NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HOT PLAYBOY ยั่วให้รัก หัวใจจัดหนัก!

    ลำดับตอนที่ #4 : HOT PLAYBOY ll EP.03 เรื่องในคืนนั้น H+ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 63


     

    EP.03

    เรื่องในคืนนั้น



    ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย M

    พะพาย ทำไมแกเงียบไปอะ หรือว่าแกโกรธที่ฉันไม่บอกว่าเคยรู้จักหมอนั่น?

    ในขณะที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการอ่านและค้นหาหนังสือที่ต้องการในห้องสมุดนั้น แต่กับพวกเราสามคน ฉัน เจน และก็ออสติน พากันมานั่งเขียนรายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้กัน

    หลังจากที่แยกกับลีโอไป ฉันก็เอาแต่ครุ่นคิดอย่างจริง ๆ จัง ๆ อีกครั้งว่าควรหรือไม่ที่ตนเองจะเข้าไปเสี่ยงกับคนอย่างเขา

    ผู้ชายอย่างลีโอนอกจากจะรวยแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย อย่างมากที่สาว ๆ ลือเรื่องของเขากันก็มีแต่เรื่องบนเตียงเท่านั้น

    เจน แกเคยมีอะไรกับลีโอมั้ย?” จู่ ๆ ฉันก็ถามขึ้น

    ไหน ๆ รู้สึกว่าในห้องสมุดมันเงียบเกินไปไง ชวนทำให้ฉันรู้สึกฟุ้งซ่านน่ะ

    หา!ไม่ใช่เจนที่อุทานเสียงดัง หากแต่เป็นออสตินหนุ่มฝรั่งร่างล่ำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับฉันนี่เอง

    แกถามแบบนี้ได้ไงพะพาย ฉันยังซิงย่ะ!” ไม่รู้ว่าเจนจงใจบอกคนข้าง ๆ หรือเปล่านะ เธอทำตาปริบ ๆ พร้อมกับยื่นอกอย่างภาคภูมิใจสุด ๆ ซึ่งเมื่อฉันเห็นอาการไม่ได้โกรธเคืองของเธอแล้ว ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เพราะถ้าเธอแสดงอาการตกใจหรือชะงัก แม้จะแค่แวบเดียวเท่านั้น นั่นก็แสดงว่าเธอพูดโกหก แต่นี่ไม่มีเลยไง แล้วแกล่ะ

    เคย

    พะพายนี่เป็นคนตลกนะครับออสตินหัวเราะขำ พลางยื่นหน้ามองฉันใกล้ ๆ กว่าเดิมเหมือนคนไม่เชื่อสายตาตนเองนัก

    ว่าแต่ตลกตรงไหนกัน นี่ฉันพูดความจริงนะ

    ออสตินอย่าไปใส่ใจเลย พะพายชอบเอาเรื่องเล่น ๆ มาพูดจริงจังน่ะเจนโบกมือปัด ๆ ตรงหน้า เธอกลอกตาพร้อมเบ้ปากใส่ฉัน แล้วจากนั้นเธอก็ลงมือเขียนรายงานในกระดาษต่อ

    คนเรานี่ก็แปลกนะ พอพูดความจริงก็หาว่าโกหก ว่าแต่ฉันพูดความจริงเพื่อได้อะไรขึ้นมาเนี่ย

    พะพายเขียนรายงานเสร็จแล้วเหรอครับ เอ่อ...ไอเห็นว่ายูมัวแต่นั่งเหม่อตั้งนานแล้วน่ะ

    ยัง ฉันขี้เกียจ ฉันไม่มีอารมณ์เขียน

    แล้วอารมณ์ไปไหนล่ะครับหลังประโยคคำว่าครับ ฉันไม่ได้ยินเลยว่าออสตินพึมพำอะไรต่อ หากแต่นั่นก็พอทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ เงยหน้าหันมองเขาด้วยสายตานิ่ง ๆ ทันที

