ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจนไน ธิดาแห่งพราย

    ลำดับตอนที่ #8 : โจรสลัด

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 49


    หลายวันต่อมา…

    ภายใต้ท้องฟ้าและท้องทะเลอันมืดมิด ปรากฏซึ่งวัตถุลึกลับขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ห่างจากเรือทันใดนั้นเหมือนมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น เรือเล็กสามลำถูกปล่อยตัวออกมามุ่งสู่เรือโดยสารที่เป็นเป้าหมายทันที

    พึบ!!เสียงเชือกที่ผูกปลายด้วยตะขอถูกเหวียงขึ้นมายังบนเรือ ร่างของมนุษย์4คนไต่ตามเชือกขึ้นมา

    เสียงเชือกที่ผูกปลายด้วยตะขอถูกเหวียงขึ้นมายังบนเรือ ร่างของมนุษย์4คนไต่ตามเชือกขึ้นมา

    คืนนี้แม้เป็นข้างแรม ดวงจันทร์ที่เหลือเพียงน้อยนิดก็ยังคงทำหน้าที่ส่องแสงแข่งกับดวงดาวอยู่ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจนไนก็อยู่อย่างสงบๆมาเป็นเวลาสามวัน คืนนี้เขารู้สึกนอนไม่ค่อยหลับจึงออกมาเพื่อที่จะเดินขึ้นไปรับลมที่ดาดฟ้าของเรือ ในขณะที่เขาเดินไปตามระเบียงทางเดินนั้นเขาได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่แถวๆกาบเรือ ซึ่งในยามนี้คงไม่มีใครออกมาเดินเล่นเหมือนเขาอีกเป็นแน่ นอกเสียจาก

    โจรสลัด!!

    ขอดูหน่อยสิว่าจะมีฝีมือแค่ไหน เจนไนคิดและไม่รอช้าที่จะมุ่งไปยังเป้าหมาย เมื่อถึงตัวเป้าหมายเขาก็ซัดฝ่ามือไปที่ต้นคอของเป้าหมายซึ่งคาดว่าเป็นชายในทันที

    ส่วนคาซาฟที่ออกมาตามหาเจนไน เมื่อเห็นเหตุการณ์เข้าก็ช่วยจัดการพวกที่เหลือให้ในทันที ไม่นานนักพวกกะลาสีในเรือก็รู้เรื่องและจัดการนำตัวโจรสลัดทั้งห้าไปยังห้องใต้ท้องเรือทันที

    ส่วนคาซาฟที่ออกมาตามหาเจนไน เมื่อเห็นเหตุการณ์เข้าก็ช่วยจัดการพวกที่เหลือให้ในทันที ไม่นานนักพวกกะลาสีในเรือก็รู้เรื่องและจัดการนำตัวโจรสลัดทั้งห้าไปยังห้องใต้ท้องเรือทันที

    ณ ใต้ท้องเรืออันเป็นที่ควบคุมเครื่องจักรมากมายที่ทำให้เรือลำนี้ขับเคลื่อนไปได้โจรสลัดทั้งห้าถูกนำตัวมาสอบสวน แต่ในความรู้สึกของเจนไนการสบสวนที่พวกนั้นเรียกมันก็เหมือนกับเป็นการอวดตัวของพวกกะลาสีในเรือดีๆนี้เอง

    “พวกแกทั้งห้าคนแน่มากที่ขึ้นมาบนเรือลำนี้…”กะลาสีท่าทางกร่างๆคนหนึ่งพูด “แล้วไง…พวกแกมันก็แค่โจรกระจอกเท่านั้นแหละ”

    “บอกมา พวกที่เหลือของแกอยู่ไหน”

    “…” ชายผู้นั้นตอบคำถามด้วยความเงียบ

    “ดีถ้าพวกแกไม่ตอบ” ใบมีดถูกปักใกล้มือของชายคนที่เจนไนจับได้ ซึ่งโจรสลัดที่เหลืออีกสี่คนเริ่มแสดงอาการร้อนตัว ผิดกับตัวผู้ที่ถูกขู่กลับไม่แสดงทีท่าว่าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

