คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : อัญมณีกับการดูแลรักษา
อัญมณีเป็นเครื่องประดับอันทรงคุณค่า การสวมใส่ไปนานๆ ก็อาจทำให้สีสันดูหมองหม่นลงจากเดิมบ้าง การดูแลทำความสะอาดจะช่วยทะนุถนอมอัญมณีที่ท่านรักให้มีความสะอาดสวยงามเสมอ เพื่อให้อัญมณีทอแสงเจิดจรัสบนเรือนกายทุกครั้งที่สวมใส่
และการดูแลรักษาอัญมณีในแต่ละชนิดนั้น ย่อมมีเคล็ดลับที่แตกต่างกันเสมอ เพราะอัญมณีบางชนิดก็บอบบางมาก ดังนั้นในโอกาสนี้ ก็ขอเชิญทุกท่านมาศึกษาในการทำความสะอาด และดูแลอัญมณีที่ท่านรักในแต่ละชนิดแบบคร่าวๆ ค่ะ
เพชร เป็นอัญมณีที่ล้ำค่า มีความงดงาม และราคาสูงเป็นเลิศในบรรดาอัญมณีทั้งหลาย เนื่องด้วยเพชรมีความแข็งเป็นอันดับ 1 ในบรรดาสสารทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกนี้ และมีการทนต่อความร้อน ทนต่อสภาพกรด-ด่าง และแอลกอฮอลล์ได้
การทำความสะอาดเพชร การต้มหรือแช่ในน้ำร้อน จึงไม่ทำอันตรายต่อเพชร และถ้ามีสิ่งสกปรกเคลือบ อยู่บนผิวเพชรมากก็ให้นำไปแช่ในแอลกอฮอลล์หรือเหล้าและเขย่าเบาๆ (เพื่อให้สิ่งสกปรกละลายไปได้ง่ายขึ้น) และนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งอีกครั้งด้วยผ้านุ่มๆ เพชรจะสะอาดแวววาว หรือถ้าวิธีเหล่านี้ยังไม่ได้ผล ก็แนะนำให้ใช้โซเดียมคาร์บอเนต (โซดาซักผ้า) ผสมน้ำและนำเพชรไปต้มประมาณ 10 20 นาที แล้วจึงล้างให้สะอาด
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดเพชร อย่าให้เกิดการกระแทกหรืออย่าใช้เหล็กปลายแหลมเขี่ยตามซอกของตัวเรือน เพราะจะทำให้ทองซึ่งอ่อนกว่าเหล็กเกิดริ้วรอยได้ และแม้เพชรจะสะอาด แต่ตัวเรือนซึ่งประกอบขึ้นเป็นอัญมณี ซึ่งเป็นโลหะมีค่า เช่น ทองหรือแพลททินั่ม จะเป็นรอยอยู่ตลอดไป
หรือถ้าท่านมีเวลาว่างแวะไปตามร้านเครื่องประดับที่ท่านใช้บริการเป็นประจำ ก็สามารถให้ทางร้านล้างทำความสะอาดให้ก็ได้ เพราะบางร้านจะมีเครื่องล้างที่ใช้ระบบอัลตราโซนิก อยู่และจะทำให้ผงเล็ก ๆ หลุดออก จากเครื่องประดับเราได้โดยง่าย ระมัดระวังอย่าให้เพชรกระทบกระเทือนกับอะไรแรงๆ เพราะจะให้ขอบเพชรบิ่นได้ และอย่าเก็บเพชรไว้ปะปนกัน เพราะเหลี่ยมของเพชรอาจจะขูดขีดกันเองทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
พลอย เป็นอัญมณีที่มีความแข็งในระดับต่างๆ กัน และยังมีคุณสมบัติความเหนียวและความเปราะแตกต่างกันอีกด้วย การดูแลพลอยชนิดต่างๆ สามารถกระทำได้ดังนี้...
