คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Shot Fic Hiddlesbatch : Your Question and My answer. #ซีรี่ส์คุณชายทอม
Your Question and My answer.
Couple : Benedict x Tom, Hiddlesbatch
Rate : PG
Happy Birthday to Tom Hiddleston!!!
ปัง!
“วู้วววว!”
เสียงพลุกระดาษ เสียงกรี๊ด เสียงเป่าปาก เสียงเฮจากวัยรุ่นหลายสิบชีวิตดังปนเปไปกับเสียงเพลงตึงตังที่ฟังไม่ได้สรรพ แสงสีจากไฟที่เต้นระริกส่งให้บรรยากาศในปาร์ตี้เร่าร้อนยิ่งดูคึกคักมากขึ้นไปอีก ทอม ฮิดเดิลส์ตัน เจ้าของวันเกิดกำลังเต้นไปตามจังหวะของดนตรีท่ามกลางวงล้อมของเหล่าคุณหนูไฮโซมากหน้าหลายตา มือข้างหนึ่งกอดเกี่ยวอยู่ที่เอวของหญิงสาวในชุดรัดรูปสีดำสนิท ในขณะที่มืออีกข้างก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอึกๆ เสียงใสๆ กำลังหัวเราะร่าราวกับไม่ต้องการความสุขอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ไม่ต้องการความสุขอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว…
ความคิดที่ทำให้คนที่ยืนอยู่นอกวงไกลๆ ต้องยกมือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางที่บ่งบอกถึงความเครียด ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะยังคงนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา แต่นัยน์ตาสีประหลาดกลับกำลังจดจ้องอยู่ที่ร่างบางๆ ของคนเป็นเจ้านายด้วยความเป็นห่วง
เจ้านาย…
ใช่…
คุณชายฮิดเดิลส์ตัน เจ้านายและเจ้าชีวิตเพียงคนเดียวของเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์…
ที่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิดเดิลส์ตัน ตระกูลนักธุรกิจรายสำคัญของอังกฤษที่สืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่า ตระกูลที่แทบจะเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของอังกฤษด้วยซ้ำ และมันก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเบเนดิกต์ ที่ดันเกิดมาในครอบครัวที่ต้องทำหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดตระกูลนี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นขุนนาง ทวดของเขาเคยรับใช้ทวดของคุณชาย พ่อของเขาตอนนี้ก็ยังคงเป็นมือขวาของนายใหญ่แห่งตระกูลฮิดเดิลส์ตัน และตัวเขาเองก็กำลังอยู่ในฐานะของคนรับใช้คนสนิทของคุณชายฮิดเดิลส์ตันเช่นกัน
หน้าที่… ที่สืบทอดกันมาตามสายเลือดในครอบครัวแบบรุ่นต่อรุ่น
คนรับใช้คนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน เรียนด้วยกัน แม้แต่ห้องนอนก็ยังอยู่ติดกันเลยด้วยซ้ำ หน้าที่ของเขาคือการรับใช้ใกล้ชิดคุณชายฮิดเดิลส์ตัน คอยรับคำสั่ง คอยดูแลเรื่องเรียน เรื่องงาน อาหารการกิน หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวด้วยความซื่อสัตย์ ไม่มีเรื่องใดของ โธมัส ฮิดเดิลส์ตัน ที่เบเนดิกต์จะไม่รู้ และแน่นอนว่าต้องไม่มีใครในโลกใบนี้ที่จะรู้จักคุณชายได้ดีไปกว่าเขา
และเพราะว่ารู้จักดี เขาถึงต้องมายืนเป็นห่วงอยู่แบบนี้…
ความคิดที่ทำให้เบเนดิกต์ต้องถอนหายใจบางเบาอย่างติดจะอ่อนใจ แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็มีเพียงแค่การยืนรอรับคำสั่งอยู่ตรงนี้ ได้แต่ยืนมองคนคนนั้นอยู่ไกลๆ
ได้แค่ยืนอยู่ในที่ของตัวเอง…
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เบน นายเคยนึกเบื่อฉันบ้างไหม?”
คำถามเบาหวิวที่ที่ทำให้เบเนดิกต์ต้องชะงักไป ดวงตาสีประหลาดทอดมองไปยังแผ่นหลังของคนถามที่กำลังนั่งหย่อนขาอยู่บนระเบียงของศาลากลางสวน ท่ามกลางความืดมิดในคฤหาสน์ฮิดเดิลส์ตัน และเพราะว่าคนพูดกำลังหันหลังให้เขาอยู่ มันเลยทำให้เขาไม่สามารถที่จะมองเห็นว่าดวงตาสีเขียวคู่นั้นกำลังฉายประกายแบบไหนอยู่…
เบเนดิกต์ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะวางโค้ชที่ถืออยู่ในมือคลุมลงบนไหล่บางๆ ของคนถาม รู้สึกขอบคุณตัวเองที่หยิบมันติดมือมาด้วยก่อนที่เขาจะถูกคุณชายผู้เอาแต่ใจลากให้ออกมาจากงานเลี้ยงอย่างไม่คิดจะรับผิดชอบแขกเรื่อนับสิบที่ยังคงสนุกแบบไร้สติอยู่ข้างในเลยซักนิด
“ทำไมนายไม่ตอบล่ะ?”
