ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #29 : Shot Fic Civil War [Spiderman & Ironman] : ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ และ คุณสตาร์คของเขา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.88K
      18
      30 เม.ย. 59




    ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ และ คุณสตาร์คของเขา

    Civil War Fan Fiction : Spiderman & Ironman

     

    Note : ฟิคเรื่องนี้มีเนื้อหาสปอยด์หนังเรื่อง Civil War อย่างรุนแรงมาก ใครที่ยังไม่ได้ดูหนังควรกดปิดค่ะ เอาไว้ดูหนังจบแล้วค่อยกลับมาอ่านเนอะ เราเตือนคุณแล้วน้าา ^3^

     

     



    สวัสดีทุกคน ผม ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ aka สไปเดอร์แมนที่ทุกคนก็คงรู้จักกันไปแล้ว

    หลังจากเหตุการณ์ยกพวกตีกันของพวกลุงๆ--- หมายถึง เหตุการณ์ตะรุมบอลกันที่สนามบินวันนั้น ผม ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติสุขกับป้าเมย์ของผมเหมือนเดิม แต่อันที่จริงจะเรียกว่า “ปกติสุขเหมือนเดิม” ก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะมันก็มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน

     

    สิ่งที่เปลี่ยนไปข้อแรกเลยก็คือ เรื่องเงินๆ ทองๆ ใช่! จะมีเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญไปกว่าเรื่องนี้ได้อีกล่ะ?! ไม่มี! ผมบอกคุณตรงนี้ได้เลยว่า ไม่ มี แน่ นอน!

    และตอนนี้ผมก็บอกคุณได้อีกข้อว่า ปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ กำลังจะหมดไปจากชีวิตของผม! เยส! คุณสตาร์คให้ทุนส่งเสียผมเรียนอย่างที่รับปากไว้จริงๆ ซึ่ง แน่นอนว่ามันต้องเป็นเพราะผลงานอันน่าประทับใจที่ผมได้โชว์ให้คุณสตาร์คเห็นที่สนามบินนั่นแน่นอน

    แน่นอนและเป็นความจริงที่สุด ผมล้มยักษ์ได้เชียวนะ! เยส!

     

    ข้อสอง ผมกลายเป็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นอัพเกรด!

    พวกคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าคุณสตาร์คให้ของเล่นใหม่อะไรมาบ้าง!

    ไม่ใช่แค่ชุดใหม่ไฉไลนั่นแน่นอน แต่ว่ามีทั้งเครื่องยิงใยเวอร์ชั่นอัพเลเวล มีทั้งอุปกรณ์จำพวกเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่

    ซึ่ง มัน เจ๋ง มาก!

    พอกันทีกับการคุ้ยขยะหาอะไหล่! พอกันทีกับชุดผ้าโง่ๆ ที่ตีลังกาไม่กี่ทีเป้าก็ขาด! พอ กัน ที!

    อ๊ะ! จะว่าไป ที่จริงผมว่าข้อนี้มันก็ลิ้งค์กับข้อแรกอยู่นี่เนอะ นั่นไง ผมบอกคุณแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรจะใหญ่ไปกว่าปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกแล้วล่ะ สุดท้ายต้นเหตุมันก็มาจากคำว่าไม่มีเงินอยู่ดีนั่นแหละน่า เหอๆ

     

    และการเปลี่ยนแปลงข้อที่สามในชีวิตของผมก็คือคุณสตาร์ค

    ใช่ คุณสตาร์คคนนั้นนั่งแหละ มิสเตอร์โทนี่ สตาร์ค มหาเศรษฐีอัจฉริยะเพลย์บอยแถมยังใจบุญสุดๆ คนนั้น ไอร่อนแมนคนนั้นนั่นแหละ


    ตั้งแต่เรื่องยกพวกตีกัน--- แค่กๆ หมายถึงเรื่องปัญหาความเห็นไม่ตรงกันของแก๊งค์ลุงๆ พวกนั้นจบลง คุณสตาร์คก็มาบ้านผมบ่อยมาก อันที่จริงคือมาแบบสองวันต่อหนึ่งอาทิตย์เลยด้วยซ้ำไม่ ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าคุณสตาร์คเนียนมาจีบป้าเมย์ของผมรึเปล่า บอกเลยว่าไม่ใช่แน่นอน (ถึงคิดจะจีบจริงผมก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ ถึงจะเป็นคุณสตาร์คที่มีบุญคุณเรื่องเงินๆ ทองๆ กับผมก็เถอะ!)


