ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นของหมวยเจย์^^ [Fic 2PM (yaoi)]

    ลำดับตอนที่ #3 : ฟิควันเกิดหมวย...ซองฟิค: ทุกเวลา(คู่แฝด)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 54




    เรื่องนี้เป็นหนึ่งในฟิคโปรเจควันเกิดหมวยของบ้าน Th-Jaywalkerz ค่ะ

    เป็นซองฟิคคู่ เจย์xแจบอม ที่ถ้าใครเคยอ่านฟิคแฝดก็คงจะรู้จักกันดี

    แต่ถ้าใครที่ไม่เคยอ่านก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แค่รู้ว่าเจย์กับแจบอมเป็นฝาแฝดกัน โดยที่เจย์แฝดผู้น้องเป็นเมะ(ที่เท่มาก 555) และแจบอมแฝดผู้พี่เป็นเคะ(ที่น่ารักได้อีก ^^) แค่นี้ก็สามารถอ่านซองฟิคเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจแล้วล่ะค่ะ ^^

    สำหรับผู้ที่ติดตามฟิคแฝด(มีด้วยหรอ?) เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากที่แจบอมหายจากอาการความจำเสื่อมแล้วนะคะ (แล้วมันจะหายได้จริงๆหรอนั่นน่ะ? >>นั่นสินะ หุหุหุหุ) เป็นเหตุการณ์หลังจากตอนจบของตอนจบของตอนจบอีกทีค่ะ

    ปล.(สำคัญมากๆ) เนื่องจากในฟิคเรื่องนี้ไอวิชได้ตัดเอาบางตอนของฟิคแฝดมาเขียนด้วย ซึ่งจะตัดเอามาจากตอนของท่านไรเตอร์หลายๆคนที่เขียนเอาไว้ และมันเป็นการกระทำที่ไอวิชไม่ได้ขออนุญาตท่านไรเตอร์ทุกคนก่อน ซึ่งไอวิชก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ จะว่า จะด่าอะไรก็ได้เลยนะคะ ไอวิชพร้อมจะน้อมรับค่ะ TT^TT ขอโทษจริงๆนะคะ

    ปล2.ถ้าใครอ่านเรื่องนี้แล้วสนใจจะอ่านเรื่องแฝดก็คลิกตามไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ http://writer.dek-d.com/n_boy9194/story/view.php?id=678833

     แต่ถ้าขี้เกียจอ่านก็ไม่ว่ากันค่ะ ^^

    ปล3.อย่าลืมเปิดเพลงฟังไปอ่านไปด้วยเด้อ ^^

    *******************************************************************************

    ทุกเวลา

     

    แสงแดดแก่จัดในยามเที่ยงลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามากระทบกับใบหน้าคมของใครบางคนที่นอนอยู่บนเตียงส่งผลให้เปลือกตาหนาต้องขยับเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆเปิดขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวของห้องนอนก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้งอย่างที่ยังไม่ค่อยอยากจะตื่นซักเท่าไหร่แล้วบิดขี้เกียจนิดๆก่อนเอื้อมมือขึ้นไปคว้านาฬิกาบนหัวเตียงมาดูเวลา

    อืมม เที่ยงกว่าแล้วหรอเนี่ย?

    เที่ยง?...เฮ้ย!

    แล้วทำไมวันนี้เขาตื่นเที่ยงได้วะเนี่ย?! ถึงจะเป็นวันอาทิตย์ก็เถอะแต่ใครบางคนเคยยอมให้เขาตื่นสายที่ไหนกัน?

    แล้วทำไมวันนี้เขาถึงไม่ได้ยินเสียงวิ่งตึงตังมาปลุกเขาเหมือนทุกวันละเนี่ย?

    ความคิดที่ทำให้คนตื่นสายต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นมาจากที่นอนแล้วสาวเท้าเร็วๆออกจากห้องไป ไม่คิดแม้แต่จะเข้าห้องน้ำหรือล้างหน้าแปรงฟันก่อนด้วยซ้ำ

    เจย์ ปาร์คเปิดประตูห้องตรงข้ามเข้าไปข้างในอย่างที่ไม่คิดจะเคาะประตูใดๆทั้งสิ้นแต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของคนเป็นเจ้าของห้องนี่คนตัวเล็กของเขาหายไปไหนเนี่ย?

