ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Skyhigh โรงเรียนเหนือฟ้า

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 51






    ซิกๆ ซิกๆ

    เสียงร้องกระซิกๆ ไร้ที่มา ดังภายในห้องสีเหลี่ยมกว้าง ห้องทั้งห้องถูกตกแต่งในโทนหวาน ดูสบายตา เตียงกว้างมีประชากรชาวตุ๊กตาเบียดกันแน่นจนแทบจะไม่เหลือที่จะให้นอน ผ้าห่มหนาๆ กองไม่เป็นระเบียบผิดกับส่วนอื่นๆ ของห้อง เหมือนว่าเจ้าของเตียงเพิ่งจะลุกออกไปได้เพียงไม่นานนี้

    ฮึก ฮือๆๆ

    เสียงร้องยังดังไม่ขาด ดูท่าเจ้าของเสียงร้องคงกำลังเศร้าเสียใจกับอะไรอยู่สักอย่างเป็นแน่

    ตึก!! ตึก!! ตึก!!

    เสียงย่ำเท้าลงบนขั้นบันไดหนักๆ ยิ่งเรียกให้เสียงร้องนั้นดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม

    ฮือๆๆ แง อึก ฮือ...

    ปัง ปัง

    บานประตูถูกเคาะเป็นจังหวะ

    ...

    เงียบ ไม่มีแม้เสียงร้องให้เมื่อครู่ ยินเพียงเสียงลมพัดผ่านผืนผ้าม่านให้ปลิวไสว

    ถ้าไม่เปิด ฉันจะพังประตูเดี๋ยวนี้แหล่ะ

    แม้จะฟังดูคุกคาม แต่มีหรือเจ้าของเสียงร้องจะออกไปเปิด ก็ไม่ใช่เพราะเขาหรอกหรือ ที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องร้องให้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนี้

    ฉันจะนับแค่สาม ถ้ายังไม่เปิดละก็ ฉันจะพังประตูเข้าไปจริงๆ ด้วย แล้วจะไม่มีคำว่าอุทธรณ์ด้วย

    ...

    โอ๊ยจะบ้าตาย จะบ้าตายโว้ย... หนึ่ง... สอง... สาม...

    ปัง!!

    โครม!!

    บานประตูบานเขื่องกระแทกพื้นโครมใหญ่ แต่กลับไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจายสักเม็ด ปลายเท้าที่ซ่อนอยู่ในรองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้าน ของตัวต้นเหตุยังยกค้างอยู่ที่เดิม ก่อนเจ้าตัวจะชักเท้ากลับด้วยท่าเท่ห์

    ชายหนุ่มผมสีฟ้าครามซอยยาวระต้นคอ ร่างสูง ผู้เป็นเจ้าของบาทาพิฆาตบานประตูเมื่อครู่ก้าวเข้ามาในห้อง นัยน์ตาสีมรกตเข้มมีประกายดุกวาดมองหาสิ่งมีชีวิตในห้องจนทั่ว ไม่ต่างจากเรดาร์มีชีวิต ก่อนจะจบสายตาที่ตู้ใบสวยหรู

    เร... เพีย

    เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกด้วยเสียงอันดังแกมเหนื่อยหน่าย ใบหน้าเข้มอ่อนลงบ้าง เมื่อนึกถึงคนที่ยังแอบซ่อนอยู่ในตู้เบื้องหน้า นึกสภาพที่คงจะใช้มืออุดปากกั้นเสียง ทั้งที่ยังสะอื้นจนตัวโยน

    ไม่เอาน่าเรเพีย ยังไงๆ ก็ต้องไป ช้าหรือเร็วสุดท้ายก็จบที่คำว่าไปอยู่ดี

    ...

    คนในตู้ยังคงพยายามเก็บเสียงให้ได้มากที่สุด ถึงจะรู้ว่าปิดเด็กหนุ่มไม่ได้ก็ตาม

    หรือจะให้ฉันไปคนเดียวละ ฉันน่ะ ไม่มีปัญหาหรอก แล้วเรเพียละ จะอยู่คนเดียวได้จริงๆเหรอ ได้ๆ จะเอาอย่างนั้นก็ตามใจ จะอยู่ที่นี่คนเดียวใช่ไหม งั้นก็ลาก่อนนะ ฉันคงต้องเดินทางแล้ว ดูแลตัวเองล่ะ

    ไม่ ไม่เอา ไม่ให้ไปนะ ฮือๆ

    เสียงปนสะอื้นดังขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ เด็กหนุ่มพาร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้ตู้ยิ่งขึ้น

    ไม่ไปไม่ได้หรอกเรเพีย มีเหตุผลหน่อยซิ มีใครที่ไหน อายุตั้งสิบหกแล้วยังอยู่บ้าน คนเค้าไปเข้าโรงเรียนกันหมด ตัวเองยังเล่นเหมือนเด็กๆ อยู่

