ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Shot Fic Thor x Loki : Overprotective brother?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      32
      30 ธ.ค. 56




    ชี้แจงก่อนอ่าน : เหตุการณ์ในเรื่อง เราเขียนให้เป็นเหตุการณ์ในช่วงที่สองพี่น้องยังไม่รู้ว่าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เด้อ เอาง่ายๆ คือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหนัง Thor 1 นั่นแล

     

     


    Shot Fic Thor x Loki : Overprotective brother?

     


    "จะมาสู่ขอโลกิ?!!!"


    เสียงของเทพสายฟ้าตะโกนก้องจนพระนางฟริก้าแทบสะดุ้ง เช่นเดียวกับคิงโอดินที่ถึงกับต้องขมวดคิ้วมองโอรสองค์โตที่เริ่มจะควันออกหูทันทีที่ท่านตรัสว่าลูกชายคนเดียวของท่านดยุคอินส์ต้องการจะสู่ขอโลกิไปเป็นชายา


    "ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!"


    "แล้วทำไมท่านต้องไม่ยอมด้วยล่ะธอร์?"


    น้ำเสียงสงบของผู้เป็นประเด็นสนทนาเอ่ยถาม ให้โอดินต้องเบือนพระเนตรหันไปมองใบหน้างดงามที่กำลังแย้มรอยยิ้มซุกซน ราวกับกำลังสนุกอยู่อย่างไรอย่างนั้น


    "เจ้าพูดอย่างกับว่าอยากแต่งกับหมอนั่น?!"


    "ข้าจะอยากแต่งหรือไม่อยากแต่งมันก็เรื่องของข้า เจ้าต่างหากที่แปลกคน เที่ยวมาปฏิเสธแทนคนอื่นเค้าได้ยังไง?น้ำเสียงราบเรียบส่งประโยคจิกกัดที่ทำให้ธอร์ต้องอ้าปากค้าง พยายามคิดหาคำมาโต้เถียง แต่ก็นึกไม่ออก ยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ราวกับขำนักขำหนาของคนตรงหน้าก็ยิ่งโมโหจนควันแทบออกหู


    "อย่าเล่นบทพี่ชายหวงน้องเลยน่าธอร์ มันไม่เข้ากับท่านเลยซักนิด"


    "โลกิ!"


    "อ่ะแฮ่ม!"


    เสียงกระแอมไอจากผู้มีอำนาจสูงสุดดังขัดจังหวะการทะเลาะกันของสองพี่น้อง ราวกับพยายามจะบอกว่ายังมีพ่อกับแม่ที่นั่งหัวโด่ เอ่อ.. นั่งอยู่ตรงนี้อีกสองคน


    "อันที่จริงเรื่องนี้ข้าก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร" ตรัสพร้อมๆ กับหันไปมองราชินีข้างกายเล็กน้อย ก่อนจะเบือนกลับมาจ้องหน้าโอรสองค์เล็กอีกครั้ง "คนที่ต้องตัดสินใจก็คงจะต้องเป็นเจ้า โลกิ แต่ถ้ารับปากไปมันก็จะถือเป็นการกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีการคิดก่อกบฏจากฝ่ายนั้น"


    "..."


    "หรือถ้ามี โลกิก็คงจะพอเป็นหูเป็นตาให้ได้บ้าง"


    "มีกบฏก็ปราบไปสิ จะกลัวอะไรกับแค่ขุนนางตระกูลเล็กๆ แบบนั้น"


    "ขุนนางตระกูลเล็กๆ ที่เจ้าว่าน่ะ มีกำลังทหารอยู่ใต้ปกครองกว่าห้าร้อยนาย และยังเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่มีพรรคพวกสนับสนุนทางการเมืองอยู่อีกหลายตระกูลนะธอร์"


    ธอร์กัดฟันกรอดกับคำอธิบาย สมองพยายามคิดหาเหตุผลคัดค้าน ก่อนจะตะโกนลั่นเมื่อนึกเหตุผลที่พอจะใช้เป็นข้ออ้างได้


    "แต่โลกิเป็นบุรุษเพศ และหมอนั่นก็เป็นบุรุษเหมือนกัน!"


