ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : Shot Fic HiddlesWorth : In Valentine #4

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 810
      10
      10 เม.ย. 57







    In Valentine #4

    Couple : Chris x Tom, HiddlesWorth

    Rate : PG

     

     



    Chris’s Part.

     


    เกาะล้าน พัทยา.


    ปรื้นนนนนน ~ ~


    “วู้~~ เหมือนเล่นรถไฟเหาะอยู่เลย! ฮ่าๆ”


    เสียงพูดกลั้วหัวเราะของคนตัวเล็กดังลั่นรถสองแถวอย่างที่ผมต้องรีบใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อของเจ้าตัวไว้เพราะกลัวเหลือเกินว่าร่างบางๆ นี่จะกลิ้งหลุนๆ ตกลงไปจากรถเมื่อพี่คนขับเลี้ยวโค้งเหวี่ยงๆ อย่างที่ไม่คิดจะลดความเร็วหรือเห็นใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างหลังอย่างพวกผมเลยซักนิด


    “สนุกดีเนอะ ฮ่าๆ”


    ทอม ฮิลเดิลส์ตันหันมาส่งยิ้มกว้างให้ผมอย่างที่บอกว่าเจ้าตัวกำลังถูกอกถูกใจกับฝีมือการขับรถซิ่งสะท้านฟ้าของพี่คนขับ ก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าไอ้เกาะล้านเนี่ยมันมีทางโค้งเยอะขนาดนี้ แถมโค้งเฉยๆ ไม่พอ ถนนยังเป็นเนินสูงแล้วก็ต่ำ แล้วก็ต่ำแล้วก็สูงอย่างกับรางรถไฟเหาะเป็นแบบนี้


    เมื่อบวกกับการซิ่งของพี่คนขับแล้วมันก็ทำให้รถสองแถวนี่กลายเป็นเครื่องเล่นในสวนสนุกไปได้ไม่ยาก


    ความคิดที่ทำให้ผมถอนหายใจน้อยๆ อย่างติดจะปลงๆ


    แล้วผมก็ต้องสะดุ้งอีกรอบก่อนจะรีบคว้าโครงเหล็กของรถเอาไว้แน่นเมื่อรถเหวี่ยงตัวเลี้ยวโค้งอีกครั้ง


    เอี้ยดดดด~~~~~ กึก!


    แล้วรถก็หยุดกึกลงเมื่อถึงจุดหมายอย่างที่ทำให้ตัวผอมๆ ของใครบางคนแทบจะกลิ้งหลุนๆ ไปตามแรงเบรก แต่แทนที่จะหงุดหงิดหัวเสียอย่างที่ควรจะเป็น เจ้าตัวกลับหัวเราะร่าซะจนทำให้ผมอดหัวเราะตามไม่ได้ แล้วทอมก็เบิกตากว้างก่อนจะวิ่งตึงตังลงจากรถไปอย่างไม่คิดจะรอกันเลยซักนิด


    “ทะเล ทะเลๆๆๆ” เสียงใสๆ กับท่าทางเด็กๆ ของคนข้างตัวทำให้ผมต้องหัวเราะขำ ผมลงจากท้ายรถสองแถวแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เขา สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ก่อนจะหันไปมองหน้าของคนข้างตัวที่ยังคงยิ้มกว้างอยู่อย่างนั้น


    “ชอบล่ะสิ?” แล้วทอมก็หันมายิ้มกว้างให้ผม ก่อนจะชะงักไปนิดแล้วหุบยิ้มฉับ


    “ก็งั้นๆ ก็ไม่เห็นจะต่างจากที่โรงแรมซักเท่าไหร่”


    “แต่ท่าทางนายเนี่ย มันตรงข้ามกับคำพูดเลยนะ”


    “ไปเล่นน้ำดีกว่า” แล้วคนพูดก็ลอยหน้าลอยตาเดินหนีไป ให้ผมต้องหัวเราะกับอาการวางฟอร์มนั่น ก่อนที่ผมจะตะโกนไล่หลังไป


    “เฮ้ แล้วนายจะเล่นน้ำทั้งชุดนั้นเนี่ยนะ?”


    “ใช่ ฉันก็ตั้งใจใส่ชุดนี้มาลงเล่นอยู่แล้ว” คำตอบที่ทำให้ผมอดส่ายหัวยิ้มๆ ไม่ได้


    นี่ขนาดบอกว่างั้นๆ นะเนี่ย


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     


    Tom’s Part.


     

    ผมเดินลากห่วงยางอันใหญ่ขึ้นมาจากน้ำด้วยสภาพเปียกโชก ก่อนจะส่งสายตาขวางๆ ให้กับคนที่กำลังนั่งตักส้มตำเข้าปากอย่างสบายอกสบายใจอยู่


    “เป็นอะไรอีกล่ะ? เล่นน้ำไม่สนุกเหรอ?”