    ที่จริงฉันก็แอบอยากรู้นะ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องของลีโอให้คิดเยอะเลยน่ะ

    อารมณ์ที่มัวแต่คิดถึงผัว แกจะตอบแบบนี้ใช่มั้ยพะพายเจนชิงตอบแทน

    ก็ประมาณนั้นฉันยอมรับไปตรง ๆ พร้อมพยักหน้าใส่

    มันก็จริงอย่างที่เธอว่า เพราะฉันกำลังคิดถึงลีโออยู่จริง ๆ นั่นแหละ และกำลังคิด ๆ อยู่ว่าอะไรทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าคืนนั้นเขามีอะไรกับเพื่อนฉันล่ะ

    มันก็จริงอยู่ที่คืนวันเกิดของเจน ฉันหลับสนิทเพราะปวดหัวมากเลยกินยานอนหลับเข้าไป ส่วนลีโอก็เมาหนักมากแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของเจน มันบังเอิญดิบดีกับที่ฉันนอนอยู่ในนั้น ทว่ามาคิดดูอีกที เช้าต่อมา ฉันก็ตื่นก่อนแล้วตกใจเลยรีบหนีออกไปจากห้องนั้นไป มันก็อาจเป็นไปได้ว่าเขานึกว่าคนที่ตนเองนอนด้วยเมื่อคืนนั้นคือเป็นเจ้าของห้อง แต่ก็น่าแปลกอยู่นะ เขาไม่รู้สึกตัวเลยหรือไงว่าเผลอไปปล้ำใครเข้าน่ะ แถมไม่ได้ป้องกันอีกด้วย

    นี่เหรอคนที่ใคร ๆ ต่างก็ลือว่าเขาเป็นเพลย์บอยนักหนา ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้เรื่องเอาสักเลยล่ะ เขาเมาแล้วยังพลาดท่าไม่รอบคอบได้ยังไงกัน

    ให้ตาย มาคิดถึงตอนนี้แล้ว ฉันก็รู้สึกขยะแขยงนะ ลีโอผ่านผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ในขณะที่ฉันเพิ่งผ่านเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

    บ้าจริง สงสัยวันหยุดนี้ฉันต้องไปตรวจสุภาพหน่อยแล้ว เผื่อติดโรคร้ายขึ้นมาจะได้รักษาทัน

    พะพาย ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ฉันต้องกลับบ้านเร็วน่ะ นี่ถ้าฉันต้องไปส่งแกที่บ้านวาโยอีก คงไม่ทันแน่ ๆ อะจู่ ๆ เจนก็มีท่าทีเหมือนนึกอะไรได้ขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงรีบเก็บข้าวของเครื่องเขียนทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่างรีบร้อนโดยเร็ว แล้วจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งทันที

    เอาไงดีล่ะ ฉันยังไม่ได้เขียนสักบรรทัดเดียวเลยนะ จะเขียนตอนนี้คงไม่ทันแน่นอน ไหนจะสรุปอีกล่ะ ให้ตาย ฉันไม่น่านั่งเหม่อเลยจริง ๆ

    งั้นเราสองคนก็กลับบ้านกันเลยก็แล้วกันเมื่อได้สรุป ฉันจึงยักไหล่อย่างไม่อยากไม่ใส่ใจอะไรนัก พร้อมกับนั้นฉันก็เก็บเลกเชอร์ของวาโยเข้ากระเป๋าไปด้วย

    อ้อ อันที่จริงแค่ถ่ายรูปก็สิ้นเรื่องนะ แต่ที่ฉันยึดเลกเชอร์วาโยไว้ก็เพราะอยากหาเรื่องไปบ้าน PARADISE ไงล่ะ น่าแปลกที่วาโยไม่เอะใจอะไรเลย สงสัยเขาเป็นคนไม่คิดมากมั้ง