    "ข้าไม่ถือเรื่องนั้นนะ"


    "โลกิ!!!"


    แม้จะตะโกนจนท้องพระโรงแทบสะเทือน แต่คนตัวเล็กกว่าก็เอาแต่หัวเราะอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องตลกนักหนา


    ภาพที่ทำให้พระนางฟริกก้าต้องส่ายพระพักตร์อย่างติดจะปลงๆ กับนิสัยแบบเด็กๆ ของโอรสทั้งสอง


    "สรุปว่าเจ้ามีความเห็นว่ายังไงโลกิ?"


    โลกิเลิกคิ้วมองหน้าท่านแม่ยิ้มๆ ก่อนจะเบือนไปมองพระพักตร์ของผู้เป็นราชา และมาจบลงที่ดวงตาสีฟ้าของคนเป็นพี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ


    "เอาเป็นว่าข้าของเวลาคิดซักสองสามวันก็แล้วกันท่านแม่"


     

     




    ธอร์เร่งสาวเท้าก้าวให้ทันน้องชายตัวดีที่หลังจากออกมาจากท้องพระโรงก็เอาแต่เดินฉับๆ ฮัมเพลงสบายอารมณ์ ไม่สนใจหรือไม่คิดจะหันมาคุยกับเขาเลยซักคำ


    "ข้าไม่ยอมให้เจ้าแต่งกับไอ้ขุนนางนั่นหรอกนะ" โลกิเพียงแค่หันมาเลิกคิ้วมองหน้าคนพูด ก่อนจะยักไหล่นิดๆ แล้วสาวเท้าเดินต่อราวกับคนข้างๆ เป็นอากาศธาตุก็ไม่ปาน


    "โลกิ! นี่เจ้าคิดอะไรของเจ้าอยู่กันแน่?!"


    คำถามที่ทำให้คนถูกถามต้องหยุดเดิน ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างที่บอกว่าเริ่มรำคาญกับการตามตื้อของพี่ชายไร้สมอง


    "เจ้านั่นแหละคิดอะไรอยู่กันแน่?"


    "ข้า?"


    "ใช่ เจ้านั่นแหละ" พูดไปก็จ้องหน้าโง่ๆ ของพี่ชายตัวเองไป ก่อนจะถามคำถามสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเข้มๆ "คนที่ต้องแต่งงานน่ะมันข้านะ ไม่ใช่เจ้า เจ้าจะโวยวายอะไรนักหนาธอร์?"


    คำถามที่ทำให้ธอร์ต้องอ้าปากค้าง...


    ธอร์ชะงักอยู่อย่างนั้นซักพัก ก่อนจะเริ่มถามตัวเองบ้าง...


    นั่นสิ ทำไมเขาต้องไม่พอใจที่มีคนมาขอโลกิแต่งงานด้วย?


    ไม่สิ ไม่ใช่แค่ไม่พอใจ แต่มันทำให้เขาหงุดหงิด โมโหจนนึกอยากกระชากคอไอ้หมอนั่นมาทุ่มลงดินด้วยซ้ำไป


    ...แล้วทำไมเขาต้องโมโห?


    และเพราะว่าคิดไม่ออกสุดท้ายก็เลยทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ จะพูดก็พูดไม่ออก จะไม่พูดก็ดันมีดวงตาสีเขียวๆ จ้องเขม่งคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้อีก


    "เพราะว่า..."


    "..."


    "เพราะ..." 


    "..."


    "เพราะ... เพราะเจ้าเป็นน้องข้า!"


    "หือ?"


    "เพราะเจ้าเป็นน้องข้า แต่ดันจะมาแต่งงานออกเรือนตัดหน้าข้าที่เป็นพี่ชาย มันถูกต้องซะที่ไหน?!"