    ขาทั้งสองข้างพาเจ้าของออกเดินอีกครั้งคราวนี้แทบจะเรียกได้ว่าวิ่งลงบันไดบ้าน เพื่อที่จะพบกับสายตาเหวี่ยงๆของแม่ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟากับพ่อที่ชั้นล่าง

    “นี่แกคิดจะพังบ้านรึไงกันเจย์ ปาร์ค?”

    “แจบอมล่ะครับแม่?” คำตอบที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกวนมันไม่คิดที่จะสนใจคำประชด ทำให้คนเป็นแม่ค้อนให้ลูกชายวงโตก่อนที่จะตอบคำถามเสียงแข็ง

    “เห็นบอกว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน ฝากบอกแกด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็กลับเอง”

    “อ่อ แล้วไปไหนของเค้าเนี่ย? จะไปไหนทำไมไม่ชวนนะ?” คำพูดของคนเป็นลูกทำให้คุณนายปาร์คต้องส่งสายตาเขียวๆให้

    “พี่เค้าก็อยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้างอะไรบ้างสิ จะให้ตัวติดกับแกเป็นตังเมตลอดเวลาเลยหรือไง กลัวชาวบ้านเค้าไม่รู้นักใช่มั๊ยว่าพวกแกรักกันแค่ไหนน่ะ?” คำประชดที่ทำให้คนเป็นลูกชายได้แต่ยิ้มกว้างรับก่อนที่จะเดินเข้าไปกอดแม่อย่างอ้อนๆแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่

    “ก็ผมรักของผมนี่ฮะ”

    “ย่ะ”

    “ฮ่าๆๆ”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “เห็นบอกว่าจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน ฝากบอกแกด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็กลับเอง”

    คำพูดเมื่อเช้าของคนเป็นแม่ยังดังวนเวียนอยู่ในหัวให้เจย์ ปาร์คต้องหงุดหงิดจนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้

    กลับเองงั้นหรอ?!

    กลับเองอะไรกัน? นี่มันจะห้าทุ่มเข้าไปแล้วนะ! จนป่านนี้แล้วเขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่บอกว่าจะกลับเองด้วยซ้ำ!

    ทั้งๆที่แจบอมไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้เลย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ห่วงได้ไงวะ?!

    ให้ตายสิ! คนตัวเล็กของเขาหายไปไหนกันแน่เนี่ย?

    ความคิดที่ทำให้นิ้วยาวๆต้องรีบกดโทรศัพท์โทรออกเป็นรอบที่ล้าน แต่ผลตอบกลับก็ยังคงเป็นแค่เสียงรอสายที่ดัง ตู๊ดๆ  อย่างที่ไม่มีวี่แววว่าคนปรายสายจะรับโทรศัพท์เขาเลย มันทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไป

    “แจบอมนายไปอยู่ไหนนะ?” เสียงพึมพำแผ่วเบาที่แทบจะดังไม่พ้นลำคอบ่งบอกว่าคนพูดเหนื่อยล้าเพียงใดทั้งๆที่ห่วงใจจะขาดแต่เขากลับไม่รู้ว่าคนตัวเล็กไปอยู่ที่ไหนกันแน่?

    โทรถามใครก็ไม่มีใครรู้ แม้แต่แทคยอนกับโจควอนเพื่อนคนที่แจบอมไว้ใจมากที่สุดก็ยังไม่รู้ แล้วเมื่อตอนหัวค่ำเขาก็บุกไปถึงบ้านไอ้คุณหนูนิชคุณมาแล้วแต่ก็ไม่เจอคนตัวเล็กอีกเช่นกัน ทั้งร้านไอติมที่ชอบไป ห้างสรรพสินค้า ร้านหนังสือ โรงเรียน ไม่ว่าจะที่ไหนๆก็ไม่มีวี่แววของแฝดผู้พี่ของเขาเลย

    นี่เขาต้องทำยังไงดี?...ทิ้งตัวพิงพนักโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองเบอร์ที่พึ่งจะโทรออกไป

    “ทำไมนายถึงไม่ยอมรับสายฉันล่ะแจบอม?...นายรู้มั๊ยว่าฉันเป็นห่วงนายจนจะบ้าตายอยู่แล้ว?” คำตัดพ้อที่ไม่อาจจะส่งไปถึงคนคนนั้น….คนพูดจึงได้แต่ค่อยๆปิดเปลือกตาหนาลงอย่างจนปัญญาแล้วที่จะตามหา นิ่งอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนที่จะลืมตาโพลงลุกขึ้นนั่งแล้วไล้นิ้วกดบนปุ่มโทรศัพท์เร็วๆ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    RRRRR!!! RRRRR!!!” เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันทำให้คนตัวเล็กเจ้าของเครื่องได้แต่นั่งอมยิ้มมองเบอร์ของคนที่โทรเข้ามาอยู่อย่างนั้น