    คุณสตาร์คไม่ได้มาจีบป้าเมย์และก็ไม่ได้มาเพื่อที่จะเทรนผมให้เป็นซุปเปอรฮีโร่ระดับเวิร์ลคลาสอย่างที่เจ้าตัวบอกด้วย แต่เขา... ไม่รู้สิ ผมบอกไม่ถูกแฮะ วันๆ เขาก็เอาแต่มานั่งๆ นอนๆ กินๆ วิจารณ์รสชาติคุกกี้ที่ป้าเมย์ทำ (ทั้งๆ ที่ต่อหน้าป้าเมย์นี่ทำอย่างกับว่ามันเป็นคุกกี้ที่อร่อยที่สุดในโลก) เดินวนไปวนมาในห้อง แล้วก็ทำของเล่นของผมพัง


    แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้นเขากลับดูเหมือนคนที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตแบบแปลกๆ ดูไร้ชีวิตชีวา ตีนกาเพิ่มขึ้นทุกวัน (อย่าหาว่าผมนินทาเลยเถอะ แต่คุณสตาร์คก็รวยขนาดนั้น ผมสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่เจียดเงินไปทำโบท็อกซ์หน้าบ้างนะ? ป้าเมย์ของผมยังเก็บเงินทำอย่างน้อยปีละครั้งเลย) คุณสตาร์คไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่สมกับเป็นไอร่อนแมนอย่างที่ผมเคยเห็นในทีวีเมื่อก่อนเลยจริงๆ

    เขาดูเหมือนเหมือนคนที่เพิ่งสูญเสียอะไรบางอย่างไป

    อะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆ

    ผมรู้ดี เพราะผมก็เคยสูญเสียมาแล้วเหมือนกัน

    ผมได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ มองผู้ชายคนที่นอนอยู่บนเตียงของผมที่เอาแต่โยนลูกเบสบอลใส่ผนังให้มันเด้งกลับมาในมือครั้งแล้วครั้งเล่า

    คนคนนี้กำลังแบกอะไรเอาไว้บ้างนะ?

    “มองแบบนั้นนายมีปัญหาอะไรกับฉันรึไงสไปเดอร์บอย?”

    “แมน! สไปเดอร์แมนต่างหาก!

    คุณสตาร์คหันมามองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่แล้วหันกลับไปสนใจลูกบอลในมือต่อ นี่ใจคอเขาคิดจะอยู่แบบนี้ทั้งวันจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย?!

    “มีอะไรจะถามล่ะ?” ในที่สุดเขาก็เปิดปากอีกครั้ง แล้วก็เป็นการเปิดปากด้วยประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกคันปากยิบๆ อยากถามสิ่งที่สงสัยออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดจริงๆ นะ “ถามมาสิ ฉันรู้ว่านายอยากถาม วันนี้ฉันจะยอมเล่นถามตอบกับเด็กดูซักวันก็ได้ ยังไงฉันมันก็ซุปเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ อยู่แล้ว”

    ตอนนี้ความนิยมของผมก็เริ่มตีตื้นขึ้นมาใกล้สูสีกับพวกคุณแล้วเหมือนกันเหอะ

    ผมได้แต่คิดในใจแบบนั้น

    “คำถามแรก คุณรู้ตัวมั้ยฮะว่าคุณมาที่นี่บ่อยมากเอ่อ ผมหมายถึง สองครั้งต่ออาทิตย์เป็นอย่างต่ำ”

    “ถึงฉันจะกำลังห่างๆ กับแฟนอยู่ แต่ฉันก็ยังไม่คิดจะนอกใจเป็ปเปอร์ เพราะงั้นนายไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้มาจีบป้าเมย์ของนายแน่นอน อย่างน้อยก็ในตอนนี้แหละนะ”

    ถึงคิดจะจีบจริงผมก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ แล้วอีกอย่าง มันใช่ประเด็นนั้นที่ไหนกันเล่า?!