คำถามย้ำที่ทำให้เบนต้องลอบถอนหายใจเบา แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวไปไหนยังไม่ทันได้เอ่ยปากตอบอะไรออกไปด้วยซ้ำ ร่างทั้งร่างก็ต้องชะงักนิ่ง เมื่ออยู่ๆ คนเป็นนายก็ทิ้งแผ่นหลังมาพิงกับอกของเขาอย่างไม่คิดจะขออนุญาตกันซักนิด
ถ้าไม่เกรงใจกัน อย่างน้อยก็ควรจะกลัวตัวเองหงายหลังตกระเบียงบ้างนะ
เกิดถ้าเขาไม่มายืนซะชิดตัวแบบนี้จะทำยังไง?
หรือถ้าเกิดอยู่ๆ เขาผละตัวออกห่าง จะไม่ตกลงมาหัวฟาดพื้นไปเลยเหรอ?
ทำอะไรไม่รู้จักคิด จะผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปีก็ไม่เคยจะระวังตัว…
เพราะแบบนี้แหละเขาถึงไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตาไปไหนน่ะ…
ความคิดที่ทำให้ต้องส่ายหัวน้อยๆ แต่สายตาที่ทอดมองเสี้ยวหน้าของคนที่ใช้ตัวเองเป็นพนักพิงอยู่กลับมีประกายอ่อนโยนอย่างที่เจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้ สุดท้ายก็ต้องยอมยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่กล้าขยับไปไหน
“สรุปว่านายเบื่อฉันมากจนไม่กล้าตอบออกมาเป็นคำพูดเลยสินะ?”
น้ำเสียงเบาหวิวของคนเป็นนาย เรียกให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ ต้องหลุดยิ้มขำ ก่อนที่เสียงทุ้มๆ จะเอ่ยตอบคำถามราบเรียบ
“คุณชายก็รู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์คิดแบบนั้น”
“นายมีสิทธิ์คิดแบบนั้น” คำตอบที่มาพร้อมกับดวงตาสีเขียวๆ ที่เงยขึ้นมามองหน้าเขา… ดวงตาที่มันฉายประกายเหงาๆ ที่น้อยคนนักจะได้เห็นจากดวงตาคู่นี้ “การที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นคนสนิทของฉัน มันไม่ได้แปลว่าฉันหรือใครจะไปมีสิทธิ์ห้ามความคิด ความรู้สึกของนายได้”
“…”
“อันที่จริงไอ้ตำแหน่งบ้าบอคอแตกนี่มันควรจะถูกยกเลิกไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เค้าเลิกทาสกันไปตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ไอ้ตระกูลนี้ก็ยังจะเอาปลอกคอมาสวมให้คนอยู่ได้”
“ไอ้ตระกูลนี้ที่ว่าน่ะ มันตระกูลของคุณชายเองนะ”
“แล้วนายคิดว่าฉันหมายถึงตระกูลสตาร์ครึไงล่ะ?” คนพูดยักไหล่ไม่แคร์ ให้คนฟังต้องยกยิ้มที่มุมปากอย่างติดจะเอ็นดู
“ผมก็เห็นว่าคุณชายออกจะมีความสุขกับการใช้ผมให้ทำนั่นโน่นนี่ดีนี่ครับ”
คำพูดหยิกแกมกัดที่ทำให้คนเป็นคุณชายต้องหลุดหัวเราะขำ เสียงหัวเราะใสๆ ที่เบเนดิกต์ชอบที่จะฟังมัน
อย่างน้อยมันก็ฟังดูเพราะมากกว่าน้ำเสียงเหงาๆ ที่คนตรงหน้าใช้ถามคำถามนั้นกับเขา…
“ฮ่าๆ ก็เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงได้ถามว่านายไม่รู้สึกเบื่อฉันบ้างเลยเหรอ?”
ถามอะไรไร้สาระ
“หรือถ้าไม่เบื่อฉัน อย่างน้อยมันก็ต้องเบื่อกับไอ้หน้าที่งี่เง่านี่บ้างล่ะน่า”
นี่ก็ไร้สาระ…
“เอางี้ไหม ถ้านายเบื่อ ให้ฉันช่วยนายหนีออกนอกประเทศดีไหม?”
นี่ยิ่งไร้สาระเข้าไปใหญ่!
