ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #18 : One Shot Fiction [Maze Runner] : Newt

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 57





    One Shot Fiction [Maze Runner] : Newt

     

     


    กำแพงสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน มันทั้งยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม และดูทรงอำนาจซะจนคล้ายจะบีบให้ร่างเล็กๆ ของมนุษย์ที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับมันให้ยิ่งดูเล็กลงไปอีก ร่างเล็กๆ ของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่คนเดียวราวกับไม่เกรงกลัวต่อความมืดที่มันกำลังโรยตัวอยู่รอบๆ กาย ร่างเล็กๆ ที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับกำแพงสูงใหญ่ที่กักขังเขาเอาไว้มานานหลายปี


    ยืนมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มองด้วยแววตาที่สะท้อนออกมาทั้งความโดดเดี่ยว ความสับสน ความเศร้า ความกังวล และความเจ็บปวด


    และที่ชัดเจนที่สุดความกลัว


    ความกลัวที่มันกำลังสะท้านไปทั้งความรู้สึก กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต กลัวว่าจะต้องสูญเสีย


    รอยหม่นหมองเกลื่อนอยู่ในดวงตาคู่สีจาง ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงอย่างที่บอกถึงความเครียด ก่อนจะยกมือกอดตัวเองเอาไว้เมื่อสายลมเย็นพัดมาต้องผิวเนื้อ นิวท์ยืนอยู่ตรงนี้มาร่วมสี่ชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่ที่บานประตูตรงหน้าปิดลง บานประตูที่ปิดลงไปพร้อมๆ กับหัวใจของเขาที่หล่นวูบ เมื่อมันกักขังเพื่อนของเขาเอาไว้กับหายนะข้างนอกนั่น


    มันปิดลงอย่างที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้ยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยซ้ำ


    ไม่ให้เวลาเขาได้ทำอะไรทั้งนั้น


    ความคิดที่ทำให้ความกรุ่นโกรธพุ่งขึ้นมาในใจ เขาโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ โกรธในความงี่เง่าไร้ความสามารถของตัวเอง โกรธตัวเองที่ทำได้เพียงแค่ยืนมองไอ้ประตูบ้าๆ นี่ปิดลงต่อหน้าต่อตา!


    ทั้งๆ ที่คนที่ควรจะวิ่งเข้าไปในนั้นมันควรจะเป็นเขาไม่ใช่โทมัส


    ทั้งๆ เขาควรจะเป็นคนที่เข้าไปช่วยมินโฮกับอัลบี้ออกมา


    ทั้งๆ ที่เขาควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้แท้ๆ


    ทั้งๆ ที่


    “โธ่เว้ย!!


    เสียงสถบดังขึ้นพร้อมๆ กับหยาดน้ำใสที่รื้นขึ้นมาในดวงตา มือสองข้างยกขึ้นกุมหัวอย่างจนหนทาง เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ เขาไม่รู้ว่าจะรอได้จนถึงเช้าโดยที่ไม่บ้าตายไปก่อนได้รึเปล่าด้วยซ้ำ! สิ่งเดียวที่นิวท์รู้ในตอนนี้ก็คือเขาต้องเข้มแข็ง เข้มแข็งให้มากพอที่จะเป็นผู้นำของทุกคนที่เหลืออยู่ในตอนนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่รู้...


    เขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำยังไงต่อไปเขาไม่รู้อะไรเลย


    “พวกนายจะกลับมาใช่ไหม?...


    คำถามที่ได้แต่เอ่ยถามออกไปอย่างนั้น แต่คำตอบที่ได้รับกลับมากลับเป็นเพียงแค่ความเงียบ และเสียงหัวใจของตัวเองที่มันกำลังเต้นระรัวด้วยความกลัวระคนสิ้นหวัง


    นิวท์ไม่ใช่นักวิ่งที่เก่งกาจเหมือนมินโฮ ไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดจะเป็นผู้นำที่ดีได้แบบอัลบี้ ไม่ใช่คนที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นหรือเป็นความหวังให้ใครต่อใครได้


    เขาเป็นแค่นิวท์


    เป็นแค่ชาวทุ่งคนหนึ่งที่พยายามจะทำทุกอย่างเท่าที่สองมือของตัวเองจะทำได้


    เป็นแค่คนคนหนึ่งที่ได้แต่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ปลูกผัก ปลูกข้าวโพด ช่วยเป็นแรงหนุน ช่วยเป็นแรงใจและมันก็มีอยู่แค่นั้นที่เขาทำได้


    ทำไมเขาถึงทำได้แค่นั้นนะ?...


