คนไทยกว่า 39 ล้านคนเสี่ยง โรคหัวใจ กินผักผลไม้ไม่ถึงวันละ 4

เนื้อเรื่อง

“สธ.”เตรียมจัดรณรงค์ใหญ่ เดินสู้โรคหัวใจและหลอดเลือดครั้งใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 24 ก.ย. ชี้ขณะนี้มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดปีละกว่า 10,000 ราย เฉลี่ยวันละ 30 ราย และมีคนไทยอีกกว่า 39 ล้านคน กำลังใช้ชีวิตเสี่ยง เพราะกินผักผลไม้น้อย วันละไม่ถึง 4 ขีด

    วันนี้ (13 ก.ย.) ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี พร้อมด้วยดร.วัชระ พรรณเชษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้แทนมูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้แทนสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าวภายหลังเปิดประชุมนักวิชาการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งตัวแทนเครือข่ายภาครัฐ และเอกชนด้านการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 300 คน เพื่อมอบนโยบายการป้องกันควบคุมโรคหัวใจและหลอดเลือด และการจัดรณรงค์แก้ไข เนื่องในวันหัวใจโลกประจำปี 2549 ซึ่งกำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 24 กันยายน 2549 และเนื่องในวโรกาสที่ปี 2549 เป็นปีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้คนไทยลดปัจจัยเสี่ยงในชีวิตประจำวันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หันมาดูแลสุขภาพ ทำให้หัวใจแข็งแรง “รักษ์หัวใจ ถวายในหลวง” (The King of Heart) พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่บุคคลและองค์กรที่ชนะการประกวด “หัวใจดี มีหุ่นสวย รวยพลัง” 24 รางวัล

ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม กล่าวว่า ขณะนี้โรคหัวใจและหลอดเลือดกำลังเป็นภัยคุกคามชีวิตที่อยูในอันดับต้นๆของโลกในศตวรรษที่ 21 องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ในปี 2548 มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ทั่วโลก 17.5 ล้านคน ในขณะที่ปี 2546 มีผู้เสียชีวิต 16.7 ล้านคน หรือเป็น 1 ใน 4 ของสาเหตุการเสียชีวิตของชาวโลกผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานและผู้สูงอายุ ในกลุ่มของผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีประมาณ 20 กว่าล้านจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เนื่องจากไม่มียารักษาให้หายขาด แต่ต้องกินยาควบคุมอาการไปตลอดอายุ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก สำหรับประเทศไทย โรคหัวใจและหลอดเลือดอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งมาโดยตลอด และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2547 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดกว่า 10,000 ราย เฉลี่ย 30 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2538 เกือบ 7 เท่าตัว จึงต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน

    ด้าน ดร.วัชระ พรรณเชษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือดในขณะนี้ กว่าร้อยละ 80 เกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถป้องกันได้ อาการของโรคจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ จะรู้ตัวเมื่ออาการกำเริบไปแล้ว สาเหตุหลักของโรคหัวและหลอดเลือดมาจาก 7 สาเหตุใหญ่ ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไม่ออกกำลังกาย กินผักผลไม้น้อย สูบบุหรี่

     ผลการสำรวจสุขภาพคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศล่าสุดในปี 2547 ข้อมูลน่าตกใจ พบว่ามีคนไทยกินผักและผลไม้ต่ำกว่ามาตรฐานสากลกำหนดคือวันละ 400 กรัมหรือ 4 ขีด มากถึง 39 ล้านกว่าคน และมีคนติดบุหรี่ต้องสูบทุกวันกว่า 11 ล้านคน อีกกว่า 10 ล้านคนไม่ออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสูง หากยังไม่ปรับพฤติกรรม

    ดร.วัชระกล่าวต่อว่า ในการป้องกันแก้ไขโรคหัวใจและหลอดเลือด กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นหนักที่การป้องกันที่ต้นเหตุ คือกระตุ้นให้คนไทยออกกำลังกาย กินผักผลไม้มากขึ้น และลดการสูบบุหรี่ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนเพื่อปรับแก้พฤติกรรม และการใช้กฎหมายด้วย

    ทางด้าน นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในวันที่ 24 กันยายน 2549 นี้ กระทรวงสาธารณสุขผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันหัวใจโลกประจำปี 2549 โดยจัดเดินเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี เถลิงราชย์ พร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนกลางจัดที่สวนหลวง ร.9 เริ่มเดินตั้งแต่เวลา 05.30 น.- 07.30 น. และที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ซึ่งมีกิจกรรมหลายอย่าง ได้แก่ เดินเฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการโรคหัวใจ การทดสอบความแข็งแรงของหัวใจ และกิจกรรมเวที ตั้งแต่เวลา 05.30 น.- 14.00 น