    ใบหน้าสวยหันไปส่งยิ้มกว้างให้กับสายลมเย็นๆที่พัดผ่านมาต้องใบหน้า ก่อนที่จะยื่นมือออกไปรองรับกลีบสีชมพูบอบบางของซากุระดอกน้อยที่ร่วงหล่นเพราะแรงลม

    กลีบดอกไม้บอบบางที่ทำให้เขาต้องยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงภาพความทรงจำเก่าๆภาพความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันทำมันหล่นหายไปอีกครั้ง

     

    ชอบซากุระมากเลยหรอแจบอม ถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้มันอยู่ได้น่ะ คนเป็นน้องก้มหน้าลงถามแฝดผู้พี่พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนโยนที่น้อยคนนักจะได้รับจากคนคนนี้  ไม่ใช่สิ คงต้องบอกว่าบนโลกใบนี้มีคนอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยได้รับมันต่างหาก

    อืม ชอบสิ ชอบมากๆด้วย

    ว๊า อย่างนี้ฉันก็แย่เลยสิ

    แย่? ทำไมต้องแย่? เงยหน้าขึ้นไปส่งคำถามให้กับคนที่ทำหน้าที่เป็นหมอนให้เค้าอยู่ คิ้วเรียวขมวดขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัย

    ก็ถ้านายชอบดอกไม้มากกว่าฉัน อย่างนี้ฉันไม่แย่เอาหรอ? ชักจะน้อยใจนิดๆแล้วแฮะ

    ฮ่าๆๆ อย่ามาทำเป็นอ้อนหน่อยเลยน่า คนตัวโตๆมาทำท่าทางน้อยอกน้อยใจแบบนี้ มันออกมาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่หรอกนะคุณชายเจย์ พูดจบก็หัวเราะร่าอย่างไม่คิดจะง้อเจ้าคนขี้น้อยใจเลยซักนิด

    เชอะ

    ฮ่าๆๆ ที่จริงฉันก็ไม่ได้ชอบซากุระซักเท่าไหร่

    หือ?

    แต่ว่าดอกนี้ฉันชอบมันมากเป็นพิเศษ คนพูดเว้นวรรคประโยคเล็กน้อยให้คนตั้งใจฟังยิ่งอยากที่จะได้ยินประโยคถัดมาเข้าไปใหญ่ เพราะว่ามันเป็นดอกไม้ที่เจ้าชายเจย์ ปาร์ค ใช้มือซ้ายเด็ดให้เจ้าหญิงปาร์ค แจบอมไง ฉันถึงได้ชอบมันมากเป็นพิเศษน่ะ ประโยคพูดที่ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มกว้างก่อนที่จะใช้มือบีบจมูกคนพูดเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

    ว่าแต่ฉันอ้อน ตัวเองก็กำลังทำตัวอ้อนอยู่เหมือนกันละน่า

     

    แจบอมยิ้มให้กับภาพความทรงจำนั้นอีกครั้งแล้วเอนตัวพิงลำต้นใหญ่ของซากุระ ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดแผ่วเบาโดยที่ไม่ได้หวังว่าใครคนนั้นจะได้ยิน

    “เมื่อไหร่จะมาซักทีเจ้าชายเจย์ ปาร์ค รู้มั๊ยว่าเจ้าหญิงปาร์ค แจบอมรอนายนานแล้วนะ” แล้วเปลือกตาบางก็ค่อยๆปิดลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นที่ยังคงค้างอยู่ในความทรงจำความทรงจำที่มักจะมีคนคนนึงคอยอยู่เคียงข้างเขาในทุกๆเวลา

     

    บางเวลาที่ฉันขาดเธอจะเติมให้กัน….