    อ้าว แล้วรายงานของพะพายล่ะ ยูจะเสร็จทันส่งพรุ่งนี้เหรอ?ดูเหมือนว่าออสตินจะห่วงเรื่องงานฉันมากกว่าตัวฉันเองเสียอีกนะ พะพายอยู่ทำต่อก็ได้นะ เดี๋ยวไออาสาไปส่งยูที่บ้านเอง

    ไว้แกทำต่อที่บ้านนะ แล้วให้คนขับรถพาไปส่งเจนทำเป็นไม่ได้ยินข้อเสนอของออสติน พร้อมกับจัดแจงให้ฉันแล้วเสร็จสรรพอีกด้วย

    ตอนนี้ฉันพบคนขี้หึงเงียบ ๆ หนึ่งอัตราแล้วล่ะ

    คงต้องอย่างงั้นแหละเมื่อไม่มีทางเลือกนัก ฉันก็ลุกจากเก้าอี้นั่งแล้วเดินออกไปจากห้องสมุดไปเลยทันที โดยไม่เอ่ยลาออสตินสักก่อนเลย

    คือฉันไม่คิดว่าจะมีความจำเป็นเลยสักนิด ฉันไม่ได้สนิทเขา อีกอย่างเราก็ไม่ได้อยู่งานกลุ่มเดียวกัน เพราะฉะนั้นการปล่อยให้คนที่แอบชอบเขาได้เอ่ยล่ำลากันยาวไปเลย แม้ว่าพรุ่งนี้จะได้เจอกันใหม่อีกก็ตามทีเถอะนะ

    จากนั้นในขณะที่กำลังรอเจนออกจากห้องสมุดอยู่นั้น ฉันก็เดินเล่นไปตามแนวยาวของถนนไปยังลานจอดรถ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้จากตัวอาคารนัก

    ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสี่โมงกว่า เพราะฉะนั้นเวลานี้แดดเริ่มอ่อนลงแล้วนิดหน่อย เมื่อกี้ฉันเผลอคิดเรื่องในคืนวันเกิดของเจน มันก็ทำให้อดนึกช่วงเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่ได้...

     

    เมื่ออาทิตย์ก่อน...

    ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว ตนเองยังไม่อาจรับรู้ได้ ฉันกินยาแก้ปวดหัวและยานอนหลับพร้อมกันเข้าไปทำให้หลับลึกไปเลย พอจะเผยอเปลือกตาก็แทบจะไม่ขึ้น ร่างกายร้อนจี้เพราะพิษไข้จนฉันไม่อยากขยับตัวเลยแม้แต่น้อย หากแต่เพราะด้วยความรู้สึกอึดอัด บวกกับรู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีใครเอาอะไรหนัก ๆ พาดบนตัว ฉันจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นในที่สุด

    เส้นผมสีน้ำตาลทาบทับกับหน้าอกเปลือยเปล่าเป็นสิ่งแรกที่ฉันมองเห็น และเมื่อเผยอเปลือกตาขึ้นเต็มตา ฉันก็เห็นไหล่กว้างซึ่งกำลังกอดรัดร่างฉันอยู่

    แม้ภายในห้องจะมืดเพราะปิดไฟก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจากแสงจันทร์ที่สอดส่องทางหน้าต่างที่ลืมปิดผ้าม่านให้สนิท ยิ่งสายตาพยายามเพ่งมองในความมืด หัวใจภายในอกก็เต้นแรงถี่และระรัว

    ถึงจะยังมึนงงอยู่ว่าเงามัวของบุคคลที่กำลังนอนทับร่างกายฉันอยู่ตอนนี้นั้นมาได้ยังไงและเขาเป็นใคร แต่นั่นก็ทำให้ฉันอยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้องเลยล่ะ

    อือเสียงครางอืดอาดพร้อมถูไถใบหน้าฝั่งกับร่องอกไปมาทำเอาฉันแข็งทื่อขนลุกซู่ขึ้นมาฉับพลัน จากอาการงัวเงียในตอนแรกก็หายปรือทิ้งแทนที่ความรู้สึกตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง และฉันก็ยังคงมึนงงสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในตอนที่ฉันไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย ฉันไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ ว่า ตนเองโดนลักหลับ

