คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : แรกรัก?[แทคxเจย์]...ตอนที่ 4 ยูนกับเจย์
แรกรัก?...ตอนที่ 4 ยูนกับเจย์
เสียงสะอื้นดังลอดออกมาจากประตูห้องนอนของคนตัวเล็กเร่งให้ยูนต้องรีบสาวเท้าเร็วขึ้นอีก มือหนาเปิดประตูเข้าไปข้างในโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะขออนุญาตเจ้าของห้องที่กำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียง ภาพที่นายยูนได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปนั่นข้างๆเพื่อนรัก ก่อนที่จะยื่นมือออกไปลูบหัวทุยนั่นเบาๆ เอ่ยเสียงถามอย่างอ่อนโยน
“เป็นอะไร?”
“….” ไร้ซึ่งคำพูดใดๆตอบกลับจะมีก็เพียงแค่เสียงสะอื้นที่ดังจากคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับหมอนใบใหญ่เท่านั้น เสียงสะอื้นที่ยิ่งเจ้าตัวพยายามฝืนกลั้นไว้มากแค่ไหนมันก็ยิ่งกลับดังเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
“ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนดีมั๊ย?”
“….” คนเสียใจก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบรับจนยูนต้องถอนหายใจอีกรอบ
“เจย์” ส่งเสียงเรียกอีกครั้ง คราวนี้คนถูกเรียกค่อยลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะโผตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเพื่อนแล้วปล่อยโฮอีกครั้ง เสียงสะอื้นดังอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานโดยที่อีกคนทำได้แต่เพียงแค่เอ่ยคำพูดปลอบโยนเท่านั้น
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” คนร้องไห้ยังคงร้องต่อไปเรื่อยๆ ร้องจนตัวสั่น ร้องจนเหนื่อยหอบ ก่อนที่จะค่อยๆเบาลง เบาลงจนสุดท้ายก็เหลือเพียงความเงียบที่โรยตัวลงบางเบารอบๆคนทั้งคู่ ยูนยังคงไม่คลายอ้อมกอดออกจากตัวเพื่อนเพราะเค้ารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่สะเทือนใจจริงๆคนคนนี้จะไม่มีวันร้องไห้เด็ดขาด ไม่เคยมีใครหรืออะไรที่ทำให้ปาร์ค เจย์บอมร้องไห้ได้ แต่ถ้าปาร์ค เจย์บอมได้ร้องไห้ออกมาแล้วก็อย่าได้หวังว่าคนคนนี้จะหยุดร้องได้ง่ายๆเช่นกัน
ยูนจับหน้าเพื่อนตัวเล็กให้ค่อยๆเงยขึ้นมาสบตาด้วย ขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นว่าตาเฉี่ยวคู่นั้นบวมเป่งอย่างที่บอกว่ามันคงผ่านการผลิตน้ำตามามาก นี่คงร้องไห้ข้ามวันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วสินะ
“ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไปแล้วค่อยออกมาคุยกัน ฉันลงไปรอข้างล่างนะ”
“แต่…”
“นี่เป็นคำสั่ง” คำสั่งที่สั่งได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะเพื่อนหน้าหมวยของเค้าพยักหน้ารับน้อยๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างว่าง่าย เออ ว่าง่ายๆกับเค้าก็เป็นเหมือนกันนี่
เสียงคนตัวเล็กเดินลงบันไดมาข้างล่างทำให้ยูนขยับตัวหยิบรีโมทแล้วกดปิดทีวีที่เปิดดูระหว่างที่รอคนตัวเล็กอาบน้ำเสร็จ เจย์เดินมานั่งลงบนที่นั่งข้างๆ แต่ยังคงเงียบไม่เอ่ยคำพูดใดๆออกมา ตาเล็กๆนั่นยังติดจะแดงๆในขณะที่ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่นก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ภาพที่ทำให้ยอดชายนายยูนขยับรอยยิ้มมองพร้อมๆกับการยักคิ้วกวนๆส่งให้
“เป็นไง ร้องไห้สนุกดีมั๊ย?”
“สนุกบ้านแป๊ะแกน่ะสิ เหนื่อยจะตายห่า”
“เอ๋า รู้ว่าเหนื่อยแล้วร้องทำไมวะ?” คำถามที่ทำเอาคนตัวเล็กส่งสายตาขวางๆให้ก่อนที่จะถอนหายใจอีกเฮือก
“นั่นสินะ แต่ถ้าเลือกได้ใครที่ไหนมันจะไปโง่นั่งร้องไห้อยู่ได้ตั้งนานสองนานวะ?”
“ก็แกไง เฮ้ย อย่านะเว้ยอย่าแม้แต่จะคิดยื่นเท้าออกมาเลยนะ ขาแกสั้นขนาดนี้ยังไงก็เตะฉันไม่ถึงหรอก” คำพูดกวนบาทาที่ส่งผลให้คนพูดเกือบจะต้องโดนบาทาเข้าให้จริงๆจนต้องพูดดักไว้ก่อนเมื่อเห็นว่าคนหน้าหมวยมันเริ่มจะกลับมาเหวี่ยงได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
“ไอ้ยูนปากหมา!”
