ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ซองฟิค: ความคิด...(แทคxเจย์)
เพลง: ความคิด
ศิลปิน : แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
ยังเดินผ่านทุกวัน
ที่ที่เราพบกันเมื่อก่อน
ยังจำซ้ำๆ ได้ทุกตอน
ราวกลับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา
ตอนนี้ผมกำลังอยู่บนรถตู้กับเพื่อนๆ เราพึ่งจะกลับจากการทำงานกัน ความเหนื่อยล้าจากการถ่ายทำรายการกันจนถึงเช้าทำให้เพื่อนๆทั้ง 5 คนของผมแทบจะหลับเป็นตาย
ผมเองก็คงจะหลับเช่นกัน ถ้าเพียงแต่ว่าถนนสายนี้จะไม่ทำให้ผมคิดถึงคนคนหนึ่งอยู่
แล้วรถตู้คันสีขาวก็แล่นผ่านสวนสาธารณะที่ผมคุ้นเคยแห่งหนึ่ง สวนสาธารณะที่ทำให้ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาเหลือเกิน
"พี่ครับ ช่วยจอดรถหน่อยได้มั๊ยครับ" ผมหันไปบอกพี่คนขับรถ
"หืม?"
"เอ่อคือ ผมแค่อยากเดินเล่นนิดหน่อย พี่ไปส่งคนอื่นๆที่บ้านก่อนเลยนะครับ ไม่ต้องรอ"
"แต่..." พี่คนขับอึกอัก เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยอยากจอดเท่าไรนัก
"รับรองครับว่าผมจะกลับก่อนเที่ยงแน่ๆไม่ต้องห่วงหรอก นะครับผมขอร้อง" เมื่อผมพูดดังนั้นพี่คนขับจึงยอมจอดรถตามที่ผมขอ
แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด
ในชีวิตจริง คงไม่เจอกันอีกแล้ว
ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว
เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา
ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม ใช่ มันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ที่เปลี่ยนไปคงจะเป็นคนที่มาที่นี่ต่างหาก เป็นผมเองที่ตอนนี้ยืนอยู่ที่นี่คนเดียว
ไร้ซึ่งเงาของคนตัวเล็กอีกคนที่เป็นยิ่งกว่าหัวใจของผม
เมื่อ ไม่มีคนคนนั้นอยู่ข้างกายอีกแล้ว ตัวผมในตอนนี้ก็คงจะไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์ไร้หัวใจ ใช้ชีวิตไปก็เพียงเพราะต้องมีชีวิตอยู่ ก็เท่านั้น
ภาพความทรงจำเก่าๆกลับมาอีกครั้ง
ภาพของคนตัวเล็กที่กำลังแกล้งหมาของใครก็ไม่รู้ ภาพที่หมาตัวนั้นรำคาญแล้วขู่จนคนตัวเล็กต้องวิ่งหน้าเอ๋อมาหลบข้างหลังผม
และแม้กระทั่งภาพของจุมพิตแรกระหว่างเรา สัมผัสที่แสนอ่อนโยนยังคงชัดเจนอยู่ในความรู้สึก จนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้
เผื่อวันไหนเธอผ่านมา
เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า
เคยมีคนนึงยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา
ตอนนี้ผมคิดถึงทุกอย่างที่เป็นเค้าคนนั้น
คิดถึงดวงตาคู่เฉี่ยว คิดถึงริมฝีปากแดงระเรื่อ และคิดถึงรอยยิ้มนั้นที่ทำให้โลกสดใสขึ้นทุกครั้งที่ผมได้เห็นมัน
คิดถึง คิดถึงมาก คิดถึงจริงๆ
"ตอนนี้นายอยู่ไหนกันนะ? ทำอะไรอยู่? คงจะทำงานอยู่สินะ นายจะรู้มั๊ยว่าตอนนี้ฉันคิดถึงนายมากแค่ไหน แล้วนายล่ะคิดถึงฉันบ้างรึเปล่า"
ผม ได้แต่เอ่ยคำถามเหล่านี้ออกไป โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังถามใครอยู่ อาจจะเป็นผืนดิน ท้องฟ้า หรือต้นไม้ละมั้ง อย่างน้อยก็หวังว่าพวกมันก็คงกำลังจะฟังที่ผมพูดอยู่
ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา
ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ
อยู่ ดีๆหมาน้อยตัวหนึ่งก็วิ่งจากไหนไม่รู้มาหาผม ผมจำได้ทันทีว่าเป็นตัวเดียวกับเจ้าหมาที่อยู่ในความทรงจำของผม มันทำให้ผมยิ้มออกมาได้อีกครั้งก่อนที่จะก้มลงลูบหัวของเจ้าหมาน้อย
"เจ้าหมาน้อยแกมาทำอะไรที่นี่ตัวเดียว แล้วเจ้าของแกหายไปไหน หือ?"