    นี่สาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกหนักบนตัวจนแทบหายใจไม่ออกก็เพราะร่างกายกำยำของใครไม่รู้นอนทับอยู่ ฉันพยายามตั้งสติพลางสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลมหายใจร้อนระอุออกจากจมูก

    ไม่บอกก็รู้ว่าตนเองเป็นไข้ขึ้นสูงแน่นอนน่ะ ซึ่งสาเหตุมันมาจากอะไรนั้น ฉันพอจะเดาได้ไม่ยาก

    นี่ไม่ใช่ความฝันที่ต้องหลอกตนเอง ดังนั้นมือซึ่งไม่ค่อยได้มีเรี่ยวแรงเท่าไหร่นักจึงยกขึ้นมาทุบใส่คนที่อยู่เหนือร่างให้รู้สึกตัว หากแต่แรงเท่ามดอย่างนี้ มันไม่สามารถทำให้เขาคนนี้รู้สึกอะไรได้หรอก สุดท้ายแล้วมือที่พยายามยกขึ้นมาเล็กน้อยก็ค่อย ๆ ร่วงลงบนไหล่หนาในที่สุด จากนั้นเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ฉันจึงบิดกายดีดดิ้นขยับตัวแทน

    ออก...ไป...นะแม้ปากจะขยับเปล่งเสียงออกไป หากแต่เพราะลำคอแห้งผาก น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเลยแหบแห้งเสียจนแทบไม่ได้ยิน

    ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วเลยได้แต่หายใจอย่างแผ่วเบาโรยรินพร้อมกับข่มตาหลับให้ลงอีกครั้ง แม้ว่าจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังเสียดสีบนหน้าขา มันแข็ง ๆ รุ่มร้อนกำลังผงาดขยับเขยื้อนทำให้หวาดหวั่นสุด ๆ

    อ่า ตื่นง่ายจังเลยแฮะเสียงงุบงิบพึมพำออกมาเบา ๆ ตอนแรกฉันก็นึกว่าเขาคนนี้เพียงแค่ละเมอเท่านั้น หากแต่พอคนเหนือยันตัวขึ้นแล้วจับขาฉันแยกออกกว้างจากกัน ดวงตาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจช็อกอีกครั้งขึ้นมาทันที ขออีกรอบนะ...

    บ้าจริง เมื่อกี้ฉันไม่น่าขยับตัวไปมาเลย จะส่งร้องห้ามให้เขาหยุดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว ในเมื่อตอนนี้ร่างกายถูกบดเบียดเสียดสีตรงกลางลำตัวแล้วไง ตนเองเลยทำได้เพียงแค่เผลอหลุดเสียงครางออกมาแทนเท่านั้นอ๊ะ...อย่าเอามันเข้ามานะ!”


    ไหนหนูเจนโทรมาบอกกับฉันว่าแกไม่สบายขอนอนค้างที่บ้านเธอไง แล้วทำไมแกกลับมาสภาพนี้พะพาย!แทบจะทันทีที่ฉันก้าวผ่านห้องรับแขก เสียงทรงพลังก็เอ่ยถามด้วยการตวาดเสียงใส่ ฉันที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านก็มีอันต้องชะงักฝีเท้าและหดคอ ในใจเต้นระรัวเพราะความกลัวฉับพลัน

    หลังจากผู้ชายคนนั้นปล่อยร่างกายฉันให้เป็นอิสระ ฉันก็ไม่รอช้ารีบลุกออกไปจากเตียงนอนทันที ก่อนจะรีบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของเขา เพราะเสื้อเดรสชีฟองสีหวานของฉันถูกฉีกขาดไม่เหลือชิ้นดีแล้วไง ตอนนั้นในหัวฉันไม่ทันได้คิดอะไร ฉันเลยคว้าเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสแลคสีเดียวกันมาสวมใส่ พอเสร็จแล้วตนเองก็ค่อย ๆ ย่องเดินออกไปจากบ้านของเจนโดยเร็วและขึ้นรถแท็กซี่กลับตั้งแต่เช้ามืด ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาหกโมงเช้ากว่าเท่านั้นเอง การที่เขาตื่นมาเวลานี้ คงเป็นเพราะมีประชุมที่บริษัทตั้งแต่เช้าแน่ ๆ

    “...”

