ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอกลับมาเพื่อหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินกลับหลัง

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องวุ่นวายที่คาดไม่ถึง

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 49



                    กลิ่นหอมที่คุ้นเคยของสถานที่ในห้องส่วนตัวทำให้ใช้เวลาไม่นานในการฟื้นของญานิศา ญานัจฉราอาละวาดกับต้นเหตุของเรื่องได้สองสามยกแล้ว ญานภัทรนั่งเงียบๆ ดูพวกพี่ๆ ทะเลาะกัน คนอื่นๆ ก็กระจายๆ กันนอกห้องคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ญานิศาลืมตาได้แล้วแต่ยังเบลอๆ อยู่ แล้วก็ได้ยินเสียงข้างตัว

     

                    พี่รัมส์ นัจเตือนแล้วไม่ใช้เหรอคะ สุดท้ายคนที่เสียใจก็คือพี่ ดูสิ ยัยนิศาก็มาพาลเป็นลมไปอีกคน นัจอุตส่าห์ให้ริวพาไปเที่ยวแล้ว พี่รู้ไหม ช่วงนี้งานของนิศายุ่งขนาดไหน มีทัวร์มาลงแทบทุกวัน จัดคิวให้แทบไม่ทัน คนที่คล้ายจะเงียบๆ บ่นยาว บรรยายไม่รู้จบ จันทรัสม์สุดจะทน

     

                    นี่นัจ เรื่องของพี่ๆ จัดการได้ไม่ต้องพึ่งใคร เธอก็อยู่ของเธอไปไม่เกี่ยวกัน เรื่องงานเธอก็น่าจะรู้ว่านี้เป็นฤดูท่องเที่ยว คนเยอะอยู่แล้ว คิดว่าพี่ไม่มีงานเหรอ วันนี้พี่ต้องเคลียร์งานเท่าไรเพื่อกลับมาฟังคนทั้งบ้านพูดเรื่องไร้สาระน่ะ คนเป็นพี่ก็ว่าออกมาเป็นชุดๆ เช่นกัน ญานัจฉราเม้มปากแน่นน้ำตาคลอและสะบัดเสียงใส่

     

                    ไร้สาระของพี่รัสม์คือหัวใจของอีกหลายคน ที่นัจบอก ที่นัจเตือน ก็เพราะนัจรักและเป็นห่วงพี่รัสม์ ถ้าพี่รัสม์คิดว่านัจยุ่ง นัจก็จะไม่มาสนอีก จำคำนัจไว้ให้ดีๆ พี่จะต้องเสียใจ อย่ามาขอให้นัจช่วยอะไรอีกก็แล้วกัน ว่าแล้วลูกสาวคนโตผู้เป็นดวงใจของบ้านก็เดินหนีออกจากห้องส่วนตัวของญานิศา

     

                    ภัทร เกิดอะไรขึ้น นัจเป็นอะไรไป พี่รัสม์ทำอะไร... คนเพิ่งฟื้นพูดฉอดๆ ไม่หยุด ญานภัทรรีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยพยุงตัวให้นั่ง จันทรัสม์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว

     

                    เอ่อ... พี่รัสม์คะ พี่ช่วยออกไปก่อนได้ไหม ภัทรขอร้อง บุคคลดังกล่าวครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป

     

                    ทำไมล่ะภัทร ทำไมต้องให้พี่รัสม์ออกไปก่อน นัจไปไหน ทำไมไม่มาอยู่กับนิศา นีรล่ะ คนป่วยถามเป็นชุด ญาณภัทรตอบไม่ถูก พอดีกับที่นีรเดินเข้ามา

     

                    นิศาเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม นีรอยากจะชกหน้าพี่รัสม์สักทีสองที ทำอะไรไม่มีความรับผิดชอบ

     

                    หมายความว่าไง บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ภัทร ไม่อย่างนั้นนิศาจะอาละวาดให้บ้านพังเลย คอยดูสิ ญานิศาจ้องหญิงสาวอีกคนเขม็ง นีรก็กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ เสียวไส้แทนญานภัทร

     

                    คือ...วันนี้น่ะ ภัทรพาน้ำไปโรงพยาบาล... น้องสาวพูดเกริ่นเรื่องช้าๆ คล้ายจะยืดเวลา แล้วตอนที่พบหมอ น้ำก็เกิดอาการอาเจียน วิ่งเข้าห้องน้ำไม่หยุด...