    แจบอมจำได้ ตอนเด็กๆเขาเคยเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด จนถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากกรุ๊ปเลือดของเขาเป็นลบ ทำให้หาคนบริจาคเลือดได้ลำบาก เจย์กลับยกข้อมือของเขาขึ้นและชูให้คุณหมอจัดการ

    เขาตื่นมาอีกครั้ง ข้างเตียงของเขามีร่างของเจย์นอนอยู่ สายยางถูกเชื่อมต่อกับข้อมือนั้นลากผ่านสู่ถุงเลือดขนาดใหญ่เกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะให้ไหว แจบอมร้องไห้ทันทีเมื่อเห็นสภาพน้องชายตัวเอง แต่เจย์กลับยิ้ม และพูดปลอบเขา

    ฉันดีใจนะ ที่เรามีสายเลือดเดียวกัน อย่างน้อยเลือดฉันก็เหมือนกับนาย


    บางเวลาที่หนาวสั่นเธอจะเป็นอุ่นไอ

    สายลมเย็นในยามดึกพัดมาให้ต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองแต่มันกลับไม่อุ่นเหมือนมือของใครบางคนที่มักจะคอยกุมมือเขาเอาไว้ในทุกครั้งที่เขาต้องการไออุ่นนั้น

     

    'ให้ตายเถอะ ทำไมมือนายเย็นจัง? ตายหรือยังเนี่ย?' เจย์เอ่ยขึ้นมา ขณะมานั่งเล่นเกมที่ห้องของพี่ชาย หลังจากแขนบังเอิญไปโดนมือบางของแจบอม คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนา แล้วขมวดคิ้วก่อนตอบ

    'นายก็รู้ว่าฉันไวต่ออากาศเย็นแค่ไหน นายอยู่กับฉันมาตั้งแต่เด็กน่าจะรู้นะว่ามือฉันได้ตลอดทั้งวัน นี่ยิ่งเป็นห้องแอร์อีก นายนี่ ไม่ได้เรื่องเลยนะ' บ่นๆอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก่อนที่ตาเรียวจะเบิกกว้างเมื่อมืออันอบอุ่นของใครอีกคนเอื้อมมาจับมือของเขาไว้

    'อะ ถ้ามือนายเย็นนัก ก็เอาความอุ่นจากมือฉันไปละกัน'

     

    นึกถึงตรงนี้แล้วคนตัวเล็กก็ได้แต่อมยิ้มก่อนที่จะหันไปมองโทรศัพท์ที่เริ่มต้นสั่นเตือนว่ามีสายโทรเข้าอีกรอบ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่กลับไม่คิดที่จะกดปุ่มรับ

    “บางทีนายก็ซื่อบื้อมากเลยรู้มั๊ยเจย์?” มีเพียงแค่ตัวคนพูดเองที่ยังคงยิ้มให้กับคำพูดของตัวเองแต่เพียงลำพังแบบนี้  แล้วรอยยิ้มสวยก็ต้องชะงักไปนิดเมื่ออยู่ๆโทรศัพท์ก็หยุดสั่นไป ก่อนที่จะมีข้อความเข้ามา

    ข้อความที่ทำให้รอยยิ้มที่ชะงักไปเมื่อครู่นั้นกลับมาระบายบนใบหน้าหวานอีกครั้ง

    แจบอมนายอยู่ไหนกันแน่? รู้มั๊ยว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ? ไม่ว่านายจะอยู่ไหนก็ตาม ขอร้องล่ะช่วยรับสายฉันทีได้โปรด
    เสียงหัวเราะขำๆดังจากคนตัวเล็กเมื่ออ่านข้อความจบทั้งๆที่น้ำใสๆเริ่มติดจะคลอๆอยู่ในดวงตาคู่เฉี่ยวแล้วมือเรียวก็บรรจงพิมพ์ข้อความตอบกลับ.

     

    บางเวลาที่แพ้มาก็ยังมีเธอเข้าใจบางเวลาเลวร้ายฉันยังมีเธอ….

    .

    .

    .

    .

    .

    เสียงข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้คนที่รออยู่แทบจะสะดุ้ง มือหนารีบเปิดข้อความจากคนที่ทำให้เขาต้องวิ่งวุ่นทั้งวันออกอ่าน

    ข้อความที่ทำให้เจย์ ปาร์ค ถึงกับต้องอ้าปากค้าง

    ‘^____________^’

    ให้ตายสิ! นี่มันไม่ได้เรียกว่าข้อความด้วยซ้ำไปนะ!

    ความคิดที่ทำให้เจย์ ปาร์คแทบอยากจะวิ่งไปจับตัวคนต้นเรื่องมาลงโทษซะให้เข็ดแต่ติดอยู่ก็ตรงที่เขาไม่รู้นี่สิว่าเจ้าตัวไปอยู่ที่ไหนกันแน่ตอนนี้

    “เล่นอะไรของนายกันแน่นะแจบอม?”

