คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฟิควันเกิดหมวย...ซองฟิค: ทุกเวลา(คู่แฝด)
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในฟิคโปรเจควันเกิดหมวยของบ้าน Th-Jaywalkerz ค่ะ
เป็นซองฟิคคู่ เจย์xแจบอม ที่ถ้าใครเคยอ่านฟิคแฝดก็คงจะรู้จักกันดี
แต่ถ้าใครที่ไม่เคยอ่านก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แค่รู้ว่าเจย์กับแจบอมเป็นฝาแฝดกัน โดยที่เจย์แฝดผู้น้องเป็นเมะ(ที่เท่มาก 555) และแจบอมแฝดผู้พี่เป็นเคะ(ที่น่ารักได้อีก ^^) แค่นี้ก็สามารถอ่านซองฟิคเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจแล้วล่ะค่ะ ^^
สำหรับผู้ที่ติดตามฟิคแฝด(มีด้วยหรอ?) เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากที่แจบอมหายจากอาการความจำเสื่อมแล้วนะคะ (แล้วมันจะหายได้จริงๆหรอนั่นน่ะ? >>นั่นสินะ หุหุหุหุ) เป็นเหตุการณ์หลังจากตอนจบของตอนจบของตอนจบอีกทีค่ะ
ปล.(สำคัญมากๆ) เนื่องจากในฟิคเรื่องนี้ไอวิชได้ตัดเอาบางตอนของฟิคแฝดมาเขียนด้วย ซึ่งจะตัดเอามาจากตอนของท่านไรเตอร์หลายๆคนที่เขียนเอาไว้ และมันเป็นการกระทำที่ไอวิชไม่ได้ขออนุญาตท่านไรเตอร์ทุกคนก่อน ซึ่งไอวิชก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ จะว่า จะด่าอะไรก็ได้เลยนะคะ ไอวิชพร้อมจะน้อมรับค่ะ TT^TT ขอโทษจริงๆนะคะ
ปล2.ถ้าใครอ่านเรื่องนี้แล้วสนใจจะอ่านเรื่องแฝดก็คลิกตามไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ http://writer.dek-d.com/n_boy9194/story/view.php?id=678833
แต่ถ้าขี้เกียจอ่านก็ไม่ว่ากันค่ะ ^^
ปล3.อย่าลืมเปิดเพลงฟังไปอ่านไปด้วยเด้อ ^^
*******************************************************************************
ทุกเวลา…
แสงแดดแก่จัดในยามเที่ยงลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามากระทบกับใบหน้าคมของใครบางคนที่นอนอยู่บนเตียงส่งผลให้เปลือกตาหนาต้องขยับเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆเปิดขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวของห้องนอนก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้งอย่างที่ยังไม่ค่อยอยากจะตื่นซักเท่าไหร่แล้วบิดขี้เกียจนิดๆก่อนเอื้อมมือขึ้นไปคว้านาฬิกาบนหัวเตียงมาดูเวลา
อืมม เที่ยงกว่าแล้วหรอเนี่ย?
เที่ยง?...เฮ้ย!
แล้วทำไมวันนี้เขาตื่นเที่ยงได้วะเนี่ย?! ถึงจะเป็นวันอาทิตย์ก็เถอะแต่ใครบางคนเคยยอมให้เขาตื่นสายที่ไหนกัน?
แล้วทำไมวันนี้เขาถึงไม่ได้ยินเสียงวิ่งตึงตังมาปลุกเขาเหมือนทุกวันละเนี่ย?
ความคิดที่ทำให้คนตื่นสายต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากที่นอนแล้วสาวเท้าเร็วๆออกจากห้องไป ไม่คิดแม้แต่จะเข้าห้องน้ำหรือล้างหน้าแปรงฟันก่อนด้วยซ้ำ
เจย์ ปาร์คเปิดประตูห้องตรงข้ามเข้าไปข้างในอย่างที่ไม่คิดจะเคาะประตูใดๆทั้งสิ้นแต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของคนเป็นเจ้าของห้อง…นี่คนตัวเล็กของเขาหายไปไหนเนี่ย?
ขาทั้งสองข้างพาเจ้าของออกเดินอีกครั้งคราวนี้แทบจะเรียกได้ว่าวิ่งลงบันไดบ้าน เพื่อที่จะพบกับสายตาเหวี่ยงๆของแม่ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟากับพ่อที่ชั้นล่าง
“นี่แกคิดจะพังบ้านรึไงกันเจย์ ปาร์ค?”