    แกให้หนูเจนโกหก แล้วแอบไปนอนกับผู้ชายมาใช่มั้ย!”

    แค่พิษไข้ก็ทำให้ฉันอยากจะทรุดล้มลงแล้ว ไหนจะโดนใครก็ไม่รู้มาลักหลับอีก และเมื่อถูกถามเหมือนฉันไปแอบทำอะไรผิดมาอย่างนั้น ตนเองก็อยากสลบตายให้รู้แล้วรู้รอด

    นี่เชื่อไหม ทุกครั้งที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมา มักจะมีผู้ชายคนนี้แหละคอยซ้ำเติมฉันตลอดเรื่อยมา

    เขายังไม่รู้อะไรแน่ชัดก็คิดเองเออเองให้ฉันดูแย่มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว เขาชอบเห็นคนอื่นดีกว่าฉันเสมอ แล้วโยนความผิดมาให้ฉันคนเดียว โดยไม่ฟังเหตุผลใด ๆ จากฉันทั้งสิ้น

    นิสัยของเขาเป็นแบบนั้นตั้งแต่ฉันจำความได้

    “...” ฉันยังคงเงียบนิ่ง ไม่ตอบกลับไปและไม่หันหลังไปหาคนถาม

    เป็นเพราะฉันรู้ดีอยู่แล้วไงว่าเขาเป็นยังไง ฉันถึงได้ไม่อยากแก้ตัวอะไรออกไป

    ฉันถามทำไมแกไม่ตอบ แกไปนอนกับผู้ชายที่ไหนมา! กะแล้วเชียวมาต้องมาถามคำถามนี้ ฉันค่อยๆ ขยับตัวหมุนกายหันไปมองบุคคลร่างท้วมที่กำลังยืนสะเอว ใบหน้าของเขาแดงก่ำ บ่งบอกถึงความโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด

    ใช่ หนูเพิ่งนอนกับผู้ชายมา ส่วนที่ไหนนั้น ก็ที่บ้านเจนนั่นแหละ ไม่ต้องไปที่ไหนไกล แขกที่มาในงานก็เป็นพวกที่เรียนเดียวกันทั้งนั้นฉันตอกกลับเสียงนิ่ง พลางสบตากับเขาด้วยสายตาว่างเปล่า

    นี่แก!

    เชื่อสิว่าถ้าฉันยืนอยู่ใกล้ ๆ เขา ฉันคงโดนฝ่ามือหนาเหวี่ยงใส่ที่ใบหน้าเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่นี่ยัง ทว่าอีกเดี๋ยวก็ต้องโดนแน่นอน เพราะคนอย่างท่าน ไพศาล พิชญไพจิตร น่ะ ชอบใช้กำลังมากกว่าฟังเหตุผลก่อนเสมอแหละ

    เมื่อวานเป็นวันเกิดเจนเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน เธอจัดงานวันเกิดโดยไม่มีพวกผู้ใหญ่ร่วมด้วยเลย เพราะเหตุนี้เลยทำให้ฉันได้ออกจากบ้านของเธอได้สะดวก โดยไม่เผลอบังเอิญเจอกับใครเข้าเสียก่อน

