ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #18 : นัดดูตัว 70% (รีไรท์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.23K
      26
      21 พ.ย. 61

    ธนดลนั่งอยู่ในภัตตาคารหรูซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารจีนรสชาติอร่อยล้ำและเล่าอ้างกันว่าสูตรอาหารนั้นมาจากราชสำนักชั้นสูง เขาก้มมองอาหารตรงหน้าที่แม้จะไม่ค่อยรู้ชื่อแต่ไม่ได้แปลกตาสักเท่าไหร่ เพราะเป็นอาหารที่คนในครอบครัวของเขาชอบรับประทานอยู่เป็นประจำ แต่เขากลับแปลกกว่าคนอื่น ๆ ในบ้านตรงที่ชอบอาหารไทยที่รสชาติไม่เผ็ดมากนักเช่น แกงส้ม ต้มยำ หรือแกงเผ็ดแต่ต้องมีรสเผ็ดอ่อน ๆ เขาชอบกลิ่นเครื่องเทศและความเข้มข้นของรสชาติ แต่ปากและลิ้นของเขายังสู้กับอาหารเผ็ดจัดไม่ได้ เนื่องจากรับประทานอาหารรสจืดมาตั้งแต่เด็ก

    ซึ่งรสชาติอาหารที่เบญจาทำให้เขารับประทานนั้นอร่อยถูกปากทีเดียว ไม่เผ็ดจัดเหมือนกับบางร้านที่เขาไปกิน แต่รสชาติทุกอย่างเข้มข้นถึงรส สุดท้ายเขาก็วกไปคิดถึงแม่บ้านของเขาอีกจนได้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    ชายหนุ่มเผลอทำหน้าละเหี่ยใจเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า ที่ยังถ่ายภาพเซลฟีกับอาหารทุกจานยังไม่ครบ และเขาก็ยังไม่ได้กินสักทีเพราะเธอบอกว่าขอถ่ายรูปอัปเฟซบุ๊กก่อน อยากบอกว่าหิวตาลาย แต่เขาก็ต้องรอเพื่อถนอมน้ำใจฝ่ายตรงข้ามอีกนิด

    “พี่ดลคะ ถ่ายรูปให้สาลี่หน่อยค่ะ ถ่ายให้เห็นอาหารทั้งโต๊ะด้วยนะคะ” ชายหนุ่มยิ้มแกน ๆ ก่อนจะรับสมาร์ตโฟนของเธอมาแล้วถ่ายรูปให้สองสามรูปซึ่งเธอก็แอคชั่นได้สุดเก๋ ก่อนจะรับไปแล้วจิ้ม ๆ เจ้าเครื่องนั่นอยู่พักหนึ่ง เธอคงจะอัปโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คเสร็จแล้วจึงวางลงแล้วหันมายิ้มให้กับเขา

    “พี่กินได้หรือยังครับ” เขาถามยิ้ม ๆ แม้ข้างในจะสุดกล้ำกลืนเพราะนั่งมองราวครึ่งชั่วโมงได้แล้ว จนท้องร้องโครกครากเพราะความหิว

    “อ้อ เชิญเลยค่ะพี่ดล น่ากินทั้งนั้นเลยนะคะ” เธอยิ้มร่าเริง เขาคาดว่าอายุของสาลี่ก็คงเท่า ๆ กับน้องสาวของเขา

    “พี่ก็มีน้องสาวน่าจะรุ่นเดียวกับน้องสาลี่” เขาพูดขึ้นเป็นเชิงชวนคุยเพื่อรักษาบรรยากาศในการรับประทานอาหาร

    “หรือคะพี่ดล ลี่ยังเรียนปีสามอยู่เลยนะคะ ไม่รู้ป๊ากับม๊าจะให้รีบแต่งงานไปถึงไหน นัดลี่ให้ไปดูตัวเดือนละหลายครั้งเลย” เธอว่าเสียงร่าเริง

    “หรือครับ แล้วเป็นยังไงบ้างครับ น้องสาลี่ไม่พอใจหรือครับ ถึงไม่ตกลงกับใครสักที” เขาจึงถามขึ้นตรง ๆ บ้าง

    “ลี่ก็ชอบนะคะ ได้ไปนั่งกินของอร่อย ๆ แต่ลี่ยังไม่อยากมีแฟนค่ะ เขาให้มาก็มาไปอย่างงั้นละค่ะ” เธอพูดตรงจนเขาสะอึกและโล่งใจไปในคราวเดียวกัน

