ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคสั้น Avengers, Thor, Sherlock, Maze Runner [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #26 : Shot Fiction The Maze Runner [minewt AU] : Just an ordinary night (?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 728
      5
      23 มี.ค. 58



    Shot Fiction : Just an ordinary night (?)

    Couple : Minho x Newt, minewt (AU)

    Note : ฟิคเรื่องนี้เป็นหนึ่งใน โปรเจคฟิค 5 คำ ของไอวิชค่ะ โดยมีโจทย์ว่า ไรเตอร์ต้องใช้คำ 5 คำ คือ 1.ถุงยาง(อนามัย) 2.ปลา 3.พุง 4.ไหมแย็บแผล และ 5.น้ำหอม มาเขียนลงในฟิคของตัวเองให้จบภายในจำนวน 5 หน้ากระดาษ A4 (ตัวอักษร Cordai New 14) โดยไม่ได้กำหนดลำดับในการกล่าวถึงคำเหล่านี้ค่ะ
     

                ปล.สกรีมฟิคในทวิตเตอร์ อย่าลืมติดแท็ค #ฟิคห้าคำ นะเจ้าคะ ^3^


     





    เที่ยงคืนสิบนาที


    กล่องถุงยางอนามัยพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งถูกวางลงบนเคาน์เตอร์คิดเงิน ให้เภสัชกรที่อยู่ในชุดกราวด์ด้านในเคาน์เตอร์ต้องเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าเล็กน้อย ดวงตาสีดำสบกับดวงตาสีน้ำตาลของลูกค้าประจำเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยและเงินที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาทำการคิดเงิน และเมื่อเขาจัดการทอนเงินและหยิบสินค้าใส่ถุงส่งให้แล้ว คนเป็นลูกค้าก็หันหลังเดินออกไปจากร้านในทันที


    ก็เหมือนๆ กับทุกวัน


    ความคิดที่ทำให้มินโฮต้องยกยิ้มในขณะที่มองตามแผ่นหลังบางๆ ที่กำลังเดินออกจากร้านไป


    มินโฮเป็นเภสัชกรในร้านยาชื่อดังอย่าง Boots ซึ่งสาขาที่เขาทำงานอยู่ก็เป็นสาขาที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เขาเลยต้องอยู่กะดึกแบบนี้เป็นประจำ และเพราะว่าเป็นกะดึกถึงได้ไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก แต่ในความเงียบเหงาของช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ ก็ยังมีลูกค้าประจำอย่างผู้ชายคนเมื่อกี้ที่เข้ามาซื้อของในร้านแทบทุกคืน


    ขนมขบเคี้ยว โค้ก (ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณจะสงสัยว่าทำไมร้านยาถึงมีของพวกนี้ขายอยู่ด้วย ตอนเข้ามาทำงานแรกๆ มินโฮก็สงสัยเหมือนกันว่าเรียนจบเภสัชมา ทำไม (กู) ต้องมานั่งขายโค้กด้วยวะ?! แต่เมื่อหาคำตอบไม่ได้ก็ต้องทำใจให้ชินกับการขายของทุกอย่างในร้านล่ะนะ) ยาแก้อาการแฮ้งค์ ถุงยางอนามัย ไปจนถึงอุปกรณ์ทำแผลทุกๆ คืนคนคนนั้นจะเดินเข้ามาหยิบของที่ต้องการ เดินมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แล้วก็เดินออกไปจากร้าน


    ไม่มีคำพูด ไม่มีคำถาม ไม่มีรายการสินค้าอื่นนอกเหนือจากของพวกนี้ด้วยซ้ำ จะมีก็แต่ใบหน้าเรียบเฉยกับการขมวดคิ้วเล็กน้อยที่ไม่ได้สื่ออารมณ์ใดๆ ของเจ้าตัว เป็นลูกค้าประจำนิสัยแปลกๆ ที่ทำให้มินโฮคิดว่าน่าสนใจมากกว่าลูกค้าคนอื่นๆ นิดหน่อย


    แค่นิดหน่อยจริงๆ


    ความคิดที่ทำให้ต้องส่ายหัวขำๆ ก่อนจะกลับไปตั้งใจทำงานของตัวเองต่ออีกครั้ง


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    สี่ทุ่มของอีกวันถัดมา


     

    “ที่นี่ไม่มีไหมเย็บแผลขาย?”