    ไม่ไป

    คนในตู้ยังพูดอย่างดื้อดึงเหมือนไม่รู้จักเขา ผู้ซึ่งขีดความอดทนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ก็นะ เวลาสิบห้าปีที่อยู่ด้วยกัน มันก็ทำให้ทั้งสองรู้จักกันยิ่งกว่าใครๆ ในโลกนี้เสียอีก

    ถ้าไปเรียนแล้วถูกแยกห้องล่ะ เรเพียไม่เอาหรอก ไอซ์ซิคไม่อยากเจอเรเพียแล้วใช่ไหมล่ะ อย่าหาข้ออ้างเลย มันเหนื่อยนะ โกหกมันเหนื่อยจะตาย

    คนในตู้ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ หวังจะซื้อเวลาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ขัดคนๆ นี้ไม่ได้

    จะออกมาดีๆ ไหมเรเพีย อย่าทำตัวงีเง่าน่า จะออกมาดีๆ หรือจะให้ฉันพังเจ้าตู้นี่ด้วย       

    ฉันเตือนแล้วนะเรเพีย ฉันเตือนแล้ว...

    เด็กหนุ่มหลับตาพูดกับตัวเอง หวังจะกดอารมณ์ที่ใกล้เดือดของตัวเองให้ลดลง บางครั้งการทำตัวน่าสงสารเล็กๆ น้อยๆ ก็พอดูหรอก แต่มากเข้ามันชักจะไม่น่าสงสารเสียแล้ว

    เด็กหนุ่มวาดมือเบาๆ ไปทางประตูตู้ ก่อนจะร่ายเวทบทง่ายๆ ขึ้นมา

    เกล เด็มโมลิชชัน

    เพียงเท่านั้น บานประตูตู้ที่แสนบอบบาง ก็เหลือเพียงเศษซากปลิวว่อนห้อง ภายในตู้ซึ่งบรรจุเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพงลิ่วในมุมเล็กๆ ยังมีร่างเล็กๆ ในชุดนอนลายคิตตี้แค็ตนั่งขดตัวอยู่อย่างน่าสงสาร ผมสีฟ้าครามด้านหน้าซอยสั้น ผมม้ายาวปกคิ้ว ด้านหลังเปียยาวดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ใบหน้าหวานเปื้อนคราบน้ำตาจนมอมแมม ดวงตาสีมรกตกลมโตมองเด็กหนุ่มที่ยืนตระหง่านด้วยสายตาเศร้าเสียใจหนักหนา

    พี่ พี่จะทำร้ายเรเพีย ฮือๆๆ แงๆๆ ฮือ... ฮึก ฮือ ไอซ์จะทำร้ายเรพีย

    เด็กหนุ่มผู้ถูกป้ายความผิดส่ายหน้ามองสภาพน้องชายของตนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา คงเป็นเพราะเขาตามใจมากไป ไม่ได้ๆ ต่อจากนี้ไปเขาจะใจอ่อนกันคนตรงหน้าไม่ได้ ทั้งที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวแท้ๆ แต่เจ้านี่กลับยังทำตัวเป็นเด็กเล็กให้พี่คอยดูแลอยู่ได้ ก็เพราะอย่างนี้ซิ เขาถึงจำเป็นต้องพาเข้าโรงเรียน

    เรเพีย พี่ไม่ทำร้ายนายหรอกนะ ดูซิ แม้แต่เสื้อยังไม่เปื้อนสักตัวเลย นายจะโดนทำร้ายได้ยังไง ออกมานี่ก่อน เร็ว พี่จะได้เก็บเสื้อผ้าพวกนี้ลงกระเป๋า เราช้ามากแล้วนะ ถ้าเดินทางไปไม่ทันละก็

    ผู้เป็นพี่ว่าพลางลากศพ? หมายถึงร่างน้องชายให้ออกมาจากตู้ด้วยความยากลำบาก

    ม่ายออก ปล่อยน๊า ปล่อยยยยยย

    ไม่ออกใช่ไหม ได้

    เด็กหนุ่มจับล็อกคอเจ้าน้องชายเอาแต่ใจ ก่อนจะใช้เท้าผู้ดีๆ ยันขอบตู้ ที่อดีตชาติเคยเป็นที่ยึดของบานประตู

    โอ๊ยเจ็บนะ ไอซ์อ่ะ เจ็บๆๆๆๆๆ

    ผู้พี่ไม่ฟังเสียง ยังพยายามแงะเจ้าน้องชายให้ออกจากที่สิงสถิต จนในที่สุด ความพยายามก็เห็นผล

    หนึ่งชั่วโมงให้หลัง น้องชายตัวดีผู้มีใบหน้าหวานเจี๊ยบกับผิวสวยอันบอบบางหันไปจับพื้นที่มุมห้องเป็นที่สิงสถิตแทนที่ตู้ใบเก่าเสีย เด็กหนุ่มนั่งจุ่มปุ๊กมองพี่ชายเก็บข้าวของในห้อง(โดยไม่สำนึกว่านั่นควรเป็นหน้าที่ของตนเอง)

