คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ H+
บทนำ
“พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย!” ผมโวยวายเสียงดังลั่นห้องทันทีเมื่อตื่นขึ้นมาก็เพิ่งได้รู้สึกตัวว่าตนเองถูกลวนลานร่างกายขณะกำลังนอนหลับ ซึ่งมันไม่ใช่แค่ผิวเผินนะ แต่มันไปสุดถึงขั้นที่... “อ๊า...”
แม่งเอ๊ย...แตกคามือของเธอไปแล้วล่ะ!
“หึ” เมื่อสัมผัสถึงของเหลวสีขุ่น พี่เกวก็ใช้ปลายนิ้วเรียวคลึงบริเวณปากทาง นั่นจึงทำให้ผมเกร็งไปทั้งตัวจนเผลอลืมหลบหลีกริมฝีปากที่กำลังดูดดึงติ่งหูของผมไปชั่วขณะ เธอนอนตะแคง โดยใช้แขนและขากักขังผมไว้ไม่ให้ได้ขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แล้วจากนั้นเธอก็เคลื่อนใบหน้าลงมาไซ้ซอกคอของผมแทนลำดับต่อมา ซึ่งกว่าผมจะได้สติกลับมา ผมก็รู้สึกเจ็บจี๊ดตรงส่วนบริเวณนั้นไปเสียแล้วล่ะ และไม่ใช่แค่จุดเดียวเท่านั้นนะ มันค่อย ๆ ขยายเป็นวงกว้างเลยแหละ “อยากอะ สนองให้หน่อยสิ” สิ้นคำพูดนั้น พี่เกวก็บดเบียดร่างกายเข้าหาผมแทบจะทุกสัดส่วน ยิ่งโดยเฉพาะส่วนกลางลำตัวของเธอนั้นที่ตอนนี้มีเพียงแค่เนื้อผ้าผืนบางของชั้นในเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วพี่เกวมักจะชอบแต่งตัวนอนด้วยสภาพนี้อยู่แล้วน่ะ คือเหลือเพียงแค่ชั้นในบนล่างสองตัวเท่านั้น ทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะต้องไปใส่ใจในตอนนี้นัก เพราะเวลานี้เธอกำลังถูไถส่วนนั้นขึ้นลงที่ต้นขาของผมไม่หยุดหย่อนอย่างเย้ายวน ซึ่งบ่งบอกว่าตอนนี้เธอมีความต้องการทางเพศเป็นอย่างมาก
“พะ พี่บ้าไปแล้วเหรอ!” ต่อให้ถูกปลุกใจตามธรรมชาติ แต่ผมก็ไม่คล้อยตามหรอก ผมรีบผลักพี่เกวเต็มแรงและเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟเมื่อได้สติดีว่าควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ ณ ตอนนี้
เมื่อห้องสว่าง ผมก็เห็นสภาพบนตัวของตนเองในทันที
ปกติผมชอบนอนโดยสวมบ๊อกเซอร์ตัวเดียว ซึ่งตอนนี้มันก็ยังอยู่บนตัว ไม่ได้ถูกถอนออกไปอย่างที่ใจเป็นกังวล
“หื้ม?” คนโดนผลักจนเกือบจะตกเตียงเพิ่งได้สติ เธอลืมตาขึ้นมาก็เพ่งมองผมที่ตอนนี้ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงเสียแล้ว “โซ่เหรอ?”
“ใช่!” ผมตอบกลับไปในทันทีที่เธอเอ่ยถาม
“...” ทว่าทำไมท่าทีต่อมาของเธอถึงได้นิ่งเฉยไปแบบนี้ล่ะ ทั้งที่ทางฝั่งของผมโมโหจนตัวสั่นเลยล่ะ
แต่ว่านะ สงสัยคงเป็นเพราะว่า...
“นี่พี่เมาเหรอ?” ขณะยืนอยู่ห่างกันพอสมควร ผมยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์อย่างชัดเจนเลยล่ะ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักหรอก เพราะพี่เกวได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปาร์ตี้เกิร์ลตัวแม่เชียวนะ
“...”
“พี่เมาใช่มั้ย!” ทั้งที่มั่นใจมาก ๆ แต่ผมก็ยังคงถามซ้ำเพราะสมองมันยังไม่สามารถประมวลอะไรได้มากนักเลย
“อืม”
“...”