    แต่เอาเถอะถ้ามีอารมณ์กวนเขาเล่นอยู่แบบนี้อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้คนตัวเล็กของเขาปลอดภัยแหละนะ

    เจย์ถอนหายเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพิมพ์ข้อความตอบกลับ

    ยังจะมาทำยิ้มกวน นายอยู่ไหนกันแน่? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ

    เงียบไปอึดใจก่อนที่จะมีข้อความตอบกลับมาให้เขาต้องมุ่นหัวคิ้วอีกรอบ

    นิ่งคิดซักพักก่อนหัวคิ้วที่มุ่นอยู่จะค่อยๆคลายปมออกแล้วรอยยิ้มกว้างก็ระบายบนใบหน้าเข้ม ก่อนที่ขาสองข้างจะพาเจ้าของออกวิ่งจากบ้านไป

     

    ไม่คิดว่านายจะโง่ขนาดนี้แฮะคิดดูดีๆสิ  บนโลกใบนี้มีแต่นายเท่านั้นนะเจย์ที่น่าจะรู้ดีที่สุด ว่าถ้าฉันหายไปแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนได้น่ะ?

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     บางเวลาฉันทำผิดเธอยังยอมอภัย

    เสียงข้อความเตือนขึ้นอีกครั้งให้มือเรียวได้กดปุ่มอ่าน

    อยู่ตรงนั้นแหละ ห้ามหนีไปไหนอีกเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ว่านายหนีไปอีกล่ะก็ ฉันจะโกรธนาย!’

    คำสั่งสั่งผ่านข้อความจากโทรศัพท์ให้คนที่ถูกสั่งต้องส่ายหัวนิดๆก่อนที่จะหลุดหัวเราะเสียงใส

    “ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะโกรธฉันได้ซักกี่น้ำกันนะ” ใบหน้าสวยยังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างที่ไม่คิดจะกลัวคำขู่ก็ในเมื่อเจย์ ปาร์คไม่มีวันที่จะโกรธปาร์ค แจบอมได้อยู่แล้วแล้วเขาจะต้องกลัวอะไรล่ะ?

    ใช่ไม่ว่าเขาจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนหรือว่าทำตัวงี่เง่ายังไงน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังคงให้อภัยเขาได้เสมอถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของเจย์มากแค่ไหนก็ตาม

    ดวงตาคู่สวยฉายประกายเศร้าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาอีกครั้ง

    ในวันที่เขาทำร้ายจิตใจให้เจย์ต้องเจ็บปวดมากที่สุดแต่เมื่อเขาเอ่ยคำว่า ขอโทษสิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนและคำปลอบใจจากคนคนนั้น

    ขอโทษทำไมคำตอบที่ได้รับกลับเป็นคำถาม แจบอมได้แต่ถอนหายใจบางๆ เจย์ก็ยังคงเป็นเจย์คนเดิมเสมอ ปาร์คเจย์ คนที่สามารถเก็บโลกทั้งใบไว้เพียงคนเดียวเพียงเพื่อให้คนอื่นสบายใจ
    เจย์ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อนาย นายก็แค่พูดว่าให้อภัยฉันก็พอแล้ว ไม่ต้องถามต่ออีกแล้ว
    อืม ฉันให้อภัย.. แจบอม ไม่ว่านายจะทำอะไร ฉันก็อภัยให้นายได้ตลอดชีวิต..

    ข.. ขอบคุณนะ ฮึก.. ขอบค..คุณ

    น้ำใสๆคลออยู่ในดวงตาคู่สวยเมื่อนึกถึงแววตาที่แสนจะอ่อนโยนคู่นั้นของคนที่เป็นทั้งน้องชาย เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคนรักและแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา

     

    บางเวลาฉันร้องไห้เธอยังให้ไหล่อิง
    มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ตัวเองก่อนที่จะแย้มรอยยิ้มละไมเมื่อคิดว่าถ้าแฝดผู้น้องของเขามาเห็นเขานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแบบนี้แล้วหมอนั่นจะมีปฏิกิริยายังไง?

