ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEEP LOVE ร้ายซ่อนรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : DEEP LOVE EP.00 :: บทนำ+แนะนำตัวละคร [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 496
      12
      19 ส.ค. 64

    คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงพอสมควร

    เพราะฉะนั้นโปรดอ่านอย่างมีวิจารณญาณด้วยนะคะ


     

     

    บทนำ

     

    ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ เมื่อจู่ ๆ คุณแม่ของฉันก็จากไปอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงเวลาใกล้ ๆ วันสำคัญของฉัน มิหนำซ้ำเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันยังทำให้มีผู้อื่นเสียชีวิตอีกด้วยหนึ่งราย และเมื่อเสร็จสิ้นงานศพของคุณแม่ฉันแล้ว มันก็เป็นวันเดียวกันกับวันคล้ายวันเกิดของฉันพอดิบพอดี

    ในวันนี้ฉันไม่ได้ต้องการอะไร และไม่คิดอยากจะทำอะไรทั้งนั้น

    หลังจากที่ฉัน คุณพ่อ และพวกญาติ ๆ พากันแยกย้ายกันกลับบ้านไป เมื่อมาถึงบ้านหลังใหญ่ ฉันที่ตั้งใจจะตรงไปยังที่ห้องนอนชั้นสองของตนเองในทันทีหลังจากเข้ามาในบ้านก็มีอันต้องชะงักกึกเมื่อถูกรั้งโดยมือหนาของคุณพ่อ

    ท่านเหมือนมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉัน แต่แล้วพอสบตากับฉันได้เพียงแค่สามวินาทีเท่านั้น ท่านก็เกิดเปลี่ยนใจเสียใหม่แล้วดึงฉันเข้าไปกอดแน่นและลูบหัวฉัน

    เราสองพ่อลูกไม่ได้เปิดปากพูดคุยอะไรกันเลยสักคำ เราต่างก็ยืนร้องไห้กันเงียบ ๆ จนตัวสั่นท่ามกลางพวกคนงานในบ้านหลายคนที่รีบพากันยืนหลบ ๆ อยู่ตรงหน้าบานประตูบานใหญ่ กระทั่งเวลาผ่านไปสักพัก เป็นฉันที่เป็นฝ่ายยกมือดันคุณพ่อเพื่อให้เราสองคนผละออกห่างจากกันเพียงเล็กน้อย

    ตอนนี้ตาของเราทั้งคู่บวมแดงไปหมดแล้ว

    แต่ขอบอกไว้เลย ระหว่างฉันกับคุณพ่อ ณ เวลานี้ ฉันมั่นใจว่าฉันน่ะเข้มแข็งกว่านะ

    “หนูไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะ ถึงหนูจะอายุแค่สิบหกปี แต่หนูก็พอจะดูแลตัวเองได้แล้วนะคะ” ตอนนี้ฉันพยายามฝืนยิ้ม ฝืนร่าเริงแบบสุด ๆ “ปีหน้าหนูจะต้องกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนให้ได้ คุณพ่อคอยดูนะคะ”

    คำพูดประโยคอย่างนี้ของฉัน มันแสดงให้ท่านเข้าใจว่าในอนาคตฉันจะเข้มแข็งให้มาก ๆ น่ะ เพราะเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ฉันเข้าเรียนมัธยมต้นปีหนึ่งได้เพียงไม่นานนักก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา

    โรงเรียนแห่งนั้นเป็นโรงเรียนที่คุณแม่ของฉันสอนหนังสือ ท่านเป็นคุณครูที่นั่น ทว่าแล้ววันหนึ่งฉันโดนรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งหลอกล่อจนทำให้โดนกระทำเลวร้ายในห้องพยาบาล ทำให้หลังจากนั้นฉันก็ไม่กล้าไปโรงเรียนอีกเลยทันที ส่วนคุณแม่ของฉันก็โดนไล่ออกไปจากที่นั่นในเวลาต่อมา

    แน่นอนว่าเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับฉันมันบานปลายเพราะมีรุ่นพี่ผู้ชายคนอื่น ๆ สมรู้ร่วมคิดอีกด้วยหลายคน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้รับมันกลับส่งผลกระทบกับฝ่ายของเหยื่อฝ่ายเดียวซะอย่างนั้น