    “เหมือนพี่เลยครับ ปกติพี่ก็บอกปัดตลอดแต่คราวนี้ขัดป๊าไม่ได้จริง ๆ ก็เลยต้องรับปากนี่ละครับ โชคดีจังที่พี่เลือกน้องสาลี่ เจอคนหัวอกเดียวกัน อย่างน้อยไม่ได้เป็นแฟนกันก็เป็นพี่เป็นน้องกันได้ใช่ไหมครับ”

    “ค่ะ ลี่มีพี่ชายเป็นโขยงแล้วมั้งคะตอนนี้ ใครว่านัดดูตัวไม่ดีล่ะคะ ลี่ว่าดีออก ได้เจอเพื่อนบ้างพี่ชายบ้าง สนุกจะตาย แถมยังได้กินของอร่อยอีก ดูสิของดี ๆ ทั้งนั้น ลี่จัดการก่อนนะคะ หิวซ่กเลยค่ะตอนนี้” เธอว่าอย่างไม่เคอะเขิน ชายหนุ่มเบาใจขึ้นเป็นกอง หลังจากรู้สึกเหมือนกับติดคุกมาหลายวัน

    เห็นทีเขาต้องถือคติแบบสาลี่บ้างแล้ว ที่ว่ามาดูตัวก็เพื่อจะได้มีเพื่อนหรือมีน้องสาวเพิ่มขึ้น ไม่อย่างนั้นเขาต้องได้ทะเลาะกับพ่อแม่อยู่เรื่อย ๆ ที่คอยบอกปัดไม่ยอมนัดดูตัวอย่างที่ท่านต้องการ คิดแล้วก็ยิ้มออกมาได้ ก่อนจะกินข้าวกับสาลี่แล้วพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กันอย่างออกรส เหมือนกับการได้มานั่งกินข้าวกับน้องสาวตัวเอง เพราะเธอก็อายุไม่ต่างกับวิรินดาน้องสาวของเขา

    “แล้วพี่ดลจะบอกที่บ้านยังไงคะ เรื่องของเรา” เธอเงยหน้าขึ้นมาถาม

    “พี่ก็บอกป๊าไปตรง ๆ ว่าวันนี้พี่ได้น้องสาวคนหนึ่งละ ชื่อสาลี่ เป็นผู้หญิงที่จริงใจที่สุดในโลก และป๊าก็คงหาคนใหม่มาให้พี่ดูตัวอีกจนได้”

    “พี่ดลน่ารักจังเลยนะคะ แหม ลี่ชักอยากเปลี่ยนใจเสียแล้วสิ” เธอเย้ายิ้ม ๆ แต่คนฟังหน้าแหย ใจหายวาบ

    “โธ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะพี่ดล ว่าแต่พี่ดลเถอะ หน้าตาก็หล่อ ทำไมถึงไม่มีแฟนสักทีคะ” เธอถามตรง ๆ อีกแล้ว

    “ก็พี่ยังหวงความโสดอยู่...มั้ง” ตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

    “ลี่ว่าเราเป็นแฟนปลอม ๆ กันดีไหม บางทีลี่ก็เบื่อกินของอร่อย ๆ แล้วละ เพราะกลัวบางคนเขาจะไม่เป็นอย่างพี่ดลน่ะสิ ที่พูดง่าย ๆ ลี่ก็กลัวว่าผู้ใหญ่เขาจะผิดใจกันตอนที่เราปฏิเสธเขาน่ะค่ะ คราวก่อนก็เกือบพลาดไปคราวหนึ่งแล้ว” เธอชวนแล้วร่ายยาว

    “เกือบพลาดยังไงหรือครับ” ธนดลทำหน้าสนใจ

    “ก็เขาดันชอบสาลี่ขึ้นมาจริง ๆ สิคะ แต่สาลี่ไม่ชอบเขาค่ะ ถึงขั้นไม่ถูกชะตาเลยด้วย แถมพ่อแม่เขาก็ดูจะเร่งรัดแต่ดีที่ลี่บอกตรง ๆ ไป เขาก็ยอม แต่เหมือนจะไม่พอใจอยู่นิด ๆ เขาคงทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอม แต่ก็ทำให้สาลี่ไม่สบายใจไปด้วยนั่นละค่ะ” เธอเล่าให้ฟังตรง ๆ