“แจบอมล่ะครับแม่?” คำตอบที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกวนมันไม่คิดที่จะสนใจคำประชด ทำให้คนเป็นแม่ค้อนให้ลูกชายวงโตก่อนที่จะตอบคำถามเสียงแข็ง
“เห็นบอกว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน ฝากบอกแกด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็กลับเอง”
“อ่อ แล้วไปไหนของเค้าเนี่ย? จะไปไหนทำไมไม่ชวนนะ?” คำพูดของคนเป็นลูกทำให้คุณนายปาร์คต้องส่งสายตาเขียวๆให้
“พี่เค้าก็อยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้างอะไรบ้างสิ จะให้ตัวติดกับแกเป็นตังเมตลอดเวลาเลยหรือไง กลัวชาวบ้านเค้าไม่รู้นักใช่มั๊ยว่าพวกแกรักกันแค่ไหนน่ะ?” คำประชดที่ทำให้คนเป็นลูกชายได้แต่ยิ้มกว้างรับก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดแม่อย่างอ้อนๆแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่
“ก็ผมรักของผมนี่ฮะ”
“ย่ะ”
“ฮ่าๆๆ”
.
.
.
.
.
.
.
.
“เห็นบอกว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน ฝากบอกแกด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็กลับเอง”
คำพูดเมื่อเช้าของคนเป็นแม่ยังดังวนเวียนอยู่ในหัวให้เจย์ ปาร์คต้องหงุดหงิดจนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้
กลับเองงั้นหรอ?!
กลับเองอะไรกัน? นี่มันจะห้าทุ่มเข้าไปแล้วนะ! จนป่านนี้แล้วเขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่บอกว่าจะกลับเองด้วยซ้ำ!
ทั้งๆที่แจบอมไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้เลย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ห่วงได้ไงวะ?!
ให้ตายสิ! คนตัวเล็กของเขาหายไปไหนกันแน่เนี่ย?
ความคิดที่ทำให้นิ้วยาวๆต้องรีบกดโทรศัพท์โทรออกเป็นรอบที่ล้าน แต่ผลตอบกลับก็ยังคงเป็นแค่เสียงรอสายที่ดัง ‘ตู๊ดๆ’ อย่างที่ไม่มีวี่แววว่าคนปรายสายจะรับโทรศัพท์เขาเลย มันทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไป
“แจบอมนายไปอยู่ไหนนะ?” เสียงพึมพำแผ่วเบาที่แทบจะดังไม่พ้นลำคอบ่งบอกว่าคนพูดเหนื่อยล้าเพียงใด…ทั้งๆที่ห่วงใจจะขาดแต่เขากลับไม่รู้ว่าคนตัวเล็กไปอยู่ที่ไหนกันแน่?
โทรถามใครก็ไม่มีใครรู้ แม้แต่แทคยอนกับโจควอนเพื่อนคนที่แจบอมไว้ใจมากที่สุดก็ยังไม่รู้ แล้วเมื่อตอนหัวค่ำเขาก็บุกไปถึงบ้านไอ้คุณหนูนิชคุณมาแล้วแต่ก็ไม่เจอคนตัวเล็กอีกเช่นกัน ทั้งร้านไอติมที่ชอบไป ห้างสรรพสินค้า ร้านหนังสือ โรงเรียน ไม่ว่าจะที่ไหนๆก็ไม่มีวี่แววของแฝดผู้พี่ของเขาเลย…
นี่เขาต้องทำยังไงดี?...ทิ้งตัวพิงพนักโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองเบอร์ที่พึ่งจะโทรออกไป
