บันทึกเทศกาลกินเจ
เทศกาลกินเจ 2549 เริ่มขึ้นแล้ว
ผู้เข้าชมรวม
932
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ถนนสายทองคำเยาวราชแปรเปลี่ยนเป็นถนนสายเจชั่วขณะ ตั้งแต่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ หรือวงเวียนโอเดียนเก่า ไปจนสุดถนนเต็มไปด้วยป้ายสีเหลืองและธงสีเหลือง พร้อมคำขวัญ “เทศกาลงานเจ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชัน”
ทีมงานซอกแซกมีโอกาสผ่านเยาวราช ณ วันสุกดิบ ก่อนเปิดงานกินเจ พบคำขวัญอีกแผ่นมีข้อความว่า “ล้างจาน ล้างใจ ใสสะอาด” พร้อมภาษาอังกฤษ “Big Cleaning Day”
ถามเขาว่า มีความหมายอย่างไรสำหรับคำขวัญนี้
ได้รับคำตอบว่า เป็นคำขวัญเชิญชวนทำความสะอาดเยาวราชก่อนงานกินเจจะเริ่ม
ทำความสะอาดทุกอย่าง ตั้งแต่ถ้วยโถโอชามที่จะใช้ตักอาหาร ทำความสะอาดบ้าน ร้านค้าและพื้นถนนรนแคม
สำคัญที่สุดก็คือ “ล้างใจ” หรือทำความสะอาดจิตใจนั่นเอง
ประมาณ 9 โมงเช้าของวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสเดินยํ่าไปบนถนนเยาวราชจากซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ไปจนถึงตลาดเก่า ด้วยความอิ่มเอิบอย่างประหลาด
ทราบว่าเขาเพิ่งทำความสะอาดแล้วเสร็จก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีเศษกระดาษสักแผ่น ไม่มีก้นบุหรี่ ไม่มีเศษอาหาร ราบเรียบไปตลอดทางที่เดิน
ความสะอาดน่ารักอย่างนี้เองครับ เห็นแล้วก็ อยากเดินเล่น เผลอๆยังอยากนั่งเล่นบนฟุตปาทด้วยซํ้า
อยากให้เรามีพิธีกินเจตลอด 365 วันจริงๆครับ ถนนเยาวราชจะได้สะอาดเกลี้ยงไปตลอดทั้งปี
พูดก็พูดเถอะ ต้องขอขอบคุณกระแสกินเจที่เกิดฮิตขึ้นมาอย่างแรงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้
จะเป็นด้วยกลยุทธ์ของพ่อค้าขายนํ้ามันพืช หรือซีอิ๊วในช่วงแรกๆที่หวังโปรโมตเทศกาลอาหารเจเพื่อขายสินค้าของเขา... หรืออย่างไรก็ช่างเถอะ
เอาเป็นว่า การกินเจได้กลายเป็นคลื่นที่ใหญ่ กว่ากระแส มีผู้คนหันมานิยมเพิ่มขึ้นทุกปีๆ
ตัวเลขปริมาณจำนวนคนอาจไม่ชัดนัก แต่ถ้ามองที่มูลค่าการตลาด จะเห็นได้ชัดเจนว่าโตขึ้นโดยตลอด อย่างปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยก็คาดไว้ว่า มูลค่าการตลาดอาหารเจเฉพาะใน กทม. จะสูงถึง 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10 เปอร์เซ็นต์
ต้องถือว่าเป็นกระแสหรือแนวโน้มที่น่าชื่นชม และต้องช่วยกันโหมกระพือให้กระแสแรงขึ้นไปอีก
เพราะวัตถุประสงค์ของการกินเจนั้น ไม่เพียงเพื่อหยุดกระทำบาปเท่านั้น ยังมีผลดีต่อสุขภาพ ด้วยการหันมารับประทานผัก ช่วยลดนํ้าหนักให้แก่ผู้ที่มีนํ้าหนักตัวเกินพิกัดได้เป็นอย่างดี
เผอิญปีนี้ทีมงานซอก แซกโชคดีมาก ได้รับหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งจาก สำนักพิมพ์สกายบุ๊คส์ ที่ถนัดในการจัดพิมพ์หนังสือการ์ตูน โดยนำเรื่องราวที่น่ารู้มาเขียนให้อ่านง่ายๆ แล้ววาดการ์ตูนประกอบ
ล่าสุดที่ส่งมาให้ทีมงานซอกแซก เป็นเรื่องราวของ “เจ้าแม่กวนอิม” อ่านแล้วก็รู้เรื่องราวของพระองค์ท่าน ทั้งในเรื่องหลักและเกร็ดต่างๆที่มีผู้คนกล่าวขวัญถึง
เจ้าแม่กวนอิมกับเทศกาลกินเจมีความเกี่ยวพันกันอย่างไร หาคำตอบได้ในหนังสือเล่มนี้แหละครับ