    “บอกมา”

    “ไม่!" ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหลับตาลง ในขณะที่มีดกำลังจะกดลง

    “เดี๋ยว!?" เจนไนร้องขึ้น เล่นเอาทั้งห้องตกใจกับเสียงนั้น “หยุดก่อน…ฉันว่าเราปล่อยหน้าที่สอบสวนพวกนี้ให้กับตำรวจที่จะมาในวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

    “แต่ข้าเห็นเช่นเดี๋ยวกับที่แม่หญิงคนนี้พูด”กัปตันเรือที่เดินเข้ามาในห้องพูด

    “เอาพวกมันไปขังไว้”กะลาสีคนนั้นพูดอย่างขัดใจ

    เมื่อนำโจรสลัดทั้งห้าคนนั้นไปขังไว้ แล้วพวกเจนไนก็ขอตัวไปนอนบ้าง ขณะที่กำลังเดินไปในระเบียงทางเดินคาซาฟก็เอยถามเจนไนถึงเหตุผลที่ช่วยโจรสลัดคนนั้นไว้

    “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมสายอาชีพต้องมาเจ็บตังเพราะพวกกระจอกๆอย่างนั้นเท่านั้นเอง” คำตอบของเจนไนเรียกเสียงหัวเราะของคาซาฟได้ในทันที

    “พวกแกทั้งห้าคนแน่มากที่ขึ้นมาบนเรือลำนี้…”กะลาสีท่าทางกร่างๆคนหนึ่งพูด “แล้วไง…พวกแกมันก็แค่โจรกระจอกเท่านั้นแหละ”

    “บอกมา พวกที่เหลือของแกอยู่ไหน”

    “…” ชายผู้นั้นตอบคำถามด้วยความเงียบ

    “ดีถ้าพวกแกไม่ตอบ” ใบมีดถูกปักใกล้มือของชายคนที่เจนไนจับได้ ซึ่งโจรสลัดที่เหลืออีกสี่คนเริ่มแสดงอาการร้อนตัว ผิดกับตัวผู้ที่ถูกขู่กลับไม่แสดงทีท่าว่าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

    “บอกมา”

    “ไม่!" ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหลับตาลง ในขณะที่มีดกำลังจะกดลง

    “เดี๋ยว!?" เจนไนร้องขึ้น เล่นเอาทั้งห้องตกใจกับเสียงนั้น “หยุดก่อน…ฉันว่าเราปล่อยหน้าที่สอบสวนพวกนี้ให้กับตำรวจที่จะมาในวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

    “แต่ข้าเห็นเช่นเดี๋ยวกับที่แม่หญิงคนนี้พูด”กัปตันเรือที่เดินเข้ามาในห้องพูด

    “เอาพวกมันไปขังไว้”กะลาสีคนนั้นพูดอย่างขัดใจ

    เมื่อนำโจรสลัดทั้งห้าคนนั้นไปขังไว้ แล้วพวกเจนไนก็ขอตัวไปนอนบ้าง ขณะที่กำลังเดินไปในระเบียงทางเดินคาซาฟก็เอยถามเจนไนถึงเหตุผลที่ช่วยโจรสลัดคนนั้นไว้

    “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมสายอาชีพต้องมาเจ็บตังเพราะพวกกระจอกๆอย่างนั้นเท่านั้นเอง” คำตอบของเจนไนเรียกเสียงหัวเราะของคาซาฟได้ในทันที

    “เดี๋ยว!?" เจนไนร้องขึ้น เล่นเอาทั้งห้องตกใจกับเสียงนั้น “หยุดก่อน…ฉันว่าเราปล่อยหน้าที่สอบสวนพวกนี้ให้กับตำรวจที่จะมาในวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

