ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #15 : อยู่เย็นเป็นสุข 50% (รีไรท์)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.48K
      31
      24 ส.ค. 60

    อยู่เย็นเป็นสุข

     

    เที่ยงคืนกว่าแล้วแต่คนบนเตียงหนานุ่มยังพลิกกายไปมาราวกับนอนอยู่บนโขดหินแข็งกระด้าง ชายหนุ่มหยีตาข้างหนึ่งดูนาฬิกาที่ติดผนังอยู่ปลายเตียง เขาเห็นเวลาชัดเจนเพราะเปิดไฟไว้สว่างจ้า ส่วนเจ้านิลก็นอนหลับสบายอยู่ที่ปลายเท้าของเขา ซึ่งทำให้อุ่นใจขึ้นบ้าง จึงหลับตาลงอีกครั้งแล้วพลิกตัวไปพลิกมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่านอนหงาย

    ในที่สุดความกลัวก็พ่ายแพ้แก่ความง่วง เขาหลับสนิทไปราวตีหนึ่งกว่า ๆ นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ที่นอนอยู่ท่าเดิม

    จนรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่ห้อมล้อมร่างกาย ในความสะลึมสะลือราวกับจะตื่นแต่ขี้เกียจตื่นหรือจะหลับก็ไม่แน่ใจนัก เขากลับมองเห็นรอบห้องนอนทั้งที่ดวงตายังหนักอึ้งแม้อยากจะลุกแต่ก็ลุกไม่ไหว ได้ยินแต่เสียงแว่วอยู่ในความฝัน

    กว่าจะมา...รอตั้งนาน...อยู่เย็นเป็นสุขเถิด....

    เสียงผู้ชายคุ้นหูที่แว่วมาเบา ๆ ในความสะลึมสะลือถอยห่างออกไปเขาคลายจากอาการหนักอึ้งของร่างกาย ก่อนจะพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่งแล้วหลับต่อ ที่จริงเขาควรจะตกใจ แต่ความง่วงทำให้เขาจดจำแต่คำสุดท้ายซึ่งเป็นคำที่มีความหมายดีงาม ในความครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นทำให้เขาไม่สนใจจะคิดปรุงแต่งอะไรต่อไปอีก จึงหลับสบายต่อไปจนเช้า

    “โอ๊ย ปวดไปหมดทั้งตัวเลย” ชายหนุ่มลุกจากที่นอนแล้วบิดตัวไปมา พลางคิดหาเหตุผลความผิดปกติของร่างกาย ถึงได้นึกออกว่าเมื่อวานเขายกของหนักมาและตัวเองก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ยุ่ง ๆ เรื่องเปิดโรงพยาบาลสัตว์ก็แทบไม่ได้แวะไปฟิตเนสอีกเลย ทำให้ร่างกายปวดระบมราวกับจะเป็นไข้ขึ้นมา ขนาดเขาเป็นผู้ชาย แล้วเธอเป็นผู้หญิงอาการจะไม่หนักกว่าเขาหรอกหรือ นึกแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ กายแล้วพลันนึกถึงความฝันเมื่อคืน ชายหนุ่มลูบแขนที่ขนลุกเกรียว

    “ถึงจะปรารถนาดีแต่ไม่ต้องมาบอกก็ได้ครับ” ว่าแล้วก็กราบลงบนหมอนสามครั้งก่อนจะรีบเผ่นออกจากห้องทันที

    เพราะเขาจำได้ว่าเสียงแบบนี้เป็นเสียงที่เคยชวนเขาเดินเล่นในฝันตอนเป็นเด็ก เขาเป็นคนจิตอ่อนมักจะสัมผัสกับสิ่งที่วิทยาศาสตร์หาคำตอบไม่ได้อยู่เสมอจึงกลัวจนถึงขั้นปอดแหกก็ว่าได้ 

    ส่วนเจ้านิลวิ่งแซงหน้าแล้วพุ่งลงบันได แต่เขาไม่ได้สนใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องไปทำงานก็หยุดยืนอยู่หน้าห้อง

    “เอาน่า เขามาดี และคงไม่ได้มาบ่อย ๆ อยู่กันไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็สนิทกันเอง” พึมพำปากสั่น ๆ ก่อนจะผลุบกลับเข้าห้องไปใหม่ แล้วเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน

    พอลงมาข้างล่างก็ได้กลิ่นหอมออกมาจากห้องครัว เขาจึงเดินตามกลิ่นเข้าไป เห็นแม่บ้านแต่งตัวสวยงามยืนหันหลังให้อยู่ในเดรสเข้ารูปสีเทาอ่อนแขนยาวส่วนชายเดรสก็ยาวคลุมไปจนถึงข้อเท้า ทำให้เห็นรูปร่างสมส่วนของเธอจากด้านหลังว่าสวยไม่ต่างจากหญิงสาววัยยี่สิบปลาย ๆ สักนิด