“หรือว่านายอยาก…”
“คุณชาย” น้ำเสียงเรียกถูกกดให้ต่ำอย่างที่บอกถึงความจริงจัง เป็นคำดุกลายๆ อย่างที่หวังว่าคนพูดมากจะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่ แล้วมันก็เป็นเรื่องไร้สาระที่เขาไม่ชอบมากๆ เอาซะด้วย “คุณชายคงเมาแล้ว บางทีเราควรจะกลับเข้าไปข้างในคฤหาสน์”
น้ำเสียงดุๆ กับประโยคที่คล้ายกับคำสั่งที่ทำให้คนเป็นคุณชายต้องหัวเราะเบาๆ ดวงตาสีเขียวเบือนกลับไปมองท้องฟ้าสีหม่นๆ ที่ไม่มีแม้แต่แสงดาว ก่อนที่รอยยิ้มบางๆ จะค่อยๆ ระบายบนใบหน้าติดจะสวย
“แม้แต่นายก็ยังไม่คิดจะฟังฉันพูดบ้าง…”
“…”
“ฉันนึกว่ามีแต่พ่อกับแม่ซะอีกที่ไม่เคยคิดจะฟังฉันน่ะ” เสียงของคนพูดเบาหวิวราวกับกำลังพูดอยู่กับตัวเองมากกว่าพูดให้ใครอีกคนฟัง
“คุณชาย…”
“รู้อะไรไหมเบน รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้ถามคำถามไร้สาระนี่กับนาย แน่นอนว่าฉันรู้ว่านายคิดว่ามันไร้สาระ ฮ่าๆ”
“…”
“…”
ความเงียบเข้ามาทำหน้าที่คั่นบทสนทนาชั่วครู่ แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นเมื่อคนเป็นนายทิ้งตัวให้พิงกับแผ่นอกของคนข้างหลังมากขึ้นอีกนิด แล้วเริ่มต้นพูดเรื่อยเปื่อยราวกับไม่ได้คิดอะไร
“ฉันก็แค่ไม่อยากเป็นเหมือนพ่อกับแม่น่ะ”
“…”
“ฉันไม่อยากประเคนทุกสิ่งให้กับใครบางคนด้วยเงิน เงิน เงิน แล้วก็เงิน โดยที่ไม่ถามซักนิดว่าเขาต้องการมันไหม?”
“…”
“ฉันไม่อยากเป็นคนประเภทบังคับให้คนอื่นทำตามคำสั่งโดยที่ไม่คิดว่าเขาจะเต็มใจทำมันรึเปล่า”
“…”
“ฉันไม่อยากให้นายต้องมาเกลียดฉัน เหมือนที่ฉันเกลียดการกระทำของพ่อกับแม่…” ถ้อยคำแผ่วเบาที่ถูกพูดออกมาโดยที่คนพูดไม่ได้หันมามองหน้าของคนฟังเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เสียงเพราะๆ จะเอ่ยคำพูดอีกประโยค ให้หัวใจของคนฟังต้องสะท้าน “แม้แต่วันเกิดอายุครบ 20 ปีของฉัน เขายังไม่ถามฉันซักคำว่าอยากให้เขามาบ้างรึเปล่า”
“…”
“แต่ก็นั่นแหละ ต่อให้เป็นปีที่ 20 ปีที่ 25 หรือปีไหนๆ เขาก็ไม่เคยคิดจะมาอยู่แล้ว ต่อให้ฉันบอกว่าอยากให้พวกเขามาก็เถอะ”
แล้วความเงียบก็ค่อยๆ โรยตัวลงช้าๆ เมื่อคนที่พูดอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ต้นหยุดพูดไปแล้ว เหลือไว้ก็แต่ความเหงาบางเบาในคำพูดนั้นที่ยังคงตกค้างอยู่ในบรรยากาศ ให้เบเนดิกต์ต้องถอนหายใจแผ่วเบาก่อนจะขยับเข้าไปใกล้คนเป็นนายอีกนิด…
มือใหญ่วางลงบนบ่าของคนตัวเล็กกว่าแผ่วเบา ก่อนที่มืออีกข้างจะยกขึ้นปิดดวงตาสีเขียวนั้นอย่างถือวิสาสะ
“เบน…”
“ชู่ว…”
เบเนดิกต์ระบายยิ้มน้อยๆ ในยามที่ก้มลงกระซิบข้างๆ หูของคนที่ยังคงถูกปิดตาอยู่ เงียบอยู่อย่างนั้นซักพัก ก่อนที่เสียงทุ้มๆ จะเอ่ยคำพูดที่ดังพอแค่ให้ได้ยินกันสองคน
“ตอนนี้คุณชายต้องเป็นฝ่ายฟังคำตอบของผมนะ”
คนเป็นคุณชายได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น
“สมมติว่าหลับตาลงตรงนี้ ตัดหน้าที่ ตัดฐานะ ตัดตำแหน่ง ตัดคนอื่นทุกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ออกไป ให้เหลือแค่คุณชายกับผม ให้เหลือแค่ ทอม ฮิดเดิลส์ตัน กับ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์… โอเคมั๊ย?”
