ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #42 : ผมชอบคุณ 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.71K
      30
      31 ก.ค. 60

    เบญจาถือจานของกินเล่นที่เขาชอบออกไปวางที่โต๊ะกลาง แล้วถอยห่างออกมานั่งบนเก้าอี้สำหรับนั่งคนเดียว ส่วนเจ้าของบ้านหนุ่มกำลังเลือกแผ่นดีวีดี ซึ่งคงจะดูหนังอีกตามเคย ส่วนเจ้านิลไปนั่งชะเง้อชะแง้มองอยู่ข้าง ๆ อย่างสนใจว่าเจ้านายทำอะไร

    ธนดลเปิดเครื่องเล่นดีวีดีเสร็จก็ถือรีโมทกลับมานั่งที่เก้าอี้ หยิบหมอนอิงลายดอกไม้มาถือไว้ เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยชอบใจนักกับเก้าอี้ไม้แกะสลักเพราะรู้สึกนั่งไม่สบาย ด้วยชินกับการนั่งบนโซฟาหนานุ่ม เขาต้องตัดใจไม่เปลี่ยนไปใช้โซฟาเพราะไม่อยากมีปัญหากับรอยเล็บของเจ้านิล แต่ตอนนี้นั่งนอนสบายขึ้น ไม่ใช่เพราะความเคยชิน แต่เป็นเพราะแม่บ้านคนสวยของเขาเย็บเบาะรองนั่งมาวางไว้ให้

    “ม๊ามานั่งตรงนี้ด้วยกันสิครับ” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่นั่งอยู่เยื้อง ๆ กันให้มานั่งกับเขาที่เก้าอี้ตัวยาว

    “เบญนั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ เจ้านิลจะได้นอนสบาย” เธอมองไปยังที่นั่งข้าง ๆ เขาซึ่งตอนนี้เจ้านิลนอนกางพุงแผ่หลาอยู่อย่างสบายอารมณ์ นายแพทย์หนุ่มก้มมองข้างตัวแล้วคว้าเจ้าเหมียวมานั่งบนตัก

    “เจ้านิลไม่อยากนอนแล้วครับ” พูดแล้วตีหน้าตาย จนคนถูกชวนยิ้มขำ

    “ดูซิ...ไปขัดความสุขเจ้านิล” หญิงสาวส่ายหน้า

    “ก็เจ้านิลขัดความสุขป๊าก่อนนี่ ม๊ามานั่งกับป๊านะ ตรงนั้นดูทีวีไม่ชัดหรอก” ว่าเสียงอ้อน ๆ เธอไม่อยากจะให้เขาเรียกซ้ำหลายครั้ง จึงลุกไปนั่งด้วยกัน แต่เพราะยังไม่ชินกับการนั่งติดกับคนเป็นเจ้านายแม้ว่าตอนนี้เขาจะขอเป็นแฟนเธอแล้วก็ตาม จึงขยับมาชิดกับที่วางแขน

    ชายหนุ่มหันมองคนนั่งเกร็ง ๆ แวบหนึ่งแล้วจุดยิ้มที่มุมปากก่อนจะหันไปสนใจกับภาพในจอโทรทัศน์ เพื่อให้เธอได้ใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยในการอยู่ใกล้ชิดกับเขาสักนิด ขืนจู่โจมมากไปประเดี๋ยวเป้าหมายจะกระเจิงเสียก่อน

    “ม๊าครับป๊อบคอร์น” เสียงคนข้าง ๆ เอ่ยเรียกพลางยื่นชามใส่ป๊อบคอร์นใบใหญ่มาให้ หญิงสาวหันไปมองเห็นเขาจ้องเขม็งไปยังจอโทรทัศน์ซึ่งหนังบู๊ล้างผลาญกำลังตื่นเต้น เธอยื่นมือไปหยิบมาใส่มืออีกข้างหนึ่งเพื่อเคี้ยวเล่นระหว่างนั่งดูหนัง คนที่ยื่นให้พอรู้ตัวว่าเธอหยิบไปแล้วก็เอากลับไปวางไว้บนโต๊ะกลางอย่างเดิม ก่อนจะชำเลืองคนข้าง ๆ แล้วดูหนังต่อ

    “ม๊าครับปลาเส้น” เขายื่นมาให้อีกแล้ว เธอก็หยิบไปกินไปพลางดูหนังไปพลางเพราะเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที คนที่หยิบให้กินแอบอมยิ้ม เพราะไม่ว่าเขาจะยื่นอะไรให้เธอก็หยิบไปกินโดยไม่ปฏิเสธ แถมยังจ้องดูจอโทรทัศน์ตาไม่กระพริบ จึงฉวยโอกาสขยับไปนั่งใกล้ขึ้นอีกนิดจนติดกับเจ้านิลที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงกลาง

    “เมี๊ยว” เจ้านิลได้กลิ่นปลาเส้นที่เบญจากำลังกินแล้วไปชะเง้อมอง หญิงสาวก้มดูแวบหนึ่งแล้วยื่นปลาเส้นให้มัน แต่คนเป็นป๊ามาดึงไปจากมือแล้วพาแมวไปด้วย

    “เจ้านิลมานี่เลย อย่าไปกวนม๊าดูทีวีเดี๋ยวป๊าป้อนให้เอง” ทำเนียนคว้าเข้านิลไปนั่งอีกข้างหนึ่งแล้วตัวเองขยับมานั่งกลาง ทำให้พื้นที่ระหว่างเธอกับเขาห่างกันไม่ถึงคืบ หญิงสาวหันไปยังคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้ทำเป็นสนอกสนใจเจ้านิล คอยหยิบปลาเส้นของโปรดให้มันกิน จึงหันไปยังจอโทรทัศน์ต่อ

    “ม๊าครับน้ำ” ยื่นแก้วน้ำให้ทั้ง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเธอพอจะเอื้อมถึง แต่หญิงสาวก็รับมาดื่มแล้ววางไว้บนโต๊ะกลางอย่างเดิม แต่คนข้าง ๆ นี่สิ ขยับเข้ามานั่งตัวติดกันเชียว

    “ม๊าครับ...” เรียกอีกแล้ว จนคนที่กำลังนั่งดูหนังเพลินชักรำคาญ

    “คะ...”

    “เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมครับ” คนที่ถามยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่าตกลงแล้วตอนนี้เธอรับเขาเป็นแฟนหรือยัง เพราะตอนที่กำลังจะเข้าสู่โหมดหวานและขอเป็นแฟน เจ้านิลดันขัดจังหวะขึ้นเสียก่อนรวมทั้งความขัดเขินทำให้เขาลืมไปหมดว่าจะพูดอะไรต่อ

    “คุณดลว่าอะไรนะคะ” หญิงสาวละสายตาจากจอโทรทัศน์

    “ป๊าถามม๊าว่า...ม๊ารับป๊าเป็นแฟนหรือยัง” ถามเสียงอ่อย ๆ หญิงสาวผุดยิ้มมุมปาก

    “ยังค่ะ...เบญแค่รับทราบว่าคุณดลชอบเบญและขอเวลาให้เบญพิจารณาคุณดลหนึ่งเดือน” หญิงสาวตอบเสียงเนิบ ไม่ได้แกล้งเย้าแหย่เขาแต่อย่างใด แต่เป็นการตอบออกมาหลังจากที่เธอคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วว่าต่อให้เธออายุจะย่างเข้าเลขสี่ในอีกเจ็ดแปดเดือนข้างหน้าแต่ก็ไม่มีวันคว้าใครก็ได้เข้ามาเพราะคิดว่าเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายเด็ดขาด

    สำหรับเธอแล้วการที่จะรับใครมาร่วมชีวิตซึ่งจะอยู่ด้วยกันต่อไปอีกครึ่งชีวิตนั้น คนที่เข้ามาใช้ชีวิตร่วมด้วยจะต้องทำให้เธอมีความสุข และเขาก็จะต้องมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอเช่นกัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งมีความสุขส่วนอีกคนต้องอยู่อย่างทนทุกข์

    อย่างน้อยเธอต้องมั่นใจมากกว่านี้ก่อนตัดสินใจ เพราะเธอไม่ใช่เด็กสาววัยรุ่นหรือวัยทำงานตอนต้นที่ยังมีเวลาลองถูกลองผิดกับชีวิต 

    “ม๊าไม่ไว้ใจป๊าเหรอ...หรือป๊าทำอะไรให้ม๊าไม่ถูกใจหรือเปล่า” ถามด้วยสีหน้ากังวล จากที่ก่อนหน้านี้ใจชื้นขึ้นเป็นกองแต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกลับไปยืนอยู่จุดเดิม

    “เปล่าค่ะ คุณดลเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ถ้าเบญอายุน้อยกว่านี้สักหน่อย คงรีบตัดสินใจตกลงทันที” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อน ๆ

    “ตอบแบบนี้...ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับ” ถามมาเสียงหม่น ๆ

