คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันไนต์สแตนด์ (1)
มีคนเคยบอกไว้ว่า…อากาศหนาวมักจะทำให้คนเราเหงามากขึ้น
ประโยคนี้อาจไม่เป็นความจริงสำหรับคนมีคู่ แต่สำหรับเพลงขวัญแล้ว เธอเห็นด้วยที่สุดเลยละ
การเดินคนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมายว่าเหงาแล้ว อุณหภูมิ -7 ºC ยิ่งทำให้รู้สึกอ้างว้างมากขึ้นไปอีกเป็นสองเท่า
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสมาเที่ยวงานเทศกาลหิมะที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
บรรยากาศของสวนสาธารณะโอโดริในเวลาสองทุ่มกำลังคึกคักไปด้วยผู้คนที่มากันเป็นครอบครัว มากับเพื่อนฝูง หรือไม่ก็คู่รัก
พื้นที่กว่า 1.5 ตารางกิโลเมตรของสวนสาธารณะโอโดริเรียงรายไปด้วยประติมากรรมน้ำแข็งขนาดน้อยใหญ่ที่ทำเป็นรูปสิงสาราสัตว์ แลนด์มาร์กของประเทศต่างๆ บุคคลสำคัญของโลก ไปจนถึงตัวละครจากภาพยนตร์และการ์ตูนชื่อดัง ซึ่งเมื่อประติมากรรมเหล่านั้นถูกสาดส่องด้วยแสงไฟหลากสีสันก็ทำให้ดูงดงามตระการตาราวกับภาพในจินตนาการ
เพลงขวัญเดินชมงานไปอย่างเหงาๆ ท่ามกลางละอองหิมะสีขาวที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เห็นคู่รักที่เดินจับมือกันแล้วก็อยากให้ใครสักคนมากุมมือบ้าง แต่ก็...ไม่มี
“เฮ้อ” หญิงสาวอดสงสารตัวเองไม่ได้
ยิ่งดึก อุณหภูมิก็ยิ่งลดต่ำลง แม้เธอจะสวมอุปกรณ์กันหนาวครบครันตั้งแต่หัวจดเท้า แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความหนาวสุดขั้ว
ใจหนึ่งก็อยากกลับไปนอนซุกตัวในผ้าห่มอุ่นๆ ที่โรงแรม แต่พอคิดว่ากว่าจะได้มาที่นี่ต้องใช้เวลาเก็บเงินนานแค่ไหนจึงตัดสินใจเดินต่อ เพราะไหนๆ มาแล้วก็ควรจะเที่ยวให้คุ้ม
หญิงสาวฝันอยากมาเที่ยวงานเทศกาลหิมะที่ซัปโปโรสักครั้งในชีวิต หลังจากได้ดูหนังรักโรแมนติกเรื่องหนึ่งซึ่งมาถ่ายทำที่นี่ แต่ด้วยความที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย จึงต้องเก็บเงินเองทั้งหมด
ตอนนั้นเพลงขวัญเรียนอยู่ชั้นปี 2 เธอใช้เวลาว่างช่วงเย็นวันธรรมดาและวันเสาร์อาทิตย์ทำงานพิเศษทุกอย่างที่ทำได้ เมื่อได้เงินจำนวนหนึ่งก็นำไปจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าไว้ข้ามปี เพราะจะได้ราคาถูกกว่าจองแบบกระชั้นชิด จากนั้นก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัย หญิงสาวจึงบินมาญี่ปุ่นตามกำหนด โดยจะอยู่ที่นี่ห้าวันสี่คืน
เธอคงเอ็นจอยกับการเที่ยวมากกว่านี้ถ้า...
ดวงตากลมโตอ่อนแสงลงเมื่อนึกถึง ‘เรื่องที่เกิดขึ้น’ สามวันก่อนหน้านี้
สาวร่างเล็กกัดริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดมหาศาลที่เสียดแทงขึ้นมากลางใจ แต่ก็ทำได้อย่างยากเย็น
เธอพร่ำบอกตัวเองให้ลืม แต่ยิ่งพยายามหักห้ามความรู้สึกเท่าไร หัวใจก็ยิ่งบีบรัดจนปวดหนึบไปทั้งดวง
ทันใดนั้นเอง...