    ส่วนเจ้านิลที่วิ่งลงบันไดนำหน้าเขามาก่อนกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เท้าของเธอ แหงนมองราวกับอยากรู้ว่าอาหารที่ทำอยู่มันขอกินด้วยได้ไหม ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาแล้วจับเจ้านิลมาอุ้ม

    “นึกว่าจะรีบไปไหน จะรีบลงมากวนม๊านี่เองเจ้านิล ถามม๊าซิว่าวันนี้ทำอะไรให้ป๊ากิน” ทำเป็นพูดกับเจ้าแมวจนคนที่กำลังทำอาหารอยู่อดอมยิ้มไม่ได้

    “ทำซุปไก่มันฝรั่งค่ะ เมื่อวานเบญก็ลืมถามว่าคุณดลอยากรับอะไรเป็นมื้อเช้า ก็เลยทำอาหารง่าย ๆ ที่คิดว่าน่าจะกินได้ไปก่อนค่ะ” ชายหนุ่มสูดกลิ่นหอมของซุปไก่ที่ตอนนี้ใกล้เสร็จเต็มทีเพราะเห็นในหม้อมีน่องไก่ มันฝรั่งและมะเขือเทศที่ดูสุกนุ่มแล้ว เธอปรุงรสเพิ่มนิดหน่อยแล้วใส่ขึ้นฉ่ายที่หั่นไว้แล้ว

    “กลิ่นหอมจังครับ เจ้านิลคงได้กลิ่นไก่ทำหน้าตาอยากกินเชียว” ว่าแล้วก้มมองเจ้าตัวเล็กที่พยายามจะตะกายดูตามกลิ่นเย้ายวนที่โชยมาเรียกน้ำลาย

    “เขาชอบกินไก่ด้วยหรือคะ” เพราะเคยเลี้ยงแต่สุนัขเธอจึงไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างที่แมวชอบกิน

    “ของโปรดของมันรองจากปลาเลยละ แต่วันนี้ผมจะพาเจ้านิลไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนก่อนนะครับ ตอนเที่ยงจะเอามาคืนให้” เขาว่าแล้วก็วางเจ้านิลลงกับพื้น แต่เจ้าตัวเล็กดันไต่ขาเขาขึ้นมาอีกเพราะคงอยากกินไก่เต็มแก่ จนเขาสะดุ้งโหยงเมื่อเล็บคมของมันตะกุยโดนเนื้อเข้าให้

    “โอ๊ย ป๊าเจ็บ กางเกงเป็นรอยหมดแล้ว ปล่อยเลยเจ้าตัวยุ่ง” ดึงเจ้าตัวแสบที่ห้องต่องแต่งอยู่ที่ขากางเกงขึ้นมาแล้วพาออกไปด้านนอก จัดการให้กินอาหารเม็ดก่อนจะปิดประตูห้องครัวไม่ให้เจ้าตัวยุ่งเข้ามา

    “งั้นไปรอที่โต๊ะอาหารนะคะ เดี๋ยวเบญจะตักไปให้ค่ะ” เธอว่าอย่างนั้นก่อนจะหยิบชามเซรามิกสีขาวมาวางแล้วตักซุปไก่มันฝรั่งใส่ลงไป

    “ผมช่วยยกไปดีกว่าครับ” เขาว่าแล้วก็ยกถ้วยซุปไก่มันฝรั่งออกไปวางที่โต๊ะอาหารซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องครัว บนโต๊ะอาหารขนาดนั่งได้หกคนซึ่งเขาเพิ่งสั่งซื้อมาเมื่อวาน ตอนนี้วางจานอาหารไว้สองอย่างคือผัดผัก และปลาหมึกผัดผงกะหรี่ ฝีมือทำอาหารของเธออร่อยจนเขาลืมไม่ลงมาตั้งแต่มื้อเมื่อวานเย็นแล้ว

    ชายหนุ่มวางซุปไก่มันฝรั่งลงกลางโต๊ะ ในขณะที่เบญจาถือถาดซึ่งตักข้าวสวยร้อน ๆ จนควันโชยกรุ่นมาสองจาน เธอวางไว้ที่เก้าอี้ฝั่งของเขาจานหนึ่งและของเธออีกจานหนึ่ง ก่อนจะเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาวางไว้ให้

    “น่ากินจังเลยครับ” ชายหนุ่มก้มมองมื้อเช้าของเขาแม้จะไม่มีหลายอย่างเหมือนมื้อเช้าที่บ้านของเขา แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับสองคน

    “คราวหน้าถ้าคุณดลอยากกินอะไรเป็นพิเศษก็บอกเบญไว้ก่อนนะคะ” เธอเอ่ยขณะทรุดนั่งตรงข้ามเขา

    “ครับ แต่ผมเป็นพวกกินอะไรก็อร่อย คุณเบญไม่ต้องกังวลหรอกครับ อยากทำอะไรก็ทำได้เลย” ว่าแล้วตักซุปไก่มันฝรั่งขึ้นมาใส่จานแล้วตักกิน

