คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตัวอย่างความเลว ฉบับ'ร้ายเงียบ'
ด้ายังไม่ได้วางแพลนว่าจะแต่งเรื่องนี้เมื่อไหร่นะคะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปิดเซ็ต SECRET ค่ะ ด้าเอาตัวอย่างความเลวของโจแอลมาให้อ่านค่ะ
ปล.อาจจะมีปมให้ชวนงง ๆ อยู่เยอะนะคะ ซึ่งฉากที่ด้ายกให้อ่านนี้จะเป็นช่วงท้ายเรื่องในเรื่อง BAD SECRET ค่ะ ถ้าใครได้ติดตามทั้งสามเรื่อง จะไม่งงแน่นอน เอ่อ...จริง ๆ อ่านแยกได้นะคะ ไม่งงหรอกค่ะ มีเฉลยทุกเรื่อง
วันต่อมา ณ ที่ร้าน P&K
BAKERY
[บรรยายพิเศษ ::
โจแอล]
[วันนี้ไอ้เวรนั่นมันโผล่หัวออกมาจากบ้านมันแล้วรึยัง]
คนปลายสายกรอกเสียงถามคำถามเดิม ๆ อย่างนี้ทุกครั้งที่โทรหาผม
ซึ่งคำตอบที่ได้รับจากผม
นั่นก็คือ...
“ยังเลยครับพี่” และก็ใช่ นี่คือคำตอบที่พี่ภาคินได้รับจากผมตลอดห้าวันที่ผ่านมา “พี่จะเอายังไงต่อดีครับ ท่าทางพี่มาร์ตินจะระวังตัวมากเลยนะครับช่วงนี้”
ก็พี่มาร์ตินเล่นไม่ออกไปไหนมาไหนเลยยังไงล่ะช่วงนี้
[มึงเฝ้ามันต่อไป แล้วถ้าหากว่ามันยอมโผล่หัวออกมาจากบ้านมันเมื่อไหร่แล้วล่ะก็มึงต้องรีบโทรมารายงานกูทันทีเลยนะ] พี่ภาคินเอ่ยย้ำประโยคนี้ทุกครั้งหลังจากที่ได้รับรายงานจากผม ซึ่งอันที่จริงงานนี้มันทำให้ผมรู้สึกลำบากใจไม่น้อยเลยนะ พี่ภาคินหมายหัวรุ่นพี่ที่ผมเคารพมากที่สุด พี่มาร์ตินเป็นผู้ที่มีพระคุณกับผมมากยิ่งนัก เพราะถ้าไม่ได้พี่มาร์ติน เมื่อเดือนก่อนผมคงโดนเด็กอาชีวะรุมกระทืบแล้วล่ะ ทว่าจะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อผลตอบแทนจากงานนี้มันคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม ดังนั้นเรื่องบุญคุณอะไรนั่นน่ะ
ช่างแม่งเหอะ ผมจะแกล้งทำเป็นลืม ๆ ก็ได้วะ [ถ้ากูฆ่าไอ้เวรมาร์ตินได้เมื่อไหร่
กูจะยกคู่หมั้นให้มึงทันที] และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พี่ภาคินจะพูดย้ำให้ผมรู้สึก
คู่หมั้นที่พี่ภาคินกล่าวถึงนั้น
หมายถึงมีนาน่ะ ทั้งสองหมั้นหมายกันอย่างลับ ๆ เมื่อเกือบสองปีก่อน
ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งคู่จบเรียนมัธยมปลายพร้อมกันนั่นเอง เรื่องนี้รู้กันเพียงแค่คนในครอบครัวไพชยนต์เท่านั้น และก็ผม
ทว่าน่าแปลกที่แม้จะมีคู่หมั้นแล้ว
แต่มีนาดันไปมีแฟน ซึ่งก็เช่นเดียวกับพี่ภาคิน คือต่างคนต่างมีน่ะนะ
“พี่ฆ่าไอ้วาโยด้วยสิครับ”
[...]
