คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : แรกรัก?[แทคxเจย์]...ตอนที่ 5 อูยองกับเจย์บอม
แรกรัก?...ตอนที่ 5 อูยองกับเจย์บอม
จาง อูยองกำลังหงุดหงิด…
หงุดหงิดมาก หงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…
แค่เฉพาะปัญหาเรื่องน้องรหัสใครหว่า (?) ที่มันสุมผูกเป็นปมอย่างที่ไม่มีใครอาสามาแก้อยู่นี่ก็ทำให้เค้าปวดหัวจะแย่ แล้วยังไอ้ความรู้สึกสับสนต่างๆที่ประเดประดังเข้ามาในหัวนี่อีก
ถ้าถามว่าเค้าโกรธพี่เจย์มั๊ย? ตอบได้คำเดียวว่าโกรธมาก ทั้งโกรธทั้งน้อยใจทั้งผิดหวังเลยก็ว่าได้ แต่พอนึกถึงหน้าเปื้อนน้ำตากับแรงสะอื้นของคนตัวเล็กที่ถูกแทคยอนต่อว่าแล้วก็ทำให้อดสงสารไม่ได้ ความรู้สึกทุกอย่างมันตีกันในหัวไปหมดจนเค้าเองก็เริ่มที่จะไม่เข้าใจตัวเองแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะจัดการกับไอ้เรื่องพวกนี้ยังไงดี?
แล้วทั้งๆที่จาง อูยองมีเรื่องให้ต้องคิดมากมายขนาดนี้ ตอนนี้เค้ายังจะต้องมานั่งเครียดกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนี่อีก
เรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่เค้ากำลังถูกโรคจิตที่ไหนก็ไม่รู้แอบสะกดรอยตามอยู่นี่ไงล่ะ!
ความคิดที่ทำให้เส้นความอดทนของจาง อูยองขาดผึง ถอนหายใจแรงๆหนึ่งเฮือก ก่อนที่จะหยุดเดินแล้วพูดเสียงดังโดยที่ไม่ได้แม้แต่จะหันไปมองข้างหลังเลยซักนิด
“ไอ้โรคจิตที่แอบตามฉันอยู่น่ะ ถ้าไม่อยากตายเพราะถูกกระทืบ ก็ออกมาซะ!”
“…” ยังไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ราวกับว่าเค้ากำลังพูดอยู่กับอากาศ
“เดี๋ยวนี้!!” คราวนี้เสียงที่สั่งเป็นเสียงตะคอกที่น้อยครั้งนักที่คนอย่างจาง อูยองจะทำ น่ากลัวจนทำให้คนที่กำลังซ่อนตัวอยู่หลังถังขยะต้องค่อยๆโผล่หน้าออกมาทีละนิด ก่อนที่จะส่งคำถามด้วยเสียงที่เบาหวิว
“นี่นายโกรธฉันมากถึงกับขนาดต้องกระทืบให้ตายเลยหรอ?” แม้จะเป็นเสียงที่เบาหวิวจนแทบจะไม่ได้ยินแต่อูยองก็จำเสียงนี้ได้อย่างแม่นยำ ตกใจจนต้องรีบหันหลังกลับมามองเจ้าของเสียงให้แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง ก่อนที่จะนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น
“พี่เจย์?…” เสียงเรียกที่ทำให้คนที่พึ่งทำตัวเป็นโรคจิตต้องยกมือขึ้นลูบๆต้นคออย่างไม่รู้ว่าจะวางตัวยังไงดี ใบหน้าสวยได้เพียงแต่ส่งยิ้มแหยๆให้กับคนที่เป็นรุ่นน้องตรงหน้า
สนามเด็กเล่นในยามโพล้เพล้ของวันเงียบสงบไร้ซึ่งผู้คน หากแต่ก็ยังมีเด็กหนุ่มสองคนที่ยังอยู่ที่นี่ คนหนึ่งกำลังกอดอกยืนพิงเครื่องเล่นเด็กสายตามองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ส่วนอีกคนกำลังนั่งไกวชิงช้าเล่นเบาๆปากก็ขยับบ่นไปมาทั้งๆที่ยังก้มหน้างุดอย่างที่ไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้า
“ทำไมต้องมาคุยที่สนามเด็กเล่นนี่ด้วยก็ไม่รู้? ไม่รู้สึกว่ามันดูปัญญาอ่อนแปลกๆหรอไงนะ?” ส่งเสียงบ่นหงุงหงิงโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองก็กำลังนั่งชิงช้าของเด็กอยู่ อูยองหันหน้ามามองคนบ่นก่อนที่จะเอ่ยปากพูดบ้าง
