ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หิมะพร่างรัก (e-book พร้อมโหลด)

    ลำดับตอนที่ #9 : ครอบครัวสุขสันต์ (1)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 65


    การสัมภาษณ์งานเสร็จสิ้นลงในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ซึ่งตลอดการสัมภาษณ์ใช้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น เพลงขวัญมั่นใจมากว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอต้องได้งานนี้แน่นอน เพราะไม่ว่าภานุรุจจะถามอะไร เธอก็สามารถตอบได้อย่างคล่องแคล่ว ทุกคำตอบล้วนออกมาจากใจจริง และแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำหน้าที่เลขานุการของเขาให้ดีที่สุด

    หวังว่าเขาจะไม่ตัดสินเธอจากอดีตอย่างที่พูดจริงๆ

    “ขอบคุณที่สละเวลามาสัมภาษณ์วันนี้นะครับ แล้วผมจะให้ฝ่ายบุคคลแจ้งผลไปอีกครั้ง มีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหมครับ” ภานุรุจเอ่ยอย่างสุภาพ

    “ทางบริษัทจะแจ้งผลภายในกี่วันคะ” เธอต้องการทราบระยะเวลาที่แน่นอน จะได้วางแผนชีวิตได้ถูกต้อง

    “ไม่เกินสองวันครับ ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ทางเราก็จะโทร. แจ้งอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้ผู้สมัครเสียเวลา”

    สิ่งที่เขาพูดทำให้เพลงขวัญรับรู้ได้เลยว่าเดอะ ซันกรุ๊ปเป็นองค์กรที่ให้เกียรติพนักงานเป็นอย่างมาก ถึงสุดท้ายผลจะออกมาว่าไม่ได้งาน แต่อย่างน้อยเธอก็ยังรู้สึกดีกับประสบการณ์การสัมภาษณ์ที่ได้รับ

    “ดิฉันไม่มีคำถามอื่นแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้เขา

    รองประธานหนุ่มพยักหน้ารับโดยไม่เอ่ยอะไร

    เพลงขวัญอดหมั่นไส้ไม่ได้ คนอะไรหน้านิ่งได้อีก หรือว่ามีโควตายิ้มได้ไม่เกินวันละสิบครั้งก็ไม่รู้ คอยดูนะ ถ้าเธอได้เป็นเลขาฯ ของเขาเมื่อไร จะทำให้ยิ้มวันละร้อยรอบให้ได้เลย

    “ถ้างั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”

    เจ้าของร่างสูงสมาร์ตในชุดสูทสีกรมท่าคัตติงเนี้ยบลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปเปิดประตูให้เธอ “เดินทางปลอดภัยนะครับ”

    “ขอบคุณค่ะ” เพลงขวัญยกมือไหว้เขาอีกรอบ ก่อนจะออกมาจากห้องประชุมเล็กพร้อมความรู้สึกดีๆ มากมาย

    ภานุรุจมองตามจนกระทั่งหญิงสาวลับสายตาไป ริมฝีปากหยักลึกสีระเรื่อยกยิ้มน้อยๆ การสัมภาษณ์งานในวันนี้ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเธอไปโดยสิ้นเชิง

     

    เพลงขวัญกลับมาถึงบ้านที่ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ย่านสะพานควายในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา

    บ้านไม้สีขาวสองชั้นหลังขนาดกลางล้อมรอบด้วยรั้วไม้ระแนง พื้นที่หน้าบ้านมีต้นมะม่วง มะยม ชมพู่ และมะยงชิดปลูกอยู่อย่างละต้น มีม้าหินหนึ่งชุดตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นมะม่วง อีกมุมมีกระถางไม้ดอกและไม้ประดับหลายชนิดวางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบ ชวนชม ว่านเศรษฐี สาวน้อยประแป้ง และอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีดอกบัวที่ชูช่ออยู่ในอ่างดินเผาที่ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นและน่าอยู่เป็นอย่างมาก

    หญิงสาวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับยายเพียงสองคน หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุระหว่างขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากที่ทำงานเมื่อสองปีก่อน

    ยายมีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อมาตั้งแต่สมัยยังสาว แม้ตอนนี้อายุจะขึ้นเลขหกแล้ว ท่านก็ยังไม่วางมือ เพลงขวัญเคยบอกให้ยายหยุดรับงาน เพราะเงินเดือนของเธอก็มากพอที่จะใช้จ่ายในบ้านอย่างไม่ขัดสน แต่ท่านไม่ยอม เพราะรักงานนี้มาก

    ...