    มันก็คงจะไม่ต่างจากทุกครั้งที่เขาขี้แยแล้วปล่อยโฮให้คนตัวโตต้องกอดปลอบอ้อมกอดที่ไม่ว่าจะได้รับอีกซักกี่ครั้งก็ยังคงอบอุ่นยิ่งนักในความรู้สึก

    ฉันขาดนายไม่ได้... พึมพำกระซิบแผ่วเบา แล้วซบลงกับหัวไหล่ของน้องชาย
    นายต้องทำได้... เพราะฉันเองก็ต้องทำ... แต่เราก็ไม่ได้จากกันไปไหนไกลนี่ นายยังมีฉันอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายนะ... พูดจบก็จับมือซ้ายขึ้นมาจูบเบาๆตรงแหวน ซ้ำที่เดิมที่จูบเมื่อบ่าย
    นั่นสินะ.... อยากให้น้ำตาหยุดไหล.... แต่มันก็หยุดไม่ได้...
    หยุดไม่ได้จริงๆ... แค่คิดว่าจะไม่มีคนๆนี้ จะไม่มีอ้อมกอดอุ่นๆนี้ เขาก็แทบจะขาดใจ...
    เจย์จูบซับน้ำตาบนแก้มอีกครั้ง แล้วดึงให้แฝดคนพี่ลงไปนอนด้วยกัน
    คืนนี้นอนเถอะนะ.... อย่าร้องไห้อีกเลย... พี่ชาย... คำเอ่ยเรียกเรียกรอยยิ้มเศร้าๆจากแจบอม
    นายเคยเห็นฉันเป็นพี่ด้วยหรือไง น้องชาย...?’
    จะไม่เห็นว่าเป็นพี่ชายก็เพราะนายไม่ยอมหยุดร้องไห้เนี่ยแหละ นอนไปซะ ฉันจะอยู่กับนาย.... ทั้งคืนนี้เลย... เอ่ยเบาๆ แล้วจูบที่หน้าผากคนตัวเล็ก คนถูกจูบซุกหน้าเข้าหาไออุ่นข้างกาย

     

    นึกถึงตรงนี้แล้วก็ทำให้คนหน้าหมวยต้องยิ้มทั้งน้ำตา ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองดอกซากุระในเดือนเมษาที่บานเต็มต้น...ซากุระต้นใหญ่ที่ทำให้เขาคิดถึงใครบางคนเหลือเกิน

    รอยยิ้มละไมแย้มกว้างมากยิ่งขึ้นคิดถึงงั้นหรอ?...นั่นสินะ ไม่ได้เจอหน้ากันแค่วันเดียวทำไมเขาถึงได้คิดถึงน้องชายตัวเองได้มากมายขนาดนี้กันนะ?...

    สิ่งที่ทำไปทั้งหมดในวันนี้เขาก็แค่อยากจะพิสูจน์แค่อยากจะลองดูว่าเขาจะอยู่โดยที่ไม่มีเจย์ข้างกายได้นานแค่ไหน?

    และคำตอบก็คือเขาสามารถอยู่ได้แม้ว่าจะไม่มีเจย์อยู่ได้นานตราบเท่าที่จะบังคับตัวเองให้อยู่

    แต่การอยู่โดยที่ไม่มีน้องชายของเขาแบบนี้สู้ไม่ให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ยังจะดีซะกว่า

    ชีวิตนี้ของปาร์ค แจบอบไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

    แค่ที่เป็นอยู่ในตอนนี้แค่ข้างๆกายเขายังมีคนที่ชื่อเจย์ ปาร์คให้คอยปกป้องเขา คอยแกล้ง คอยดุเขาอยู่แบบนี้ในทุกๆเวลาแค่นี้เขาก็ไม่เอาอะไรอีกแล้วไม่ขออะไรแล้วจริงๆ

     

    ฉันอยากให้นายรู้ไว้นะแจบอมว่าฉันรักทุกๆอย่างที่เป็นนาย อย่าว่าแต่เจอกันทุกวันเลยต่อให้ฉันต้องอยู่กับนายทุกนาทีหรือทุกวินาทีฉันก็ไม่มีวันที่จะเบื่อนายได้หรอก ไม่มีวัน

     

    ไม่ใช่คนที่โชคดีที่เกิดมามีทุกสิ่ง
    แต่ฉันโชคดีจริงๆ ที่มีเธอ
    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ขาสองข้างพาเจ้าของวิ่งอ้อมตึกเรียนวิทยาศาสตร์ไปยังจุดหมายที่ซากุระต้นใหญ่หลังตึกเรียน

    แต่เมื่อสองขาหยุดลงใต้ต้นไม้ใหญ่เขากลับไม่พบแม้แต่เงาของคนที่กำลังตามหาอยู่ เจย์ ปาร์คเหลียวซ้ายมองขวาสิ่งที่พบกลับมีเพียงแค่ความมืดที่โรยตัวอยู่ในบรรยากาศเท่านั้นไม่มีวี่แววของร่างเล็กๆนั้นอย่างที่หวังเอาไว้ มันทำให้หัวใจของคนเป็นห่วงแทบจะหล่นวูบก่อนที่จะตัดสินใจตะโกนเรียกออกไปสุดเสียง

    “แจบอม! นายอยู่ไหนน่ะ?”