    คำตอบที่ทำให้คนฟังถึงกับต้องสบถในใจ


    ดวงตาสีเขียวเหลือบมองขึ้นฟ้าอย่างระอา ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินหนีไอ้พี่ปัญญาอ่อน


    สมองเจ้ามันคิดได้แค่นี้สินะ?


    โง่สมกับเป็นธอร์จริงๆ ให้ตายเถอะ!


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    "สู้กับธอร์?"


    โลกิขมวดคิ้วขึ้นนิดกับสิ่งที่ได้ยิน ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือไปจากการคาดเดาของเขาซักเท่าไหร่นัก


    คนอย่างธอร์น่ะ เคยใช้สมองตัดสินปัญหากับเค้าซะที่ไหน...


    ความคิดที่ทำให้นึกขำจนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา จนหญิงสาวที่นำข่าวมาบอกถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ซิฟยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะเอ่ยคำอธิบายสถานการณ์ที่เธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้านี่อยากรู้รึเปล่า


    "ธอร์ท้าสู้กับแฮร์เรียต ยื่นข้อเสนอว่าถ้าเอาชนะเขาได้ ธอร์ก็จะอนุญาตให้หมอนั่นสู่ขอเจ้า"


    "แฮร์เรียต?"


    "ก็ลูกชายดยุคนั่นไง แฮร์เรียต อินส์ ให้ตายเถอะโลกิ! นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าจำไม่ได้แม้แต่ชื่อของคนที่มาสู่ขอเจ้าน่ะ?!" คำต่อว่าที่ทำให้โลกิได้แต่ยักไหล่ไม่แคร์ ก่อนจะเปลี่ยนไปถามในเรื่องที่ตนสนใจมากกว่า


    "แล้วถ้าธอร์ชนะล่ะ?"


    "แฮร์เรียตก็ต้องล้มเลิกการสู่ขอครั้งนี้ และต้องไม่มาให้เจ้าเห็นหน้าอีก"


    "ไร้สาระ"


    "ข้าก็ว่างั้น"


    โลกิพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย ก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับแล้วเดินห่างออกมา และนั่นก็ทำให้ซิฟต้องขมวดคิ้วมุ่น


    "นั่นเจ้าจะไปไหน?"


    "อ่านหนังสือ"


    "แล้วเจ้าไม่คิดจะไปดูพี่ชายเจ้าสู้บ้างเลยรึ?" คนถูกถามหันกลับมาเลิกคิ้วมองคนถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะส่งคำตอบที่ทำให้ซิฟต้องสบถออกมาดังๆ


    "เจ้าก็ยังบอกเลยว่ามันไร้สาระ"


     

     

     


    เสียงแตรสัญญาณสิ้นสุดการแข่งขันดังลั่นไปทั้งพระราชวังแห่งแอสการ์ด โลกิเลิกคิ้วขึ้นนิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือเพื่อที่จะพบว่าตอนนี้ตะวันเริ่มจะคล้อยต่ำลงแล้ว


    นี่ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเลยหรือ?...


    การรับรู้ที่ทำให้ต้องขมวดคิ้วอย่างติดจะแปลกใจ ปกติธอร์ไม่ต้องใช้เวลาสู้กับใครนานนักหรอก แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหมอนั่นก็ล้มคู่ต่อสู่ให้คางเหลืองได้แล้ว แต่ครั้งนี้กลับปาเข้าไปเกือบสองชั่วโมง?...


    หรือธอร์จะมือตก?


    และก็ไม่ต้องสงสัยนานเมื่ออยู่ๆ ประตูห้องนอนก็เปิดผางอย่างที่คนเปิดไม่คิดจะเคาะมันก่อนเลยด้วยซ้ำ


    ความไร้มารยาทที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร


    "ก็ถ้าเจ้าไม่คิดจะเคาะประตูซักหน่อยล่ะก็นะ..."