    คำถามที่ได้แต่เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปมา ให้ดวงตาที่สะท้อนความเศร้าบางเบาได้แต่ทอดมองบานประตูของกำแพงใหญ่เบื้องหน้า เพื่อที่จะรับรู้ว่าเขามันก็เป็นแค่ไอ้ปลวกไร้ประโยชน์ เป็นแค่ไอ้ปลวกที่ทำได้แค่ยืนรออยู่ตรงนี้


    “นิวท์”


    เสียงเล็กๆ ร้องทักมาจากด้านหลัง ปลุกให้คนที่กำลังยืนเหม่ออยู่ต้องหลุดออกจากภวังค์ ดวงตาสีอ่อนกระพริบไล่หยดน้ำที่รื้นอยู่ในดวงตาทิ้งไป ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปรับอารมณ์ให้เข้าที่ แล้วค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กชายที่กำลังถือตะเกียงอันเล็กเดินตรงเข้ามาหา


    “ยังไม่นอนอีกเหรอชัค?”


    ส่งคำถามออกไปให้คนถูกถามต้องส่ายหัวปฏิเสธเบาๆ เด็กชายร่างท้วมเดินมาหยุดลงข้างๆ ก่อนที่ใบหน้ากลมๆ นั้นจะหันไปมองกำแพงด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความกังวลใจไม่แพ้กัน


    “ฉันเป็นห่วงโทมัสเลยนอนไม่หลับ”



    “เป็นห่วงอัลบี้กับมินโฮด้วย”


    เสียงเล็กๆ เอ่ยคำบอกเล่าแผ่วเบา ก่อนจะหันกลับมามองนิวท์อีกครั้ง แล้วร่างท้วมๆ ของเล็กชายก็ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้า มืออวบวางตะเกียงที่ถืออยู่ลงตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนอายุมากกว่าอีกครั้ง


    “นายก็นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ?”


    คำถามที่ทำให้นิวท์ต้องถอนหายใจนิดๆ ฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งลงบนพื้นข้างๆ กัน


    “ก็ไม่เชิง”




    แล้วความเงียบก็เข้ามาคั่นกลางบทสนทนาอย่างที่ต่างคนก็ต่างไม่รู้ว่าควรจะหยิบยกเรื่องอะไรขึ้นมาคุยกันดี ในเมื่อสถานการณ์ในตอนนี้มันดูเลวร้ายซะจนแม้แต่คนที่พูดมากที่สุดก็ยังต้องรู้สึกว่าอยากจะหุบปากอยู่เงียบๆ แทน


    “พรุ่งนี้อัลบี้ มินโฮ กับโทมัสจะกลับออกมามั๊ย?”


    นิวท์เม้มริมฝีปากให้กับคำถามนั้น สายตายังคงทอดมองไปที่กำแพงสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบมาจากไหน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะพูดความจริงออกไปแทนคำโกหก


    “ไม่



    “ฉันไม่รู้ ชัค”


    คำตอบที่ทำให้คนฟังต้องคอตก ใบหน้ากลมๆ ของเด็กชายได้แต่ก้มลงมองพื้น มืออวบอูมดึงหญ้าต้นเล็กๆ เล่น ในขณะที่คนอายุมากกว่าก็ได้แต่นั่งเงียบอยู่อย่างนั้น


    “แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมานะ” เสียงเล็กๆ ออกความเห็นอีกครั้ง ให้นิวท์ต้องระบายยิ้มหม่นหมองแล้วพยักหน้ารับน้อยๆ


    “ฉันก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”




    แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ความเงียบเข้ามาทำหน้าที่ของมัน


    นิวท์ยังคงนั่งมองกำแพงวงกตอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ชัคเองก็ยังคงนั่งถอนหญ้าเล่นอยู่อย่างเดิมเช่นกัน แต่เมื่อเวลาและความเงียบผ่านไปสักพัก นิวท์ก็ตัดสินใจหันไปมองคนข้างตัวแล้วเอ่ยคำพูดทำลายความเงียบนั้นลง


    “ไปนอนได้แล้วไป”


    “แต่ฉันไม่ง่วงนี่นา”


    “ไม่ง่วงก็ต้องนอน พรุ่งนี้ยังมีอะไรรอให้นายทำอยู่อีกเยอะ เพราะงั้นนายต้องนอนเก็บแรงเอาไว้ เข้าใจมั๊ย?” คำถามที่ทำให้เด็กชายได้แต่มองคนพูดตาปริบๆ ก่อนจะส่งเสียงอ่อนๆ ตอบกลับไป


    “แล้วนายล่ะ? จะรอตรงนี้จนถึงเช้าเลยเหรอ?”