     

                    ขอเนื้อ ไม่หิวน้ำ สายตาที่มองอยู่ทำให้อีกฝ่ายลุกลี้ลุกลนผิดปกติ นีรเลยต่อให้จบ

     

                    น้ำท้องกับพี่รัสม์

     

                    ... หล่อนมีความรู้สึกคล้ายสายฟ้าฟาดกลางใจ เพื่อนรักกับพี่ชายที่มีท่าทีเกลียดกัน โดยเฉพาะจันทรัสม์ที่แสดงอารมณ์ออกนอกหน้า ถ้าฑิมพิกามีหลาน หล่อนจะดีใจมาก แต่ไม่ใช่กับจันทรัสม์ที่ไม่มีความรับผิดชอบในเรื่องนี้

     

                    ภัทร น้ำท้องกับพี่รัสม์ (อีกฝ่ายพยักหน้า) พี่รัสม์ไม่ยอมรับลูกของน้ำใช่ไหม (ญานภัทรตอบรับเบาๆ และเสียงของคนพูดเริ่มสั่นเครือเล็กน้อย) พี่รัสม์เห็นน้ำเป็นของเล่นใช่ไหม อีกฝ่ายก็ตอบรับด้วยสีหน้าที่จริงจัง น้ำใสใสค่อยๆ ไหลรินมาจากดวงตาของญานิศา และค่อยๆ ลุกขึ้นมายืนข้างเตียงโดยญานภัทรช่วยพยุง ก่อนที่จะแผดเสียงลั่นบ้าน

     

                    กรี๊ด นีรกับญานภัทรอุดหูแทบไม่ทัน ญานัจฉรานโผล่ที่ตรงหน้าห้องราวกับหายตัวมา คนในบ้านต่างวิ่งมาทางห้องของหญิงสาว

     

                    ตึงๆๆ นิศา เกิดอะไรขึ้น นภทีป์วิ่งมาถึงก็สะดุ้งกับเสียงแหลมสูงของอีกฝ่ายที่ไม่มีท่าทีว่าจะลดพลังลงแต่อย่างใดมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     

                    ไม่เป็นอะไรนะนัจอยู่นี่แล้ว คงมีเพียงญานัจฉราที่ไม่เอามืออุดหูอย่างคนอื่นแต่กลับวิ่งโผเข้ากอดน้องสาวและพูดปลอบประโลม ซึ่งกว่าที่ญานิศาจะสงบสติอารมณ์ได้ก็ปาไปครึ่งชั่วโมง

     

     

     

                    ตั้งแต่เวลานั้นอาการของญานิศาก็โมโหง่าย ฉุดเฉียว ไม่แม้แต่มองหน้าพี่ชายที่ตนรักที่สุด มีคนเดียวที่เอาอยู่คือญานัจฉราซึ่งก็ได้แต่ปลอบ ทำอะไรไม่ได้มาก ส่วนอาการของฑิมพิกา ชลาสินธุ์ก็โทรมารายงาน (ฟ้อง) เป็นระยะว่าไม่ยอมกินยาบำรุงมั้ง อาละวาดมั้ง จนสุดท้ายก็ต้องอ่อนใจยอมแพ้ความอึดของน้องชายทั้งสอง ญานัจฉราจึงติดต่อไปหาเพื่อนสนิทหรือที่ตั้งใจว่าจะจับปั้นเป็นน้องเขย หลังจากหลุดมือไปหลายครั้งหลายครา

     

                    ริว นี่นัจนะ หญิงสาวยิ้มกริ่มเมื่อเพื่อนรับสาย หล่อนเป็นหนึ่งในบรรดาไม่กี่คนที่จะยินดีคุยด้วยไม่ผ่านเลขาฯ

     

                    แล้วไงล่ะแม่นางฟ้า อีกฝ่ายก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงความขบขันไว้ไม่มิด เพราะไม่ว่ากี่ครั้งกี่คราว ถ้าญานัจฉราโทรมาเองก็ต้องมีอะไรให้เขาช่วยทุกครั้ง (ใช้งานเพื่อน)

     

                    เปิดห้องสูทให้นางฟ้าคนนี้สักห้องสิ ว่าแล้วก็เริ่มดำเนินแผนการ

     

                    ทำไมล่ะ โรงแรมเธอก็มี เธอจะอยู่เหรอ น้ำเสียงเริ่มแปลกใจ หล่อนรู้ว่าได้โอกาสอย่างนี้ต้องรุก แต่ว่าต้องใจเย็นเข้าไว้เพราะยังไงรัฏฐพิชญ์ก็ปฏิเสธหล่อนไม่ได้สักที ไม่งั้นบ้านริวก็ได้ ว่างสำหรับเพื่อนรักเสมอ

     