    “พี่ก็กลัวโดนอย่างนั้นเหมือนกันครับ เลยคอยปฏิเสธตลอดเลย” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มตอบ

    “งั้นเราก็บอกพวกเขาสิคะ ว่าเรากำลังทดลองคบกันดูก่อน ลี่กระซิบบอกนิดนึงนะคะ ว่าตอนนี้ลี่แอบปลื้มพี่ปีสี่อยู่ แต่เขาไม่ใช่คนจีนต้องไม่ผ่านมติป๊ากับม๊าแน่ ๆ เลย ลี่ชอบเพราะเขาเป็นคนดีแล้วน่ารักมากเลยนะคะ พูดง่าย ๆ สาลี่แอบชอบเขาน่ะค่ะ เลยไม่อยากนัดดูตัวกับใครอีก พี่ดลสนใจแผนของลี่ไหมคะ” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

    “แผนน้องสาลี่ก็น่าสนใจดีนะครับ แต่จะไม่กลายเป็นว่าเราโกหกหรือครับ แล้วต่อไปเราจะบอกกับท่านยังไงละครับว่าเราจะไม่คบกันต่อ”

    “ลี่ก็แค่บอกว่าเราคบกันมาสักพักแล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้หลายอย่าง เลยลดความสัมพันธ์เหลือแค่เป็นพี่น้อง เหมือนพวกดาราเขาทำกันไงคะ แล้วก็เอาตัวจริงไปให้ท่านดูถ้าสาลี่จีบเขาติดแล้ว” ฟังแผนการของเธอแล้วเขาอดหัวเราะไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้เหมือนกัน

    “ถ้าน้องสาลี่ต้องการอย่างนั้นก็ได้ครับ” เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้อิสระจากการดูตัวในครั้งนี้ ชายหนุ่มยิ้มหน้าบานอย่างไร้กังวลในเรื่องนี้อีก ตราบใดที่ยายน้องสาวคนนี้ยังจีบผู้ชายคนนั้นไม่ติด เขาก็ยังมีอิสระไม่ต้องถูกบิดาตอแยให้นัดดูตัวไปอีกนาน

    “แล้วถ้าพี่ดลเจอคนถูกใจเมื่อไหร่ก็บอกลี่นะคะ ลี่จะได้หาทางช่วยพี่ดลค่ะ หรืออยากได้พี่สะใภ้แบบไหนจะให้ลี่ช่วยหาให้ก็ได้นะคะ” เธอเอ่ยความหวังดีที่เขาไม่ต้องการออกมา

    “โอ๊ย ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง พี่หาเองครับ” ปฏิเสธพัลวัน

    “โธ่ ทำกลัวไปได้ จะหวงชีวิตโสดไปไหนกันคะ เดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้หรอก แต่นั่นสินะคะ ผู้ชายยังมีเวลามีลูกอีกนาน แต่เป็นผู้หญิงนี่สิเสียเปรียบ สามสิบกว่า ก็มีลูกยากแล้ว” คำพูดของเธอทำให้เขาใจแป้วลงไปอีก แต่เมื่อคิดว่าพี่ชายกำลังจะมีลูกชาย แล้วคงจะมีลูกคนต่อ ๆ ไปอีกหลายคน เพราะสินิทรายังสาวยังสวย อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี พี่สาวน้องสาวของเขาก็คงจะมีลูกกันได้อยู่ ถ้าเขาจะไม่มีลูกสักคนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ชายหนุ่มคิดในใจ

    หรือไม่ก็ต้องรีบตัดสินใจให้เร็วที่สุด เผื่อว่ายังมีโอกาส!

    เฮ้ย...คิดอะไรไปไกลขนาดนั้นนะดล!

    เขาเริ่มสับสนตัวเองมากขึ้นทุกทีเมื่อไม่ว่ามีเรื่องอะไรเข้ามาในความคิด ใบหน้าหวาน ๆ ท่าทางอ่อนโยนของเบญจาก็แทรกเข้ามาอยู่เรื่อย จนอดก้มมองเล็บของตัวเองไม่ได้ที่เธอเพิ่งตัดให้เมื่อสองวันก่อน เขาจำความนุ่มนวล อ่อนโยน และความอุ่นอวลที่อยู่ในใจตอนเธอค่อย ๆ ตัดและตะไบเล็บให้ได้อย่างชัดเจน


