ฉันรู้สึกหนาวขึ้นมาถึงขั้วหัวใจ  ความรู้สึกนี้มันตามหลอกหลอนฉันมานานหลายเดือนแล้ว  นี่ฉันต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่กันหนอ  ฉันค่อย  ๆขยับตัวอย่างเงียบ  ๆ  การเดินบนพื้นไม้โดยไม่ให้มีเสียงเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก ฉันค่อย  ๆจับลูกบิดที่เย็นเฉียบเพื่อมั่นใจว่าล็อกห้องแน่แล้ว  ขยับสายยูให้แน่นขึ้น  มองดูกลอนที่ซื้อมาใหม่อีก 3  อัน ว่าใส่แน่นดีหรือยัง ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกว่าฉันใส่แน่นครบดีแล้ว
        ฉันคงกลายเป็นคนวิตกจริตไปแล้วกระมัง  ฉันคิดพลางซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา  มันมาอีกแล้ว  เสียงฝีเท้าที่ก้าวมาอย่างช้า  ๆแต่มั่นคงยิ่งนัก  มันกำลังมุ่งหน้ามายังห้องของฉัน  ฉันผวาลุกขึ้นเพื่อมุดตัวอยู่ใต้เตียงที่มืดมิด  ฉันคิดว่ามันเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดในบ้านของฉันแล้ว
มันหยุดที่หน้าห้องของฉัน  พลางจับลูกบิดอย่างที่มันทำทุกวัน  มันรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มีวันจะเข้ามาได้  ฉันหัวเราะในใจ  เสียงฝีเท้า ค่อย ๆหายไป  ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
        นับแต่วันที่ฉันหนีออกจากบ้านมา  ไม่สิมันไม่ใช่บ้าน แต่มันเป็นนรกต่างหาก  ใช่แล้วมันเป็นนรกสำหรับฉัน  แม่ของฉันที่ทำตัวเหมือนไม่ใช่แม่  แม่ที่เปลี่ยนพ่อเลี้ยงให้ฉันเป็นว่าเล่น  จนกระทั่งเจ้าพ่อเลี้ยงคนล่าสุดนี่แหละที่ทำให้ฉันตัดสินใจหนีออกจากบ้าน
มันพยายามทุกวิถีทางที่จะข่มขืนฉันให้ได้  ไม่ว่าจะทางใด  โดยแม่ที่ไม่เคยช่วยเหลือฉันเลย  และคอยแต่ฟังมันข้างเดียว  ขืนฉันอยู่ต่อ ฉันคงต้องมีสามีคนเดียวกับแม่ตัวเองเป็นแน่  ซึ่งมันไม่มีทางเลยฉันไม่มีวันยอม
        จนกระทั่งอาทิตย์ก่อนฉันเจอกับมันที่ห้างสรรพสินค้า  ฉันรีบวิ่งหนีมัน  โดยที่ไม่รู้ว่ามันแอบตามฉันจนรู้ที่อยู่ของฉัน มันมักจะมาที่ห้องฉันเสมอ  ๆ ทุก ๆคืนมันยิ่งทำให้ฉันกังวลเรื่องความปลอดภัย  จนต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่  แต่มันก็ยังตามมาเจอจนได้
          ฉันค่อย  ๆเคลื่อนตัวออกจากใต้เตียง  พลางถอนหายใจอย่งโล่งอก  แต่แล้วฉันก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว  ฉันลืมล็อกหน้าต่าง!!!!!!!!  ฉันรีบวิ่งไปเพื่อจะล็อกหน้าต่าง    ฉันทันเห็นมือของมันตะบบมาที่หน้าต่าง  แต่มันก็ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูหน้าต่างได้ เพราะฉันล็อกทัน  ฉันค่อย  ๆเอื้อมมือไปหยิบคัตเตอร์ที่วางไว้บนขอบหน้าต่างมาเหน็บไว้ที่เอว
          มันทำหน้าตาบิดเบี้ยวพลางใช้มือทุบกระจกหน้าต่างจนแตกกระจาย  ฉันรีบกระถดตัวหนี  ไม่นะ  อย่าเข้ามา  เหงื่อชื้น ๆไหลซึมทั่วหลังท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ  มันใช้มือลอดมาตามรอยแตกเพื่อเปิดล็อก 
          ในที่สุดมันก็เข้าห้องฉันมาจนได้  ฉันรู้สึกว่าน้ำตาฉันไหลพรากอย่างหยุดไม่ได้  ฉันกระเสือกกระสนเปิดประตูที่ฉันไว้ใจ  สายยูทำไมมันเอาออกยากจังนะ  มือฉันขยับอย่างบ้าคลั่ง
        มันค่อย  ๆย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน  มันกอดฉันพลางใช้จมูกสวะ  ๆของมันสูดดมผมฉัน  ฉันรู้สึกขยะแขยงมันเหลือทน  ฉันรู้สึกว่าหัวใจฉันมันกำลังบีบตัวอย่างรุนแรง  ดังตุบ  ๆๆๆ  ฉันพอจะรู้แล้วว่าทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้  ด้วยความคิดชั่วขณะเหมือนมันสั่งให้ฉันแกล้งทำเป็นสลบไป
        ฉันค่อย  ๆลืมตาขึ้นมาในขณะที่มันกำลังถอดเสื้อฉันอยู่  มันทำหน้าแปลกใจระคนตกใจที่ฉันฟื้นคืนสติเร็วกว่าที่มันคิด
ทันใดนั้น  ก่อนที่มันจะทันตั้งตัวฉันก็จ้วงคัตเตอร์ไปที่ฝ่ามือขวาของมัน  มันร้องเสียงดัง  ก่อนที่จะหยิบมีดที่มันเตรียมมาเหมือนกัน เหวี่ยงเข้าหาฉัน 
        ฉันจ้องมันด้วยสายตาแน่วแน่  ก่อนที่จะมันจะทันเหวี่ยงมีดเข้าหาฉัน ฉันก็สะดุ้งตื่นขึ้น
นี่ฉันฝันไปเองหรอกหรือนี่  ฉันเช็ดเหงื่อให้กับตัวเอง  ก่อนจะออกไปดื่มน้ำกลางดึกด้วยลำคอที่แห้งผาก  ฉันค่อย ๆ ออกจากห้องเงียบ  ๆเป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน
        ฉันก้าวลงจากเตียงเบา  ๆแต่แล้วสายตาของฉันก็ไปปะทะกับหน้าต่างที่เป็นรอยถูกทุบแตกเหมือนในฝันเลย  ฉันรู้สึกเย็นวาบในอก  แต่แล้วฉันก็คิดว่ามันอาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้  ทั้ง  ๆที่ตัวฉันเองรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
        “ออกมาทำไมกลางดึกล่ะ”เสียงเข้มที่คุ้นหูดังขึ้นท่ามกลางความมืด  มันทำให้ฉันสะดุ้งจนแทบจะตกบันได
        “พ่อเหรอ  ออกมากินน้ำค่ะ”ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
            พ่อเลี้ยงของฉันเดินออกมาจากความมืด  พลางจ้องฉันเขม็ง
        “นอนไม่หลับเหรอ”
            ฉันจ้องไปที่พ่อเลี้ยง  แต่แล้วฉันก็ต้องขนลุกซู่ด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นมือที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลของพ่อเลี้ยง!!!!!!!!!
            ภายใจใจของฉันเริ่มก่อตัวความไม่แน่ใจขึ้นมา นี่มันเรื่องจริงหรือเป็นความฝันกันนะ????????
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น