    “คุณดลไม่ดูหนังแล้วหรือคะ” เธอเปลี่ยนเรื่อง

    “คงดูไม่รู้เรื่องแล้วละ ป๊าจะขึ้นไปนอนแล้วนะครับม๊า...เจ้านิลไปนอนได้แล้วไป ดึกแล้ว” ทำเสียงหงอย ๆ แล้วคว้าเจ้านิลเดินขึ้นไปบนห้อง เบญจามองตาม เจ้านายของเธอซึ่งในยามปกติก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่านดีอยู่หรอก แต่กับเรื่องความรักเขากลับดูจะเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ๆ เสียอย่างนั้น จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอายุเท่าเธออย่างที่บอก

    เบญจาดูหนังต่อจนจบแล้วจึงไปปิดเครื่องเล่นดีวีดีและโทรทัศน์ ปิดเครื่องปรับอากาศแล้วสำรวจประตูหน้าต่างเรียบร้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าดอกคาเนชั่นสีแดงช่องามยังวางอยู่บนโต๊ะในห้องครัว จึงตั้งใจจะหยิบไปไว้บนห้อง

    เธอเข้ามายืนอยู่ในห้องครัวแล้วจ้องมองดอกไม้ช่อสวยที่คนให้งอนตุ๊บป่องขึ้นไปนอนบนห้องเสียแล้ว

    เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักจริง ๆ

    หญิงสาวหยิบมาแล้วลูบไล้กลีบดอกอย่างอ่อนโยน เธอยกขึ้นสูดดมแล้วคลี่ยิ้มหวานให้กับมันก่อนจะประคองไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม

    “อุ๊ย” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ารอบเอวของเธอโดนสวมกอดมาจากด้านหลัง


    ------------------------------------

    จบไปอีกบท พรุ่งนี้มาอ่านกันต่อนะคะ อ่านแล้วรักชอบหรือจะเวทนาก็ได้ช่วยแอด fav. ให้เค้าหน่อยน้าาา ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะที่ติดตามอ่าน ขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยค่ะ ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ...ทิพย์ทิวา 29/3/2016 21.53

    ฝากอีบุ๊คหมอดลด้วยนะคะ

    หากจะรัก
    ทิพย์ทิวา
    www.mebmarket.com
    บ้านราชวัฒโยธินเป็นสิ่งที่เบญจาสูญเสียไปเธอต้องการได้มันกลับคืนมาทุกลมหายใจแต่จะทำอย่างไรเล่า ในเมื่อเธอไม่มีเงินจะซื้อคืนการรอคอยเกือบยี่สิบปีของเธอใกล้สมหวังเสียทีเมื่อเจ้าของบ้านคนใหม่เข้ามาพำนักที่บ้านหลังนั้นสัตวแพทย์ธนดลชายหนุ่มวัยย่างสามสิบเขาเป็นผู้ชายมาดแมนที่ไม่เคยกลัวอะไรนอกจากผีดังนั้นบ้านหลังนั้นจึงเป็นเพียงบ้านผีสิงที่เขาอยากสลัดทิ้งแต่เงื่อนไขในพินัยกรรมบังคับให้เขาต้องรับมันไว้เมื่อต้องไปอยู่ที่นั่นตามคำสั่งของบิดาเขาจึงต้องหาใครสักคนที่จะไปอยู่ร่วมบ้านผีสิงนั้นด้วยกันประกาศรับสมัครแม่บ้านจึงนำพาเธอให้เอาชีวิตเข้าไปพัวพันกับเขาและเจ้านิลแมวตัวป่วนที่เขาเอามาเป็นสื่อเชื่อมความสัมพันธ์แสนหวานกับแม่บ้านคนสวยแม้เธอจะเป็นรุ่นพี่เขาก็ไม่เห็นจะแคร์ แต่เธอเล่าจะรู้สึกอย่างไรกับเขากันแน่-------------------------------------------เธอเข้ามายืนอยู่ในห้องครัวแล้วจ้องมองดอกไม้ช่อสวยที่คนให้งอนตุ๊บป่องขึ้นไปนอนบนห้องเสียแล้วเธอไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักจริง ๆหญิงสาวหยิบมาแล้วลูบไล้กลีบดอกอย่างอ่อนโยน เธอยกขึ้นสูดดมแล้วคลี่ยิ้มหวานให้กับมันก่อนจะประคองไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม“อุ๊ย” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ารอบเอวของเธอโดนสวมกอดมาจากด้านหลัง---------------------------------------คลิ๊กอ่านตัวอย่างกันก่อนนะคะ นิยายรักแนว feel good  ที่มีครบทุกรสค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×