    “ไม่หรอก เดี๋ยวฉันก็ไปนอนแล้วเหมือนกัน” ตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ให้คนมองต้องยิ้มตาม ก่อนที่ร่างท้วมๆ ของเด็กชายจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างว่าง่าย


    “อย่านอนดึกนะ เพราะถ้าฉันต้องเก็บแรง นายก็ยิ่งต้องเก็บแรงมากกว่าเป็นสองเท่าเลยล่ะ” คำพูดจริงจังที่ทำให้นิวท์ต้องหลุดหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกของวัน ก่อนจะพยักหน้ารับนิดๆ แล้วเอ่ยคำไล่อีกรอบ


    “ไปนอนเถอะชัคกี้”


    “อื้อ”


    แล้วเด็กชายก็ก้มลงหยิบตะเกียงขึ้นมาถือ แล้วหมุนตัวหันหลังกลับ แต่พอก้าวขาเดินห่างออกไปได้แค่สามก้าว ร่างท้วมๆ นั้นก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองที่นิวท์อีกครั้ง


    “นิวท์”


    “หือ?”


    “เวลาที่ไม่มีทั้งอัลบี้ทั้งมินโฮแบบนี้ ฉันดีใจนะที่ยังมีนายอยู่กับพวกเรา”



    “ก็แค่อยากจะบอกน่ะ”


    พูดจบเจ้าตัวแสบก็หันหลังกลับอีกรอบ แล้วเดินจ้ำอ้าวตรงไปที่เปลนอนโดยที่ไม่ได้หันกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง จะมีก็แต่คนฟังที่ยังคงนั่งมองแผ่นหลังนั้นจนลับตา


    ดีใจที่ยังมีเขาอยู่งั้นเหรอ?..


    “ขอบใจนะ ชัคกี้”


    รอยยิ้มบางเบาเกิดขึ้นพร้อมกับคำขอบคุณที่เบายิ่งกว่า อย่างที่คงจะมีเพียงแค่ตัวคนพูดเท่านั้นที่ได้ยินมัน ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะค่อยๆ จางหายไป เมื่อดวงตาสีอ่อนค่อยๆ หันกลับไปมองกำแพงที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง


    ความมืดยังคงดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า ในขณะที่เสียงเคลื่อนตัวของเขาวงกตก็เป็นเพียงแค่เสียงเดียวที่ดังอยู่ในความเงียบ


     “พวกนายจะกลับออกมาใช่ไหม?...


    คำถามที่เกิดขึ้นพร้อมกับคำอธิษฐาน ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องอธิษฐานกับพระเจ้าองค์ไหน


     

     



    End.


    ******************************************************************************

     



    เป็นฟิคที่เขียนขึ้นเพราะความติ่งล้วนๆ เลยล่ะค่ะ ฮาา

    หลังจากที่ไปดู Maze Runner มาสองรอบ ไอวิชก็ติ่งนิวท์มากกกกก

    ติ่งทั้งโทมัส (ที่เล่นเป็นนิวท์) ติ่งทั้งตัวบทขของนิวท์เอง แล้วยิ่งซื้อหนังสือมาอ่าน ก็ยิ่งรักนิวท์มากขึ้นเป็นเท่าตัวเลย ;;w;;

     

    ไอวิชว่านิวท์เป็นตัวละครที่มีมิติในตัวเองดีนะ

    มีทั้งความเข้มแข็ง มีทั้งความอ่อนโยน ฉลาดเฉลียว แต่ก็มีปมมีมุมสีเทาๆ อยู่ในใจ

    และนิวท์ที่ไอวิชเขียนออกมาในเรื่องนี้ ก็เป็นนิวท์ในแบบที่ไอวิชมองค่ะ :)

     

    เป็นฟิคที่ไม่เชิงหม่น แต่ก็ไม่ใช่ฟิคฟิลกู๊ดอย่างที่หลายๆ คนคงอยากจะอ่านมากกว่า

    แต่มันก็เป็นฟิคที่ไอวิชอยากจะนำเสนอให้เห็นอีกมุมหนึ่งมากกว่าค่ะ

    แล้วเรื่องต่อไปจะพยายามเขียนออกมาให้ดีกว่านี้นะคะ

     

    ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ

    ไอวิชรักคนอ่านน้า ^3^

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×