“สนามเด็กเล่นนี่มันใกล้บ้านผมดี แต่ถ้าพี่คิดว่าสถานที่มันปัญญาอ่อนมากจนไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องคุยก็ได้เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรจะพูดอยู่แล้ว” พูดจบก็ทำท่าว่าจะเดินหนีไปจริงๆจนทำให้คนตัวเล็กกว่าต้องร้องห้ามเสียงหลง
“คุยสิ คุยๆ คุยก็คุยสิวะ บ่นนิดบ่นหน่อยก็ไม่ได้ ทำมาเป็นเดินหนี”
“งั้นจะคุยอะไรก็รีบๆคุย” อูยองจ้องคนเป็นรุ่นพี่นิ่ง รอคอยที่จะฟังอะไรก็ตามที่คนตรงหน้าจะพูดออกมา มันอาจจะเป็นคำด่า ข้อต่อรองหรือจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆเค้าคงไม่กล้าที่จะหวังว่ามันจะเป็นคำขอโทษ
“…” คนที่ควรจะพูดกลับไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนแทบจะเป็นเส้นตรง ใบหน้าสวยก็ยังคงก้มมองเท้าตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่อูยองก็ยังเลือกที่จะยืนอยู่อย่างสงบและเฝ้ารอต่อไป เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยังคงมีแต่ความเงียบและความอึดอัดที่ปรกคลุมบรรยากาศอยู่บางเบานอกจากเสียงร้องของนกที่กำลังบินกลับรังแล้ว ก็ไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากสวยนั้นเลย
“ผมว่าพี่เองก็คงไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกันสินะ งั้นก็ลาก่อนครับ” ในที่สุดจาง อูยองก็เป็นฝ่ายถอนหายใจน้อยๆทิ้งคำพูดไว้ก่อนที่จะหันหลังเดินออกกมา
“ฉันขอโทษ” คำพูดแผ่วเบาที่ออกมาจากปากของคนที่เป็นรุ่นพี่นั้น ทำให้เค้าต้องหยุดเท้าที่กำลังจะก้าวออกไป ส่งคำถามอย่างที่ไม่มั่นใจว่าตัวเองหูแว่วไปรึเปล่า ทั้งๆที่ยังยืนหันหลังให้อยู่อย่างนั้น
“เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะ?”
“ฉัน…ฉันบอกว่าขอโทษ”
“พี่คิดว่าแค่ขอโทษแล้วมันก็จบหรอ?” สายตาคมของคนพูดจ้องมองไปข้างหน้านิ่ง ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ “ไม่คิดว่ามันง่ายไปหน่อยหรอ? ความรู้สึกของคนเราน่ะมันเสียไปแล้วใช่ว่าจะเอากลับมาได้แค่ข้ามวันหรอกนะ”
“ฉันขอโทษ” คำขอโทษถูกเอ่ยออกมาอีกครั้งอย่างที่คนพูดรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ความรู้สึกผิดที่ไม่เคยมีมาก่อนกำลังกัดกร่อนหัวใจดวงน้อยของปาร์ค เจย์บอมจนเจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องไถ่โทษยังไงคนที่ยืนหันหลังให้เค้าอยู่นี่ถึงจะยอมยกโทษให้
“นี่พี่พูดเป็นอยู่แค่ประโยคเดียวรึไงกัน?” อูยองหันกลับมามองคนเป็นรุ่นพี่แล้วก็ต้องชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า ภาพของคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าก้มตามองเท้าตัวเองนิ่ง ใบหน้าซีดเผือกในขณะที่มือเล็กๆนั้นกำราวชิงช้าเอาไว้แน่นจนขึ้นข้อขาว มันทำให้คนมองต้องนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เหตุการณ์ที่ทำให้เค้าได้เห็นน้ำตาของคนตรงหน้าเป็นครั้งแรก
คนอย่างปาร์ค เจย์บอมไม่เคยต้องขอโทษใคร แล้วถ้าคนแบบนั้นกำลังพูดขอโทษเค้าอยู่มันจะมีเหตุผลอะไรที่จาง อูยองจะต้องทำตัวเป็นคนใจดำจนยกโทษให้ไม่ได้?