    ------------------------------------------------------

    เอาใจลุ้นหมอดลจีบสาวรุ่นพี่กันต่อไป มีนักอ่านถามว่าภาพเบญจาในจินตนาการของไรท์เป็นยังไง บอกได้เลยว่าเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบางที่ใบหน้าเรียวหวานอ่อนกว่าวัยผมยาวสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผิวพรรณขาวละเอียด อิมเมจของเบญจานั้นได้มาจากนักแสดงท่านหนึ่งซึ่งตอนนี้เธอออกจากวงการมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว เมื่อก่อนเธอเคยเป็นนางร้ายแต่เราก็แอบปลื้มนะ และสงสัยมาตลอดว่าทำไมเธอถึงเป็นนางร้ายเพราะดูแล้วสวยกว่านางเอกอีก แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้เป็นนางเอกสักที ตอนหลังไรท์เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนรุ่นพี่ของไรท์ แต่ไรท์ไม่ทราบว่านักแสดงท่านนั้นอายุเท่าไหร่นะคะแต่คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากเบญจาเท่าไหร่ เพราะเพื่อนไรท์อายุมากกว่าเบญจาสามปีมั้งคะ พอเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนไรท์อีกที ไรท์ก็แอดเฟซนักแสดงท่านั้น แล้วแอบส่องเฟซเขาตลอด ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าหน้าตาเธอไม่เปลี่ยนเลย แถมยังเด็กลงอีกต่างหากแล้วก็ยิ่งปลื้มที่เห็นเขาเป็นนักแสดงที่ขยันทำงานมาก รวมทั้งเป็นคนที่กตัญญูกับพ่อแม่ด้วย เลยคิดว่าในเมื่อไม่มีช่องไหนให้เธอเป็นนางเอก เราก็เขียนนิยายให้เธอเป็นนางเอกก็แล้วกัน ตอนแรกก็จะเอารูปเขามาเป็นอิมเมจ แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตเลยไม่กล้านำมาค่ะ แต่คิดว่าไม่ใช้อิมเมจก็ดีค่ะ เพราะให้นักอ่านจินตนาการกันเองน่าจะสนุกกว่า เขาถามมานิดเดียวแต่ตอบซะยาวเชียว ขอบคุณสำหรับบางคนที่อ่านจนจบนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะมีความสุขกับนิยายนะคะ...ทิพย์ทิวา 2/3/2559 20.35








































    ธนดลนั่งอยู่ในภัตตาคารหรูซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารจีนรสชาติอร่อยล้ำและเล่าอ้างกันว่าสูตรอาหารนั้นมาจากราชสำนักชั้นสูง เขาก้มมองอาหารตรงหน้าที่แม้จะไม่ค่อยรู้ชื่อแต่ไม่ได้แปลกตาสักเท่าไหร่ เพราะเป็นอาหารที่คนในครอบครัวของเขาชอบรับประทานอยู่เป็นประจำ แต่เขากลับแปลกกว่าคนอื่น ๆ ในบ้านตรงที่ชอบอาหารไทยที่รสชาติไม่เผ็ดมากนักเช่น แกงส้ม ต้มยำ หรือแกงเผ็ดแต่ต้องมีรสเผ็ดอ่อน ๆ เขาชอบกลิ่นเครื่องเทศและความเข้มข้นของรสชาติ แต่ปากและลิ้นของเขายังสู้กับอาหารเผ็ดจัดไม่ได้ เนื่องจากรับประทานอาหารรสจืดมาตั้งแต่เด็ก

    ซึ่งรสชาติอาหารที่เบญจาทำให้เขารับประทานนั้นอร่อยถูกปากทีเดียว ไม่เผ็ดจัดเหมือนกับบางร้านที่เขาไปกิน แต่รสชาติทุกอย่างเข้มข้นถึงรส สุดท้ายเขาก็วกไปคิดถึงแม่บ้านของเขาอีกจนได้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    ชายหนุ่มเผลอทำหน้าละเหี่ยใจเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า ที่ยังถ่ายภาพเซลฟีกับอาหารทุกจานยังไม่ครบ และเขาก็ยังไม่ได้กินสักทีเพราะเธอบอกว่าขอถ่ายรูปอัปเฟซบุ๊กก่อน อยากบอกว่าหิวตาลาย แต่เขาก็ต้องรอเพื่อถนอมน้ำใจฝ่ายตรงข้ามอีกนิด