“ผมเกลียดเมษา
ผมไม่อยากให้เธอมีความสุข” น้ำเสียงผมเรียบนิ่ง
ขณะที่ยกแก้วกาแฟจิบขึ้นเบา ๆ ราวกับสบายอารมณ์นักหนา เอาจริง ๆ ผมยังรู้สึกเสียดายไม่หายเลยนะ คนอย่างมัน น่าจะตาย ๆ ไปสักที เมษาจะได้ทรมานมากไปกว่านี้ คนปลายทางไม่ได้ตกปากรับคำว่าจะทำตามอย่างที่ผมเอ่ยขอ พี่ภาคินเอาแต่เงียบไม่ตอบ
ซึ่งผมก็ไม่รบเร้าอะไรมาก “พี่ครับ แค่นี้ก่อนนะ แฟนผมมาแล้ว”
เมื่อเห็นเด็กสาวตัวเล็กผิวขาวอมพูเดินออกมาจากร้านของพี่รหัสของผม
ซึ่งก็คือพี่แป้ง เธอเดินมาพร้อมกับถือเค้กนมสดในมือ ดังนั้นเมื่อเห็นเธอ ผมจึงรีบตัดบททันที
แต่ก่อนจะกดวางสายไป พี่ภาคินก็พูดทิ้งท้ายยาว ๆ สักก่อน
[กูเคยให้หมอดูประจำตระกูลกูดูดวงของไอ้วาโยแล้ว
แม่หมอบอกว่ามันเป็นคนดวงแข็งมาก มันไม่ตายง่าย ๆ หรอก
ต่อให้กูหมายหัวมันหรือมันพยายามฆ่าตัวตายเองเป็นร้อย ๆ ครั้ง มันก็ไม่มีทางทำสำเร็จได้อย่างแน่นอน
มันอายุยืนเกือบร้อยปี แม่หมอว่างั้น]
“พี่คุยโทรศัพท์กับใครอยู่เหรอคะ?”
ผมไม่ได้แยแสกับคำบอกเล่าของคนในสายมากนัก ตระกูลนี้ค่อนข้างจะงมงายกับเรื่องดูดวงเป็นเอามาก แม้แปดสิบเปอร์เซ็นต์จะถูกต้องตามที่แม่หมออะไรนั่นเดามาก็เถอะ ทว่ายังไงซะ ผมเชื่อเปอร์เซ็นต์ที่เหลือมากกว่าว่ะ ซึ่งผมก็เคยลองให้หมอดูนั่นดูดวงเรื่องเนื้อดูให้นะ แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
ผมไม่เชื่อหรอกว่าไข่หวานจะเป็นเนื้อคู่ของผม ในเมื่อเธอเป็นลางร้ายที่ทำให้ชั่วชีวิตของผมพบเจอแต่ความโศกเศร้า
เธอเป็นผู้หญิงร้ายเงียบ เธอพร้อมจะหักหลังทุกคน
ซึ่งเช่นเดียวกับผม ดังนั้นเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้เด็ดขาด
“รุ่นพี่ค่ะ” ผมตอบพลางยิ้มกว้าง ก่อนจะเลื่อนแก้วทรงสูงให้เธอตรงหน้า “วันนี้หนูดื่มนมปั่นนะ พี่สั่งมาแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” ไข่หวานยิ้มร่าดีใจและไม่รอช้าจับหลอดดูดดื่มเล็กน้อย แล้วตัดเค้กคำเล็ก ๆ มาทาน
สลับกับดื่มเครื่องดื่มที่ผมสั่งมาให้ก่อนหน้านั้น โชคดีที่เรานั่งอยู่นอกร้าน
บรรยากาศในช่วงเช้าแบบนี้ แดดค่อนข้างร้อนเอาเรื่อง
แต่ก็ยังดีนั่นแหละที่มีกันสาดกันแดดของร้านบังเอาไว้ “พี่คะ
หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ”
ในระหว่างที่ไข่หวานเอาแต่ดูดเครื่องดื่มอยู่นั้น ผมก็ชำเลืองมองสังเกตเธอดูเป็นระยะ ๆ
ยิ่งน้ำในแก้วมีน้อยลงเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งดีใจมากขึ้นเท่านั้น
“ว่ามาสิคะ”
การที่ผู้ชายพูดจาคะขา
มันฟังดูอ่อนโยนมากเลยนะ
อันนี้มีนาว่าอย่างนั้น...
“หนูท้องค่ะ...” สิ้นคำสารภาพนั้น
ถ้าผู้ชายคนอื่นได้ยินก็คงมีอาการตกใจหรือไม่ก็ดีใจทั้งนั้น
แต่กับผู้ชายที่เดาอาการของแฟนตนเองออกได้ล่วงหน้าอย่างผม มันจึงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกรู้สาเลยสักนิด ต่อให้ไม่พร้อม ผมก็ไม่โวยวายหรอก “พี่ไม่ตกใจบ้างเลยเหรอคะ หนูรู้นะคะว่าพี่ยังไม่พร้อมจะมีลูกตอนนี้หรอก ใช่มั้ยคะ?”
'รู้
แต่ทำไมยังแกล้งโง่ปล่อยให้ท้องล่ะคะ?'