                    เปล่าหรอก แค่ตอนนี้นัจไม่อยากอยู่รับสถานการณ์ตึงเครียดในบ้าน... เพียงเท่านั้นอีกฝ่ายก็สวนกลับทันทีอย่างน่าหมั่นไส้

     

                    แล้วนิศาล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า แหม เพื่อนตัวเองไม่ถามถึงเลยนะ น่าแกล้งซะให้เข็ด

     

                    นัจอยากพักหน่อยน่ะ สุดสัปดาห์นี้ ญานัจฉราเริ่มกลั้นหัวเราะเพราะถ้าคิดไม่ผิดอีกฝ่ายก็เริ่มหงุดหงิดได้แล้ว

     

                    บ้านริวว่าง ถ้าอยากได้เงียบๆ ก็จะให้พักที่รีสอร์ทที่หัวหิน แล้วนิศาเป็นยังไงบ้าง น้ำเสียงก็ค่อนข้างมีอารมณ์อย่างที่คิด

     

                    ตกลงนะ สุดสัปดาห์นี้ เจอกันที่สนามบิน นัจจะโทรไปจองไฟล์ให้ริวเองแล้วจะเมล์ไปบอกเวลาทีหลัง อ้อ...นัจจะชวนนีร นิศา ภัทรไปด้วยกัน หวังว่าจะไม่ขัดข้องนะ สวัสดีจ้ะ แล้วเจ้าหล่อนก็ตัดสายไปทันที ทิ้งให้คนปลายสายตะลึงงันแต่ก็อดที่จะหัวเราะดังๆ ไม่ได้จนเลขาฯ ที่ยกแฟ้มเอกสารเข้ามางงไปพักใหญ่

     

                    ถึงจะชอบให้ริวเป็นคนใช้ ยังไงก็มีรางวัลให้เหมือนเดิม ขอบใจนะแม่นางฟ้า

     

     

     

                    นิศาจ๋า พรุ่งนี้ไปเที่ยวกับนัจนะ ญานัจฉรากระโดดขึ้นไปมุดผ้าห่มของอีกฝ่ายอย่างชอบใจ ญานิศามองหน้าพี่สาวอย่างเบื่อๆ

     

                    ที่ไหนอีกล่ะ นิศาไม่อยากไปไหน นิศาอยากเห็นหน้าหลานแต่นิศาไม่กล้าไปสู้หน้าน้ำ นัจ นิศาจะทำยังไงดี อีกเปรยพร้อมถอนหายใจทำให้อีกฝ่ายค่อยๆ ปลอบเหมือนหล่อนเป็นเด็กๆ

     

                    นอนซะแล้วพรุ่งนี้ไปเที่ยวหัวหิน หยุดคิดเรื่องคนอื่นได้แล้ว เมื่อไรจะแต่งงานสักที ริวเค้าก็รอมานานแล้วนะ

     

                    ไม่แน่ใจ เฮ้ย หล่อนปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน ใบหน้าขึ้นสีเรื่อดูมีเลือดฝาด ช่างวางแผนจริงๆ

     

                    นิศา... นัจพูดตรงๆ เลยนะ นัจรู้เรื่องของนิศาทุกอย่างจนกระทั่งเรื่องแม่ของริว นัจอยากให้นิศามีความสุขซะที ริวเค้ารักนิศาจริงๆ ไม่งั้นห้าปีที่ผ่านมาเค้าคงมีคนอื่นไปแล้ว แต่นี้เค้ายังรอ รอนิศาคนเดียว ขอโอกาสให้ริวสักครั้งได้ไหม คนฟังนิ่งอึ้ง หล่อนก็พอเข้าใจความต้องการของพี่สาวหรอกนะ แต่ไม่เคยคิดว่าจะคิดจริงจังและกล้าที่จะพูดตรงๆ ญานัจฉราไม่ใช่คนที่จะยื่นมือช่วยเหลือคนอื่นง่ายๆ หากไม่ใช่คนสำคัญจริงๆ

     

                    นิศา... นิศา... หล่อนก็ได้แต่อ้ำอึ้งไม่กล้าจริงจังอย่างพี่สาว ใครว่าพี่นัจเป็นคนพูดหว่านล้อมหรือชักแม่น้ำทั้งห้า ไม่จริงทั้งเพ หมดความอดทนเมื่อไรก็ขวานผ่าซากทันที ในที่สุดหล่อนก็ยอมเปิดปากบ้าง

     