    “พี่ดลคะ ถ่ายรูปให้สาลี่หน่อยค่ะ ถ่ายให้เห็นอาหารทั้งโต๊ะด้วยนะคะ” ชายหนุ่มยิ้มแกน ๆ ก่อนจะรับสมาร์ตโฟนของเธอมาแล้วถ่ายรูปให้สองสามรูปซึ่งเธอก็แอคชั่นได้สุดเก๋ ก่อนจะรับไปแล้วจิ้ม ๆ เจ้าเครื่องนั่นอยู่พักหนึ่ง เธอคงจะอัปโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คเสร็จแล้วจึงวางลงแล้วหันมายิ้มให้กับเขา

    “พี่กินได้หรือยังครับ” เขาถามยิ้ม ๆ แม้ข้างในจะสุดกล้ำกลืนเพราะนั่งมองราวครึ่งชั่วโมงได้แล้ว จนท้องร้องโครกครากเพราะความหิว

    “อ้อ เชิญเลยค่ะพี่ดล น่ากินทั้งนั้นเลยนะคะ” เธอยิ้มร่าเริง เขาคาดว่าอายุของสาลี่ก็คงเท่า ๆ กับน้องสาวของเขา

    “พี่ก็มีน้องสาวน่าจะรุ่นเดียวกับน้องสาลี่” เขาพูดขึ้นเป็นเชิงชวนคุยเพื่อรักษาบรรยากาศในการรับประทานอาหาร

    “หรือคะพี่ดล ลี่ยังเรียนปีสามอยู่เลยนะคะ ไม่รู้ป๊ากับม๊าจะให้รีบแต่งงานไปถึงไหน นัดลี่ให้ไปดูตัวเดือนละหลายครั้งเลย” เธอว่าเสียงร่าเริง

    “หรือครับ แล้วเป็นยังไงบ้างครับ น้องสาลี่ไม่พอใจหรือครับ ถึงไม่ตกลงกับใครสักที” เขาจึงถามขึ้นตรง ๆ บ้าง

    “ลี่ก็ชอบนะคะ ได้ไปนั่งกินของอร่อย ๆ แต่ลี่ยังไม่อยากมีแฟนค่ะ เขาให้มาก็มาไปอย่างงั้นละค่ะ” เธอพูดตรงจนเขาสะอึกและโล่งใจไปในคราวเดียวกัน

    “เหมือนพี่เลยครับ ปกติพี่ก็บอกปัดตลอดแต่คราวนี้ขัดป๊าไม่ได้จริง ๆ ก็เลยต้องรับปากนี่ละครับ โชคดีจังที่พี่เลือกน้องสาลี่ เจอคนหัวอกเดียวกัน อย่างน้อยไม่ได้เป็นแฟนกันก็เป็นพี่เป็นน้องกันได้ใช่ไหมครับ”

    “ค่ะ ลี่มีพี่ชายเป็นโขยงแล้วมั้งคะตอนนี้ ใครว่านัดดูตัวไม่ดีล่ะคะ ลี่ว่าดีออก ได้เจอเพื่อนบ้างพี่ชายบ้าง สนุกจะตาย แถมยังได้กินของอร่อยอีก ดูสิของดี ๆ ทั้งนั้น ลี่จัดการก่อนนะคะ หิวซ่กเลยค่ะตอนนี้” เธอว่าอย่างไม่เคอะเขิน ชายหนุ่มเบาใจขึ้นเป็นกอง หลังจากรู้สึกเหมือนกับติดคุกมาหลายวัน

    เห็นทีเขาต้องถือคติแบบสาลี่บ้างแล้ว ที่ว่ามาดูตัวก็เพื่อจะได้มีเพื่อนหรือมีน้องสาวเพิ่มขึ้น ไม่อย่างนั้นเขาต้องได้ทะเลาะกับพ่อแม่อยู่เรื่อย ๆ ที่คอยบอกปัดไม่ยอมนัดดูตัวอย่างที่ท่านต้องการ คิดแล้วก็ยิ้มออกมาได้ ก่อนจะกินข้าวกับสาลี่แล้วพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กันอย่างออกรส เหมือนกับการได้มานั่งกินข้าวกับน้องสาวตัวเอง เพราะเธอก็อายุไม่ต่างกับวิรินดาน้องสาวของเขา

    “แล้วพี่ดลจะบอกที่บ้านยังไงคะ เรื่องของเรา” เธอเงยหน้าขึ้นมาถาม

    “พี่ก็บอกป๊าไปตรง ๆ ว่าวันนี้พี่ได้น้องสาวคนหนึ่งละ ชื่อสาลี่ เป็นผู้หญิงที่จริงใจที่สุดในโลก และป๊าก็คงหาคนใหม่มาให้พี่ดูตัวอีกจนได้”