    ‘ยายไม่อยากอยู่ว่างๆ กลัวเป็นอัลไซเมอร์ อย่าห้ามยายเลย’ ผู้อาวุโสว่า

    เพลงขวัญยอมรับว่าสิ่งที่ท่านพูดก็ถูก ‘แต่ถ้ายายรับงานมากๆ จนไม่มีเวลาพักผ่อน ก็อาจจะกระทบกับสุขภาพได้นะคะ’ หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง

    ‘ถ้างั้นยายรับงานน้อยลงก็ได้ แต่ยายไม่เลิกนะ’ ท่านยืนยันหนักแน่น

    สุดท้ายยายกับหลานจึงพบกันครึ่งทาง

    ...

    ชุดทำงานของเพลงขวัญเกือบทั้งหมดก็ได้ยายนี่ละเป็นคนออกแบบและตัดเย็บให้ เวลาใส่ชุดใหม่ไปทีไร เพื่อนๆ ที่บริษัทก็จะชอบมาถามว่าซื้อที่ไหน จะได้ไปซื้อบ้าง พอเธอบอกว่ายายตัดชุดให้ ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อ เพราะดีไซน์ของชุดดูทันสมัยและโฉบเฉี่ยวจนน่าจะเป็นฝีมือของดีไซเนอร์รุ่นใหม่มากกว่า แน่ละ ถึงยายจะอายุมากแล้ว แต่ท่านก็อัปเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อไม่ให้ตกยุค

    ยายบอกเธอว่าท่านยังอยากเป็นคนที่โลกต้องการ จึงต้องตามโลกให้ทัน เพราะในยุคดิจิทัลที่โลกเราเปลี่ยนแปลงทุกวินาที คนที่ไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะกลายเป็นคนที่ถูกลืมในท้ายที่สุด

    ทันทีที่ไขกุญแจเปิดประตูรั้วเดินเข้ามาในบ้าน กลิ่นอาหารหอมหวนก็ลอยมาเตะจมูกเพลงขวัญ ตอนนี้ยายกำลังทำอาหารเที่ยงอยู่แน่ๆ

    หญิงสาววางกระเป๋าสะพายสีครีมและแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะรับแขก จากนั้นจึงเดินไปยังห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน “หิวจังเลยยย” เธอส่งเสียงสดใสนำไป

    “อ้าว มาแล้วเหรอลูก ต้มข่าไก่กำลังจะเสร็จพอดี” หญิงชราร่างท้วมยิ้มกว้างตอบ

    “ของโปรดหนูเลยค่ะ” ดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาว

    “ยายก็เห็นเราโปรดทุกอย่างนั่นแหละ” ยายทองเอ่ยเคล้าหัวเราะ

    “แหม ก็ยายทำอาหารอร่อยทุกอย่างเลยนี่คะ” ว่าแล้วเพลงขวัญก็กระโดดเข้าไปหาท่าน

    “โอ๊ย หลานคนนี้นี่ เดินเข้ามาดีๆ ไม่ได้หรือไง” ผู้อาวุโสส่ายหน้าไปมา แม้จะเอ่ยตำหนิ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู

    “ไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวทำหน้าทะเล้นและกอดเอวหนาของหญิงชราอย่างฉอเลาะ

    “สัมภาษณ์งานเป็นไงบ้างลูก” ยายทองถาม ขณะที่มือหยิบพริกชี้ฟ้า ใบมะกรูดฉีก ต้นหอม และอื่นๆ มาใส่หม้อต้มข่าไก่

    “คนสัมภาษณ์หล่อมากเลยค่ะยาย” ความหล่อของเขาเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

    “ตอบคำถามได้หรือเปล่าเนี่ย ไม่ใช่มัวแต่มองหน้าคนสัมภาษณ์จนพูดผิดพูดถูกนะ” ผู้อาวุโสแซวพลางยิ้มขัน

    “โหย หนูพูดลื่นไหลเหมือนรู้คำถามล่วงหน้าเลยละค่ะ ท่าทางเขาก็ดูพอใจกับคำตอบของหนูนะคะ” ดวงตาคู่สวยฉายแววมั่นใจเหลือล้น

    “แล้วเขาจะแจ้งผลเมื่อไหร่”

    “อีกสองวันค่ะ รอลุ้นกัน”

    “เดี๋ยวยายจะตัดชุดใหม่ให้นะ หลานยายจะได้สวยที่สุดในออฟฟิศ”

    “ขอบคุณค่า ยายของหนูน่ารักที่สุดในโลกเลย” เพลงขวัญยิ้มกว้างจนตาหยี หวังว่าอีกสองวันเธอจะได้รับข่าวดีอย่างที่หวังไว้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×