    ยังจะมีหน้ามาถามอีก เล่นน้ำคนเดียวมันจะไปสนุกตรงไหนวะ?!


    แล้วผมก็โยนห่วงยางไปไว้ข้างๆ อย่างติดจะหงุดหงิดนิดๆ แต่ก่อนจะได้หย่อนก้นลงบนเปล คนข้างตัวก็ใช้ส้อมตักส้มตำแล้วยื่นมาจ่อที่ปากผมซะก่อน ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถามให้หมียักษ์ยิ้มนิดๆ


    “ส้มตำอร่อยนะ ลองชิมดูสิ” ผมชักสีหน้านิดๆ ก่อนจะอ้าปากงับส้อมที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก


    ว่าแต่ก็อร่อยดีแฮะ


    “อร่อยมั๊ย?” คำถามยิ้มๆ ที่ทำให้ผมต้องพยักหน้ารับหงึกหงัก ก่อนจะนั่งลงบนเปลแล้วหยิบส้อมอีกอันมาจัดการส้มตำที่อยู่ในจานต่อ


    “ไม่เผ็ดใช่มั๊ย? ฉันบอกให้เค้าใส่พริกแค่สองเม็ดเอง นายกินได้นะ?”


    “ใส่มากกว่านั้นฉันก็กินได้”


    “นั่นสิตอนกินน่ะกินได้ แต่พออิ่มแล้วก็มานั่งเผ็ดจนปากเจ่อ ฮ่าๆ”


    “นายว่าใคร?”


    “เปล๊า” ผมค้อนให้ไอ้คนขึ้นเสียงสูงตอบนิดๆ ก่อนจะหันมากินต่ออย่างไม่อยากจะลดตัวลงไปกัดกับหมีตัวโตๆ


    “แล้วนายเลิกเล่นน้ำแล้วเหรอ?” คำถามที่ทำให้ผมชะงักไปนิด แล้วความหงุดหงิดที่เพิ่งจะลืมไปก็กลับมาอีกครั้ง ให้ผมต้องวางส้อมลงแล้วยกมือขึ้นกอดอกตอบ


    “ไม่”


    “อืม”




    “เฮ้ คุณหมี”


    “ฉันชื่อคริส”


    “เรียกอะไรก็เหมือนกันแหละน่า” ผมตอบปัดๆ ยกกระป๋องโค้กขึ้นดื่ม ก่อนจะเอ่ยคำถามต่อ “นายไม่อยากออกไปเล่นน้ำบ้างเหรอ?”


    คุณหมีเลิกคิ้วมองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะระบายยิ้มแล้วส่ายหัวตอบ


    “ไม่อ่ะ ออกไปเล่นน้ำกลางแดดแรงๆ เดี๋ยวผิวเสียแย่” คำตอบที่ทำให้ผมแทบจะพ่นโค้กที่กำลังดื่มอยู่ใส่หน้าคนพูด


    เดี๋ยวผิวเสียแย่?! พระเจ้า!


    ผมอดอ้าปากค้างมองหน้าคนพูดไม่ได้ แต่แทนที่จะอายหมอนี่กลับหัวเราะเสียงดังลั่น


    “ฮ่าๆ ฉันพูดเล่นน่า ก็แค่ขี้เกียจน่ะ อีกอย่างถ้าฉันไปแล้วใครจะเฝ้าของล่ะ จริงมั๊ย?”


    “ของมันไม่หายไปไหนหรอกน่า”


    “ถึงงั้นก็เถอะ”


    คำตอบที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจเบาๆ อย่างติดจะหงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะหันไปมองหาดทรายขาวๆ กับทะเลสีครามที่ยังมีคนเล่นน้ำอยู่ประปราย


    ทะเลสวยน้ำใสแต่กลับไม่มีใครเล่นเป็นเพื่อนน่าเบื่อชะมัด


    “ทอม”


    “อะไร?” ผมตอบรับเสียงเรียกด้วยน้ำเสียงติดจะเซ็งๆ โดยที่ยังไม่ยอมหันไปมองหน้าของคนเรียก


    “ไปเล่นน้ำกัน”


    “เออ ห๊ะ! นายว่าไงนะ?!” ผมหันขวับมามองหน้าหล่อๆ ของคนพูดที่ตอนนี้ยิ้มกว้างจนตาหยี


    “ก็นายอยากเล่นน้ำไม่ใช่เหรอ? ไปเล่นน้ำกัน”


    “แต่นายไม่อยากเล่นนี่”


    “ก็ไม่ใช่ไม่อยาก”


    “คนอะไรพูดกลับไปกลับมา”


    “ฮ่าๆ แล้วสรุปนายจะไปมั๊ย?”