“อืม” พยักหน้ารับรู้ให้เบเนดิกต์ต้องยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด
“โอเค งั้นตอนนี้ผมจะตอบคำถามในฐานะของเบเนดิกต์นะ”
“อ่าฮะ”
คนที่ต้องตอบคำถามยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น ดวงตายังคงทอดมองคนที่พิงอยู่กับอกของตนด้วยแววจริงใจ มือใหญ่ที่วางอบู่บนไหล่บางๆ นั้นออกแรงบีบน้อยๆ ราวกับพยายามจะบอกถึงความจริงจังที่มันอยู่ในคำพูดประโยคถัดมา…
“ฉันไม่มีวันเบื่อนาย…”
“…”
“ต่อให้ไม่ใช่หน้าที่ ต่อให้ไม่มีใครบังคับให้ทำ ฉันก็จะยังคงเต็มใจที่จะทำมัน เต็มใจที่จะทำทุกอย่างให้นาย เต็มใจที่จะดูแลนาย ทอม…”
คำตอบที่ทำให้ทอมต้องชะงักค้าง ราวกับสติที่มีอยู่หายวับไปกับตา แม้แต่ตอนที่คนพูดค่อยๆ ผละใบหน้าออกห่าง หรือแม้แต่ตอนที่มือใหญ่ๆ ที่ปิดดวงตาของเขาอยู่นั้นจะค่อยๆ ละออก ทอมก็ยังคงนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น
ไม่ใช่เพราะคำตอบที่ได้รับจะเหนือความคาดหมายอะไร
แต่เป็นเพราะประโยคที่คนสนิทของเขาใช้พูดต่างหาก… เพราะคำพูดยาวๆ ที่น้อยครั้งจะได้ยิน เพราะสรรพนามที่ไม่เคยถูกนำมาใช้เรียก เพราะการกระทำกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับมัน
เพราะสิ่งเหล่านี้ที่มันทำให้ โธมัส ฮิดเดิลส์ตัน รู้สึกว่าราวกับมีใครซักคนเอาค้อนมาทุบลงบนหัว ก่อนที่ความร้อนจะพุ่งปรี๊ดบนใบหน้าจนทำอะไรไม่ถูก…
“คุณชายอาจจะคิดว่าตัวเองไม่มีค่าสำหรับใคร แต่จำไว้ว่าคุณชายมีค่าสำหรับผมเสมอ”
“…”
“และมันก็ไม่เคยมีใครบังคับให้ผมคิดแบบนั้นด้วย”
“…”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับ… คุณชายของผม”
End.
******************************************************************************
มันเป็นฟิคอารมณ์คุณชายที่เคยบอกว่าอยากเขียนให้เป็นเบเนฮิค่ะ ;/////;)
นิสัยชายทอมในฟิคก็ไม่ได้ต่างจากนิสัยชายทองจริงๆ ซักเท่าใดนัก (มั้งนะ)
แต่นิสัยของชายเบนนี่สิ… นิสัยใคร? มาจากไหน? มาได้ยังไง? - -‘
ไม่รู้สิคะ แค่คิดว่าอยากเห็นเบเนฮิในโมเม้นท์แบบนี้อ่ะ
เอาเป็นว่าก็มองข้ามนิสัยพี่เบนที่ไม่เหมือนตัวจริงไปก็แล้วกันเนอะ (ง่ายๆ อย่างนี้เลยเรอะ?!)
เขียนคู่ที่ชาวบ้านเค้าไม่ชิพแล้วยังจะเขียนนิสัยออกมาไม่ตรงกับคาแร็คเตอร์เค้าอีก…
แงงงงงง……. เค้าขอโต๊ด ไอวิชขอโต๊ดดดดดดด TT^TT
เอาเป็นว่าก็อ่านฟิคเรื่องนี้แบบข้ามๆ เมินๆ ผ่านๆ มันไปก็แล้วกันนะคะ ฮรึกกกก…
ไว้พบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ (สัญญาว่าจะมาแบบปกติ ไม่ใช่คู่ประหลาด)
ไอวิชรักคนอ่านน้าา ;3;
ปล.หรือใครที่อ่านแล้วนึกภาพตามไม่ออก จะจิ้นคู่นี้เป็นจาร์วิสเวอร์ชั่นคน (?) กับ โทนี่ สตาร์ค (???) แทนก็ได้นะคะ…นะคะ……..
ความคิดเห็น