    “อร่อยจังเลยครับ” สีหน้าก็บ่งบอกว่าอร่อยจริงอย่างที่ว่า เบญจายิ้มปลื้มใจ ตั้งแต่หลานสาวไปอยู่ลำปางเมื่อหลายเดือนก่อน เธอก็ไม่เคยได้คำชมด้วยความตื่นเต้นเช่นนี้จากใครอีกเลย จนกระทั่งจากเจ้านายของเธอในวันนี้

    “ขอบคุณค่ะ” เธอพึมพำเบา ๆ

    “ผัดผงกะหรี่นี่ก็อร่อยครับ รสชาตินุ่มนวลแล้วหอมด้วยอร่อยกว่าเหมยฮัวทำอีก สงสัยอีกหน่อยผมคงกลิ้งได้” เขาว่าเสียงระรื่น

    “เหมยฮัว...” หญิงสาวทวนคำ

    “อ้อ แม่บ้านที่บ้านผมน่ะครับ ทำอาหารให้ผมกินมาตั้งแต่เด็กจนโต ป๊าเคยบอกเหมยฮัวทำกับข้าวอร่อย แต่ผมว่าพอเทียบกับฝีมือคุณเบญของเหมยฮัวจืดไปหน่อยครับ ผมชอบแบบนี้มากกว่า” เขาเล่าเรื่องที่บ้านของเขาให้เธอฟังไปพลาง ตักอาหารกินไปพลางจนอิ่ม ซึ่งอาหารบนโต๊ะแทบไม่เหลือติดจาน

    ขณะที่เธอล้างจานอยู่ในครัว ชายหนุ่มก็ออกไปตามหาเจ้านิลที่เขาให้มันกินข้าวอยู่หลังบ้านใกล้กับประตูห้องครัวที่จะออกไปยังส่วนซักล้างซึ่งด้านหลังไม่ได้มีผนังกั้น แต่อยู่ติดกับสวนหลังบ้านที่ยังรกครึ้ม เพราะเมื่อวานนี้เขาให้คนงานตัดกิ่งไม้ต้นไม้เฉพาะหน้าบ้านกับข้างบ้านเท่านั้น ในที่สุดก็เจอเจ้านิลที่กำลังถ่ายทุกข์อยู่บนกองทรายเล็ก ๆ เมื่อเห็นเจ้านายเดินมาก็รีบกลบหลักฐานแล้วเดินต้วมเตี้ยมออกมา

    “หนีมาอยู่นี่เอง มานี่เลย” ว่าแล้วก็หิ้วเจ้าตัวเล็กกลับเข้าบ้าน เห็นเบญจากำลังล้างมือหลังทำความสะอาดในครัวเสร็จแล้ว เธอหันมาถาม

    “ไปเจอเจ้านิลที่ไหนมาคะ เห็นออกไปนานเชียว”

    “อยู่ตรงกองทรายหลังบ้านน่ะ ได้ทีเลยเอาไปทำเป็นห้องน้ำส่วนตัวไปเลย ขืนให้อึตรงนั้นทุกวันเหม็นแย่แน่เลยครับ วันนี้ผมจะเอาทรายแมวมาให้ จะได้ไม่มีกลิ่น ผมสร้างภาระให้คุณเบญจริง ๆ ด้วย” เขาเอ่ยด้วยท่าทีเกรงใจ

    “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเบญจะไปทำความสะอาดที่กองทรายให้” ถึงเธอจะไม่เคยเลี้ยงแมว แต่ก็เคยได้กลิ่นฉี่กลิ่นอึแมวจึงรู้ว่ากลิ่นของมันสุดจะทานทนทีเดียว

    “งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ คุณเบญ... เจ้านิลบ้ายบายม๊าก่อน บอกม๊าซิว่าตอนเที่ยงนิลกับป๊าจะกลับมากินข้าวด้วย” คนพูดยิ้มแป้นพลางจับมือเจ้านิลมาโบกลา หญิงสาวยิ้มให้กับความสดใสของเขา

    “ค่ะ เบญจะได้เตรียมมื้อเที่ยงไว้ให้” บอกพร้อมกับเดินตามไปส่งหน้าบ้าน หญิงสาวยืนมองจนกระทั่งรถคันหรูผ่านประตูรั้วออกไปจึงล็อกประตูแล้วเดินกลับมาวางแผนทำงานของวันนี้ต่อ

    ----------------------------------------------------- 


    E-book ดาวน์โหลดได้แล้วนะคะตามลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ


    รูปเล่มสั่งซื้อได้ที่ผู้เขียนค่ะ ไม่มีวางขายหน้าร้านหนังสือทั่วไปนะคะ suthantip@gmail.com , id lind : iThip499 หรือทางเฟซบุ๊กที่ แฟนเพจ ทิพย์ทิวา ค่ะ


    คนติดตามหลายคนเลย แฟนเกือบครบร้อยที่สองแล้วดีใจจัง แถมยังมีคอมเมนต์มาเรื่อย ๆ ขอบคุณที่ทำให้คนเขียนไม่เหงานะคะ ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ ผิดพลาดอะไรติติงกันได้ค่ะ...ทิพย์ทิวา 28/2/2016 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×