แล้วคนใจไม่แข็งจริงก็ต้องใจอ่อนจนได้ อูยองถอนหายใจน้อยๆแล้วค่อยๆเดินเข้าไปใกล้รุ่นพี่ตัวเล็กที่นั่งอยู่บนชิงช้าก่อนที่จะนั่งลงให้อยู่ในระดับความสูงเดียวกันสายตาคมมองใบหน้าสวยนั้นนิ่ง
“ถ้าขอโทษมันก็ต้องมีการไถ่โทษ แล้วพี่จะไถ่โทษยังไงครับพี่เจย์?” น้ำเสียงที่ถามนั้นอ่อนโยนจนทำให้คนถูกถามต้องแปลกใจ ใบหน้าหมวยเงยขึ้นมาสบตากับคนเป็นรุ่นน้องอย่างจับต้นชนปรายไม่ถูก
“ฉันจะกลับไปเป็นพี่รหัสนายเหมือนเดิมดีมั๊ย?”
“นั่นมันเป็นสิ่งที่พี่ต้องทำอยู่แล้ว ใช่การไถ่โทษที่ไหนกันล่ะ? ก็ให้ถือซะว่าพี่กับพี่ยูนมีผมกับแทคเป็นน้องรหัสทั้งคู่ก็แล้วกัน”
“แล้วนายจะให้ฉันทำอะไรล่ะ ถึงจะเป็นการไถ่โทษได้อย่างที่นายว่า?”
“อืมมม นั่นสินะ” จาง อูยองแย้มรอยยิ้มละไมมองหน้าคนตัวเล็กที่คิ้วกำลังขมวดกันแทบจะเป็นปม ภาพน่ารักที่ทำให้เค้าต้องยกมือขึ้นจิ้มไปที่ระหว่างคิ้วของคนหน้าหมวยแล้วค่อยๆรีดให้คิ้วที่กำลังขมวดนั้นคลายออก
“ยังไม่ต้องคิดมากก็ได้ฮะ เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ติดหนี้ผมอยู่ก็แล้วกัน โอเคมั๊ย?” คนเป็นรุ่นพี่รีบพยักหน้ารับเร็วๆอย่างที่กลัวไอ้เด็กหน้าซาลาเปาตรงหน้านี่มันจะกลับมาทำเสียงแข็งใส่เค้าอีก
“งั้นก็หมายความว่าฉันก็ต้องใช้หนี้ให้นายสินะ”
“ฮะ”
“แล้วต้องใช้เมื่อไหร่? ยังไง?”
“อืมม อันนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดซะด้วยสิ เอาเป็นว่าถ้าผมคิดออกเมื่อไหร่แล้วจะบอกพี่อีกทีแล้วกันนะ”
“แล้ว…แล้ว…”
“แล้ว?”
“แล้วนายหายโกรธฉันแล้วใช่มั๊ยอ่ะ?” ถามจบก็กลับไปก้มหน้าก้มตาอีกครั้งคราวนี้ใบหน้าสวยเริ่มขึ้นสีระเรื่ออย่างหน้ารัก จนทำให้คนมองอดยิ้มออกมาอีกครั้งไม่ได้ ก่อนที่จะยื่นนิ้วก้อยข้างขวาของตนส่งไปให้รุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้า
“งั้นเรามาดีกันนะครับ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยของคนเป็นรุ่นพี่ มือเล็กค่อยๆยื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวกับนิ้วของรุ่นน้องแก้มย้วยที่ยื่นส่งมา
“ดีกันจริงๆนะ นายไม่โกรธฉันแล้วนะ ยกโทษให้ฉันจริงๆแล้วใช่มั๊ย?”
“ก็แล้วใครจะกล้าโกรธปาร์ค เจย์บอมกันละครับ?”
“จาง อูยอง นายนี่มันเป็นคนดีที่สุดในโลกเล้ย” แล้วก็ดีใจจนลืมตัวกระโดดกอดคนตรงหน้าแน่น โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่ถูกกอดอยู่นั้นเค้าได้อึ้งจนช็อคไปแล้วเรียบร้อย
……………………………………………………………………..
อืมมม ผ่านไปสองตอนโดยที่นายอ๊ค แทคยอนไม่ได้โผล่หน้ามาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่ต้องห่วงนะคะทุกคน อิแมวมันเป็นพระเอกนี่เนอะ รับรองค่ะว่าตอนหน้าอิแมวออกแน่ๆ 555555
ปล.ที่ไอวิชหายยหน้าหายตาไปก็เพราะการสอบ และ…นัทซินแห่ง singular ค่ะ!! ฮ่าๆๆ ^^
ตอนนี้คลั่งกับคู่นี้มาก เลยมัวแต่ผลิตฟิคคู่นี้จนไม่มีเวลาเขียนฟิคหมวยเลย TT.TT
ถ้าใครสนใจอยากลองอ่านฟิคคู่นี้ของไอวิชก็เข้าไปแวะเวียนกันได้นะคะ
ที่นี่เล้ยยย >>>http://writer.dek-d.com/i-wish/story/view.php?id=707906
ความคิดเห็น