    “ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่แต่ก็เอาเถอะ คุณอยากมาบ่อยแค่ไหนก็มาเถอะฮะ ถ้าที่นี่มันจะทำให้คุณสบายใจขึ้นได้”

    คุณสตาร์คชะงักมือที่กำลังจะปาลูกบอลออกไปอีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีบากจะถูกยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา

    “แล้วเพื่อนๆ ของคุณเป็นไงบ้างฮะ?”

    แล้วคุณสตาร์คหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างที่บอกว่าหมดความสนใจกับลูกเบสบอลและกฎข้อที่สามของนิวตันแล้ว

    “ไปกันหมดแล้ว”

    “หา???! นี่เอากันถึงตายเลยเหรอครับ?! ไหนคุณบอกว่าแค่เบาะๆ ไง นั่นกัปตันอเมริกาเลยนะ! โธ่

    “ฉันหมายถึง หนีไปกันหมดแล้ว ให้ตายเถอะ นี่นายไม่ได้ตามข่าวเลยรึไง?”

    ที่จริงมันเป็นแค่มุขน่ะ แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่รับมุขผมสักเท่าไหร่ คุณสตาร์คนี่เส้นลึกกว่าที่คิดแฮะ

    แล้วผมก็ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนส่งอีกคำถามที่ผมติดใจมากกว่า

    “แล้วคุณเป็นยังไงบ้างฮะ?”

    รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเหนื่อยล้าของคนที่แทบจะแบกโลกทั้งใบเอาไว้ แต่มันกลับไม่ได้เข้ากับแววตาเจ็บปวดที่เจ้าตัวไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนมันเอาไว้เลยสักนิด

    แววตาของคนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง

    “ฉันก็เป็นโทนี่ สตาร์ค ซุปแปอร์ฮีโร่มหาเศรษฐีเพลย์บอยรูปหล่อแถมยังใจบุญอีกต่างหากไง”

    “คุณสตาร์คคคค!

    “ก็มันเรื่องจริง” พูดจบก็ยักไหล่ราวกับภูมิใจนักหนาจนผมแทบเหลือบตาขึ้นฟ้า ถึงเขาจะพูดความจริงก็เถอะ “กัปตันของนายบอกฉันว่าอเวนเจอร์เป็นของฉันมากกว่าของเขาซะอีก”

    แล้วผมก็ต้องชะงักกับคำพูดประโยคนั้นผมหันกลับไปมองหน้าคุณสตาร์คอีกครั้งเพื่อที่จะพบว่าเขากำลังมองผมด้วยใบหน้าที่ไม่เหลือรอยยิ้มอยู่บนนั้นอีกแล้ว

    “ซึ่ง ใช่ เขาพูดถูก มันก็ต้องเป็นของฉันมากกว่าของเขาอยู่แล้ว”

    “แต่แปลกนะสไปดี้บางทีฉันก็รู้สึกว่าฉันเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรในมือมากที่สุด เขาบอกว่าอเวนเจอร์เป็นของฉันทั้งที่วันนี้มันแทบไม่มีใครอยู่กับฉันด้วยซ้ำ”

    “คุณสตาร์ค

    “หึก็ตลกดี ฉันคือ โทนี่ สตาร์ค ที่มีเงินมีธุรกิจมากมายให้ต้องจัดการ แต่กลับไม่มีเป็ปเปอร์อยู่ข้างๆ มีชุดเกราะไอร่อนแมนสุดล้ำ แต่ไม่มีจาร์วิส มีสิทธิ์ขาดในอเวนเจอร์แต่ก็ดันไม่มีอเวนเจอร์ ตลกร้ายนะ ว่ามั้ย?”