“ฮ่าๆๆ ก็จะไปรู้หรอ เห็นแกร้องซะข้ามวันแบบนั้น ก็นึกว่าจะพิศวาสการร้องไห้นี่หว่า นี่เอาจริงๆนะฉันเห็นแกร้องไห้ครั้งสุดท้ายก็ตอนอยู่ป.6 เพราะไอ้น้องเน่าแมวที่แกเลี้ยงไว้ตายไปน่ะ หลังจากนั้นมาฉันก็ไม่เคยเห็นน้ำตาแกซักหยด ไอ้อ๊คดำนั่นมันทำได้นี่สุดยอดจริงๆว่ะ ฮ่าๆๆๆ” เมื่อพูดถึงชื่อคนต้นเรื่องก็ทำให้คนตัวเล็กที่พึ่งจะอารมณ์ดีขึ้นกลับมานั่งเงียบทำหน้าหงอยๆจนยูนต้องพูดดักทางไว้อีกรอบ
“เฮ้ย! ไอ้หมวยหยุดเลยนะโว้ย ถ้าแกกำลังคิดจะเริ่มบทโศกอีกรอบละก็ หยุดเดี๋ยวนี้เลย คราวนี้ฉันขี้เกียจปลอบแล้ว ไม่ปลอบแล้วนะเว้ย” คำดักคอที่เล่นเอาคนจะเริ่มต้นปล่อยโฮอีกรอบต้องหยุดชะงักแล้วหันมาส่งสายตาเหวี่ยงๆใส่ไอ้คนพูดแทน
“ไม่ปลอบก็ไม่ต้องปลอบโว้ยยย ปลอบคนได้ห่วยแตกแบบแก ปลอบไปก็มีแต่จะยิ่งทำให้เครียดเข้าไปใหญ่” คำด่าที่ไม่ได้ทำให้คนถูกด่าสำนึกเลยซักนิดกลับยิ่งเรียกเสียงหัวเราะกวนประสาทให้คนด่าได้เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ ก่อนที่คนหน้าหมวยจะถอนหายใจอีกหนึ่งเฮือก ก็คงจะมีแต่นายยูนคนนี้เท่านั้นละมั้งที่รู้ว่าควรจะพูดยังไงปาร์ค เจย์บอมถึงจะกลับมาเหวี่ยงได้เหมือนเดิม นี่เค้าควรจะขอบคุณมันใช่มั๊ยเนี่ย?
“ทำมาเป็นถอนหายใจเฮือกๆ สรุปว่าไงไอ้โรครักคุดจนคุดรักของแกเนี่ยแกจะเอาไงกับมัน?”
“นั่นสินะ” ตอบได้แค่นั้นแล้วก็เอนตัวพิงพนักโซฟาเปลือกตาบางค่อยๆปิดลงอย่างอ่อนล้า “ฉันคงจะนิสัยไม่ดีมากสินะยูน?”
“…” ความงียบเป็นคำตอบจากเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ รอยยิ้มบางค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหมวยทั้งๆที่ยังคงหลับตาไว้อย่างนั้น ก่อนที่ปากสวยจะขยับพูดขึ้นอีกครั้ง
“แปลกนะ อยู่มาจนอายุยี่สิบปีแล้วฉันก็พึ่งรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหนก็เมื่อวานเอง หึหึ”
“ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นซักหน่อย”
“หือ?” คำตอบที่ทำให้เจย์ถึงกับต้องหันหน้าไปมองคนพูด
“ฉันพูดจริง ถึงแกจะนิสัยแย่ไปหน่อยอันนี้ก็เถียงไม่ได้อ่ะนะ แต่ไอ้นิสัยแย่ๆของแกมันก็ไม่เคยไปทำให้ใครที่ไหนเค้าเดือดร้อนนี่หว่า ถ้าแกเป็นคนไม่ดีจริงฉันจะทนมานั่งคบอยู่กับแกเป็นสิบปีแบบนี้อยู่ทำไมกันวะ” รอยยิ้มกวนๆถูกส่งให้เพื่อนหน้าหมวยข้างๆก่อนที่จะพูดประโยคสุดท้าย ประโยคที่ทำให้เจย์ยิ้มออกมาได้เช่นกัน
“แกมันก็แค่เอาแต่ใจมากว่ามาตรฐานปกติของชาวบ้านเค้าไปหน่อยก็แค่นั้นเอง”
“สาบานได้ว่านี่แกปลอบฉันอยู่ใช่มั๊ย?”