“โทษที พี่นึกว่าไค” ไคที่เธอหมายถึงก็คือแฟนของเธอนั่นเอง
“เมาแล้วก็ไปนอนห้องตัวเองดิ ทำไม...” ผมพูดได้แค่เท่านั้นก็ชะงักไปเพราะมันเหมือนมีอะไรสักอย่างมาจุกที่คอ ไม่เพียงแค่นั้น น้ำตามันก็ไหลพรากออกมาแล้วด้วย
สถานการณ์ตอนนี้มันแย่มาก
ต่อให้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เกวเผลอมานอนห้องผม แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เราสองคนเลยเกินถึงขั้นนี้ ผมไม่โอเคเอามาก ๆ บอกเลย เพราะในความรู้สึกของผมตอนนี้ เธอเป็นพี่สาวและผู้ปกครอง
เธอน่ะเป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่ผมมี เราสองคนต่างก็ถูกเศรษฐีรับเลี้ยงในช่วงเวลาที่ต่างกันหลังจากที่กลายเป็นเด็กกำพร้า
เราทั้งคู่ได้รู้จักกันเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนั้นผมเป็นเพียงแค่เด็กชายวัย 11 ปี ส่วนพี่เกวก็เพิ่งเข้าเรียนมัธยมปลายปีที่ 1
ช่วงแรก ๆ เรารู้จักกันแค่ผ่าน ๆ เท่านั้น พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอก คือต่างคนอยู่บ้านเด็กกำพร้าต่างสถานที่กันน่ะ เราทั้งคู่ได้มีโอกาสเจอกันแค่ในวันเกิดของผู้อุปการะเท่านั้น กระทั่งเมื่อ 6 ปีก่อน ผู้อุปการะรับพวกเราทั้งสองคนให้เป็นบุตรบุญธรรมและสั่งย้ายพวกเราให้มาอยู่ด้วยกันสองคนที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ทว่าจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนต่อมา ผู้มีพระคุณก็เสียชีวิตไป เหลือไว้เพียงพี่เกวที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่สาวในนามของผม ทั้งที่ความจริงแล้วพี่เกวน่ะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของครอบครัวนั้น
ความจริงข้อนี้แหละที่เป็นปัญหาระหว่างเราเกือบ 2 ปีต่อมา เพราะมันเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เกวเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเธอยังไงล่ะ ซึ่งความจริงแล้วเป็นอีกคนต่างหาก
อีกคนที่เคยเติบโตมาด้วยกันกับผม
การตีสนิทกับเธอเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของผม ทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางในที่สุด
อันนี้ผมหมายถึงความรู้สึกของผมน่ะนะ คือผมในวัย 16 ปีชอบเธอมาก แต่แล้วพอเราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนาน ๆ เข้า ความรู้สึกของผมมันก็เปลี่ยนไปเอง ผมไม่ได้มองเธอแบบนั้นอีกแล้ว
ต่อให้ช่วงปีหลัง ๆ มานี้เธอจะเคยแก้ผ้าต่อหน้าผมอยู่หลายครั้งแล้วก็ตาม ทว่าผมก็ไม่หวั่นไหวในเชิงชู้สาวแม้แต่น้อย
ผมไม่คิดเลยนะว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของเราจะสั่นคลอนจนได้
ใช่ มันเป็นแบบนั้นแหละ เพราะครั้งแรก เธอทำให้ผมแตกคามือเธอ ต่อมาก็ในปากเธอ และต่อไปอีกก็ในตัวเธอ
เธอทำเรื่องเลวร้ายจนผมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากผู้ชายร่าเริงยิ้มเก่งกลับกลายเป็นเงียบขรึม
เธอน่ะทำให้ผมกลายเป็นคู่นอนของเธออยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งผมทนความสะอิดสะเอียนไม่ไหวจึงขู่เธอไปว่าจะฟ้องแฟนของเธอ เธอถึงได้ยอมหยุดพฤติกรรมบ้า ๆ นั่นและตัดปัญหาด้วยการแต่งงานกับแฟนของเธอไป
ทุกอย่างเหมือนจะดีเมื่อผมหลุดพ้นไปจากเธอ ทว่าเมื่อเธอท้องและคลอดลูกออกมา ผมจึงได้รู้ความจริงว่าน้องเกรซเป็นลูกของผม
สุดท้ายแล้วผมก็ต้องกลับไปอยู่กับเธอเหมือนเดิมในฐานะน้องชายแท้ ๆ เหมือนอย่างที่ทุกคนเข้าใจ และเป็นน้าของหลาน
ผมน่ะหนีเธอไปไหนไม่ได้แล้วจริง ๆ
ตอนนี้ด้ามีกิจการเล็ก ๆ เป็นของตัวเองแล้ว ทำให้มีเวลาแต่งนิยายทุกวันค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือโสดค่ะ 5555 เหมือนไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาประกาศ แต่ทุกคนเชื่อเถอะ การที่นักเขียนจะกลับมาแต่งนิยายได้อีกครั้งมันยากมาก ๆ เลยค่ะ ดังนั้นด้าขอกำลังใจจากนักอ่านด้วยนะคะ
ความคิดเห็น