    มันเป็นคำถามที่ทำให้ผมพูดไม่ออก

    คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม คุณสตาร์คยังคงมีท่าทีปกติราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศอยู่ แต่ทำไมผมจะจับความเศร้าที่อยู่ในแววตาคู่นั้นไม่ได้ ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้จะน่าสงสารมากเกินไปแล้วนะ! ผมไม่คิดเลยว่ากัปตันคนที่ผมเป็นแฟนคลับตัวยงคนนั้นจะใจร้ายแบบนี้

    ทำไมแคปแล้วก็ทุกคนต้องทิ้งคุณสตาร์คไว้คนเดียวแบบนี้ด้วยเล่า?!

    นี่มันจะเศร้าเกินไปแล้วนะ!

    ความคิดที่ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ แทนคุณสตาร์คที่ร้องไม่ได้เพราะคงกลัวเสียฟอร์ม แต่ก็นั่นแหละ ถึงผมจะร้องไห้ออกมาจริงๆ คุณสตาร์คก็คงไม่หายเศร้าหรือหายเจ็บปวดอยู่ดี ดีไม่ดีผมว่าอาจจะเป็นการสร้างความรำคาญให้เขาด้วยซ้ำ

    “แต่แต่คุณสตาร์คยังมีผมอยู่นะฮะ!

    “ถถึงคนอื่นจะทิ้งคุณไปหมด แต่ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณสตาร์คง่ายๆ แน่นอน เพราะถ้าไม่มีคุณ ผมก็คงไม่เรียนจบได้ง่ายๆ แน่ เพราะงั้น ผมจะไม่ทิ้งคุณแน่นอนครับ คุณไว้ใจผมได้เลย!

    ผมตัดสินใจหลับหูหลับตาพูดออกไป ในขณะที่คุณสตาร์คชะงักไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วมองผมอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะหัวเราะจนตัวงอ

    “ฮ่าๆฮ่าๆๆๆ นายนี่มันน่ารักจริงๆ สไปดี้ ฉันล่ะอยากได้นายมาเป็นลูกชายจัง ให้ตายสิ!

    เสียงหัวเราะของคุณสตาร์คดังสะท้านห้องจนผมได้แต่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น….

    นี่ผมทำเรื่องน่าอายอะไรลงไปรึเปล่า?

    ไม่นี่ ไม่นะ ผมว่าผมไม่ได้ทำอะไรน่าอายหรือน่าขำขนาดนั้น ผมแค่แสดงความจริงใจเองนะ ความจริงใจน่ะ ความจริงใจ

    คุณสตาร์คหัวเราะมาราธอนอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ สงบลงแล้วใช้หลังมือเช็ดหยดน้ำที่หางตาออก (นี่คุณไม่มีน้ำตาให้กับความเศร้าของตัวเอง แต่มาเสียน้ำตาเพราะหัวเราะผมเนี่ยนะ! คุณสตาร์ค คุณมันอำมหิต!)

    “ขอบใจนะสไปเดอร์แมน”

    และในที่สุดเขาก็เรียกผมว่าสไปเดอร์แมนสักที

    “คุณไว้ใจผมได้เลย”

    แล้วคุณสตาร์คก็ยิ้มให้ผมเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมาที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มจริงๆ ของผู้ชายคนนี้

     



     

    End.

     

    ***********************************************************************

    สวัสดีค่าา ไอวิชนะคะ >3<

    ห่างหายจากการอัพฟิคไปนาน (มากกก) หวังว่าจะยังไม่ลืมกันเน้อ ฮาา

     

    นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกว่า “ฉันอยากเขียนฟิคพล็อตนี้ ฉันต้องเขียนฟิค และฉันต้องเขียนให้ได้!” แบบนี้ค่ะ

    เป็นฟิคที่สั้นไปนิด หลุดคาร์แร็คเตอร์เยอะไปหน่อย แต่ไอวิชก็อยากที่จะเขียนมันออกมาจริงๆ ค่ะ ;w;

    เราแค่อยากให้โทนี่ได้ยิ้ม ได้หัวเราะบ้าง อยากให้โทนี่ได้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวบ้าง เราต้องการแค่นี้จริงๆ ค่ะ

     

    ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านฟิคโง่ๆ เรื่องนี้นะคะ

    แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ

     

    รักและคิดถึงมากที่สุด

    I… wish

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×