“ทำไมนายถึงไม่ยอมรับสายฉันล่ะแจบอม?...นายรู้มั๊ยว่าฉันเป็นห่วงนายจนจะบ้าตายอยู่แล้ว?” คำตัดพ้อที่ไม่อาจจะส่งไปถึงคนคนนั้น….คนพูดจึงได้แต่ค่อยๆปิดเปลือกตาหนาลงอย่างจนปัญญาแล้วที่จะตามหา นิ่งอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนที่จะลืมตาโพลงลุกขึ้นนั่งแล้วไล้นิ้วกดบนปุ่มโทรศัพท์เร็วๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“RRRRR!!! RRRRR!!!” เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันทำให้คนตัวเล็กเจ้าของเครื่องได้แต่นั่งอมยิ้มมองเบอร์ของคนที่โทรเข้ามาอยู่อย่างนั้น
ใบหน้าสวยหันไปส่งยิ้มกว้างให้กับสายลมเย็นๆที่พัดผ่านมาต้องใบหน้า ก่อนที่จะยื่นมือออกไปรองรับกลีบสีชมพูบอบบางของซากุระดอกน้อยที่ร่วงหล่นเพราะแรงลม
กลีบดอกไม้บอบบาง…ที่ทำให้เขาต้องยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงภาพความทรงจำเก่าๆ…ภาพความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันทำมันหล่นหายไปอีกครั้ง…
‘ชอบซากุระมากเลยหรอแจบอม ถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มันอยู่ได้น่ะ’ คนเป็นน้องก้มหน้าลงถามแฝดผู้พี่พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนโยนที่น้อยคนนักจะได้รับจากคนคนนี้ ไม่ใช่สิ คงต้องบอกว่าบนโลกใบนี้มีคนอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยได้รับมันต่างหาก
‘อืม ชอบสิ ชอบมากๆด้วย’
‘ว๊า อย่างนี้ฉันก็แย่เลยสิ’
‘แย่? ทำไมต้องแย่?’ เงยหน้าขึ้นไปส่งคำถามให้กับคนที่ทำหน้าที่เป็นหมอนให้เค้าอยู่ คิ้วเรียวขมวดขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัย
‘ก็ถ้านายชอบดอกไม้มากกว่าฉัน อย่างนี้ฉันไม่แย่เอาหรอ? ชักจะน้อยใจนิดๆแล้วแฮะ’
‘ฮ่าๆๆ อย่ามาทำเป็นอ้อนหน่อยเลยน่า คนตัวโตๆมาทำท่าทางน้อยอกน้อยใจแบบนี้ มันออกมาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่หรอกนะคุณชายเจย์’ พูดจบก็หัวเราะร่าอย่างไม่คิดจะง้อเจ้าคนขี้น้อยใจเลยซักนิด
‘เชอะ’
‘ฮ่าๆๆ ที่จริงฉันก็ไม่ได้ชอบซากุระซักเท่าไหร่’
‘หือ?’
‘แต่ว่าดอกนี้ฉันชอบมันมากเป็นพิเศษ’ คนพูดเว้นวรรคประโยคเล็กน้อยให้คนตั้งใจฟังยิ่งอยากที่จะได้ยินประโยคถัดมาเข้าไปใหญ่ ‘เพราะว่ามันเป็นดอกไม้ที่เจ้าชายเจย์ ปาร์ค ใช้มือซ้ายเด็ดให้เจ้าหญิงปาร์ค แจบอมไง ฉันถึงได้ชอบมันมากเป็นพิเศษน่ะ’ ประโยคพูดที่ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มกว้างก่อนที่จะใช้มือบีบจมูกคนพูดเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
‘ว่าแต่ฉันอ้อน ตัวเองก็กำลังทำตัวอ้อนอยู่เหมือนกันละน่า’
แจบอมยิ้มให้กับภาพความทรงจำนั้นอีกครั้งแล้วเอนตัวพิงลำต้นใหญ่ของซากุระ ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดแผ่วเบาโดยที่ไม่ได้หวังว่าใครคนนั้นจะได้ยิน…
“เมื่อไหร่จะมาซักทีเจ้าชายเจย์ ปาร์ค รู้มั๊ยว่าเจ้าหญิงปาร์ค แจบอมรอนายนานแล้วนะ” แล้วเปลือกตาบางก็ค่อยๆปิดลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นที่ยังคงค้างอยู่ในความทรงจำ…ความทรงจำที่มักจะมีคนคนนึงคอยอยู่เคียงข้างเขาในทุกๆเวลา…
บางเวลาที่ฉันขาดเธอจะเติมให้กัน….
