ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #26 : ไปเที่ยวกันไหม 40%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.05K
      28
      25 ส.ค. 60

    ๑๐

    ไปเที่ยวกันไหม

     

    ธนดลยืนมองพื้นที่หลังบ้านของเขา นายเริ่มกำลังเปิดน้ำรดแปลงผักและสวนดอกไม้หลังบ้าน ละอองน้ำจากสปริงเกอร์สะท้อนกับแสงแดดยามเช้าเป็นสีรุ้งน่ามอง ซึ่งเหมือนภาพสเก็ตคร่าว ๆ ที่เบญจาเอามาให้เขาดูว่าเห็นด้วยไหมหากปรับสภาพแวดล้อมหลังบ้านให้เหมือนกับรูปที่เธอวาด ตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไรนัก เห็นว่าเธอทำอะไรแล้วมันดูดีขึ้นกว่าเดิมก็อนุญาตให้ทำ แต่เมื่อเห็นผลงานหลังจากเวลาผ่านไปเพียงเดือนกว่า ๆ ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่าง ก็ยิ่งชื่นชมในความคิดและการออกแบบของเธอ

    เขาสังเกตว่าเบญจามีความสุขกับการได้ออกแบบขีดเขียน วาดโน่นวาดนี่แล้วทำออกมาตามแบบได้สวย ไม่ว่าการจัดสวนหรือการออกแบบชุดน้องหมาน้องแมวที่เขาเอาไปวางขายที่โรงพยาบาลสัตว์ซึ่งตอนนี้สินค้าจำนวนมากของเธอที่วางขายอยู่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากทีเดียว ถึงขั้นขายดีก็ว่าได้ เพราะในโรงพยาบาลมีโซนสำหรับขายอาหารสัตว์ ของเล่นสำหรับสัตว์ เสื้อผ้ารวมทั้งสิ่งจำเป็นและของประดับตกแต่งสำหรับคนรักสัตว์วางขายเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาลอีกทางหนึ่ง

    “ผักเริ่มโตแล้วนะคะ ต้นเขียวสวยเชียว นายเริ่มทำงานถูกใจคุณดลไหมคะ” เสียงหวานดังมาจากข้างหลัง คนที่ยืนอยู่หันไปยิ้มให้

    วันนี้เธอสวยสดใสอย่างเคย ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแต่งหน้าบาง ๆ อ่อนหวานในแบบของเธอที่เขาเห็นเมื่อไหร่ก็รู้สึกชุ่มชื่นไปทั้งหัวใจ หญิงสาวอยู่ในชุดแซกสีม่วงเข้มแขนยาวกระโปรงคลุมแค่เข่าสวมรองเท้าสานแบบสบาย ๆ สำหรับอยู่บ้าน มองอย่างไรเขาก็ไม่รู้สึกเลยว่าผู้หญิงคนนี้อายุมากกว่าเขา

    “นายเริ่มทำงานดีมากครับ ขอบคุณคุณเบญมากที่ทำให้ผมรู้สึกว่าบ้านเป็นบ้านจริง ๆ เราไปดูกันไหมครับว่านายเริ่มทำอะไรอยู่” เขาเอ่ยชวนพลางก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ก็ชะลอเท้ารอให้เธอเดินมาเคียงข้าง

    “นายเริ่มเป็นคนขยันค่ะ หนักเอาเบาสู้ น้าพิศก็เหมือนกัน นิสัยคล้าย ๆ กัน ขยันทำงานแถมไม่โลภมากด้วยค่ะ ส่วนเชษฐ์ก็ได้เชื้อพ่อแม่มาเต็มเชียว ได้ข่าวว่าเรียนดีด้วยค่ะ”

    “เป็นบุญของนายเริ่มนะครับ ได้เมียดีเลยมีผลมาถึงลูกด้วย” ว่าแล้วก็หันมองคนข้าง ๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเธออายุน้อยกว่าพิศเพียงสี่ปี แต่ดูต่างกันลิบลับ พิศนั้นทำงานหนักใบหน้าเลยหยาบกร้านแก่กว่าวัยพอ ๆ กับนายเริ่ม ส่วนเบญจาผิวพรรณเกลี้ยงเกลาดูอย่างไรก็หาริ้วรอยไม่เจอ

    “นายเริ่มทำอะไรอยู่จ๊ะ” เบญจาเอ่ยถามนายเริ่มที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ที่ถาดเพาะเมล็ดพันธุ์