    ประโยคคำถามสำเนียงบริทิชถูกส่งให้กับเภสัชกรในเคาน์เตอร์ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าคนพูดกำลังหงุดหงิดกับอะไรบางอย่างอยู่ เสียงที่ทำให้มินโฮที่เพิ่งเลิกงานเพราะวันนี้ไม่ได้มีเวรอยู่ดึกต้องชะงักขาที่กำลังจะเดินออกจากประตูร้าน ดวงตาสีดำหันไปมองคนต้นเสียงด้วยความสนใจ ร่างสูงโปร่งของลูกค้าประจำของเขากำลังยืนคุยอยู่กับเภสัชกรอีกคนที่หน้าเคาน์เตอร์ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือใบหน้าที่เคยเรียบเฉยไร้อารมณ์กลับมีแววครุกรุ่นอยู่ในดวงตาอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน


    “ไม่มีไหมเย็บแผล ทั้งๆ ที่ที่นี่เป็นร้านขายยาเนี่ยนะ?”


    “เอ่อ ต้องขอโทษจริงๆ ครับ แต่ที่ร้านเราขายเฉพาะสินค้าประเภทยา ไม่ได้ขายอุปกรณ์ด้านการแพทย์ด้วยครับ”


    คำตอบที่ทำให้คนฟังทำสีหน้ายุ่งยากใจอยู่ซักพัก แม้คิ้วเรียวจะยังขมวดมุ่นแต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้ารับอย่างจำนน ก่อนจะเดินผ่านมินโฮออกจากร้านไป ภาพที่ทำให้มินโฮได้แต่มองตามอย่างงๆ ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วมองเพื่อนร่วมงานหน้าเคาน์เตอร์ที่ทำเพียงแค่ยักไหล่ตอบกลับมาเท่านั้น


     








    มินโฮสาวเท้าเร็วๆ เดินไปตามถนนด้วยความเคยชิน เวลาสี่ทุ่มในมหานครนิวยอร์กไม่ได้น่ากลัวอะไรมากนัก ตามท้องถนนก็ยังคงมีรถราวิ่งอยู่ บนทางเท้าก็ยังคงมีคนเดินอยู่หนาตา แต่ถึงอย่างนั้นเส้นทางที่ตรงไปยังอพาร์ทเม้นท์ของเขามันก็เงียบและเปลี่ยวใช้ได้อยู่เหมือนกัน แล้วขาที่กำลังก้าวเดินก็ต้องชะงักอยู่กับที่ เมื่ออยู่ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างจ่อเข้ามาที่เอวของเขาจากด้านหลัง


    “อย่าเอะอะ อย่าโวยวาย ไม่งั้นฉันยิงพุงแตกแน่”


    สัมผัสจากปลายกระบอกปืนที่มาพร้อมกับน้ำเสียงแผ่วเบาที่กระซิบเป็นคำขู่


    เสียงขู่สำเนียงแบบอังกฤษจ๋าที่แม้จะเคยได้ยินแค่ครั้งเดียวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่มินโฮก็จำมันได้ดี


    และมันก็แปลกที่พอจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร มันก็กลับลดความน่ากลัวของคำขู่นั่นลงไปได้มากกว่าครึ่ง


    ความคิดที่ทำให้มินโฮต้องสะกดยิ้ม ทั้งๆ ที่รู้ว่านี่มันคงจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะมานึกขำ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยกมือขึ้นสองข้างอย่างที่บอกถึงการยอมแพ้


    “ยกมือทำบ้าอะไร เดี๋ยวคนอื่นก็ผิดสังเกตกันหมดหรอก!