แจบอมจำได้ ตอนเด็กๆเขาเคยเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด จนถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากกรุ๊ปเลือดของเขาเป็นลบ ทำให้หาคนบริจาคเลือดได้ลำบาก เจย์กลับยกข้อมือของเขาขึ้นและชูให้คุณหมอจัดการ
เขาตื่นมาอีกครั้ง ข้างเตียงของเขามีร่างของเจย์นอนอยู่ สายยางถูกเชื่อมต่อกับข้อมือนั้นลากผ่านสู่ถุงเลือดขนาดใหญ่เกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะให้ไหว แจบอมร้องไห้ทันทีเมื่อเห็นสภาพน้องชายตัวเอง แต่เจย์กลับยิ้ม และพูดปลอบเขา
‘ฉันดีใจนะ ที่เรามีสายเลือดเดียวกัน อย่างน้อยเลือดฉันก็เหมือนกับนาย’
บางเวลาที่หนาวสั่นเธอจะเป็นอุ่นไอ…
สายลมเย็นในยามดึกพัดมาให้ต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองแต่มันกลับไม่อุ่นเหมือนมือของใครบางคนที่มักจะคอยกุมมือเขาเอาไว้ในทุกครั้งที่เขาต้องการไออุ่นนั้น…
'ให้ตายเถอะ ทำไมมือนายเย็นจัง? ตายหรือยังเนี่ย?' เจย์เอ่ยขึ้นมา ขณะมานั่งเล่นเกมที่ห้องของพี่ชาย หลังจากแขนบังเอิญไปโดนมือบางของแจบอม คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนา แล้วขมวดคิ้วก่อนตอบ
'นายก็รู้ว่าฉันไวต่ออากาศเย็นแค่ไหน นายอยู่กับฉันมาตั้งแต่เด็กน่าจะรู้นะว่ามือฉันได้ตลอดทั้งวัน นี่ยิ่งเป็นห้องแอร์อีก นายนี่ ไม่ได้เรื่องเลยนะ' บ่นๆอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก่อนที่ตาเรียวจะเบิกกว้างเมื่อมืออันอบอุ่นของใครอีกคนเอื้อมมาจับมือของเขาไว้
'อะ ถ้ามือนายเย็นนัก ก็เอาความอุ่นจากมือฉันไปละกัน'
นึกถึงตรงนี้แล้วคนตัวเล็กก็ได้แต่อมยิ้มก่อนที่จะหันไปมองโทรศัพท์ที่เริ่มต้นสั่นเตือนว่ามีสายโทรเข้าอีกรอบ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่กลับไม่คิดที่จะกดปุ่มรับ
“บางทีนายก็ซื่อบื้อมากเลยรู้มั๊ยเจย์?” มีเพียงแค่ตัวคนพูดเองที่ยังคงยิ้มให้กับคำพูดของตัวเองแต่เพียงลำพังแบบนี้ แล้วรอยยิ้มสวยก็ต้องชะงักไปนิดเมื่ออยู่ๆโทรศัพท์ก็หยุดสั่นไป ก่อนที่จะมีข้อความเข้ามา
ข้อความ…ที่ทำให้รอยยิ้มที่ชะงักไปเมื่อครู่นั้นกลับมาระบายบนใบหน้าหวานอีกครั้ง
‘แจบอมนายอยู่ไหนกันแน่? รู้มั๊ยว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ? ไม่ว่านายจะอยู่ไหนก็ตาม ขอร้องล่ะช่วยรับสายฉันที…ได้โปรด’
เสียงหัวเราะขำๆดังจากคนตัวเล็กเมื่ออ่านข้อความจบทั้งๆที่น้ำใสๆเริ่มติดจะคลอๆอยู่ในดวงตาคู่เฉี่ยว…แล้วมือเรียวก็บรรจงพิมพ์ข้อความตอบกลับ.
บางเวลาที่แพ้มาก็ยังมีเธอเข้าใจ…บางเวลาเลวร้ายฉันยังมีเธอ….
.
.
.
.
.
เสียงข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้คนที่รออยู่แทบจะสะดุ้ง มือหนารีบเปิดข้อความจากคนที่ทำให้เขาต้องวิ่งวุ่นทั้งวันออกอ่าน
ข้อความ…ที่ทำให้เจย์ ปาร์ค ถึงกับต้องอ้าปากค้าง
‘^____________^’
ให้ตายสิ! นี่มันไม่ได้เรียกว่าข้อความด้วยซ้ำไปนะ!
ความคิดที่ทำให้เจย์ ปาร์คแทบอยากจะวิ่งไปจับตัวคนต้นเรื่องมาลงโทษซะให้เข็ดแต่ติดอยู่ก็ตรงที่เขาไม่รู้นี่สิว่าเจ้าตัวไปอยู่ที่ไหนกันแน่ตอนนี้
“เล่นอะไรของนายกันแน่นะแจบอม?”