“ว้าย หอยแหก!” เพลงขวัญอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเดินไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า
ด้วยความที่อีกฝ่ายมีรูปร่างสูงใหญ่กว่ามาก แรงปะทะจึงทำให้หญิงสาวถึงกับเซถอยหลัง แต่โชคดีที่เธอทรงตัวเอาไว้ได้จึงไม่หงายหลังล้มลงไป
“I’ m so sorry.” เพลงขวัญรีบกล่าวคำขอโทษ และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่า...
‘เฮ้ย หล่ออ้ะ!’
ผู้ชายคนนั้นสวมเสื้อมีฮูดสีดำ กางเกงยีนสีซีด และรองเท้าบูตสีน้ำตาล
ใบหน้าคมคายที่ประกอบด้วยคิ้วหนา ดวงตาเรียวยาว จมูกโด่ง และริมฝีปากหยักลึกสีระเรื่อนั้นดูออกไปทางชาวญี่ปุ่นหรือเกาหลีก็ได้ แต่ไม่ใช่คนไทยแน่นอน เพราะเธออุทานออกไปขนาดนั้น ถ้าเป็นคนประเทศเดียวกันคงมีปฏิกิริยาอะไรสักอย่างแล้ว ไม่ใช่ยืนนิ่งแบบนี้
เจ้าของร่างสูงสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงยีน มองมาด้วยสายตาตำหนิ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา เขาคงกำลังด่าว่าเธอซุ่มซ่าม เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ
เพลงขวัญยอมรับความผิดโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเธอมัวแต่ใจลอยแท้ๆ จึงไม่เห็นว่ามีคนเดินอยู่ข้างหน้า
“โกเมนนาไซ” สาวหน้าหวานลองกล่าวขอโทษเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมโค้งตัวเมื่อเห็นชายหนุ่มไม่พูดอะไร
“ไดโจบุ” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ที่แท้ก็เป็นคนญี่ปุ่นนี่เอง เธอเชื่อว่าเขาเข้าใจภาษาอังกฤษแน่ๆ เพราะ ‘I’ m so sorry.’ เป็นประโยคเบสิกที่ใครๆ ก็แปลออก แต่เจ้าตัวอาจมีความเป็นชาตินิยมสูง ตอนเธอพูดภาษาอังกฤษด้วยจึงไม่ตอบ
“หล่อ แต่เย็นชาชะมัด” เพลงขวัญมองตามร่างสูงไปพลางส่ายหน้า แต่ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนมากก็อย่างนี้ละ หยิ่งและถือตัวเป็นที่หนึ่ง
ดูท่าทางเขาคงไม่มีแฟนสินะ เลยต้องมาเดินคนเดียวแบบนี้
หญิงสาวแอบคิดขำๆ ว่าถ้าเธอชวนชายหนุ่มมาเดินด้วยกัน ฝ่ายนั้นจะว่ายังไงนะ ทว่าไม่ถึงห้าวินาทีต่อจากนั้น...
“เนสสึ”
“นานะ”
หนุ่มฮูดดำเดินเข้าไปหาผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก ที่เรียกชื่อเขา เธอคนนั้นยืนอยู่ด้านหน้าบริเวณที่กำลังมีการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง ทั้งสองคนทักทายกันอย่างสนิทสนม ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะควงแขนฝ่ายชายเดินไปด้วยกัน
เพลงขวัญยิ้มเจื่อน เมื่อพบว่าเจ้าตัวไม่ได้โสดอย่างที่คิด
‘ให้ตายเถอะ ทำไมใครๆ ก็มีคู่กันหมดเลย บนเกาะฮอกไกโดจะมีใครโดดเดี่ยวเดียวดายเท่าเราอีกไหมเนี่ย!’
ความคิดเห็น