คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Dear Daddy
Dear Daddy…
เงินค่าเทอมที่คุณส่งมา ผมได้รับแล้วนะครับ….
ผมสงสัยจริงๆเลย ทำไมคุณถึงอุปการะผม ทั้งๆที่ผมเป็นใครก็ไม่รู้ละครับ
อันที่จริงผมเองก็ยังไม่รู้จักคุณเลย….
ตั้งแต่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผมเกิดที่นั่นไฟไหม้ไป อันที่จริงคุณก็ไม่น่าจะต้องเอาผมที่ไม่มีคุณค่าอะไรมาเป็นภาระแท้ๆ
ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้จริงๆนะ ก็…ผมไม่เหลือใครแล้วนี่นา
ขอบคุณมากๆนะครับ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเลย
ความจริงคอนโดนี่ก็โอเคดี ไม่สิ มันเจ๋งที่สุดไปเลย
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกสื่งทุกอย่าง
Lots of love
From Louis xx :)
To Louis
ฉันไม่มีทางทิ้งเธออยู่แล้ว ลูอี…
ฉันรับเธอมาเป็นเด็กในอุปการะแล้ว แม้ว่าตัวกลางในที่นี้จะเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กก็ตาม แต่ฉันก็ไม่มีวันที่จะทอดทิ้งเธอ
ใครว่าเธอไม่มีคุณค่าอะไร เด็กน้อยเอ๋ย หากเธอยังคิดว่าตัวเองไร้คุณค่า แล้วเธอจะเกิดมาเพื่ออะไร
หากเธอยังคิดว่าตัวเองไร้คุณค่า เธอก็ไม่มีทางมีคุณค่าที่แท้จริง และไม่มีใครหรอกที่จะมาเห็นคุณค่าของเธอ
เธอมีค่าลูอี เธอมีคุณค่าสำหรับฉันเสมอ เด็กดี…
รักเสมอ
Daddy …
Ps.ฉันเตรียมห้องให้เธอเรียบร้อยแล้ว อีกสองวันให้เธอมาหาฉันตามที่อยู่ที่แนบไป ฉันหวังอย่างยิ่งว่าเธอจะมา
…
..
..
.
ร่างโปร่งก้มมองจดหมายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นิ้วเรียวลากผ่านทุกข้อความราวกับจะให้ความรู้สึกทั้งมวลของผู้เขียนมันซึมซาบเข้าไปในอณูของร่างกาย ลูอิสผ่อนลมหายใจยาว ใบหน้าหวานสวยราวกับรูปปั้นทวยเทพในปกรณัมกรีก บัดนี้เต็มไปด้วยความกังวลใจ
เขาเคยคิดมาตลอดว่าหากได้ไปใช้ชีวิตในเมืองหลวงกับพ่ออุปถัมภ์จะดีสักแค่ไหน แต่ตอนนี้กลับไม่เหลือความรู้สึกดีๆเหล่านั้น ‘ในเมืองหลวงมีแต่ความปลิ้นปล้อน ผู้คนล้วนสวมหน้ากากเข้าหากัน’ ซิสเตอร์ที่เลี้ยงดูเขาเมื่อยามเยาว์วัยเคยบอกกับเขาอย่างนั้น และเขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าคนที่เขาจะไปอาศัยร่วมชายคาด้วยนั้นจะเป็นคนเช่นไร เขาไม่เคยรู้ว่าพ่อที่เขาเขียนจดหมายหาทุกวันหน้าตาเป็นเช่นไร ถ้อยคำปลุกปลอบให้กำลังแสนสวยหรูนั่นเป็นเพียงคำหลอกลวง หรือเป็นสิ่งที่มาจากทั้งหมดของหัวใจ เขาไม่เคยรู้ ไม่เคยจะได้รู้ ไม่เคยรู้เลย…
หากแต่อีกด้าน เขาเองกลับรู้สึกว่าเขาควรจะไปที่นั่น จะได้รู้กันไปเสียที ว่าพ่อที่ส่งเงินมาให้เขาทุกเดือนนั่นเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรถึงยอมเสียเงินเหยียบแสนเหยียบล้านเพื่อจะได้ดูแลเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีแม้กระทั่งหัวนอนปลายเท้า หากมองมุมกลับกัน ก็ไม่มีอะไรเลยที่พ่ออุปถัมภ์จะได้รับไปจากเขา
นอกจากใจอันบริสุทธิ์ดวงนี้….
…
..
.
.
.
แล้วสองขาของเขาก็พาเขามาถึงที่อยู่ตามจดหมายที่พ่อของเขาเขียนมา ลูอิสมองจุดหมายของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา
คฤหาสน์หลังงามกลางกรุงนี่นะหรือ คือที่ที่จะเป็นที่พำนักของเขา
ลูอิสสะบัดหัวไล่ความมึนออกจากศีรษะแล้วก้มอ่านทีอยู่ทีละตัวช้าๆให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้อ่านผิดไปแม้แต่ตัวเดียว
“คุณทอมลินสันใช่ไหมคะ”
“ฮะ?”
ลูอิสเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก หญิงสาวร่างโปร่งคือเจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้ หญิงสาวทำให้ลูอิสประหลาดใจไม่น้อย ใบหน้าของเธอดูทุกข์ระทมที่ไม่น่าจะมีบนใบหน้าของหญิงสาวที่สายตาของลูอิสคะเนว่าคงไม่เกินสามสิบต้นๆ
“เข้ามาสิ”
หญิงสาวผายมือเข้ามาพร้อมเปิดรั้วให้ ซิ่งก็สร้างความประหลาดใจแก่ลูอิสเป็นคำรบสองว่าคฤหาสน์ใหญ่โตกลับใช้มือในการเปิดรั้วแทนที่จะเป็นระบบออโต้อย่างกดรีโมต แต่ก็ได้แต่สงบปากสงบคำแล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไปด้วยท่าทีสำรวม
“….”
“ขึ้นไปชั้นบนห้องฝั่งซ้ายด้านหน้าสุด”
หญิงสาวว่าพลางถอนใจเรียบๆก่อนจะค่อยๆนั่งบนเก้าอี้ไม้สุกบุผ้าสักหลาดด้วยท่าทีเหมือนคนกำลัง….กำลังสูญเสียอะไรบางสิ่ง บางสิ่งบางอย่างที่มันน่าจะสำคัญกับเธอหนักหนา
..
.
.
..
.
ลูอิสออกแรงผลักประตูไม้บานใหญ่อย่างสุดแรง เขาเริ่มรู้สึกแปลกใจว่าหญิงสาวตัวเล็กคนเมื่อกี้ที่ท่าทางจะเป็นคนดูแล เธอทำได้อย่างไร
แล้วภาพในห้องก็ทำให้ลูอิสแปลกใจอย่างที่สุด
เขาแปลกใจ ….ชายหนุ่มที่ท่าทางจะอายุไม่ต่างไปจากเขาเท่าไรนักคนนี้ที่นั่งหันหลังอยู่นี่นะหรือคือคนที่ส่งเสียเขามาเนิ่นนาน ทั้งคำพูดคำจาเหมือนผู้ใหญ่ผ่านโลกมานานนั่นอีก
“ไง ลูอี”
แต่ยามได้เห็นหน้าแบบชัดๆกลับทำให้ลูอิสมั่นใจว่านี่เป็นคนคนเดียวกับที่เขียนจดหมายหาเขามาตลอด
ใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูสุขุม ที่มองว่าเขาเป็นเด็กเสมอมา รูปร่างสูงใหญ่ที่เป็นหลักประกันว่าเขาจะอยู่เป็นที่พึ่งพิงไม่ว่าจะยามเป็นหรือยามตายก็ตาม เสียงนุ่มที่เอ่ยทักเขานั่นอีก
ลูอิสรู้สึกเหมือนหูอื้อ รอบกายเขาเป็นเช่นไร เหมือนว่าจะไม่กระทบโสตประสาทเขาแม้แต่น้อย ต่อมน้ำตาที่เหมือนจะเหือดหายไปนานแสนนานจู่ๆก็กลับทำหน้าที่ได้ดีอีกครั้ง ร่างทั้งร่างเหมือนจะสั่นไปเสียหมด
“ด… แดดดี้?”
ทันทีที่ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆ ลูอิสก็โผเข้าหาทันที แขนที่สั่นน้อยๆเอื้อมไปกอดอีกฝ่ายทั้งๆที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก
“เฮ้ ไม่ร้อง ไม่ร้องน่า”
“ฮือ ผม ผม”
ลูอิสพูดอะไรไม่ออก บางอย่างที่หายไปกลับได้รับการเติมเต็มจนมันตื้อไปหมด…
“อืม ฉันควรจะแนะนำตัวเองก่อนสินะ ฉันชื่อเลียม เพนย์”
“อือ”
แต่ทำไม ลูอิสกลับรู้สึกเหมือนกับ….
“ฉัน…เฮ้อ ฉันมีข่าวร้ายจะบอกเธออย่างหนึ่ง”
เหมือนทุกอย่างมันกำลังจะเลือนหายไปช้าๆ….
“อะไร”
ลูอิสเงยหน้าขึ้นคาดคั้นอีกคน เขาใจไม่ดีเลย
“ฉันป่วย ลูอี ฉันคงอยู่กับเธอไม่ได้นานหรอกนะ”
เหมือนมีสายฟ้าฟาดทั้งร่างเขาจนมันแหลกสลายไปหมด ลูอิสรัดอีกคนแน่นเสียงสั่นค่อยๆเอ่ยออกมาช้าๆ
“ผมไม่สนใจ”
“อีกแค่สองวัน สองวันลูอี”
ลูอีรัดร่างอีกคนแน่นขึ้น เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหญิงสาวคนนั้นถึงได้มีท่าทีโศกเศร้าเยี่ยงนั้น ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเขาเช่นนี้ เขาได้พบกับรักที่แสนอบอุ่น ได้พบที่พักพิงที่แข็งแกร่ง แต่เหมือนมันจะสายไปทุกอย่าง กำแพงที่ยืนหยัดมานานย่อมมีวันพังทลาย….
แต่หัวใจรักนั้นยังมั่นคง
“ผมเชื่อว่าเราจะได้พบกันอีก”
“แน่นอนลูอี เพราะ ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป”.
….
More than word – Extreme
All I have to do is dream – Juice Newton
All out of love – Air supply
Why worry – Art Garfunkel
นี่คือเพลงที่ข้าใช้บิ้วอารมณ์ตอนแต่ง
ความคิดเห็น