แต่เอาเถอะ…ถ้ามีอารมณ์กวนเขาเล่นอยู่แบบนี้…อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้คนตัวเล็กของเขาปลอดภัยแหละนะ
เจย์ถอนหายเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพิมพ์ข้อความตอบกลับ
‘ยังจะมาทำยิ้มกวน นายอยู่ไหนกันแน่? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ’
เงียบไปอึดใจก่อนที่จะมีข้อความตอบกลับมาให้เขาต้องมุ่นหัวคิ้วอีกรอบ
นิ่งคิดซักพักก่อนหัวคิ้วที่มุ่นอยู่จะค่อยๆคลายปมออก…แล้วรอยยิ้มกว้างก็ระบายบนใบหน้าเข้ม ก่อนที่ขาสองข้างจะพาเจ้าของออกวิ่งจากบ้านไป…
‘ไม่คิดว่านายจะโง่ขนาดนี้แฮะ…คิดดูดีๆสิ บนโลกใบนี้มีแต่นายเท่านั้นนะเจย์ที่น่าจะรู้ดีที่สุด ว่าถ้าฉันหายไป…แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนได้น่ะ?’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
บางเวลาฉันทำผิดเธอยังยอมอภัย…
เสียงข้อความเตือนขึ้นอีกครั้งให้มือเรียวได้กดปุ่มอ่าน
‘อยู่ตรงนั้นแหละ ห้ามหนีไปไหนอีกเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ว่านายหนีไปอีกล่ะก็ ฉันจะโกรธนาย!’
คำสั่งสั่งผ่านข้อความจากโทรศัพท์ให้คนที่ถูกสั่งต้องส่ายหัวนิดๆก่อนที่จะหลุดหัวเราะเสียงใส
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะโกรธฉันได้ซักกี่น้ำกันนะ” ใบหน้าสวยยังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างที่ไม่คิดจะกลัวคำขู่…ก็ในเมื่อเจย์ ปาร์คไม่มีวันที่จะโกรธปาร์ค แจบอมได้อยู่แล้ว…แล้วเขาจะต้องกลัวอะไรล่ะ?
ใช่…ไม่ว่าเขาจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนหรือว่าทำตัวงี่เง่ายังไงน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังคงให้อภัยเขาได้เสมอ…ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของเจย์มากแค่ไหนก็ตาม…
ดวงตาคู่สวยฉายประกายเศร้าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาอีกครั้ง…
ในวันที่เขาทำร้ายจิตใจให้เจย์ต้องเจ็บปวดมากที่สุด…แต่เมื่อเขาเอ่ยคำว่า ‘ขอโทษ’ สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนและคำปลอบใจจากคนคนนั้น…
‘ขอโทษทำไม’ คำตอบที่ได้รับกลับเป็นคำถาม แจบอมได้แต่ถอนหายใจบางๆ เจย์ก็ยังคงเป็นเจย์คนเดิมเสมอ ปาร์คเจย์ คนที่สามารถเก็บโลกทั้งใบไว้เพียงคนเดียวเพียงเพื่อให้คนอื่นสบายใจ
‘เจย์ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อนาย นายก็แค่พูดว่าให้อภัยฉันก็พอแล้ว ไม่ต้องถามต่ออีกแล้ว’
‘อืม ฉันให้อภัย.. แจบอม ไม่ว่านายจะทำอะไร ฉันก็อภัยให้นายได้ตลอดชีวิต..’
‘ข.. ขอบคุณนะ ฮึก.. ขอบค..คุณ’
น้ำใสๆคลออยู่ในดวงตาคู่สวยเมื่อนึกถึงแววตาที่แสนจะอ่อนโยนคู่นั้นของคนที่เป็นทั้งน้องชาย เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคนรัก…และแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา…
บางเวลาฉันร้องไห้เธอยังให้ไหล่อิง…
มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ตัวเองก่อนที่จะแย้มรอยยิ้มละไมเมื่อคิดว่าถ้าแฝดผู้น้องของเขามาเห็นเขานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแบบนี้แล้วหมอนั่นจะมีปฏิกิริยายังไง?
มันก็คงจะไม่ต่างจากทุกครั้งที่เขาขี้แยแล้วปล่อยโฮให้คนตัวโตต้องกอดปลอบ…อ้อมกอดที่ไม่ว่าจะได้รับอีกซักกี่ครั้งก็ยังคงอบอุ่นยิ่งนักในความรู้สึก…
‘ฉันขาดนายไม่ได้...’ พึมพำกระซิบแผ่วเบา แล้วซบลงกับหัวไหล่ของน้องชาย
‘นายต้องทำได้... เพราะฉันเองก็ต้องทำ... แต่เราก็ไม่ได้จากกันไปไหนไกลนี่ นายยังมีฉันอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายนะ...’ พูดจบก็จับมือซ้ายขึ้นมาจูบเบาๆตรงแหวน ซ้ำที่เดิมที่จูบเมื่อบ่าย
‘นั่นสินะ....’ อยากให้น้ำตาหยุดไหล.... แต่มันก็หยุดไม่ได้...