    คำพูดยังไม่จบประโยคดีโลกิก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อหันมาพบกับภาพของคนไร้มารยาทที่ตอนนี้แทบจะยืนโงนเงน ใบหน้าแขนขาเต็มไปด้วยบาดแผลจากการต่อสู้ คราบเลือดที่มุมปาก เส้นผมสีทองก็แทบจะถูกย้อมไปด้วยสีของฝุ่น


    ...แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาสีฟ้าก็ยังฉายประกายกล้า ยิ้มกว้างอย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวต้องเป็นฝ่ายชนะการต่อสู้อย่างแน่นอน โลกิชะงักกับภาพที่เห็นชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขำแล้วส่งคำทัก


    "สะบักสะบอมมาเลยนะ"


    "แต่ข้าก็ชนะมาน่า" เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างที่ไม่ได้กลัวว่ามันจะเปื้อนเลยซักนิด


    "เพราะข้ายื่นคำขาดว่า ถ้าแพ้ข้าหมอนั่นต้องไสหัวไปให้พ้น และอย่ามาให้เจ้าเห็นหน้าอีก หมอนั่นเลยสู้ยิบตา ไม่คิดว่าจะอึดขนาดนี้" คำอธิบายที่ทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาสีเขียวจ้องเขม่งไปยังคนที่นอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยแววไม่พอใจ


    "ใครอนุญาตให้เจ้ายื่นข้อเสนอโง่ๆ แบบนั้น? นี่ถ้าเจ้าแพ้ ข้าไม่ต้องไปเป็นชายาลูกชายดยุคนั่นจริงๆ เลยเรอะ?!"


    "ข้าไม่แพ้หรอกน่า"


    "ด้วยสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?! บางทีข้าก็สงสัยว่าเจ้าไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนกันธอร์?"


    "ข้าก็ไม่ได้มั่นใจมากมายอะไรขนาดนั้น"


    "..."


    "แต่ข้าแค่แพ้ไม่ได้..." 


    ดวงตาสีฟ้าหันมาสบกับดวงตาสีเขียวของน้องชายที่นั่งอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เสียงทุ้มๆ จะเอ่ยต่ออีกประโยค


    "อีกอย่าง ข้าแค่บอกว่าถ้าข้าแพ้ข้าจะอนุญาตให้หมอนั่นสู่ขอเจ้า แต่ข้าไม่ได้บอกซักหน่อยว่าข้าจะยกเจ้าให้แต่งกับมันน่ะ" คำอธิบายที่ทำให้โลกิหลุดหัวเราะขำ


    "ไม่น่าเชื่อว่าความคิดที่ฟังดูฉลาดๆ แบบนี้ จะออกมาจากหัวของเจ้าได้นะธอร์"


    "เลิกด่าว่าข้าโง่ซักทีน่า"


    "ฮ่าๆ" 


    เสียงหัวเราะใสๆ ยังคงดังอยู่อย่างนั้นซักพัก ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหยิบอ่างน้ำกับผ้าสีขาวมานั่งลงข้างๆ คนบาดเจ็บ โลกิใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วหันไปพยักหน้าให้คนที่นอนแผ่หราอยู่บนเตียงลุกขึ้นนั่งดีๆ 


    เขาค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดบาดแผลบนใบหน้าของพี่ชาย ดวงตาสีเขียวจดจ่ออยู่กับแผลเล็กแผลน้อยเหล่านั้นจนไม่ได้สังเกตเห็นแววตาของคนที่กำลังมองตนอยู่เลย


    "โลกิ"


    "ว่าไง?" หันไปหยิบผ้าชุบน้ำอย่างไม่ได้ใส่ใจฟังซักเท่าไหร่นัก แต่ก่อนจะได้ซับผ้าลงบนบาดแผลอีกครั้ง มือเรียวก็ต้องชะงักค้างเมื่อถูกมือของธอร์ยื่นมากุมเอาไว้


    ...การกระทำที่ทำให้โลกิต้องเลิกคิ้วมองหน้าพี่ชายของตนอย่างขอคำอธิบาย


    "ถ้าข้าแพ้เจ้าจะยอมแต่งงานกับไอ้ลูกดยุคนั่นรึเปล่า?"