    “อ้อ ผมจะเพาะพันธุ์ดอกไม้ที่คุณหนูซื้อมาวันก่อนไงครับ ว่าจะเอาไปลงที่แปลงดอกไม้หน้าบ้าน เพราะอีกไม่กี่วันดอกไม้ที่ซื้อมาประดับไว้คงเฉาหมด ต้องเอามาตัดแต่งรอดอกชุดใหม่เลยคิดว่าจะเอาดอกไม้ชุดนี้ไปสลับแทน จะได้เห็นดอกไม้สด ๆ สลับเปลี่ยนสีสันกันบ้าง” นายเริ่มอธิบาย

    “อ้อ ดีเลย นายเริ่มเก่งจัง” เบญจาเอ่ยชมพลางทรุดนั่งลงข้าง ๆ ดูนายเริ่มทำงานอย่างสนใจ ในขณะที่ธนดลอดสะดุดหูกับคำเรียกขานซึ่งนายเริ่มเคยเรียกเบญจาว่าคุณเบญ แต่วันนี้กลับเรียกเธอว่าคุณหนู และดูเบญจาก็เหมือนจะไม่เอะใจอะไร เขาก็เลยไม่ได้สนใจอะไรอีก

    “เดี๋ยวเบญช่วยค่ะ” เธอหยิบถาดเพาะมาเพื่อจะเอาดินปลูกสีดำเทใส่ แต่นายเริ่มคว้าเอาไว้

    “อย่าเลยครับคุณหนู เลอะเทอะเปล่า ๆ ผมทำเองดีกว่า” เบญจาปล่อยมือแล้วเริ่มนึกถึงคำที่นายเริ่มใช้เรียกเธอว่า คุณหนู’ นายเริ่มคงจะลืมตัวเพราะเรียกเธออย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่จะให้ทักท้วงตอนนี้ก็กระไรอยู่ เห็นเจ้านายไม่มีที่ท่าอะไรจึงคิดว่าปลีกตัวไปก่อนแล้วค่อยกำชับนายเริ่มใหม่อีกทีว่าอย่าหลุดอีกก็แล้วกัน แม้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรแต่เธอก็ไม่อยากให้เขารู้อยู่ดีว่าเธอเข้ามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น

    “งั้นเบญไม่อยู่เกะกะนายเริ่มดีกว่า” เธอลุกขึ้นยืนแล้วหันมาหาคนเป็นเจ้านาย “เบญว่าไปดูแปลงผักกันไหมคะ” เธอเอ่ยชวน ชายหนุ่มยิ้มแล้วเดินไปพร้อมกัน โดยมีนายเริ่มมองตามแวบหนึ่งแล้วกลับไปทำงานของตัวเองต่อ

    “ดูนายเริ่มเขาจะเกรง ๆ คุณเบญนะครับ”

    “เขาก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรค่ะ” เธอตอบยิ้มแย้ม

    “คุณเบญสนิทกับนายเริ่มมากหรือครับ” คำถามของเขาทำให้เธอน้ำตาซึม เพราะนายเริ่มเป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ อายุเธอกับนายเริ่มต่างกันเพียงไม่กี่ปี ถึงจะเป็นลูกคนสวนแต่เธอก็รู้สึกเหมือนเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่ง เพราะตอนนั้นในบ้านหลังนั้นมีเด็กอยู่เพียงสามคนคือเพียงขวัญ ซึ่งอายุเท่านายเริ่มและเธอที่อายุน้อยกว่าเป็นน้องเล็ก ผู้ใหญ่เลยให้เล่นด้วยกันอย่างไม่ถือสา

    “ก็รู้จักมานานค่ะ เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก” เธอว่าอย่างนั้น เขาพยักหน้าเชิงบอกว่าเข้าใจ ก่อนจะชวนกันเดินดูโน่นดูนี่อยู่พักใหญ่ แล้วคุยกันไปพลาง

    “คุณเบญทำงานที่นี่เหนื่อยหรือเปล่าครับ” จู่ ๆ เขาก็เอ่ยถามขึ้น

    “เหนื่อยที่ไหนกันคะ ตอนนี้เบญแทบไม่ได้ทำอะไรแล้วค่ะ น้าพิศแย่งไปทำหมด บางทีก็นึกเกรงใจคุณดลนะคะ รับเงินเดือนตั้งเยอะแต่แทบไม่มีอะไรให้ทำ” เพราะตั้งแต่นายเริ่มพาครอบครัวมาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็แทบไม่ยอมให้เธอทำอะไรเลย คิด ๆ ไปก็อดเกรงใจคนจ่ายเงินไม่ได้