    “ไปก็ได้ นี่เห็นว่านายอุตส่าห์ชวนหรอกนะ” แล้วผมก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มลงหยิบห่วงยางที่ผมทิ้งเอาไว้เมื่อครู่ขึ้นมา แล้วเดินนำหน้าคนชวนตรงไปที่ทะเลสีฟ้าใสตรงหน้า “เร็วๆ เข้าสิ”


    “ครับๆ”


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    Chris’s Part.


     

    สายลมเย็นในตอนกลางคืนพัดต้องใบหน้าให้คนตัวบางที่เดินอยู่ข้างๆ ผมต้องระบายยิ้ม เสียงคลื่นสาดกระทบฝั่งกับสัมผัสเย็นๆ ของน้ำทะเลที่ปลายเท้าก็ทำให้รู้สึกดีได้อย่างประหลาด ถึงจะไม่มีพระจันทร์ดวงโตให้เห็นในคืนเดือนมืดแบบนี้ แต่แสงดาวนับร้อยที่เกลื่อนอยู่บนท้องฟ้าก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศดีๆ ลดน้อยลงไปเลย


    “อากาศดีจัง” เสียงใสๆ จากคนตัวบางที่ชวนคุยทำให้ผมต้องอมยิ้มนิดๆ ก่อนเอ่ยตอบ


    “อืม รู้สึกเหมือนว่าไม่ได้เจอกับบรรยากาศสงบๆ แบบนี้มานานแล้ว”


    “บรรยากาศสงบๆ?” หันมาเลิกคิ้วมองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะหัวเราะดังลั่น  “ฮ่าๆ นายนี่พูดอะไรลิเกชะมัด”


    “อ้าว อยู่ดีๆ มาว่ากันทำไมเนี่ย?”


    “ก็มันจริงนี่” แล้วเจ้าตัวคนพูดก็เดินขึ้นไปบนหาดทราย ห่างจากเกลียวคลื่นมากพอที่จะไม่ทำให้เปียก ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนพื้นทราย ภาพที่ทำให้ผมยิ้มน้อยๆ แล้วเดินไปนอนลงข้างๆ


    “ดีจังเนอะ ที่เราตัดสินใจพักที่นี่คืนนี้”


    “ก็ไม่ดีเท่าไหร่ มีโรงแรมหรูๆ ให้นอนฟรีไม่ยอมนอน ดันอยากมาเสียเงินเปิดห้องนอนบนเกาะนี่อีก”


    “มันต่างกันนะ”


    “ต่างตรงที่เสียเงินกับไม่เสียเงินน่ะเหรอ?” คำถามที่ทำให้ผมต้องหลุดเสียงหัวเราะขำ ก่อนหันไปมองคนพูดยิ้มๆ


    “ต่างกันตรงที่ โรงแรมบนเกาะนี่มีดาวให้ดูมากมาย แต่โรงแรมฟรีนั่นไม่มีดาวให้เห็นแม้แต่ดวงเดียวต่างหาก”


    “ก็จริงของนาย” แล้วทอมก็เงียบไปนิด ก่อนใบหน้าสวยจะแย้มรอยยิ้มละไมแล้วหันไปมองดาวที่เกลื่อนอยู่เต็มท้องฟ้าสีดำสนิทเรานอนดูดาวเงียบๆ อย่างนั้นอยู่ซักพักก่อนที่ผมจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วลุกขึ้นนั่ง


    “ทอม”


    “หือ?”


    “ฉันมีอะไรจะให้นาย” แล้วผมก็ล้วงเอาบางสิ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยื่นส่งไปตรงหน้าคนที่กำลังเลิกคิ้วมองผมอยู่


    ของบางสิ่ง ที่ผมพกติดตัวตลอดเวลาตั้งแต่ได้มาวันนั้น


    ของบางสิ่ง ที่ทำให้คนได้รับต้องเบิกตากว้าง ทอมผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมคว้าสิ่งนั้นไปจากมือผม


    “สร้อยใหม่ของฉันนี่!” คนได้ของคืนยิ้มกว้างอย่างบ่งบอกว่าดีใจจนปิดไม่มิด ก่อนจะชะงักไปนิดแล้วหุบยิ้มฉับ นันย์ตาสีเขียวตวัดมองผมอย่างเอาเรื่อง “นายขโมยมันไปสินะ”


    “มันบังเอิญหล่นอยู่บนพื้นตอนที่นายเดินชนฉันครั้งแรกต่างหาก”


    “ใครเดินชนใครนะ?”