หยุดไม่ได้จริงๆ... แค่คิดว่าจะไม่มีคนๆนี้ จะไม่มีอ้อมกอดอุ่นๆนี้ เขาก็แทบจะขาดใจ...
เจย์จูบซับน้ำตาบนแก้มอีกครั้ง แล้วดึงให้แฝดคนพี่ลงไปนอนด้วยกัน
‘คืนนี้นอนเถอะนะ.... อย่าร้องไห้อีกเลย... พี่ชาย...’ คำเอ่ยเรียกเรียกรอยยิ้มเศร้าๆจากแจบอม
‘นายเคยเห็นฉันเป็นพี่ด้วยหรือไง น้องชาย...?’
‘จะไม่เห็นว่าเป็นพี่ชายก็เพราะนายไม่ยอมหยุดร้องไห้เนี่ยแหละ นอนไปซะ ฉันจะอยู่กับนาย.... ทั้งคืนนี้เลย...’ เอ่ยเบาๆ แล้วจูบที่หน้าผากคนตัวเล็ก คนถูกจูบซุกหน้าเข้าหาไออุ่นข้างกาย
นึกถึงตรงนี้แล้วก็ทำให้คนหน้าหมวยต้องยิ้มทั้งน้ำตา ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองดอกซากุระในเดือนเมษาที่บานเต็มต้น...ซากุระต้นใหญ่ที่ทำให้เขาคิดถึงใครบางคนเหลือเกิน…
รอยยิ้มละไมแย้มกว้างมากยิ่งขึ้น…คิดถึงงั้นหรอ?...นั่นสินะ ไม่ได้เจอหน้ากันแค่วันเดียวทำไมเขาถึงได้คิดถึงน้องชายตัวเองได้มากมายขนาดนี้กันนะ?...
สิ่งที่ทำไปทั้งหมดในวันนี้เขาก็แค่อยากจะพิสูจน์…แค่อยากจะลองดู…ว่าเขาจะอยู่โดยที่ไม่มีเจย์ข้างกายได้นานแค่ไหน?
และคำตอบก็คือ…เขาสามารถอยู่ได้แม้ว่าจะไม่มีเจย์…อยู่ได้นานตราบเท่าที่จะบังคับตัวเองให้อยู่…
แต่การอยู่โดยที่ไม่มีน้องชายของเขาแบบนี้…สู้ไม่ให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ยังจะดีซะกว่า…
ชีวิตนี้ของปาร์ค แจบอบไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว…
แค่ที่เป็นอยู่ในตอนนี้…แค่ข้างๆกายเขายังมีคนที่ชื่อเจย์ ปาร์คให้คอยปกป้องเขา คอยแกล้ง คอยดุเขาอยู่แบบนี้ในทุกๆเวลา…แค่นี้เขาก็ไม่เอาอะไรอีกแล้ว…ไม่ขออะไรแล้วจริงๆ
‘ฉันอยากให้นายรู้ไว้นะแจบอมว่าฉันรักทุกๆอย่างที่เป็นนาย อย่าว่าแต่เจอกันทุกวันเลยต่อให้ฉันต้องอยู่กับนายทุกนาทีหรือทุกวินาทีฉันก็ไม่มีวันที่จะเบื่อนายได้หรอก ไม่มีวัน’
ไม่ใช่คนที่โชคดีที่เกิดมามีทุกสิ่ง
แต่ฉันโชคดีจริงๆ ที่มีเธอ…
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ขาสองข้างพาเจ้าของวิ่งอ้อมตึกเรียนวิทยาศาสตร์ไปยังจุดหมาย…ที่ซากุระต้นใหญ่หลังตึกเรียน…
แต่เมื่อสองขาหยุดลงใต้ต้นไม้ใหญ่เขากลับไม่พบแม้แต่เงาของคนที่กำลังตามหาอยู่ เจย์ ปาร์คเหลียวซ้ายมองขวาสิ่งที่พบกลับมีเพียงแค่ความมืดที่โรยตัวอยู่ในบรรยากาศเท่านั้นไม่มีวี่แววของร่างเล็กๆนั้นอย่างที่หวังเอาไว้ มันทำให้หัวใจของคนเป็นห่วงแทบจะหล่นวูบก่อนที่จะตัดสินใจตะโกนเรียกออกไปสุดเสียง
“แจบอม! นายอยู่ไหนน่ะ?”