    “พี่ดลน่ารักจังเลยนะคะ แหม ลี่ชักอยากเปลี่ยนใจเสียแล้วสิ” เธอเย้ายิ้ม ๆ แต่คนฟังหน้าแหย ใจหายวาบ

    “โธ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะพี่ดล ว่าแต่พี่ดลเถอะ หน้าตาก็หล่อ ทำไมถึงไม่มีแฟนสักทีคะ” เธอถามตรง ๆ อีกแล้ว

    “ก็พี่ยังหวงความโสดอยู่...มั้ง” ตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

    “ลี่ว่าเราเป็นแฟนปลอม ๆ กันดีไหม บางทีลี่ก็เบื่อกินของอร่อย ๆ แล้วละ เพราะกลัวบางคนเขาจะไม่เป็นอย่างพี่ดลน่ะสิ ที่พูดง่าย ๆ ลี่ก็กลัวว่าผู้ใหญ่เขาจะผิดใจกันตอนที่เราปฏิเสธเขาน่ะค่ะ คราวก่อนก็เกือบพลาดไปคราวหนึ่งแล้ว” เธอชวนแล้วร่ายยาว

    “เกือบพลาดยังไงหรือครับ” ธนดลทำหน้าสนใจ

    “ก็เขาดันชอบสาลี่ขึ้นมาจริง ๆ สิคะ แต่สาลี่ไม่ชอบเขาค่ะ ถึงขั้นไม่ถูกชะตาเลยด้วย แถมพ่อแม่เขาก็ดูจะเร่งรัดแต่ดีที่ลี่บอกตรง ๆ ไป เขาก็ยอม แต่เหมือนจะไม่พอใจอยู่นิด ๆ เขาคงทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอม แต่ก็ทำให้สาลี่ไม่สบายใจไปด้วยนั่นละค่ะ” เธอเล่าให้ฟังตรง ๆ

    “พี่ก็กลัวโดนอย่างนั้นเหมือนกันครับ เลยคอยปฏิเสธตลอดเลย” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มตอบ

    “งั้นเราก็บอกพวกเขาสิคะ ว่าเรากำลังทดลองคบกันดูก่อน ลี่กระซิบบอกนิดนึงนะคะ ว่าตอนนี้ลี่แอบปลื้มพี่ปีสี่อยู่ แต่เขาไม่ใช่คนจีนต้องไม่ผ่านมติป๊ากับม๊าแน่ ๆ เลย ลี่ชอบเพราะเขาเป็นคนดีแล้วน่ารักมากเลยนะคะ พูดง่าย ๆ สาลี่แอบชอบเขาน่ะค่ะ เลยไม่อยากนัดดูตัวกับใครอีก พี่ดลสนใจแผนของลี่ไหมคะ” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

    “แผนน้องสาลี่ก็น่าสนใจดีนะครับ แต่จะไม่กลายเป็นว่าเราโกหกหรือครับ แล้วต่อไปเราจะบอกกับท่านยังไงละครับว่าเราจะไม่คบกันต่อ”

    “ลี่ก็แค่บอกว่าเราคบกันมาสักพักแล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้หลายอย่าง เลยลดความสัมพันธ์เหลือแค่เป็นพี่น้อง เหมือนพวกดาราเขาทำกันไงคะ แล้วก็เอาตัวจริงไปให้ท่านดูถ้าสาลี่จีบเขาติดแล้ว” ฟังแผนการของเธอแล้วเขาอดหัวเราะไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้เหมือนกัน

    “ถ้าน้องสาลี่ต้องการอย่างนั้นก็ได้ครับ” เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้อิสระจากการดูตัวในครั้งนี้ ชายหนุ่มยิ้มหน้าบานอย่างไร้กังวลในเรื่องนี้อีก ตราบใดที่ยายน้องสาวคนนี้ยังจีบผู้ชายคนนั้นไม่ติด เขาก็ยังมีอิสระไม่ต้องถูกบิดาตอแยให้นัดดูตัวไปอีกนาน

    “แล้วถ้าพี่ดลเจอคนถูกใจเมื่อไหร่ก็บอกลี่นะคะ ลี่จะได้หาทางช่วยพี่ดลค่ะ หรืออยากได้พี่สะใภ้แบบไหนจะให้ลี่ช่วยหาให้ก็ได้นะคะ” เธอเอ่ยความหวังดีที่เขาไม่ต้องการออกมา