     ไม่ไปไม่ได้ใช่ไหม

    เรเพียเอ่ยถามเสียเศร้า

    อือ

    ไอซ์ซิคตอบกลับด้วยเสียงห้วนสั้น เพราะต้องเก็บข้าวของที่ไม่รู้มันงอกมาจากไหนเยอะแยะเก็บเท่าไหร่ก็ไม่รู้หมด

    เอาผ้าห่มไปด้วยน๊า ไอซ์

    ที่นอนนุ่มๆ แบบนี้ที่โรงเรียนจะมีไหมอ่าไอซ์

    เอาที่นอนไปด้วยน๊าไอซ์

    เอาเจ้าหนูจินโกะ เนกิ บาบาริน ชิสะ โอเบ อันอัน งิเนะ... ฯลฯ

    เด็กหนุ่มยังร่ายยาวถึงชื่อตุ๊กตาแต่ละตัวของตนไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ เล่นเอาคุณพี่ชายแทบลมจับ ก็ตุ๊กตาในห้องนี้มันมีสักร้อยตัวเห็นจะได้มั๊ง

    ...แต่เอาเถอะ ยอมไปก็บุญโขแล้ว...

    เฮ้อ... หมดแล้วซินะ ทีนี้ก็ เดินทางได้แล้ว ไปเถอะเรเพีย เรเพีย อ้าวหลับซะแล้ว

    เด็กหนุ่มมองหน้าน้องชายของตนด้วยความเอ็นดู ก็ตั้งแต่จำความได้ทั้งครอบครัวก็มีกันแค่สองคน อ้อ ไม่นับรวม พ่อบ้าน แม่บ้าน แม่ครัว พ่อครัวอาหารหวาน พ่อครัวแม่ครัวอาหารคาว ครัวอาหารพื้นบ้าน อาหารนานาชาติ สาวใช้ คนสวน ยาม คนคุ้มกัน คนขับเกวียน แต่ก็อย่างว่า ไอ้ที่เป็นญาติก็มีกันแค่สองคน

    ดูซิ คราบน้ำตายังเลอะหน้าอยู่เลย เจ้าหนูเอ๊ย อายุตั้งสิบห้า ยังต้องให้พี่ชายคอยดูแล

    เด็กหนุ่มใช้ผ้าเช็ดหน้าที่พกติดตัวตามประสาผู้ดีออกมาเช็ดหน้าให้น้องอย่างแผ่วเบา(พอเป็นพิธี)

    เรเพีย ตื่นเถอะ เรเพีย ต้องเดินทางแล้วนะ

    เขาคิดอย่างช่างใจ ก่อนจะยื่นมือไปเขย่าร่างน้องชาย เบาๆ แต่เจ้าตัวยุ่งก็ยังคงหลับสบายไม่กระดุกกระดิก

    ไม่ไหวเลยนะ ขี้เซาเป็นที่หนึ่งเลย คงต้องใช้ไม้ตายแล้วซิ

    เด็กหนุ่มว่าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตะโกนออกมาจนสุดเสียง

    ลาก่อน!!”

    ฮ๊า ม่ายน๊า!!”

    ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมคลื่นพลังมหาศาลพุ่งออกจากร่าง ทั้งเร็วและรุนแรง กระแทกร่างพี่ชายที่แม้จะตั้งตัวแต่ก็ยังเอาไม่อยู่ กระเด็นไปชนผนังซะเต็มรัก บานหน้าต่างกระจกแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แจกันสองใบที่อยู่แถวหน้าห้องแตกกระจายเกลื่อนพื้น นี่ดีนะที่ภายในห้องเป็นเขตปลอดแจกัน

    อะ ไอซ์ ไปทำไรตรงนั้นอ่ะ ง่วง งั้นไปนอนไป๊ เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเรเพียปลุกให้

    เด็กหนุ่มคลานเข้าไปหาพี่ชายสุดที่รัก ด้วยความสงสัยอย่างสุดซึ้งว่าคุณพี่ไปทำอะไรตรงนั้นกัน

    เราน่ะ ตื่นแล้วก็ดี ไป ได้เวลาเดินทางซะที

    แม้จะเจ็บ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของพี่ชายจำต้องอดทนอดกลั้น อดทน อดกลั้น อดทน... และอดกลั้น ดูท่าเจ้าน้องชายมันจะไม่จำเอาเสียเลยว่าตัวเองต้องไปไหน หรือไม่มันก็สั่งให้สมองตัวเองลืมนั่นแหล่ะ ดู ดูมันทำหน้างง เด็กหนุ่มจัดการหิ้วตัวเจ้าน้องชายโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว

    อ๊ากกกก พี่จะทำไรอ่ะ ปล่อยเรเพียน๊า...

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×