    “แต่ข้าเห็นเช่นเดี๋ยวกับที่แม่หญิงคนนี้พูด”กัปตันเรือที่เดินเข้ามาในห้องพูด

    “เอาพวกมันไปขังไว้”กะลาสีคนนั้นพูดอย่างขัดใจ

    เมื่อนำโจรสลัดทั้งห้าคนนั้นไปขังไว้ แล้วพวกเจนไนก็ขอตัวไปนอนบ้าง ขณะที่กำลังเดินไปในระเบียงทางเดินคาซาฟก็เอยถามเจนไนถึงเหตุผลที่ช่วยโจรสลัดคนนั้นไว้

    “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมสายอาชีพต้องมาเจ็บตังเพราะพวกกระจอกๆอย่างนั้นเท่านั้นเอง” คำตอบของเจนไนเรียกเสียงหัวเราะของคาซาฟได้ในทันที

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

    “แต่ข้าเห็นเช่นเดี๋ยวกับที่แม่หญิงคนนี้พูด”กัปตันเรือที่เดินเข้ามาในห้องพูด

    “เอาพวกมันไปขังไว้”กะลาสีคนนั้นพูดอย่างขัดใจ

    เมื่อนำโจรสลัดทั้งห้าคนนั้นไปขังไว้ แล้วพวกเจนไนก็ขอตัวไปนอนบ้าง ขณะที่กำลังเดินไปในระเบียงทางเดินคาซาฟก็เอยถามเจนไนถึงเหตุผลที่ช่วยโจรสลัดคนนั้นไว้

    “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมสายอาชีพต้องมาเจ็บตังเพราะพวกกระจอกๆอย่างนั้นเท่านั้นเอง” คำตอบของเจนไนเรียกเสียงหัวเราะของคาซาฟได้ในทันที

    ในขณะเดียวกันนั้นที่ห้องเก็บของซึ่งใช้เป็นที่กักขังนั้น ชายห้าคนที่ถูกเรียกว่าโจรสลัดได้ถูกมัดมือและเท้าเพื่อไม่ให้หลบหนี พร้อมกับที่หน้าห้องก็มียามเฝ้าอยู่

    “แปลกจริงทำไมเด็กหนุ่มคนนั้นถึงได้ช่วยข้าไว้”เอมาล์ชายผู้ที่ถูกเจนไนจับได้รำพึงกับตัวเองด้วยความแปลกใจ

    "นายครับ เราจะทำยังไงกันดี”อาดัมลูกน้องคนสนิทของเขาถาม

    “ไม่เป็นไร ข้าสั่งการไว้แล้ว ไม่นานพวกนั้นคงจะมาถึง”

    ในขณะที่เจนไนกำลังจะล้มตัวลงนอนก็มีชายสวมผ้าปิดหน้าบุกเข้ามาในห้อง และให้เขาออกไปนอกห้องซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี เสียงเอะอะโวยวายดังไปทั่วเรือ ไม่นานนักคนในเรือทุกคนถูกกวาดต้อนให้ไปรวมกันที่ดาดฟ้าเรือ มีโจรสลัด4-5คนที่เดินเก็บพวกของมีค่าต่างๆและพวกมหาเศรษฐีทั้งหลายก็ถูกยึดทรัพย์ไปตามๆกัน

    “ไม่เป็นไร ข้าสั่งการไว้แล้ว ไม่นานพวกนั้นคงจะมาถึง”

    ในขณะที่เจนไนกำลังจะล้มตัวลงนอนก็มีชายสวมผ้าปิดหน้าบุกเข้ามาในห้อง และให้เขาออกไปนอกห้องซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี เสียงเอะอะโวยวายดังไปทั่วเรือ ไม่นานนักคนในเรือทุกคนถูกกวาดต้อนให้ไปรวมกันที่ดาดฟ้าเรือ มีโจรสลัด4-5คนที่เดินเก็บพวกของมีค่าต่างๆและพวกมหาเศรษฐีทั้งหลายก็ถูกยึดทรัพย์ไปตามๆกัน

    และได้มีโจรสลัดผู้หนึ่งเดินมาหาเจนไนและพาเขาแยกตัวออกไปจากกลุ่ม ซึ่งสังเกตเห็นได้อย่าชัดเจน ทำให้เขาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ เมื่อถึงห้องบังคับเรือเจนไนก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีโดยเขาได้ถูกเชิญให้นั่งลงก่อน