    ฉันไม่รู้หรอกว่าเหตุผลที่แท้จริงที่คุณแม่โดนไล่ออกมันคืออะไรกันแน่ เพราะถ้าหากว่าท่านเป็นคนยื่นใบลาออกด้วยตัวของท่านเอง ฉันจะไม่แปลกใจเท่าไหร่เลย แต่นี่เหตุผลที่ท่านโดนปลดออกจากงานที่ทำอยู่กลับกลายเป็นแบบนั้นซะอย่างนั้น ซึ่งในตอนแรกคุณแม่ก็บอกกับฉันนะว่าท่านไม่สามารถเผชิญหน้ากับสิ่งแวดล้อมและข่าวลือผิด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฉันได้เลยแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายฉันก็บังเอิญมารู้ภายหลังว่าจริง ๆ แล้วท่านโดนไล่ออกจากโรงเรียนต่างหากล่ะ

    ฉันที่สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ๆ ในตอนนั้นตัดขาดจากสังคมไปเลย เพราะฉะนั้นชีวิตในแต่ละวันของฉันต่อจากนั้นเลยอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น โดยมีคุณแม่ของฉันเป็นคุณครูส่วนตัวคอยสอนหนังสือให้เองทุกวัน ซึ่งเพราะอย่างนี้นั่นเองจึงน้อยมาก ๆ ที่ฉันจะยอมออกไปเที่ยวไหนมาไหนกับครอบครัวเพื่อผ่อนคลายน่ะ หรือถ้าฉันไปก็จะมีคนอื่นไปด้วยหลายคนเสมอ ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเกือบ ๆ สามปี มันเลยไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่อย่างที่ทุกคนเป็นกังวลนัก

    ต่อให้ตอนนี้ไม่มีคุณแม่คอยอยู่ดูแลฉันเหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันก็พยายามจะเข้มแข็งไว้ให้ได้

    ฉันจะพยายามรักษาสภาพจิตใจของตนเองให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมให้ได้ เพื่อที่ฉันจะได้ไม่เป็นภาระให้คนที่รักฉันต้องคอยเป็นห่วงเป็นใยกันอีกแล้ว

    “อืม คุณพ่อจะคอยดู หนูต้องกลับไปเรียนหนังสือที่สถาบันการศึกษาจนได้ใบปริญญาตามที่หนูโม้ไว้ให้ได้เลยนะ” ว่าพร้อมกับกระชับกุมมือฉันไปด้วยแน่น ๆ ฉันพยักหน้ารัว ๆ แม้ใจจริงตนเองไม่ได้มีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่มันก็เป็นความตั้งใจของฉันเองตลอดสองปีน่ะนะ ฉันอายุยังน้อย ฉันอยากมีเพื่อน ๆ หลายคน ฉันอยากมีสังคม ชีวิตฉันควรจะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ สิ ถึงจะถูก “เอาล่ะ หนูไปนอนพักผ่อนนะ เอาไว้หนูสบายใจเมื่อไหร่ พ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้หนูแน่นอน โอเคมั้ย?”

    “โอเคค่ะ” เมื่อเอ่ยตกลง เป็นฉันที่ฝ่ายโอบกอดคุณพ่ออย่างออดอ้อน “ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะ หนูรักคุณพ่อมาก ๆ เลยค่ะ คุณพ่อต้องจัดงานวันเกิดให้หนูทุก ๆ ปีจนคุณพ่อแก่เฒ่าเลยนะ”

    อันที่จริงฉันไม่ได้ต้องการให้คุณพ่อจัดงานวันเกิดในปีนี้ให้ฉันเลยนะ เพราะฉันยังทำใจไม่ได้ที่ไม่มีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้างในตอนที่ฉันเป่าเทียนบนเค้กวันเกิดด้วยกันเหมือนเช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา แต่เพียงเพราะฉันอยากให้คุณพ่อสบายใจ ฉันจึงไม่เอ่ยขัดความต้องการของท่านนั่นเองยังไงล่ะ

    ทำยังไงได้ คนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องดำเนินชีวิตกันต่อไปน่ะนะ...

     

    เวลา  02:40 น.

    ฉันนอนไม่หลับ...

    ฉันพยายามแล้ว แต่ก็ยังคงไม่สามารถข่มตานอนให้หลับลงไปได้ได้เลยจริง ๆ

    สุดท้ายแล้วฉันจึงตัดสินใจหยิบสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่มากดเล่นอีกครั้งท่ามกลางความมืดมิดภายในห้องนอนกว้างใหญ่ในที่สุด

    สิ่งที่ฉันทำต่อจากนั้นคือเปิดดูรูปภาพเก่า ๆ ในนั้นทันที ซึ่งถูกถ่ายเก็บไว้เมื่อไม่นานนี้เอง ฉันเลื่อนดูรูปทีละรูปอย่างช้า ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดต่าง ๆ บนภาพ และนั่นก็ทำให้ฉันนึกถึงภาพของความทรงจำเก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่ที่เพิ่งจากไป