                    ขอเวลาให้นิศาได้ไหม ให้นิศาได้มีเวลาปรับตัวบ้าง ห้าปีมันไม่ใช่น้อยนะคะ สายตาที่อ้อนวอนบ่งบอกความรู้สึกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ญานัจฉราดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้อีกฝ่ายอย่างแสนรัก

     

                    ชีวิตนี้เป็นของนิศา จะตัดสินใจอะไรนัจไม่บังคับ แต่ขอให้รอบคอบ อย่าเอาอารมณ์ชั่ววูบและเหตุผลมาอยู่เหนือความรู้สึกและหัวใจ หัวใจของนิศา นิศารู้ดีที่สุด เอาเถอะ พักผ่อนให้สบาย แล้วเราจะไปเที่ยวกันนะคนดี

     

     

     

                    รอใครคะนัจ ตั้งแต่ที่คุยกันเมื่อคืน ญานิศาก็อารมณ์ดีขึ้นฉับพลัน ไม่ทำหน้าบูดบึ้งเบื่อโลกหรืออารมณ์เสีย เมื่อเช้ามืดก็ยอมตื่นมาช่วยอบคุ้กกี้ นีร ญานภัทรและคนอื่นๆ ในบ้านได้แต่มองอย่างวิตก กลัวว่าจะเป็นโรคประสาท

     

                    แต่ญานัจฉราก็ไม่สนเพราะปรึกษากับพี่ชายคนที่ห้าเรียบร้อย ธาธารเป็นจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดคนหนึ่ง เขาบอกว่าที่ญานิศาเป็นอย่างนี้เพราะเป็นโรคผิดหวังอย่างรุนแรง คนจิตใจอ่อนแอมีสิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานสำคัญ ผลกระทบต่อจิตใจทำให้ร่างกายพลอยทรุด ความเครียดจากเรื่องอื่นๆ ที่กดดันสะสมมาก็ทำให้ร่างกายถึงจุดระเบิด

     

                    ฉะนั้นต้องหาเรื่องเบี่ยงเบนจุดสนใจ และหาทางให้จันทรัสม์ยอมง้อฑิมพิกาและเอาหลานคนแรกของตระกูลวงพิทักษ์คืนมาให้ลุงๆ อาๆ ชื่นชมให้ได้ (ที่คุยกันมาทั้งหมด ญานัจฉรารู้สึกว่าเหตุผลหลังจะเป็นประเด็นหลักมากกว่า)

     

                    รอริวจ้ะ ตอบตามความจริงไปเถอะยัยนัจ นิศาจะได้ไม่โกรธทีหลัง แววตาใสซื่อของญานิศาทำให้ญานัจฉราเริ่มอยากจะบ้า

     

                    เอ๊ะ นัจไม่เห็นจะบอกเลยว่าจะมีคนอื่นอีก นีรกับญานภัทรหัวเราะคิกคัก ญานัจฉราทำหน้าม่อยก่อนจะตอบเบาๆ

     

                    ริวไม่ใช่คนอื่นคนไกลนี่ คนกันเองแท้ๆ

     

                    โอเค นิศายอมแพ้ ญานิศายอมรับ หล่อนไม่เคยตามแผนพี่สาวทัน จึงมองนาฬิกาก่อนจะบ่นต่อ พวกนักธุรกิจใหญ่นี่สายตลอดกาลรึไงนะ อีกสิบห้านาทีเครื่องออกแล้วด้วย

     

                    ไม่ทราบว่าใครนินทาผมครับ จามไม่หยุดเลย รัฏฐพิชญ์ฉีกยิ้มกว้างเมื่อมาถึงกลุ่มเป้าหมาย หล่อนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปมอง เห็นเสื้อยืดดูชื้นๆ ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมา นี้ริวรีบขนาดนี้เลยหรือ

     

                    ก็คนเดิมนั่นแหละพี่ริว สายตาตวัดมองผู้ที่อายุน้อยที่สุด ญานภัทรยิ้มสู้สถานการณ์ไว้ก่อน

     

                    แหม ต้องขอบคุณสินะ อุตส่าห์คิดถึงกันด้วย หล่อนถลึงตามองคู่กรณีก่อนที่ญานัจฉราตัดสินใจจะเดินเข้าไปด้านในตามด้วยนีรและญาณภัทร ทิ้งให้อีกสองคนเล่นเกมจ้องตากัน

     

                    เฮ้ รอนิศาด้วย เมื่อรู้สึกตัวก็แทบจะวิ่งตาม รัฏฐพิชญ์หัวเราะในลำคอ แต่ญานิศาก็ยังหันมาค้อนราวกับรู้ทัน และไม่ยอมหันมามองหน้าเขาอีกเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×