    “อ้าว! ก็คุณเอาปืนจ่อเอวผมอยู่” คำตอบที่ได้รับการถอนหายใจตอบกลับมาอย่างที่ทำให้มินโฮแทบจะหลุดขำออกมาจริงๆ


    ท่าทางเขาจะบ้าจริงๆ แฮะ โดนปืนจ่อเอวอยู่แบบนี้ยังจะมีอารมณ์มานึกเอ็นดูคู่กรณี


    “เอามือลง” คำสั่งเสียงเครียดที่มินโฮยอมทำตามแต่โดยดี แม้จะยังไม่ได้หันกลับไปมองคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเลิกคิ้วขึ้นนิดกับคำถามต่อมา “นายเป็นเภสัชใช่มั๊ย?”


    “คุณก็รู้อยู่แล้วนี่ มาซื้อยากับผมแทบทุกวันไม่ใช่เหรอ”


    “ดี ที่ห้องนายมีอุปกรณ์เย็บแผลรึเปล่า?”


    คำถามที่ทำให้มินโฮต้องนึกถึงกล่องเครื่องมือแพทย์ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องตัวเอง โทมัสเพื่อนสนิท (ที่ทำอาชีพหมอ) ของเขาลืมเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ก่อนที่หมอนั่นจะขี้เกียจกลับมาเอาแล้วบอกว่ายกให้เขาเอาไว้ใช้ได้เลย


    “ถ้าตอบว่าไม่มีคุณจะเชื่อมั๊ย?”


    “แน่นอนว่าไม่”


    งั้นทีหลังก็อย่าถามคำถามที่มีคำตอบในใจอยู่แล้วสิวะ


    .

    .

    .


    .

    .

    .

    .

    ร่างสูงโปร่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ของคนที่เพิ่งจะถูกเขาข่มขู่ให้พามาที่นี่ ดวงตาสีน้ำตาลมองสำรวจไปรอบกายด้วยความระแวดระวัง บนโต๊ะทำงานห่างออกไปไม่ไกลมีขวดโหลที่เลี้ยงปลาทองตัวอ้วนเอาไว้ เสื้อผ้าที่เหมือนเพิ่งจะซักแห้งเสร็จแต่ยังไม่ได้รับการพับเก็บกองสุมกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ขวดเบียร์เปล่าสองสามขวดล้มกลิ้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขานั่งอยู่นัก


    ก็เหมือนกับห้องผู้ชายโสดทั่วๆ ไป


    ความคิดที่ทำให้คลายความระแวงลงไปได้บ้าง แต่ยังไม่ทันจบความคิดดีนัก ร่างโปร่งก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยแล้วคว้าปือขึ้นจ่อหน้าของคนที่เดินมาจากด้านหลัง


    “เฮ้ ใจเย็นพวก”


    “โทษที”


    เอ่ยคำขอโทษสั้นๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้ววางปืนลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ให้คนเป็นเจ้าของห้องต้องยกยิ้มแห้งๆ ส่งให้ ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆ แล้ววางกล่องเครื่องมือแพทย์ลงข้างๆ ปืนของเขาอีกที


    “แล้ว?”


    คำถามจากคนเป็นเภสัชกรที่ทำให้คนฟังต้องถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน ก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตนออก เผยให้เห็นแผลที่แขนซ้าย เลือดสีแดงยังคงไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลที่ถูกพันเอาไว้ลวกๆ


    “เย็บแผลให้ฉัน”


    “เฮ้! ผมเป็นเภสัชนะ ไม่ใช่หมอ!


    “ก็เหมือนกันล่ะน่า”


    “ไม่เหมือนเว้ย!


    “ไม่เหมือนยังไง?”