“….” ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับใดๆ จะมีก็แต่เพียงเสียงของสายลมเย็นที่พัดผ่าน…สายลมเย็นที่ไม่ได้ทำให้หัวใจอันร้อนรุ่มของเขาเย็นลงได้แม้แต่น้อย
“แจบอม ขอร้องล่ะ ออกมาเถอะ น…นายอย่าเล่นแบบนี้เลย…นายจะเอาอะไรฉันยอมแล้ว…ยอมแล้วทุกอย่าง ตะ…แต่อย่าหายไปแบบนี้…อย่าหายไปฉันขอร้องล่ะ…ฉันจะขาดใจตายอยู่แล้วนายรู้มั๊ย?...” น้ำเสียงแผ่วเบาที่ติดจะเครือๆอย่างที่น้อยครั้งนักจะได้เห็นจากคนเข้มแข็งอย่างเจย์ ปาร์ค
เจย์ค่อยๆทรุดตัวลงนั่งตรงโคนซากุระอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง…
แจบอมไปไหนกันแน่?...ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคนตัวเล็กของเขา…เขาจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ยังไง?...
นัยน์ตาคู่คมค่อยๆหลับลงอย่างจนปัญญาที่จะตามหา…กลัวเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายฝาแฝดของเขา ในหัวมันมีแต่ความคิดในแง่ร้ายตีกันยุ่งเหยิงไปหมด…
แจบอม…นายอยู่ไหน?...
แล้วเสียงข้อความเข้าก็ทำให้คนที่นั่งหลับตาอยู่ต้องสะดุ้ง มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมองเบอร์ที่ส่งข้อความเข้ามา ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก…อย่างน้อยแจบอมของเขาก็ยังปลอดภัย
‘นายทายผิดสินะเจย์ นายนี่โง่กว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ หุหุ’
ทายผิดงั้นหรอ?...ที่ที่แจบอมจะไปอยู่ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วจะเป็นที่ไหนได้กัน?
แล้วรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏบนใบหน้าเข้มเมื่อนึกถึงสถานที่แห่งนั้นออก สองขาออกวิ่งอีกครั้งอย่างไม่คิดเหน็ดเหนื่อยตรงไปยังสถานที่เป้าหมาย…ตึกอธิการฯ
ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
เธอยังเหมือนเคย ยังแสนดีอยากบอกว่าซึ้งใจ…
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ลมบนดาดฟ้าพัดแรงอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองเอาไว้แน่น สายตาเหม่อมองออกไปยังแสงไฟดวงน้อยใหญ่ของตึกระฟ้าที่ตกกระทบบนผิวของแม่น้ำฮานในตอนค่ำคืน…ความงามที่ทำให้ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม…
ปัง!!!
เสียงเปิดประตูดาดฟ้าทำให้คนที่ยืนชมวิวอยู่ต้องหันหลังกลับไปมองคนเปิดยิ้มๆอย่างที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมา
“นายมาช้านะรู้มั๊ย?”
“…” คำถามที่ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบ น้องชายของเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมตรงหน้าประดูดาดฟ้า ความเงียบโรยตัวบางเบาอยู่เนินนาน…นานยิ่งนักกว่าที่คนตัวใหญ่จะตั้งสติได้แล้วสาวเท้าเร็วๆเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคนเป็นพี่ ก่อนที่จะรวบร่างเล็กๆนั้นไว้ในอ้อมกอดแน่น
อ้อมกอดอบอุ่นที่คนถูกกอดแสนจะคิดถึงยิ่งนัก…
อ้อมกอด…ที่กอดแน่นขึ้นเรื่องๆจนแจบอมต้องยิ้มออกมาน้อยๆ…
“แจบอม…นาย…นายหายไป…นายหายไป…ให้ตายสิ!...อย่าหายไปไหนอีกนะ ฉันขอร้องล่ะ…” ประโยคแผ่วเบาที่ฟังขาดๆหายๆจากคนตัวใหญ่ เว้นวรรคไปนิดก่อนที่อ้อมกอดจะถูกกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก “นายรู้มั๊ยว่าวันนี้ฉันตกใจมากแค่ไหนที่ตื่นมาไม่เจอนายน่ะ? ฉันตามหานายไปทั่วอย่างกับคนบ้า กลัวว่านายจะเป็นอะไร กลัวว่าใครจะมาทำร้ายนายเข้า กลัวว่านายจะหายไปจริงๆ มันกลัวไปหมด…กลัวจนแทบจะเป็นบ้า นายรู้มั๊ยว่าฉะ…”
“เจย์วันนี้วันที่เท่าไหร่ นายจำได้มั๊ย?” ประโยคคำถามที่ดังขัดขึ้นทำให้คนฟังต้องขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ไม่คิดจะคลายอ้อมกอดให้คนถามได้เป็นอิสระ
วันที่เท่าไหร่งั้นหรอ?...
