย... มีข่มขู่…

     

    “เอาโทรศัพท์มาสิ กดให้”

     

    แต่ก็ให้มันไป

     

     

     

     

     

     

    ลมทะเลพัดมา กลิ่นเกลือเค็มๆ ปนกับกลิ่นควันไฟ กลิ่นอาหารย่าง กลิ่นแอลกอฮอล์ และกลิ่นหอมอ่อนๆ อบอุ่นของคนข้างตัว เสียงสรวลเสเฮฮายังดังมาจากร้านอาหารด้านบน

     

    แต่ที่ชายหาดนี่ มีเพียงเขากับมยองซูเท่านั้น...

     

    ซองยอลรู้สึก... ลมฤดูร้อน พัดพาคนรักมาให้เขาแล้วสินะ....

     

     

     

     

     

     

    Goodbye Summer days…

     

     

     

     

     

     

    วันหยุดผ่านไปไวเหมือนโกหก

     

     

    ไม่นาน หนุ่มสาวทั้งหลายก็ทิ้งชายหาดสีขาวกับทะเลสีครามไว้เบื้องหลัง

     

    ต่างก็บ่ายหน้ากลับเข้าตัวเมือง กลับไปยังชีวิตแบบเดิมๆ กลับไปทำสิ่งเดิมๆ ที่ต้องทำอีกตลอดทั้งปี

     

    ลมที่พัดมาเยือกเย็นขึ้น เป็นการบอกให้รู้ว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่

     

    ร้านรวงริมหาดเริ่มปิด พนักงานโรงแรมออกมากวาดล็อบบี้ร้างผู้คนอย่างเหงาๆ ชายหาดว่างโล่ง มีเพียงรอยเท้าของหมาสองสามตัวที่วิ่งไล่เล่นกันอยู่เท่านั้น

     

     

    บางเรื่องราวที่เกิด ณ ชายหาดแห่งนี้เหลือเพียงความทรงจำ ทั้งสุข และเศร้า ทั้งรัก และร้าง

     

     

    แต่บางเรื่องราวก็...

     

     

    เสียงเพลงจากวิทยุในรถเป็นเพลงที่มยองซูบอกว่าชอบ ซองยอลจำได้

     

    เขานั่งเอาคางเกยขอบกระจกรถที่ไขไว้จนสุด ปล่อยให้ลมพัดผมปลิวกระจาย ดวงตาเล็กที่แฝงแววเศร้าอยู่เป็นนิจเหม่อมองภาพถนนคอนกรีตสีเทาขาวสะท้อนแสงแดดของปลายฤดูร้อนเป็นประกาย....

     

     

    เพื่อนๆ ในรถยังคงคุยกันโหวกเหวก บ้างอวดเรื่องสาวที่จีบได้ บ้างโวยวายที่โดนสาวทิ้ง

     

    แต่สิ่งที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกัน คือความทรงจำของฤดูร้อนของวัยหนุ่มสาวที่จะจดจำไปอีกนานแสนนาน.... 

     

     

     

     

     

     

     

     

    Morning Call from the Beach…

     

     

     

     

     

     

    Rrrrrrrr……

     

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrr………

     

     

    “อืม.....” งัวเงียเอื้อมมือรับโทรศัพท์ เหลือบตามองนาฬิกาที่หัวเตียง ... 6 โมงเช้า...

     

     

     

     

    “Good morning…. My love…”

     

     

     

     

    แค่ได้ยินเสียงเป็ดๆ จากอีกปลายสายก็ทำให้ซองยอลยิ้มได้ไปทั้งวันแล้ว

     

    เขากลิ้งม้วนตัวในโปงผ้า ก่อนจะกระซิบตอบกลับไปเบาๆ

     

     

     

     

    Good day …. Sunshine…”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End….

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×