    รูปถ่ายที่พวกเราถ่ายเล่นกันเป็นครอบครัวในสมาร์ทโฟนเครื่องที่ฉันเล่นอยู่เป็นเครื่องแรกและเครื่องปัจจุบันนี้นั้น มันมีเพียงแค่ไม่กี่รูปเท่านั้น ซึ่งทุกรูปถ้าสังเกตดูดี ๆ ดวงตาของฉันมันไม่เคยยิ้มออกมาจากใจจริงเลยสักรูป มันดูฝืน ๆ อย่างเห็นได้ชัด

    ให้ตาย ตอนนี้มันทำให้ฉันรู้สึกโกรธเกลียดตนเองแบบสุด ๆ ไปเลยล่ะ

    ทำไมตอนนั้นฉันไม่ใช้ชีวิตให้มีความสุขในตอนที่มีโอกาสอยู่กับคุณแม่ล่ะ

    ทำไมฉันไม่รีบหาย ๆ จากความทุกข์บ้า ๆ โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นความทรงจำที่ฉันได้ใช้เวลาร่วมด้วยกันกับคุณแม่มันควรจะมีมากกว่านี้ แต่ทำไมฉันถึงทำไม่ได้ล่ะ

    “ฮึก...ฮือ ๆ” และก็ใช่ บทลงโทษสำหรับตนเองคือการร้องไห้

    ในเมื่อฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ ไม่สามารถย้อนเวลาเพื่อแก้ไขอดีตได้ และไม่สามารถย้อนเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กระทบต่อจิตใจต่อตนเองและคนรอบข้าง

    สิ่งที่ฉันทำได้เพื่อโยนความผิดของตนเองไป นั่นก็คือโทษพวกรุ่นพี่สารเลวพวกนั้น

    ใช่ ฉันควรจะโทษคนกระทำความผิดตั้งแต่แรก ไม่ใช่โทษตนเองที่ไม่ระมัดระวังตัวจนทำให้คุณพ่อกับคุณแม่เป็นทุกข์ไปด้วยด้วยกัน ไม่เช่นนั้นเวลานี้ฉันคงจะรู้สึกผิดน้อยลงกว่านี้มาก ๆ

    และแล้วจู่ ๆ ความคิดบ้า ๆ ก็เกิดขึ้นมาแวบหนึ่ง มันเป็นภาพเหตุการณ์หลอนที่สยดสยองของฉันเอง ซึ่งอาการนี้มันเป็นอาการปกติของฉันไปแล้วล่ะ แต่มันก็แค่แวบเดียวสั้น ๆ เท่านั้นแหละ ไอ้ความคิดบ้า ๆ ที่ฉันอยากทำร้ายตนเองน่ะ ก่อนที่ฉันจะพยายามรีบดึงสติของตนเองให้กลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วขยับตัวเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟอย่างไม่รอช้า จากนั้นฉันก็หยิบขวดยาพร้อมกับน้ำดื่มที่ถูกแม่บ้านจัดเตรียมมาให้ไว้แล้วมาจัดการรับประทานเพื่อบรรเทาอาการป่วยทางจิตของตนเองโดยเร็ว

    ตอนแรกฉันตั้งใจจะหักดิบตนเอง โดยการเลิกใช้ยาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่มันก็หนักหนาสาหัสจนเกินไป

    ฉันทำไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่ได้เก่งเหมือนอย่างที่ปากพูดกับคุณพ่อหรอก

    อันที่จริงฉันไม่น่ามีความกล้าและความมุ่งมั่นอย่างนั้นเลยด้วยซ้ำ

    ฉันนี่มันน่าสงเพชนะ ว่าไหมล่ะ

    เอาล่ะ หลังจากที่ทานยาที่ฉันต้องทานประจำเข้าไปแล้ว ยาประเภทต่อไปที่ฉันต้องทานควบคู่กันไปด้วยในครั้งนี้ นั่นก็คือยานอนหลับนั่นเองน่ะ เม็ดยาถูกจัดเตรียมไว้ในกล่องพลาสติกเปิดปิดที่เก็บยาโดยเฉพาะ มันเป็นกล่องใบเล็ก ๆ เพื่อจำกัดจำนวนเม็ดยา ฉันอยากนอนหลับให้สนิท พรุ่งนี้เช้าฉันจะได้ลงไปทานอาหารเช้าพร้อมคุณพ่อ ท่านจะได้สบายใจและหายกังวลว่าอาการของฉันมันจะไม่กำเริบเหมือนอย่างเช่นเมื่อหลายวันก่อนที่ผ่านมา