พลอยที่มีความแข็งค่อนข้างต่ำ การสวมใส่ หรือการใช้งานควรมีความระมัดระวัง เป็นอย่างยิ่ง เพราะเนื้อพลอยจะมีความเปราะ ถ้าไปกระทบกับสิ่งที่มีความแข็งกว่าก็อาจจะทำให้เกิดริ้วรอย หรืออาจแตกร้าวได้
อย่าล้างด้วยน้ำร้อนๆ เพราะความร้อนจะทำให้น้ำที่แทรกอยู่ในเนื้อพลอยระเหยออกไปได้ง่ายขึ้น ทำให้ผิวของพลอยลดความวาว และความมันลง เพราะฉะนั้นจึงควรล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดพลอย หรือในน้ำธรรมดาที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ
อย่าเก็บพลอยด้วยวิธีการแช่ไว้ในน้ำมัน เพราะฝุ่นละอองจะสามารถจับได้ง่าย เมื่อทำการเช็ด ทำความสะอาดผงของฝุ่นละอองจะเกิดการเสียดสี และขูดขีดผิวของพลอย ให้ลดความวาวลงไป ทำให้ประกายของพลอยน้อยลง ซึ่งจะดูไม่สวยงาม
การทำความสะอาดพลอย แช่น้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
หยก เป็นอัญมณีที่บอบบาง แตกง่าย ไม่ทนต่อความร้อน สามารถเกิดรอยร้าวภายในได้ง่าย ไม่ทนต่อกรดด่าง
การทำความสะอาดหยก ควรเพียงแค่ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดหลังสวมใส่ทุกครั้ง ควรระวังไม่ให้ถูกความร้อนสูง ไม่ควรให้กระทบกระแทกอะไรเพราะอาจแตกได้ง่าย เคล็ดลับในการทำให้หยกมีความแวววาวเป็นพิเศษคือ ให้หยกแช่ในน้ำโซเดียมสีขาวที่เจือจาง เมื่อนำมาถูเบาๆ จะทำให้หยกแวววาวขึ้น คล้ายการเคลือบเงา แต่ต้องระวังไม่ให้หยกที่ผ่านกรรมวิธีนี้ใกล้กับความร้อนเพราะจะทำให้โซเดียมที่เคลือบผิวอยู่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ไข่มุก ห้ามให้ไข่มุกถูกสารเคมีทุกชนิด เช่น น้ำหอม หรือสเปรย์ต่างๆ เพราะสารเหล่านี้จะทำให้ไข่มุกลดความวาวลงได้ ห้ามให้ผิวของไข่มุกไปขูดขีดกับวัตถุที่มีความแข็ง เพราะผิวของไข่มุกอ่อนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย จึงควรสวมใส่ด้วยความ ระมัดเป็นอย่างยิ่ง
การทำความสะอากไข่มุก ควรใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำสะอาด ทำความสะอาดไข่มุก เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาเกาะบริเวณผิวของไข่มุกได้ หรือหลังจากสวมใส่เครื่องประดับมุกแล้วก็ให้นำมาแช่น้ำดื่มไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงเช็ดด้วยผ้านุ่มๆ ไม่ควรเก็บไข่มุกรวมกับอัญมณีชนิดอื่นๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
ทองคำ เมื่อสวมใส่ทองไปนานๆ สีของทองย่อมหมองลงไปเนื่องมาจากเหงื่อไคลของผู้สวมใส่ ซึ่งถ้าคนเหงื่อเค็มจะทำให้หมองเร็วขึ้น และถ้าทองคำบริสุทธิ์มากๆ สัมผัสกับน้ำหอมบางชนิดอาจเกิดปฏิกิริยาจนหมองคล้ำ
การทำความสะอาดทองคำ แค่ล้างด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงนุ่มๆ ขัดเบาๆ ตามซอกลวดลาย และใช้ผ้านุ่มเช็ดจนแห้ง... แต่ทองคำที่เป็นเครื่องประดับนั้น สามารถนำ ไปชุบใหม่ให้แวววาวได้เช่นกัน
ความคิดเห็น