นี่น่ะ
คือประโยคที่ผมคิดในใจ ทว่าประโยคต่อมาที่ผมจะเอ่ยออกไป มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
“พี่รู้ค่ะ
เพราะประจำเดือนหนูไม่มาตั้งสามเดือนแล้วนี่คะ” ผมเม้มริมฝีปาก
แกล้งทำทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นั่นเลยทำให้เด็กสาวตรงหน้ายิ้มเขินทันที ก็นะ
มีเซ็กส์กันทุกวันจนผมปวดเอวทุกครั้งเลยล่ะ “ห่วงก็แต่หนูนี่สิ
ปีนี้อดเข้ามหา’ลัยเลย”
ถ้าผมจำไม่ผิด
ไข่หวานไม่ได้อ่านคู่มือที่ผมซื้อมาเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยนะ วัน ๆ เธอเอาแต่อ่านนิยายอิโรติคอยู่นั่นแหละ
พอเกิดอารมณ์ก็ชอบสะกิดผมให้ลุกมาทำเรื่องอย่างว่า เด็กนี่มันหื่นน่ะ
“พี่พูดงี้
แสดงว่าจะรับผิดชอบหนูใช่มั้ยคะ!” ผมยังไม่ทันได้เอ่ยยอมรับเลยด้วยซ้ำ
ไข่หวานก็ลุกพรวดจากเก้าอี้ตัวสูงข้าง ๆ ผมแล้วโผล่เข้ากอดเต็มรัก “งื้อ หนูรักพี่ที่สุดเลยค่ะ งั้นไว้หนูจะเก็บข้าวของย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่นะคะ”
“...”
“หรือไม่ต้องดีคะ แต่พี่ต้องซื้อข้าวของทุกอย่างให้หนูทั้งหมดเลยนะคะ หนูอยากใช้ของแบรนด์เนมด้วยอะ”
ผู้หญิงแบบนี้น่ะเหรอที่จะมาเป็นแม่ของลูกผม
เสื่อมเสียชื่อเสียงวงตระกูลเก่าแก่ของผมหมดพอดีน่ะสิ
“ไม่ต้องค่ะ” ผมตอบสั้น ๆ
หมายถึงไม่ต้องทำห่าอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ เอ่อ...ไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคายนะ แต่เผอิญว่าสันดานเก่ามันแบบนี้อยู่แล้วน่ะ
ผมยังคงตอแหลต่อไป
แม้ว่าจะรู้สึกหมั่นไส้ตนเองไม่น้อย
“โอ๊ย!” และแล้วจู่ ๆ ไข่หวานก็ทรุดฮวบ แต่ทว่ายังดีที่ผมคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน
ไม่อย่างนั้นเธอคงจะล้มลงบนพื้นไปแล้วล่ะ
“หนูเป็นอะไรไปคะ!”
เมื่อเห็นเธอทรุด ผมก็เสแสร้งแกล้งถามด้วยน้ำเสียงตกอกตกใจทันที
“ไม่รู้ค่ะ จู่ ๆ หนูก็ปวดหัวอะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่จะพาไปคลินิกนะคะ
หนูคงหน้ามืดเพราะแพ้ท้องแน่ ๆ เลยค่ะ ตอนนี้แดดยิ่งแรง ๆ อยู่ด้วย” ผมรีบช้อนร่างของไข่หวานขึ้นบนอ้อมแขนโดยเร็ว
แต่ไม่ทันจะหมุนตัวก้าวเดินจากโต๊ะหน้าร้านด้วยซ้ำ มือขาว ๆ ก็ดันปัดไปโดนแก้วทรงสูงสักก่อน
แน่นอนว่าวินาทีต่อไปเปลือกตาคู่สวยก็เบิกกว้างตกใจทันที ราวกับว่าเพิ่งฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ฉับพลัน
ทว่าเพียงครู่หนึ่งเท่านั้นนะ ก่อนที่เปลือกตาของเธอจะค่อย ๆ ปิดสนิทลง
พร้อมกับปากบาง ๆ ที่อ้าพะงาบ ๆ เหมือนจะเอ่ยถามอะไรสักอย่างออกมาให้หายข้องใจ “อ้อ ที่พี่บอกว่าจะพาหนูไปคลินิกน่ะ ความจริงแล้วพี่จะพาหนูไปทำแท้งต่างหากล่ะ”
แม้เจ้าตัวไม่ได้อยากรู้และไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกต่อไป แต่ผมก็อยากเผยความในใจออกมาอ่ะค่ะ
[จบบรรยายพิเศษ ::
โจแอล]
ใครที่อ่านนิยายเซ็ตนี้เรียงตามลำดับ
ตอนแรกคงคิดว่าวาโยเลวแล้วนะ
ต่อมาก็คิดว่ามาร์ตินเลวยิ่งกว่า
แต่ด้าขอบอกไว้เลยนะคะว่าในบรรดาพระเอก 3 คน
โจแอลเลวสุดต่างหากค่ะ ฮ่า ๆๆ
ความคิดเห็น