    ซึ่งในวันที่ฉันได้รับข่าวร้ายนั้น ฉันก็สติแตกไปเลยน่ะ ฉันมีความคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อตามคุณแม่ไปด้วย แต่ทว่าคุณพ่อที่เดาอาการของฉันออกก่อนอยู่แล้ว โดยก่อนที่ท่านจะมาแจ้งข่าวร้ายกับฉันด้วยตัวของท่านเองต่อหน้าฉันให้ได้ทราบ ท่านได้เตรียมการณ์รับมือไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ โดยมีคำแนะนำของแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลรักษาอาการป่วยของฉันเองโดยเฉพาะ

    คุณพ่อพูดปลอบใจฉันทั้งน้ำตาให้ฉันช่วยอยู่เคียงข้างท่านไปจนถึงตอนที่ท่านแก่เฒ่า และท่านก็พูดให้ฉันช่วยนึกถึงคำพูดของคุณแม่ให้มาก ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันสงบนิ่งได้ไม่ยากนักเลย

    เมื่อเกือบ ๆ สามปีก่อน ตอนที่ฉันเป็นโรคซึมเศร้าใหม่ ๆ ฉันมีอาการหนักมากเพราะพวกญาติ ๆ มักจะแวะเวียนมาสอบถามถึงข่าวลือถึงในบ้าน ท่านรั้งชีวิตฉันด้วยคำพูดประโยคขอร้องที่ว่า...

    ‘ต่อให้หนูอยากตาย หนูก็ห้ามฆ่าตัวตายนะ‘ซินดี้’ ถ้าหนูไม่รักตัวเอง หนูก็รักคุณพ่อกับคุณแม่ก็ได้นะ’

    ‘...’

    ‘หนูช่วยมีชีวิตไปอีกนาน ๆ ได้มั้ย หนูเชื่อคุณแม่นะว่าสักวันหนึ่ง วันที่หนูหายดีแล้ว หนูจะต้องได้พบเจอกับความสุขอีกแน่ ๆ หนูช่วยอดทนได้มั้ย พวกเราต้องการหนูมากจริง ๆ นะลูก’

    ประโยคพูดเหล่านั้นของคุณแม่นั่นเองแหละ ที่รั้งความคิดแย่ ๆ ของฉันไว้ได้ทุกครั้งไป

    คุณแม่อยากให้ฉันมีความเชื่อแบบนั้น และในเมื่อฉันยังมีคนที่รักเหลืออยู่ ฉันจึงไม่ควรทอดทิ้งและเพิ่มความทุกข์ใส่เพิ่มกว่าเดิมให้อีกเป็นอันขาด

    ฉันยังเหลือคุณพ่ออีกทั้งคนที่ฉันรักมากที่สุด ฉันต้องมีชีวิตเพื่อท่านให้ได้

    และแล้วเมื่อถึงเวลายานอนหลับออกฤทธิ์ ฉันก็ค่อย ๆ นอนหลับสนิทไปเลยในที่สุด โดยไม่รู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งแอบเข้ามาในห้องนอนของฉันตั้งแต่ก่อนที่ฉันกับคุณพ่อจะกลับมาถึงบ้านเสียอีก...


     


     

    :: แนะนำตัวละคร ::


    :: เซน ::

    [อายุ 22 ปี]

    อดีตเป็นเด็กสลัม ปัจจุบันเป็นพี่ชายซินดี้ 

     

     

    :: ซินดี้ ::

    [อายุ 16 ปี]

    อดีตเป็นเด็กแก่แดด ปัจจุบันเป็นเด็กแรด 

     

     

    :: วาโย ::

    [อายุ 20 ปี]

    อดีตไม่ขอพูดถึง ปัจจุบันเป็นคุณครูสอนพิเศษ 

     

     

    :: กิ่ง ::

    [อายุ 20 ปี]

    อดีตเป็นรุ่นน้องของพี่เซน ปัจจุบันเป็นแฟนของพี่เซน 

     

     

    :: ฟาสซิสต์ ::

    [อายุ 22 ปี]

    อดีตแค่เสพ ปัจจุบันค้าขายเอง 

     

     

    :: เดียร์ ::

    [อายุ 22 ปี]

    อดีตเป็นเด็กเหี้ย ปัจจุบันเป็นเน็ตไอดอล 

     

     

    :: วาเลน ::

    [อายุ 22 ปี]

    อดีตเป็นลูกผอ. ปัจจุบันเป็นพ่อลูกหนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×