    “โอเค ฉันเดินชนนายก็ได้” ผมพูดยอมๆ อย่างที่ทำให้คนฟังพยักหน้าหงึกหงักอย่างถูกอกถูกใจ


    “อ่าฮะ”


    เฮ้อ คนอะไรวะเนี่ย


    เป็นคนแบบที่มีอยู่คนเดียวบนโลกอย่างที่เบเนดิกต์บอกจริงๆ นั่นแหละ


    ผมอมยิ้มนิดๆ ให้กับท่าทางของคนตรงหน้า ก่อนจะส่งคำพูดกวนๆ ให้


    “อันที่จริงนายต้องขอบคุณฉันนะที่อุตส่าห์เก็บมาแบบนี้ ไม่งั้นป่านนี้สร้อยของนายคงได้กลายเป็นซากเพราะถูกเหยียบไปแล้ว”


    “ไม่มีทาง”


    “ฮ่าๆ มาเดี๋ยวฉันใส่ให้” ผมคว้าสร้อยเจ้าปัญหามาจากมือเรียว ก่อนจะเอื้อมไปคล้องลงบนคอของคนข้างตัวโดยที่ไม่รอคำอนุญาตใดๆ ใช้เวลาไม่นานสร้อยเส้นยาวก็ประดับอยู่บนอกของทอมอย่างสวยงาม


    “ขอบใจนะ”


    “หือ? เมื่อกี้นายว่าไงนะ?”


    “ก็ขอบใจไง” ทอมมุ่นหัวคิ้วมองผมนิดๆ ก่อนจะต่อคำพูด “ขอบใจที่ใส่สร้อยให้”


    ฮ่าๆ บทจะทำตัวน่ารักก็น่ารักแฮะ คนอะไรเนี่ย?


    “ไม่เป็นไร”


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     


    Tom’s Part.


     

    กว่าจะกลับจากเกาะล้านมาจนถึงโรงแรมในตัวเมืองพัทยาได้ก็เล่นเอาเกือบบ่ายสาม  ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ อย่างติดจะปวดเมื่อยนิดๆ ได้นอนโรงแรมหรูๆ ฟรีๆ แบบนี้มันรู้สึกดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ


    ของฟรีใครจะไม่ชอบ?


    แล้วความเหนื่อยล้าก็ทำให้ผมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงอย่างเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่ก่อนจะได้หลับไปจริงๆ เสียงทุ้มๆ ของหมีบางคนก็ดังขัดขึ้นซะก่อน


    “ถ้าจะนอนก็ไปอาบน้ำก่อนล่ะ คุณโธมัส ฮิดเดิลส์ตัน” ผมลืมตาขึ้นก่อนจะมองคนพูดอย่างเอือมๆ พลิกตัวไปอีกด้านแล้วหลับตาลงอีกครั้ง


    “ทอม ไปอาบน้ำก่อนสิจะได้นอนสบายๆ”


    “ยุ่งน่า”


    “เฮ้อ


    “แค่พักสายตานิดเดียวเอง ไม่ได้คิดจะหลับจริงจังซักหน่อย”


    แล้วผมก็พักสายตาด้วยการทิ้งตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราไป


     

     

    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าข้างนอกก็มืดสนิทไปแล้ว เหลือบตามองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็บอกเวลาเกือบจะสองทุ่มเข้าไปแล้ว


    นี่ผมหลับไปสามชั่วโมงเลยหรอเนี่ย?


    มิน่าล่ะถึงได้หิวชะมัด


    แล้วคุณพ่อหมีนั่นหายไปไหนซะแล้วล่ะ?


    ผมเหลียวซ้ายมองขวาก็ไม่เจอกับเพื่อนร่วมห้องอีกคน จนเสียงน้ำจากห้องน้ำดังเข้าหูถึงได้รู้ว่าคนที่ผมกำลังมองหาคงจะอาบน้ำอยู่


    หิวจังแฮะ


    ผมควรจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกนะ


    ว่าแต่จะไปที่ไหนดีล่ะ?...


    แล้วสายตาของผมก็หันไปปะทะกับทีวีที่กำลังฉายภาพสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองพัทยาอยู่


    Walking street งั้นเหรอ?...


    แล้วผมก็ค่อยๆ ยกยิ้มกว้างอย่างที่ตัดสินใจได้แล้ว


    เอาที่นี่แหละ!


     

     




    ************************************************************************

     


    ร้อนๆ แบบนี้อยากไปเที่ยวทะเลเนอะ

    ฮือออ อยากไปทะเลอ่ะ อยากไปทะเลๆๆๆๆ

    TTTT_______TTTT

     

    เที่ยวสงกรานต์ก็ระวังตัวกันด้วยนะคะ

    เดินทางปลอดภัยขอให้แคล้วคลาดจากภัยร้อน(?)

    แล้วก็กัปตันอเมริกา 2 สนุกมว๊ากกกกกกกก ใครยังไม่ได้ดูแนะนำให้ไปดูด่วนๆ ค่ะ ><

     

    แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

    ไอวิชรักคนอ่านน้าา







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×