    “เภสัชมีหน้าที่ดูแลเรื่องยาของคนไข้ ห้ามทำอะไรคนไข้ แม้แต่ตรวจเลือดวัดน้ำตาลยังผิดกฎหมายเลย ขนาดสั่งยาเองผมยังไม่มีสิทธิ์ทำเลยนะคุณ”


    “ไม่ต้องไปสนใจกฎหมายปลวกนั่นหรอกน่า!” คำตอบที่ทำให้มินโฮแทบยกมือกุมขมับ


    แล้วเขาจะไปเย็บแผลเป็นได้ยังไงล่ะวะ?!


    “เอางี้ ให้ผมโทรเรียกเพื่อนที่เป็นหมอมาดีกว่า”


    “ไม่ได้!


    เสียงตะคอกจากคนเจ็บที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะซีดลงเรื่อยๆ เพราะพิษบาดแผลที่เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด ดวงตาสีน้ำตาลจ้องหน้ามินโฮอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้มินโฮต้องชะงักไป


    “ฉันไม่ไว้ใจคนอื่น”




    “แล้วอะไรที่ทำให้คุณไว้ใจผมได้ล่ะ?”



    และนั่นก็เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบใดๆ ถูกส่งกลับมา




     




    มินโฮกำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่บาดแผลที่เขากำลังเย็บอยู่ มันเป็นการทำผิดจรรยาบรรณครั้งแรกในชีวิตของเขา และก็เป็นการผิดจรรยาบรรณแบบที่โคตรปลวกเลยด้วย ถึงเขาจะคิดว่าฝีมือการเย็บของตัวเองก็ไม่ได้เลวเกวอะไรนักก็เถอะ


    “ฝีมือใช้ได้นี่” คำชมจากคนเจ็บที่ตอนนี้กำลังยกบรั่นดี (ที่บังคับให้มินโฮไปหามาให้) ขึ้นดื่มอึกๆ ราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับไอ้การถูกเย็บสดนี่เลยซักนิด


    “ดีที่เป็นแค่แผลถูกยิงถากๆ ถ้าแผลหนักกว่านี้ผมว่าคุณคงได้อาการหนักลงเพราะฝีมือผมแน่ๆ” คำตอบที่ทำให้คนเจ็บยกยิ้มขำ ก่อนจะก้มลงมองมือใหญ่ที่กำลังผูกปมไหมเย็บแผลเป็นครั้งสุดท้าย


    “จะไม่ถามเหรอว่าฉันไปทำอะไรมาถึงได้ถูกยิงแบบนี้”


    “ถามไปคุณก็ไม่ตอบอยู่ดีไม่ใช่รึไง?”


    “ฉลาดนี่”


    มินโฮใช้กรรไกรตัดไหมที่เหลือทิ้ง ก่อนจะวางอุปกรณ์ทั้งหมดลงแล้วเงยขึ้นสบตากับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขายกยิ้มกวนๆ ส่งให้หนึ่งครั้ง ก่อนจะต่อประโยคสนทนาด้วยน้ำเสียงหยั่งเชิง


    “คุณอาจจะเป็น FBI CIA สายลับ หน่วยชิลด์”



    “หรือไม่ก็อาจจะเป็นแค่วัยรุ่นเลือดร้อนธรรมดาๆ”


    คำพูดยั่วยุที่ทำให้คนฟังระบายยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก


    ใบหน้าดูดีจนติดไปทางสวยค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อในแบบคนเอเชีย ดวงตาสองคู่สบมองกันอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่คนเจ็บจะก้มกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู


    “หรือไม่อีกทีก็อาจจะเป็นนักฆ่าซักคน”


    ประโยคกระซิบที่ควรจะทำให้คนฟังต้องกลัว แต่มินโฮกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยซักนิด


    อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงกระซิบที่เหมือนเด็กซนๆ ที่อยากแกล้งคนอื่นมากกว่าจะข่มขู่ อาจจะเป็นเพราะเวลาสองชั่วโมงที่อยู่ด้วยกันกับประโยคสนทนาสั้นๆ ที่มันทำให้คนคนนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่เจ้าตัวพยายามแสดงออกเลยซักนิด