"......." เจ้าหมาได้แต่มองผมงงๆ ฮ่าๆ นั่นสินะ หมามันจะตอบผมได้ยังไงล่ะ
"แกยังจำคนหน้าเหวี่ยงๆที่เค้าเคยแกล้งแกได้รึเปล่าหมาน้อย? แกได้เจอเค้าบ้างมั๊ย? ว่าไงแกไม่เคยเจอเค้าเลยหรอ? ฉันเองก็ไม่เคยเจอเค้าเหมือนกัน"
"โฮ่ง!!!"
"ฮ่าๆ เอาอย่างนี้นะเจ้าหมา แกสัญญากับฉันนะว่าถ้าหากแกเจอเค้าคนนั้นอีก แกช่วยบอกเค้าทีว่าฉันคิดถึงเค้า คิดถึงมากจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว แกช่วยบอกเค้าทีได้มั๊ยว่า ไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ฉันก็จะยังคงรักเค้าอยู่เสมอ"
"โฮ่ง!!!"
"ดีมาก แกสัญญากับฉันแล้วนะ"
"กีดง กีดงมาอยู่นี่เอง ตามหาแทบแย่แหนะ" เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งมาที่ผมพร้อมๆกับก้มลงอุ้มเจ้ามาน้อยไว้แนบอก
"นี่หมาของหนูหรอครับ?"
"ค่ะ กีดงมากวนอะไรพี่ชายรึเปล่าคะ?"
"ไม่หรอกครับ อืมม จะเที่ยงแล้วหรอเนี่ย งั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับสาวน้อย"
"ค่ะ"
ก่อนที่จะกลับผมก้มลงลูบหัวเจ้าหมาที่อยู่ในอ้อมกอดของเด็กหญิงตรงหน้านิดๆ
"อย่าลืมที่เราสัญญากันล่ะเจ้าหมาน้อย บอกเค้าด้วยว่าฉันคิดถึงเค้า"
ผมพูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทำไปทำไม ในเมื่อมันคงจะไม่มีทางเป็นไปได้
แต่ก็นั่นแหละ บางทีคนเราก็มักที่จะทำอะไรที่ไร้เหตุผลอยู่บ่อยๆ ผมเองก็เป็นอีคนที่ทำไป เพียงเพราะอยากที่จะทำ
...................................................................
อยากเจอเธอเหลือเกิน
เพราะก่อนที่เราต้องเดินแยกทาง
ฉันมีความคิดหลายๆ อย่าง
หลายอย่างเหลือเกิน ที่ฉันไม่ได้พูดไป
หนึ่งทุ่มครึ่ง...
ผม พึ่งจะเสร็จจากภารกิจถ่ายหนังพร้อมๆกับเพื่อนๆในทีมคนอื่น และตอนนี้ผมกับเพื่อนๆก็กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่งกลางกรุงโซล สวนสาธารณะที่ทำให้ผมถึงกับหยุดชะงัก
"เฮ้! นายเป็นอะไรวะ? หยุดเดินทำไม"
"อืมม ไม่มีอะไรหรอก พวกนายกลับโรงแรมกันไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะตามไปทีหลัง"
"แล้วทำไมไม่กลับพร้อมกันเลยวะ?"
"เออน่า ฉันไม่อยู่เกาหลีแค่ไม่กี่เดือนยังพอจำทางได้น่า รับรองไม่หลงทางหรอก" เพื่อนๆมองหน้ากันไปมาราวกับจะปรึกษากัน
"พวกนายไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันไม่เป็นไรจริงๆ"
"ถ้านายพูดแบบนั้น งั้นก็ตามใจ"
เมื่อ เพื่อนๆเดินจากไปกันหมดแล้ว ผมจึงเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งในสวนสาธารณะ ม้านั่งตัวที่ผมกับคนตัวใหญ่อีกคนเคยนั่งด้วยกันมาก่อน
ใครอีกคนที่ผมอยากจะเจอเค้าอีกซักครั้ง อยากเจอเหลือเกิน
ใคร อีกคนที่ผมมีคำพูดนับล้านที่อยากจะบอกเค้า คำพูดที่เก็บไว้มานานแสนนานแต่กลับไม่ได้พูดมันออกไปทั้งๆที่เมื่อก่อนมี โอกาสที่จะได้พูดมากมาย
แต่กลับมานึกขึ้นได้ในเวลานี้
ในเวลาที่เธอเดินจากฉันไปแสนไกล
หากเธอนั้นยังอยู่ จะกอดเธอให้ชื่นใจ
และค่อยพูดออกไป ทุกสิ่งที่อยู่ในใจฉัน
แต่ในตอนนี้ ตอนที่ชีวิตผมไม่มีเค้าอีกต่อไปแล้วผมกลับอยากที่จะให้เค้าได้ฟัง
มันอาจจะเป็นความจริงที่เค้าว่ากันว่า
คนเราจะเห็นคุณค่าของเวลา ก็ต่อเมื่อเราไม่อาจที่จะหมุนมันย้อนกลับมาได้อีกแล้ว
ได้แต่ฝากความคิดของฉันเอาไว้
เผื่อวันไหนเธอผ่านมา
เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า
เคยมีคนนึงยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา
ผมได้แต่นั่งอยู่ที่เดิมคนเดียว สายตามองออกไปที่ท้องฟ้า
ในขณะที่สมองว่างเปล่า แต่หัวใจของผมกลับคิดถึงแต่เพียงคนคนหนึ่งอยู่อย่างนั้น
ความคิดถึงที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผมแทบอยากจะร้องไห้เพื่อระบายมันออกมา
ทั้งๆที่คิดถึงมากขนาดนี้และแม้ว่าจะอยากเจอมากแค่ไหน แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้
ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา
ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ
แต่ ถึงผมจะคิดถึงคนคนนั้นมากแค่ไหนมันก็คงจะไม่มีวิธีใดที่จะทำให้เค้ารับรู้ ได้ ถ้าหากว่าผมฝากความคิดนี้ไว้กับท้องฟ้า หรือผืนดินได้มันก็คงจะดี เพราะมันอาจจะมีซักวันที่เค้าจะเดินผ่านมาเจอกับมัน เจอกับความคิดถึงของผมตรงนี้
แต่ ก็นั่นแหละ คนคนนั้นจะคิดถึงผมอย่างที่ผมคิดถึงเค้ารึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย มันอาจจะเป็นแค่ผมที่นั่งบ้าเพ้ออยู่คนเดียวก็ได้ ใครจะไปรู้
"โฮ่ง!! โฮ่งๆ โฮ่ง!!!"
"กีด ง อย่าหนีสิ! นี่กีดง กลับมานะ เป็นอะไรไปน่ะกีดง หยุดนะ!!" ในขณะที่ผมลุกขึ้นกำลังจะกลับโรงแรมนั้น เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งก็วิ่งหน้าตั้งมาทางผม มันเห่าไม่หยุดทั้งๆที่ยังมีเด็กผู้หญิงที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของวิ่งตาม หลังมา
เจ้าหมาน้อยวิ่งมาหยุดที่ผมมันยังคงเห่ารัวจนผมเริ่มที่จะกลัว
"กีดง เป็นอะไรน่ะ หยุดเห่าเดี๋ยวนี้นะ!! ขอโทษด้วยนะคะพี่ชาย ปกติกีดงไม่ใช่เด็กดื้ออย่างนี้นะคะ แต่พอเห็นพี่ชายปุ๊บมันก็วิ่งหน้าตั้งเห่าไม่หยุดเลย ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไรไป" คำพูดของเด็กหญิงทำให้ผมนั่งลงเอามือลูบหัวเจ้าหมาน้อย
"แกมีอะไรจะบอกฉันงั้นหรอเจ้าหมา?" หมาน้อยหยุดเห่าแล้วเอาจมูกมาถูๆที่หน้าผมก่อนที่จะจ้องตาผมนิ่งเหมือนพยายามจะบอกอะไรซักอย่าง
วินาทีนั้น วินาทีที่ผมสบตาของเจ้าหมาความรู้สึกบางอย่างมันก็เกิดขึ้นมาในใจ
ผม อุ้มเจ้าหมาขึ้นมากอดไว้แน่นพยายามจะกลืนเจ้าก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ลงคอไป แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ผมได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแล้วกอดเจ้าหมาน้อยเอาไว้อย่างนั้น ลืมที่จะอายแม้แต่เด็กผู้หญิงเจ้าของที่ยืนมองอยู่
"พี่ชายร้องไห้ทำไมหรอคะ?" เด็กหญิงเอียงคอมองผมและถามด้วยความสงสัย แต่ผมกลับไม่สามารถที่จะตอบคำถามนั้นได้
ถ้าถามว่าผมร้องไห้ทำไม ผมเองก็จนปัญญาที่จะตอบเหมือนกัน
อาจจะเป็นเพราะผมจำได้แล้วว่าเจ้าหมาตัวนี้คือตัวเดียวกับที่ผมเคยเจอที่นี่กับคนคนนั้น
หรืออาจจะเป็นเพราะผมคิดถึงคนคนนั้นมากจนแทบจะทนไม่ไหว
หรือไม่อีกที ก็อาจจะเป็นเพราะ ผมรู้สึกได้ว่าคนคนนั้น เค้าเองก็คงกำลังจะคิดถึงผมอยู่เหมือนกัน...
สุดท้ายผมก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้น สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่กอดเจ้าหมาแนบกับอกไว้แน่นและร้องไห้ออกมาไม่หยุด
ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้
อาจไม่เห็นได้ด้วยตา
ฉันได้ฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้า
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น