    จริง ๆ มันเป็นเพราะพ่อแม่เธอไปทำธุระที่ต่างจังหวัดแทนประธานบริษัท ซึ่งเป็นคนที่ยืนเลือดขึ้นหน้าอยู่ตอนนี้แหละ ทำให้เมื่อวานใครเข้ามาในงานด้วยบ้างนั้น ฉันก็ไม่รู้จักเลยสักคน รู้เพียงแค่ว่าพวกที่มาร่วมงานเป็นเพื่อน ๆ ของเธอที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันทั้งนั้น ไม่ได้มีคนนอกเลยสักคน

    หนูพอใจใคร หนูก็ลากผู้ชายคนนั้นเข้าห้องเลยนั่นแหละ คุณว่าหนูเหมือนใครนะ คุ้น ๆ มั้ย

    เพียะ!

    แกก็ร่านเหมือนแม่แกไง!ยังไม่ทันตั้งตัวดีนัก เขาก็เดินย่างก้าวมาตรงหน้าแล้วยกมือเหวี่ยงใส่เต็มแรงจนใบหน้าฉันหันไปตามแรงตบ เพราะขนาดรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าฉันมีครอบครัวแล้วยังยั่วไม่เลือก แถมยังปล่อยให้มารหัวขนอย่างแกเกิดมาอีก ทำให้ชีวิตฉันต้องพังพินาศ!

    ความปวดแสบที่ร่างกายทั้งหมดตอนนี้ มันไม่เทียบไม่ได้กับความเจ็บเท่าถ้อยคำของประโยคเมื่อกี้นี้เลย ฉันหันขวับกลับไป พร้อมกับจ้องตาเขาอย่างโกรธแค้นไม่แพ้กัน

    นั่นมันเป็นเพราะคุณเองไม่ใช่รึไง!ฉันตวาดใส่อย่างเหลืออด ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายกาจ ทั้งที่น้ำตาไหลอาบแก้ม คุณอย่าโทษคนที่ตายไปแล้วดีกว่า เพราะถ้าคุณรู้จักพอ หนูคงไม่เกิดมาหรอก!

    ถ้าเขาคิดว่าเขาเป็นคนดีนัก ทำไมตอนนั้นเขาไม่หักห้ามใจตัวเองล่ะ เขาปล่อยให้ความสัมพันธ์เลยเถิดทำไมกัน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะที่เขาแอบมีอะไรกับแม่ฉันจนแม่ท้อง จากที่ฉันรู้มาจากเมียหลวงของเขา มันตั้งหลายครั้งเลยล่ะ เฮอะ

     

    หมับ!

    พะพาย นี่แกมัวแต่เหม่อลอยอะไรอีกล่ะ?!” สัมผัสบนหัวไหล่ไม่เบานัก ทำเอาฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์และชะงักกึก แล้วเมื่อได้สติ ฉันก็หมุนหันไปทางด้านหลังทันที

    ก็คิดถึงลีโออยู่ไง

    แกนี่จริง ๆ เลยนะเจนส่ายหน้าใส่ ก่อนจะชูเศษกระดาษขึ้นสูง ทายสิ อะไรเอ๋ย

    เบอร์ออสตินฉันตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด

    ทำไมแกรู้อะ!”

    ก็เดาได้ไม่ยากสายตาเลื่อนมองสิ่งที่อยู่ในมือเธอ ก่อนจะแค่นยิ้ม ยังไงซะก่อนจะคุย ๆ กัน แกก็อย่าลืมถามหมอนั่นก่อนแล้วกันว่ามีเจ้าของแล้วหรือยัง หรือคนที่แอบชอบแล้วรึเปล่า เพราะผู้ชายบางคน ต่อให้มีคนรักอยู่แล้ว แต่ถ้าสันดานยังไม่รู้จักพอ เขาก็เอาหมดแหละ






    ฉากเรทมันมีแค่นี้นะคะ ไม่เล่าเยอะ ข้าม ๆ ฮ่า ๆๆ


    เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อก็ต้องติดตามกันต่อไป อิอิ

    ปล.อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์+กดให้กำลังใจนักเขียนใจด้วยนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×