    หรืออาจจะเป็นเพราะกลิ่นเย้ายวนของน้ำหอมที่ติดอยู่บนซอกคอขาว ที่มันทำให้มินโฮนึกถึงอย่างอื่นมากกว่าเรื่องที่เจ้าตัวกำลังพูดถึงอยู่


    “ดูเหมือนว่านายจะไม่กลัวเลยนะ” คำถามที่ไม่ได้มีแววแปลกใจอยู่ในน้ำเสียงอย่างที่ควรจะเป็น ก่อนที่คนถามจะยกยิ้มน้อยๆ เอื้อมมือคว้าปืนของตัวเองมาไว้แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


    “คุณจะไปแล้วเหรอ?”


    “นายควรจะดีใจที่ฉันไปได้ซักทีนะ”


    มินโฮลุกขึ้นยืนตาม ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ร่างของคนที่ทำท่าว่าจะเดินออกไปจากห้องการกระทำที่ทำให้คนมองต้องขมวดคิ้วส่งเป็นคำถามอย่างติดจะไม่เข้าใจ


    “หรือว่าเปลี่ยนใจจะจับฉันส่งให้ตำรวจแล้ว?” ส่งคำถามอย่างที่รู้ว่าไม่ใช่ ให้คนถูกถามต้องส่ายหัวขำๆ


    “เปล่า ผมแค่สงสัยว่าทำไมถึงไม่ได้รับคำขอบคุณเลยน่ะ”


    “นายทำเพราะไม่อยากโดนยิงไส้ทะลักไม่ใช่รึไง ยังมีหน้ามาทวงบุญคุณอีก”


    “แต่ผมก็อุตส่าห์ยอมผิดจรรยาบรรณวิชาชีพตัวเองเลยนะเว้ยครับ”





    “อย่างน้อยก็น่าจะบอกชื่อกันหน่อยก็ยังดี


    คำพูดที่ทำให้คนฟังเหลือบตาขึ้นฟ้าอย่างติดจะระอา ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินไปหยุดลงตรงหน้าคนพูด ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววครุ่นคิดเล็กน้อย มองใบหน้านั้นอยู่ซักพัก แล้วมือเรียวก็ยกขึ้นโน้มคอของคนตรงหน้าลงมาประกบจูบ


    จูบรวดเร็วที่แทบไม่ได้เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว


    จูบแผ่วเบาที่เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ผละออกห่าง


    “แล้วเจอกันที่ร้านนะ คุณเภสัช”


    พูดจบก็ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ก่อนจะหมุนตัวกลับ แล้วเดินเปิดประตูออกจากห้องไป




    ไม่คิดจะรับผิดชอบความรู้สึกของผู้ถูกกระทำที่โดนทิ้งไว้ข้างหลังเลยซักนิด

     





    End.


    *****************************************************************************



    จบแบบอึนๆ T[]T

    ขอบคุณข้อมูลเรื่องจรรยาบรรณของเภสัชกรและรายการสินค้าในร้าน Boots จากคุณเพื่อนบังเกิดเกล้าค่ะ

    ฟิคเรื่องนี้ตั้งใจว่าจะเขียนให้มันอ่าน แต่ก็ดันไม่ค่อยกล้าส่งให้มันอ่านซะงั้น เอาเป็นว่าผิดพลาดประการใด เพื่อนก็ขออภัยนะคะ TT^TT

     

    ส่วนคนอ่านที่น่ารักของไอวิช ใครอ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงก็ติชมกันได้เลยนะคะ

    ไอวิชยินดีน้อมรับทุกคำแนะนำค่ะ ^0^

     

    รักคนอ่านมาก

    ไอวิช

     

    ปล.ฟิคเรื่องนี้เป็นหนึ่งในโปรเจคฟิค 5 คำ ที่ไอวิชเขียนร่วมกับเพื่อนๆ ค่ะ สามารถเข้าไปหาฟิคเรื่องอื่นๆ ในโปรเจคอ่านได้จากแท็ค #ฟิคห้าคำ ในทวิตเตอร์เลยเน้อ







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×