เมื่อวานนี้ หัวหน้าทีมซอกแซกแปลงร่างจากชายสูงอายุขั้นต้น (65 ขวบ) เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ นั่งอ่านเรื่องราวประกอบการ์ตูนชุดนี้รวดเดียว 2 ชั่วโมงจบ โดยไม่วางเลย
แถมตอนท้ายเล่มเขายังเอาเรื่องเกี่ยวกับการ กินเจมาฝาก อ่านแล้วก็ได้เกร็ด ได้ความรู้หลายอย่าง
ที่ชัดเจนมากก็คือประเพณีกินเจนั้น เป็นประเพณีของพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานของประเทศจีนที่มีมาแต่โบราณกาล
แต่เดิมการกินเจหรือฉันเจ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ออกบวชของจีน ทั้งภิกษุและภิกษุณี
มีข้อสันนิษฐานหลากหลาย ทั้งในเรื่องของการตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าและ เหตุผลในส่วนที่เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมเฉพาะของชาวจีน
แต่ไม่ว่าข้อสันนิษฐานจะเป็นอย่างไร สิ่งที่บันทึกไว้ชัดเจนก็คือ อาหารเจเป็นอาหารของผู้ออกบวช
ส่วนชาวบ้านทั่วไปนั้นจะรับประทานอย่างปกติ แต่จะเปลี่ยนมากินเจระยะหนึ่งในช่วงวันที่ 1-9 ของเดือน 9 ตามปฏิทินจีน
นัยว่าเพื่อสักการบูชาแด่เทพเจ้า 9 พระองค์ ซึ่งประกอบด้วย พระพุทธเจ้าปางต่างๆ 7 ปาง และโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์
ทั้ง 9 พระองค์ทรงบันดาลให้เกิดโลกธาตุ ซึ่งเป็นหัวใจของโลก 5 ประการ ได้แก่ ดิน-นํ้า-ลม-ไฟ และทอง และทั้ง 9 พระองค์ยังทรงแบ่งภาคเป็นดาว 9 ดวง ต้นกำเนิดแห่งจักรราศี
ทุกปีๆเทพเจ้าทั้ง 9 จะแวะมาอำนวยพร ชาวโลกในช่วงวันที่ 1-9 เดือน 9 ชาวจีนที่เชื่อมั่นจึงหันมากินเจในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อสักการะ กลายเป็นประเพณีกินเจสืบต่อมา
ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรอย่าไปตั้งข้อสังเกตหรือข้อสงสัยเลยครับ
อะไรที่เป็นของดีก็ขอให้เชื่อไว้ก่อนเถอะ เอาไว้สงสัยเฉพาะในเรื่องที่ไม่ค่อยดีก็แล้วกัน
ก็มีคำถามว่า การกินเจได้บุญหรือเปล่า?
มีคำตอบอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งอ้างพระโอวาทของเจ้าแม่กวนอิมที่ทรงกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
“การกินเจนั้น ความจริงไม่มีกุศล เพียงแต่ไม่สร้างบาปเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ทุกคนมีบาปมากมายอยู่แล้ว ทำไมคิดจะไปประหัตประหารคนอื่นมาเป็นเนื้อของตัวเองอีกเล่า”
สรุป...การ์ตูนเล่มนี้ทิ้งท้ายว่า เจตนาของการกินเจมิใช่กินเพื่อให้ได้บุญ แต่เป็นการไม่สร้างบาปเพิ่มขึ้น
แค่นี้ก็ดีถมไปแล้วครับ การที่คนเราไม่สร้างบาปเพิ่มขึ้น ย่อมเป็นผลดีแก่ตนเองและสังคมส่วนรวม
แต่สำหรับท่านที่มิได้กินเจก็อย่านึกว่าเราตกเทรนด์นะครับ...กินได้ก็ดี ไม่กินก็ไม่เป็นไร หากใจของเราบริสุทธิ์และไม่คิดจะสร้างบาปอะไรอยู่แล้ว อยากจะกินอะไรอย่างที่เรากินอยู่ขณะนี้ก็กินเถิด
เพียงแต่ระวังเอาไว้หน่อย อย่าไปกินอาหารประเภทมันมาก หวานมาก หรือกรดยูริกมากก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเดือดร้อนตอนแก่ตัว
ที่สำคัญอย่าไปกินของแข็งประเภทกินอิฐ กินทราย กินเหล็ก อย่างที่นักการเมืองเขาชอบกินเด็ดขาด คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้ ท่าทางเฮี้ยนไม่ใช่เล่นนะครับ จะบอกให้.
"ซูม"
ไทยรัฐ[22 ต.ค. 49 -
ผลงานอื่นๆ ของ ไข่มุกอันดามัน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไข่มุกอันดามัน
ความคิดเห็น