“ฮ่าๆๆ อันนี้ก็แล้วแต่จะคิดนะ”
“เฮ้ออ ไม่เคยทำให้ใครที่ไหนเค้าเดือดร้อน จนกระทั่งเมื่อวานสินะ” พอนึกถึงหน้าของรุ่นน้องแก้มย้วยแล้วก็ทำให้ความรู้สึกผิดค่อยๆก่อตัวขึ้นมาทีละนิด
“อืมม อันนั้นมันก็ถูก”
“งั้นสิ่งที่ฉันควรจะทำก็คือต้องไปขอโทษอูยองมันจริงๆสินะ?” ยูนส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับคนเป็นเพื่อนก่อนที่จะส่งคำถามกวนบาทาไปให้อีกครั้ง
“แต่คนอย่างปาร์ค เจย์บอมไม่เคยต้องขอโทษใครไม่ใช่หรอ?”
“วะไอ้นี่ ไม่เคยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องมีครั้งแรกนี่หว่า? แต่ทำไมต้องเป็นไอ้เด็กด้งนั่นด้วยวะ แม่ง แล้วขอโทษนี่เค้าทำกันยังไงวะเนี่ย?” คำถามที่เรียกได้แต่เสียงหัวเราะกวนประสาทจากยอดชายนายยูนไร้ซึ่งคำตอบใดๆทั้งสิ้น เพราะคนที่ควรจะตอบบัดนี้ได้ลงไปนอนขำชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เออ หัวเราะมันเข้าไป อย่าหยุดนะแก ถ้าหยุดเมื่อไหร่รับรองแกได้เจอเท้างามๆของฉันแน่”
“เออๆไม่หัวเราะก็ไม่หัวเราะ” พยายามหยุดตัวเองให้เลิกหัวเราะเพราะกลัวไอ้คนหน้าหมวยมันจะเหวี่ยงจริง แต่ก่อนที่จะหลุดออกมาอีกครั้งยูนจึงต้องดึงตัวเองให้เข้าสู่เรื่องจริงจัง
“แล้วสรุปแกจะเอาไงต่อไป?”
“เอาไงต่อไป? ก็บอกแล้วไงวะว่าจะไปขอโทษได้เด็กหน้าซาลาเปานั่นไง แต่จะใช้วิธีไหนนี่สิมันอีกเรื่อง”
“ฉันหมายถึงเรื่องนั้นที่ไหนเล่า ฉันหมายถึงเรื่องไอ้เด็กอีกคนต่างหาก แกจะเอายังไงต่อไปกับอ๊ค แทคยอน?” คำถามที่ไม่มีคำตอบจากคนที่ควรตอบ ปาร์ค เจย์บอมเม้มปากแน่นก่อนที่จะกลับไปมีอาการเหม่ออีกครั้ง
“ฉันว่าไอ้อาการแกแบบนี้ แกยิ่งควรจะไปคุยกับหมอนั่นให้รู้เรื่อง รีบเคลียร์กันให้จบๆไปซะจะได้เข้าใจกันซักที คนลุ้นมันเหนื่อยนะเว้ย”
“จะให้คุยอะไรอีกล่ะ ก็เค้าเกลียดฉันไปเรียบร้อยแล้วนี่” พูดแล้วก็ทำท่าจะกลับไปปล่อยโฮอีกรอบ
“นี่แกอย่ามาทำตัวเป็นนางเอกเล่นบทโศกแถวนี้นะ ฉันไม่ใช่อ๊ค แทคยอนไม่มีวันหลงเสน่ห์แกหรอก”
“ไอ้…” แต่ก่อนที่คนถูกตัดบทจะเริ่มต้นรายการด่า มือใหญ่ของคนเป็นเพื่อนซี้ก็ยกขึ้นมาจับหัวทุยของคนตัวเล็กซะก่อน รอยยิ้มละไมถูกส่งมาให้อีกครั้ง
“ไม่มีใครเกลียดปาร์ค เจย์บอมได้ลงคอหรอกเชื่อฉันสิ ยิ่งถ้าคนคนนั้นคืออ๊ค แทคยอนด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางเข้าไปใหญ่”
“จริงหรอ?”
“ฉันเคยโกหกแกรึเปล่าล่ะ?”
“บ่อยมาก”
“อ้าวหรอ? ฮ่าๆๆๆๆ”
“ก็เออน่ะสิ” ค้อนให้ไอ้เพื่อนที่กำลังเริ่มต้นหัวเราะประสาทๆอีกครั้งก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเอ่ยเสียงเบาหวิว
“ขอบใจนะยูน” เพราะเป็นเสียงที่เบามากจนคนฟังไม่แน่ใจว่าหูฝาดไปรึเปล่า แต่พอหันมาเจอกับใบหน้าติดจะแดงๆเพราะความเขินของคนพูดยอดชายนายยูนจึงได้ยิ้มออกมาน้อยๆ
“ไม่เห็นต้องขอบใจเลย เพื่อนกันนี่”
“งั้นก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน”
“อ้าวเฮ้ยได้ไงวะ? พูดแล้วพูดเลยดิ เอาคืนไม่ได้โว้ยไอ้หมวยนี่”
“แกว่าใครหมวย?”
“ก็แกไง”
“ไอ้ยูนแกตายยยย” แล้วสงครามย่อยๆระหว่างเพื่อนรักก็ได้บังเกิดขึ้นในบ้านหลังน้อยของปาร์ค เจย์บอม อาเมนน
ความคิดเห็น