“วันที่ 24 เมษา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ…” คำพูดของคนเป็นน้องหยุดอยู่เพียงแค่นั้นเมื่อความเข้าใจบางอย่างวิ่งเข้ามาในหัว ให้คนเป็นพี่ที่ยังคงถูกกอดอยู่ต้องแย้มรอยยิ้มกว้างก่อนจะกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของน้องชาย
“วันที่ 25 แล้วต่างหากล่ะ ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วนะ”
“แจบอม…” คนงงที่ยังคงจับต้นชนปรายไม่ถูกค่อยๆดันร่างคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนออก ก่อนที่นัยน์ตาคู่คมจะสบมองกับดวงตาคู่เฉี่ยวนิ่ง…ดวงตาคู่เฉี่ยวที่บัดนี้กำลังทอประกายสดใสพร้อมๆกับรอยยิ้มบางๆที่ระบายอยู่บนใบหน้าสวยนั้น
“สุขสันต์วันเกิดนะเจย์…สุขสันต์วันเกิดหัวใจของฉัน” แล้วคนตัวเล็กก็เขย่งเท้าขึ้นไปประทับริมฝีปากกับคนตัวโต…สัมผัสแผ่วเบาเพียงแค่ริมฝีปากที่แตะกัน…แต่กลับละมุนละไมนักทั้งให้ความรู้สึกของผู้ให้และในใจของผู้รับ…แล้วคนตัวเล็กก็ถอนริมฝีปากออกก่อนที่จะหันไปก้มหน้างุดมองเท้าตัวเองด้วยใบหน้าที่ติดจะแดงๆพร้อมกับส่งเสียงพูดหงุงหงิง
“ขอโทษนะที่ไม่มีของขวัญวันเกิดให้นายเลย” คำพูดที่ทำให้คนฟังต้องยิ้มกว้างก่อนที่จะคว้าร่างเล็กๆนั้นเข้ามากอดอีกครั้ง
“พอแล้วล่ะ…แค่นี้ก็พอแล้ว” คำตอบที่ทำให้คนถูกกอดยิ้มกว้างยกมือขึ้นกอดตอบ
“ขอบคุณนะเจย์…ขอบคุณที่นายเกิดมาบนโลกใบนี้…ขอบคุณที่เกิดมาเป็นน้องชายฝาแฝดของฉัน…ขอบคุณทุกๆเวลาที่นายได้ให้กับฉัน” คนได้รับคำขอบคุณได้แต่ยิ้มกว้างก่อนที่จะจรดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มนั้นแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนาย…ขอบคุณที่นายเกิดมาใช้ลมหายใจแรกก่อนฉันแค่ 99 วินาที…ขอบคุณที่นายทำให้ลมหายใจหลังจาก 99 วินาทีนั้นของฉันเป็นลมหายใจที่ฉันมีความสุข…ขอบคุณที่ทำให้ทุกเวลาของฉันเป็นสิ่งที่มีค่า” คนพูดหยุดพูดเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะดันร่างเล็กๆของคนเป็นพี่ให้ห่างตัว
มือหนาเอื้อมไปจับบนใบหน้าหวานนั้นแผ่วเบา…สัมผัสอบอุ่นที่ทำให้คนได้รับต้องหลับตาพริ้ม…
“สุขสันต์วันเกิดนะแจบอม…สุขสันต์วันเกิด…จิตวิญญาณของฉัน” แล้วใบหน้าคมก็โน้มลงมอบจุมพิตที่แสนอ่อนโยนให้กับบุคคลที่เป็นราวกับจิตวิญญาณของเขา…และทุกสรรพสิ่งก็เงียบเสียงไป…
ต่อจากวันนี้ คนๆ นี้จะทุ่มเททั้งใจ…ตอบแทนรักที่ยิ่งใหญ่…
ตอบแทนในความหวังดี…ตอบแทนเวลาที่ให้ฉันด้วยทุกเวลาของฉัน ฉันให้เธอ…
ความคิดเห็น