    ….” ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับใดๆ จะมีก็แต่เพียงเสียงของสายลมเย็นที่พัดผ่านสายลมเย็นที่ไม่ได้ทำให้หัวใจอันร้อนรุ่มของเขาเย็นลงได้แม้แต่น้อย

    “แจบอม ขอร้องล่ะ ออกมาเถอะ นนายอย่าเล่นแบบนี้เลยนายจะเอาอะไรฉันยอมแล้วยอมแล้วทุกอย่าง ตะแต่อย่าหายไปแบบนี้อย่าหายไปฉันขอร้องล่ะฉันจะขาดใจตายอยู่แล้วนายรู้มั๊ย?...” น้ำเสียงแผ่วเบาที่ติดจะเครือๆอย่างที่น้อยครั้งนักจะได้เห็นจากคนเข้มแข็งอย่างเจย์ ปาร์ค

    เจย์ค่อยๆทรุดตัวลงนั่งตรงโคนซากุระอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

    แจบอมไปไหนกันแน่?...ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคนตัวเล็กของเขาเขาจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ยังไง?...

    นัยน์ตาคู่คมค่อยๆหลับลงอย่างจนปัญญาที่จะตามหากลัวเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายฝาแฝดของเขา ในหัวมันมีแต่ความคิดในแง่ร้ายตีกันยุ่งเหยิงไปหมด

    แจบอมนายอยู่ไหน?...

    แล้วเสียงข้อความเข้าก็ทำให้คนที่นั่งหลับตาอยู่ต้องสะดุ้ง มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมองเบอร์ที่ส่งข้อความเข้ามา ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างน้อยแจบอมของเขาก็ยังปลอดภัย

    นายทายผิดสินะเจย์ นายนี่โง่กว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ หุหุ

    ทายผิดงั้นหรอ?...ที่ที่แจบอมจะไปอยู่ถ้าไม่ใช่ที่นี่แล้วจะเป็นที่ไหนได้กัน?

     แล้วรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏบนใบหน้าเข้มเมื่อนึกถึงสถานที่แห่งนั้นออก สองขาออกวิ่งอีกครั้งอย่างไม่คิดเหน็ดเหนื่อยตรงไปยังสถานที่เป้าหมายตึกอธิการฯ

    ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
    เธอยังเหมือนเคย ยังแสนดีอยากบอกว่าซึ้งใจ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ลมบนดาดฟ้าพัดแรงอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองเอาไว้แน่น สายตาเหม่อมองออกไปยังแสงไฟดวงน้อยใหญ่ของตึกระฟ้าที่ตกกระทบบนผิวของแม่น้ำฮานในตอนค่ำคืนความงามที่ทำให้ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

    ปัง!!!

    เสียงเปิดประตูดาดฟ้าทำให้คนที่ยืนชมวิวอยู่ต้องหันหลังกลับไปมองคนเปิดยิ้มๆอย่างที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมา

    “นายมาช้านะรู้มั๊ย?”

    ” คำถามที่ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบ น้องชายของเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมตรงหน้าประดูดาดฟ้า ความเงียบโรยตัวบางเบาอยู่เนินนานนานยิ่งนักกว่าที่คนตัวใหญ่จะตั้งสติได้แล้วสาวเท้าเร็วๆเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคนเป็นพี่ ก่อนที่จะรวบร่างเล็กๆนั้นไว้ในอ้อมกอดแน่น

    อ้อมกอดอบอุ่นที่คนถูกกอดแสนจะคิดถึงยิ่งนัก

    อ้อมกอดที่กอดแน่นขึ้นเรื่องๆจนแจบอมต้องยิ้มออกมาน้อยๆ

    “แจบอมนายนายหายไปนายหายไปให้ตายสิ!...อย่าหายไปไหนอีกนะ ฉันขอร้องล่ะ” ประโยคแผ่วเบาที่ฟังขาดๆหายๆจากคนตัวใหญ่ เว้นวรรคไปนิดก่อนที่อ้อมกอดจะถูกกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก “นายรู้มั๊ยว่าวันนี้ฉันตกใจมากแค่ไหนที่ตื่นมาไม่เจอนายน่ะ? ฉันตามหานายไปทั่วอย่างกับคนบ้า กลัวว่านายจะเป็นอะไร กลัวว่าใครจะมาทำร้ายนายเข้า กลัวว่านายจะหายไปจริงๆ มันกลัวไปหมดกลัวจนแทบจะเป็นบ้า นายรู้มั๊ยว่าฉะ

    “เจย์วันนี้วันที่เท่าไหร่ นายจำได้มั๊ย?” ประโยคคำถามที่ดังขัดขึ้นทำให้คนฟังต้องขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ไม่คิดจะคลายอ้อมกอดให้คนถามได้เป็นอิสระ

    วันที่เท่าไหร่งั้นหรอ?...