    "ข้าขอขอบคุณท่านมาก โปรดรับการเคารพจากข้าด้วย” ชายผู้นั้นพร้อมกับลูกน้องที่อยู่ภายในห้องยืนขึ้นและทำความเคารพให้เขาอีกครั้ง

    “หะ!? ขอบคุณฉันเนี่ยนะ”เจนไนชี้มาที่ตัวเองและหยุดพูดไปนิดหนึ่ง “เดี๋ยวๆ ขอบคุณเรื่องอะไร”

    “หะ!? ขอบคุณฉันเนี่ยนะ”เจนไนชี้มาที่ตัวเองและหยุดพูดไปนิดหนึ่ง “เดี๋ยวๆ ขอบคุณเรื่องอะไร”

    "ก็ที่ท่านช่วยข้าไว้ มิเช่นนั้นนิ้วของข้าคงจะหายไปแล้ว” ชายผู้นั้นชี้แจง

    “เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ… ไม่จำเป็นต้องทำขนานนี้ก็ได้ แค่นี้ใช่ไหมฉันจะได้ไปสักที” เจนไนเดินออกจากห้องทิ้งให้เหล่าโจรสลัดทั้งหลายยืนงงกับสิ่งที่เจนไนทำ เพราะถ้าหากเป็นผู้อื่นคงจะเรียกร้องสิ่งตอบแทนมากมายจากบุญคุณครั้งนั้นแล้ว

    ไม่นานนักเหล่าโจรสลัดทั้งหลายก็ถอนกำลังออกจากเรือ โดยทิ้งความวุ่นวายมมหาศาลไว้ให้กับเรือลำนี้

    “ทำไมพวกนั้นถึงได้รู้จักนายล่ะ”ไรอันถามขึ้นเมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาพปกติ

    “พูดไปแล้วเรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน…คืนนี้ขอนอนก่อน”เจนไนตั้งท่าจะเดินกลับไปที่ห้องนอน แต่ก็มีกะลาสีคนหนึ่งมาตามเขากับคาซาฟไปพบกับกัปตันเรือ

    ภายในห้องมีคนจำนวนหนึ่งที่ดูจากท่าทางที่หยิ่งยโสรวมไปถึงกัปตันเรือด้วยได้นั่งรอพวกเขาอยู่ พวกนั้นมองเจนไนกับคาซาฟด้วยสายตาดูถูกดูแคลน

    “ขอโทษนะครับ ที่รบกวนเวลา คือ…”

    “พอๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาพูดดีกับมันหรอก ที่ฉันเรียกแกสองคนมาเพราะจะบอกให้พวกแกออกไปจากเรือลำนี้”หญิงที่ใส่ชุดนอนแต่แต่งหน้าจัดๆคนนั้นพูด

    “แต่ว่าพวกเรามีสิทธิที่จะอยู่บนเรือลำนี้ เพราะเราไม่ได้ขอพวกคุณอยู่ที่สำคัญค่าตั๋วเราก็จ่ายไปแล้ว” คาซาฟแย้ง

    “อยู่ต่อไม่ได้ก็คือไม่ได้ พวกแกไม่เข้าใจรึไง”เจนไนเริ่มรู้สึกอยากต่อยยายป้านี้จริงๆ

    “แต่ว่า…”

    “ไม่เป็นไร คาซาฟเราออกไปจากเรือลำนี้กันเถอะ… ก่อนที่ฉันจะต่อยปากยายป้านี้”เจนไนพูดอย่างข่มอารมณ์สุดชีวิต

    เจนไนออกมาจากห้องนั้นด้วยความฉุนเฉี่ยว และรีบไปเอาของๆเขาที่ห้องไม่นานนักเขา คาซาฟ และแอล (ผู้ซึ่งยืนยันว่าจะไปด้วยให้ได้)ลงเรือลำเล็กไปในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่และมืดมิดเบื้องล่าง

    ในความมืดมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวมุ่งตรงมายังเรือ เสียงแหวกน้ำของไม้พายเริ่มเบาลงและเงียบหายไปในที่สุด คาซาฟ แอล และเจนไนรู้ตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ใกล้เข้ามา เมื่อได้จังหวะและเริ่มเห็นเป้าหมายเจนไนก็ปามีดพกออกไปในทันที

    “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม จงหยุดอยู่ตรงนั้นหากยังรักชีวิต” เขาขู่ออกไป

    “เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ… ไม่จำเป็นต้องทำขนานนี้ก็ได้ แค่นี้ใช่ไหมฉันจะได้ไปสักที” เจนไนเดินออกจากห้องทิ้งให้เหล่าโจรสลัดทั้งหลายยืนงงกับสิ่งที่เจนไนทำ เพราะถ้าหากเป็นผู้อื่นคงจะเรียกร้องสิ่งตอบแทนมากมายจากบุญคุณครั้งนั้นแล้ว

    ไม่นานนักเหล่าโจรสลัดทั้งหลายก็ถอนกำลังออกจากเรือ โดยทิ้งความวุ่นวายมมหาศาลไว้ให้กับเรือลำนี้

    “ทำไมพวกนั้นถึงได้รู้จักนายล่ะ”ไรอันถามขึ้นเมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาพปกติ

    “พูดไปแล้วเรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน…คืนนี้ขอนอนก่อน”เจนไนตั้งท่าจะเดินกลับไปที่ห้องนอน แต่ก็มีกะลาสีคนหนึ่งมาตามเขากับคาซาฟไปพบกับกัปตันเรือ

    ภายในห้องมีคนจำนวนหนึ่งที่ดูจากท่าทางที่หยิ่งยโสรวมไปถึงกัปตันเรือด้วยได้นั่งรอพวกเขาอยู่ พวกนั้นมองเจนไนกับคาซาฟด้วยสายตาดูถูกดูแคลน

    “ขอโทษนะครับ ที่รบกวนเวลา คือ…”

    “พอๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาพูดดีกับมันหรอก ที่ฉันเรียกแกสองคนมาเพราะจะบอกให้พวกแกออกไปจากเรือลำนี้”หญิงที่ใส่ชุดนอนแต่แต่งหน้าจัดๆคนนั้นพูด

    “แต่ว่าพวกเรามีสิทธิที่จะอยู่บนเรือลำนี้ เพราะเราไม่ได้ขอพวกคุณอยู่ที่สำคัญค่าตั๋วเราก็จ่ายไปแล้ว” คาซาฟแย้ง

    “อยู่ต่อไม่ได้ก็คือไม่ได้ พวกแกไม่เข้าใจรึไง”เจนไนเริ่มรู้สึกอยากต่อยยายป้านี้จริงๆ

    “แต่ว่า…”

    “ไม่เป็นไร คาซาฟเราออกไปจากเรือลำนี้กันเถอะ… ก่อนที่ฉันจะต่อยปากยายป้านี้”เจนไนพูดอย่างข่มอารมณ์สุดชีวิต

    เจนไนออกมาจากห้องนั้นด้วยความฉุนเฉี่ยว และรีบไปเอาของๆเขาที่ห้องไม่นานนักเขา คาซาฟ และแอล (ผู้ซึ่งยืนยันว่าจะไปด้วยให้ได้)ลงเรือลำเล็กไปในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่และมืดมิดเบื้องล่าง

    ในความมืดมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวมุ่งตรงมายังเรือ เสียงแหวกน้ำของไม้พายเริ่มเบาลงและเงียบหายไปในที่สุด คาซาฟ แอล และเจนไนรู้ตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ใกล้เข้ามา เมื่อได้จังหวะและเริ่มเห็นเป้าหมายเจนไนก็ปามีดพกออกไปในทันที

    “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม จงหยุดอยู่ตรงนั้นหากยังรักชีวิต” เขาขู่ออกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×