    “ก็ดีแล้วนี่ครับ คุณเบญจะได้เอาเวลาไปออกแบบชุดน้องหมาน้องแมวได้เต็มที่”

    “แต่ออกแบบชุดน้องหมาน้องแมวนั่นมันเป็นงานพิเศษของเบญ ไม่ได้เกี่ยวกับค่าจ้างที่คุณดลจ่ายเลยค่ะ เบญรู้สึกเหมือนตัวเองทำงานไม่คุ้ม”

    “ก็ถือว่าผมจ่ายค่าออกแบบชุดก็แล้วกันครับ ออกแบบชุดน่ารัก ๆ เก๋ ๆ ไม่ซ้ำใครให้ผมเอาไปขาย ผมก็เอากำไรจากตรงนั้นมาจ่ายให้คุณเบญไงครับ คุ้มแสนคุ้ม” หญิงสาวหันมายิ้มให้

    “ยังไงเบญก็ขอบคุณคุณดลด้วยนะคะ ที่ให้โอกาสเบญได้ทำงานที่ตัวเองถนัด”

    “ไม่เป็นไรครับ เพราะถ้าผมไม่ได้คุณเบญช่วยตอนเข้ามาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงเหมือนกัน ดังนั้นไม่ต้องคิดมากนะครับ ขอแค่ตอนนี้คุณเบญอย่าเพิ่งทิ้งผมกับเจ้านิลไปไหนก็พอ”

    พูดแล้วก็แอบมองคนข้าง ๆ ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง แต่เห็นเธอทำหน้านิ่งอย่างเคย เหมือนคำพูดที่เขาแอบหยอดนั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรกับมันสักนิด จึงได้แต่แอบถอนใจเบา ๆ เพราะเธอวางตัวเหมือนจะสนิทแต่ก็ยังมีกำแพงบางอย่างกั้นอยู่เสมอ จนเขาไม่รู้ว่าจะต้องไปต่อยังไง

    เพราะที่เธอพูดคุยสนิทสนมอาจเป็นด้วยหน้าที่การงานที่ต้องอยู่ด้วยกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง ถ้าหากเขาจะแสดงท่าทีโจ่งแจ้งเกินไปแล้วเธอไม่พอใจขึ้นมา จะกลายเป็นว่าเขาเป็นพวกเจ้านายหื่นกามเป็นสมภารกินไก่วัด จะมองหน้ากันไม่ติดไปเสียเปล่า ๆ แม้ใจอยากลุยไปข้างหน้าก็กลัวว่าเป้าหมายจะกระเจิงหายไป จึงทำได้แค่ลองแย็บ ๆ แต่ผลงานก็ไม่กระเตื้องขึ้นสักนิด

           ทั้งที่ตอนพบกันวันแรกเขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอในด้านหัวใจจะก่อตัวได้อย่างรวดเร็วถ้าได้มาอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ยิ่งนานวันเขายิ่งรู้สึกว่ามันยังอยู่เท่าเดิม เธอยังเห็นว่าเขาเป็นเจ้านายส่วนเธอก็คือลูกน้องอยู่อย่างนั้น

              ทว่าบางครั้งเขาก็เห็นแววตาบางอย่างของเธอที่ส่งประกายให้เขารู้สึกเหมือนมีความหวัง แต่มันแค่แวบเดียวแล้วหายไป

              คงต้องหาวิธีทลายกำแพงนั่นสินะ...นายแพทย์หนุ่มคิดพลางก้าวขาเดินเคียงข้างเธอไปอย่างเงียบ ๆ


    ---------------------------------------------

    สวัสดีค่า ไม่ทราบว่าใครเพิ่งเข้ามาอ่านผลงานของทิพย์ทิวาเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกบ้างคะ ยกมือให้ดูหน่อย ไรท์อยากถามว่าถ้าไม่ได้อ่านนิยายเรื่องอื่น ๆ ในชุดเพียงแสงส่องใจแล้วอ่านจะเรื่องนี้เข้าใจไหม คือไรท์กลัวคิดไปเองว่าคนอ่านเข้าใจ เลยอยากสอบถามดูค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ...ทิพย์ทิวา 10/3/2559 22.03

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×