    “วันที่ 24 เมษา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ” คำพูดของคนเป็นน้องหยุดอยู่เพียงแค่นั้นเมื่อความเข้าใจบางอย่างวิ่งเข้ามาในหัว ให้คนเป็นพี่ที่ยังคงถูกกอดอยู่ต้องแย้มรอยยิ้มกว้างก่อนจะกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของน้องชาย

    “วันที่ 25 แล้วต่างหากล่ะ ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วนะ”

    “แจบอม” คนงงที่ยังคงจับต้นชนปรายไม่ถูกค่อยๆดันร่างคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนออก ก่อนที่นัยน์ตาคู่คมจะสบมองกับดวงตาคู่เฉี่ยวนิ่งดวงตาคู่เฉี่ยวที่บัดนี้กำลังทอประกายสดใสพร้อมๆกับรอยยิ้มบางๆที่ระบายอยู่บนใบหน้าสวยนั้น

    “สุขสันต์วันเกิดนะเจย์สุขสันต์วันเกิดหัวใจของฉัน” แล้วคนตัวเล็กก็เขย่งเท้าขึ้นไปประทับริมฝีปากกับคนตัวโตสัมผัสแผ่วเบาเพียงแค่ริมฝีปากที่แตะกันแต่กลับละมุนละไมนักทั้งให้ความรู้สึกของผู้ให้และในใจของผู้รับแล้วคนตัวเล็กก็ถอนริมฝีปากออกก่อนที่จะหันไปก้มหน้างุดมองเท้าตัวเองด้วยใบหน้าที่ติดจะแดงๆพร้อมกับส่งเสียงพูดหงุงหงิง

    “ขอโทษนะที่ไม่มีของขวัญวันเกิดให้นายเลย” คำพูดที่ทำให้คนฟังต้องยิ้มกว้างก่อนที่จะคว้าร่างเล็กๆนั้นเข้ามากอดอีกครั้ง

    “พอแล้วล่ะแค่นี้ก็พอแล้ว” คำตอบที่ทำให้คนถูกกอดยิ้มกว้างยกมือขึ้นกอดตอบ

    “ขอบคุณนะเจย์ขอบคุณที่นายเกิดมาบนโลกใบนี้ขอบคุณที่เกิดมาเป็นน้องชายฝาแฝดของฉันขอบคุณทุกๆเวลาที่นายได้ให้กับฉัน” คนได้รับคำขอบคุณได้แต่ยิ้มกว้างก่อนที่จะจรดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มนั้นแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก

    “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนายขอบคุณที่นายเกิดมาใช้ลมหายใจแรกก่อนฉันแค่ 99 วินาทีขอบคุณที่นายทำให้ลมหายใจหลังจาก 99 วินาทีนั้นของฉันเป็นลมหายใจที่ฉันมีความสุขขอบคุณที่ทำให้ทุกเวลาของฉันเป็นสิ่งที่มีค่า” คนพูดหยุดพูดเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะดันร่างเล็กๆของคนเป็นพี่ให้ห่างตัว

    มือหนาเอื้อมไปจับบนใบหน้าหวานนั้นแผ่วเบาสัมผัสอบอุ่นที่ทำให้คนได้รับต้องหลับตาพริ้ม

    “สุขสันต์วันเกิดนะแจบอมสุขสันต์วันเกิดจิตวิญญาณของฉัน” แล้วใบหน้าคมก็โน้มลงมอบจุมพิตที่แสนอ่อนโยนให้กับบุคคลที่เป็นราวกับจิตวิญญาณของเขาและทุกสรรพสิ่งก็เงียบเสียงไป

    ต่อจากวันนี้ คนๆ นี้จะทุ่มเททั้งใจตอบแทนรักที่ยิ่งใหญ่

    ตอบแทนในความหวังดีตอบแทนเวลาที่ให้ฉัน
    ด้วยทุกเวลาของฉัน ฉันให้เธอ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×