    “โอ๊ย ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง พี่หาเองครับ” ปฏิเสธพัลวัน

    “โธ่ ทำกลัวไปได้ จะหวงชีวิตโสดไปไหนกันคะ เดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้หรอก แต่นั่นสินะคะ ผู้ชายยังมีเวลามีลูกอีกนาน แต่เป็นผู้หญิงนี่สิเสียเปรียบ สามสิบกว่า ก็มีลูกยากแล้ว” คำพูดของเธอทำให้เขาใจแป้วลงไปอีก แต่เมื่อคิดว่าพี่ชายกำลังจะมีลูกชาย แล้วคงจะมีลูกคนต่อ ๆ ไปอีกหลายคน เพราะสินิทรายังสาวยังสวย อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี พี่สาวน้องสาวของเขาก็คงจะมีลูกกันได้อยู่ ถ้าเขาจะไม่มีลูกสักคนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ชายหนุ่มคิดในใจ

    หรือไม่ก็ต้องรีบตัดสินใจให้เร็วที่สุด เผื่อว่ายังมีโอกาส!

    เฮ้ย...คิดอะไรไปไกลขนาดนั้นนะดล!

    เขาเริ่มสับสนตัวเองมากขึ้นทุกทีเมื่อไม่ว่ามีเรื่องอะไรเข้ามาในความคิด ใบหน้าหวาน ๆ ท่าทางอ่อนโยนของเบญจาก็แทรกเข้ามาอยู่เรื่อย จนอดก้มมองเล็บของตัวเองไม่ได้ที่เธอเพิ่งตัดให้เมื่อสองวันก่อน เขาจำความนุ่มนวล อ่อนโยน และความอุ่นอวลที่อยู่ในใจตอนเธอค่อย ๆ ตัดและตะไบเล็บให้ได้อย่างชัดเจน


    ------------------------------------------------------

    เอาใจลุ้นหมอดลจีบสาวรุ่นพี่กันต่อไป มีนักอ่านถามว่าภาพเบญจาในจินตนาการของไรท์เป็นยังไง บอกได้เลยว่าเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบางที่ใบหน้าเรียวหวานอ่อนกว่าวัยผมยาวสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผิวพรรณขาวละเอียด อิมเมจของเบญจานั้นได้มาจากนักแสดงท่านหนึ่งซึ่งตอนนี้เธอออกจากวงการมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว เมื่อก่อนเธอเคยเป็นนางร้ายแต่เราก็แอบปลื้มนะ และสงสัยมาตลอดว่าทำไมเธอถึงเป็นนางร้ายเพราะดูแล้วสวยกว่านางเอกอีก แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้เป็นนางเอกสักที ตอนหลังไรท์เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนรุ่นพี่ของไรท์ แต่ไรท์ไม่ทราบว่านักแสดงท่านนั้นอายุเท่าไหร่นะคะแต่คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากเบญจาเท่าไหร่ เพราะเพื่อนไรท์อายุมากกว่าเบญจาสามปีมั้งคะ พอเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนไรท์อีกที ไรท์ก็แอดเฟซนักแสดงท่านั้น แล้วแอบส่องเฟซเขาตลอด ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าหน้าตาเธอไม่เปลี่ยนเลย แถมยังเด็กลงอีกต่างหากแล้วก็ยิ่งปลื้มที่เห็นเขาเป็นนักแสดงที่ขยันทำงานมาก รวมทั้งเป็นคนที่กตัญญูกับพ่อแม่ด้วย เลยคิดว่าในเมื่อไม่มีช่องไหนให้เธอเป็นนางเอก เราก็เขียนนิยายให้เธอเป็นนางเอกก็แล้วกัน ตอนแรกก็จะเอารูปเขามาเป็นอิมเมจ แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตเลยไม่กล้านำมาค่ะ แต่คิดว่าไม่ใช้อิมเมจก็ดีค่ะ เพราะให้นักอ่านจินตนาการกันเองน่าจะสนุกกว่า เขาถามมานิดเดียวแต่ตอบซะยาวเชียว ขอบคุณสำหรับบางคนที่อ่านจนจบนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะมีความสุขกับนิยายนะคะ...ทิพย์ทิวา 2/3/2559 20.35

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×