    "แล้วเจ้าอยากให้ข้าแต่งรึเปล่าล่ะ?"


    "ไม่!"


    โลกิยกยิ้มขำกับอาการควันออกหูของคนที่โตแต่ตัวตรงหน้า ก่อนจะถอนหายใจน้อยๆ แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น


    "แล้วทำไมเจ้าถึงไม่อยากให้ข้าแต่งล่ะ?"


    "เพราะ..."


    "ถ้าบอกว่าเพราะข้าแย่งเจ้าออกเรือนก่อน ข้าจะสาปเจ้าให้เป็นหิน!" 


    ธอร์อ้าปากค้างกับคำขู่นั้น ตั้งสติคิดหาคำตอบอยู่ซักพัก ก่อนจะทำคอตกอย่างที่บอกว่ายอมแพ้


    "ข้ารอฟังอยู่" คำเร่งที่ทำให้คนถูกเร่งต้องหลุดหัวเราะขำ 


    ธอร์สบมองกับดวงตาสีเขียวคู่ตรงหน้า มือใหญ่ยังคงกุมมือบางๆ นั้นเอาไว้แน่น แล้วมืออีกข้างก็เอื้อมจับใบหน้าของน้องชายแผ่วเบา...


    "เพราะข้าหวงเจ้า..."


    "..."


    "ไม่ใช่แค่ไอ้ลูกชายดยุคนั่นหรอก แต่ไม่ว่าจะกับใครข้าก็ไม่อยากให้เจ้าแต่งด้วยทั้งนั้น"


    "..."


    "ข้าหวงเจ้า... โลกิ"


    เสียงทุ้มเอ่ยคำอธิบายที่ทำให้หัวใจของคนฟังเต้นแรง แต่เทพแห่งการโกหกก็เก่งมากพอที่จะไม่แสดงอาการดีใจออกมาให้คนตรงหน้าได้เห็น ใบหน้างดงามเพียงแค่ระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยคำพูดต่อประโยค


    "เป็นเหตุผลที่ฟังเข้าท่ากว่าครั้งแรกนะ"


    ธอร์หัวเราะให้กับคำประชดนั้น ก่อนจะดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดเอาไว้อย่างหมั่นเขี้ยว


    "ฮ่าๆ ข้ารักเจ้า น้องชายข้า"


     

     

    End.

     

     


    *****************************************************************************************



    สวัสดีปีใหม่ (?) ค่ะ ^0^

    ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคธอร์กิเรื่องที่สองของไอวิช

    อาจจะมึนๆ อึนๆ ไปบ้างก็ต้องขออภัยนะเจ้าคะ ฮ่าๆ

    เพราะเป็นฟิคชั่ววูบที่จิ้มในไอโฟนสองชั่วโมงจบ มันเลยสั้นมาก และหาสาระใดๆ ไม่ได้

    เอาไว้แก้ตัวใหม่เรื่องหน้า (ยังจะมีอีกเรอะ?) แล้วกันเนอะ 555555

     

    แล้วเจอกันใหม่ถ้ามีโอกาสค่ะ

    ไอวิชรักคนอ่านเสมอนะ :)

     

    ปล.อย่าได้ใส่ใจกับชื่อเรื่อง เพราะไอวิชคิดไม่ออก เลยตั้งชื่อมั่วๆ ไปงั้นแหละค่ะ T^T

     

    ปปล.อย่าได้ใส่ใจกับชื่อและนามสกุลของดยุคและลูกชายดยุค เพราะไอวิชคิดไม่ออก เลยตั้งมั่วๆ ไปเช่นกันค่ะ TT^TT

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×