ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #14 : คืนแรก 100% (รีไรท์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.45K
      29
      27 ส.ค. 60


    สักพักใหญ่เบญจาก็เดินออกมาในชุดใหม่เป็นเสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงขายาว ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอาง พร้อมกับถือกระเป๋าใบย่อมในมือ

    “ไปกันเถอะค่ะ” เธอเอ่ยชวน

    “ผมถือกระเป๋าให้ดีกว่าครับ ส่วนคุณเบญอุ้มเจ้านิลแล้วกัน” เขายื่นมือไปขอกระเป๋า ก่อนจะส่งแมวให้ เธอจึงอุ้มเจ้านิลเดินเคียงข้างไปกับเขา พลางกวาดตามองรอบบริเวณซึ่งมีบ้านหลายหลังปลูกเรียงรายกันไป แน่นอนว่าเธอก็ไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านที่เอาไปซุบซิบนินทาว่าขนเสื้อผ้าไปอยู่กับผู้ชายตอนดึก ๆ ดื่น ๆ เพราะพยายามประพฤติตัวดีตลอดมา โดยเฉพาะญาติ ๆ ของเธอที่อยู่ในละแวกเดียวกัน

    แต่เมื่อคิดอีกทีว่าตอนนี้เธออยู่ตามลำพัง ตั้งแต่ฐานะตกต่ำเป็นหนี้เป็นสินก็ไม่มีใครอยากจะมาเกี่ยวดองเป็นญาติกับเธอสักคน ดังนั้นเธอจะแคร์ไปทำไมกัน

    หญิงสาวจึงเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ แม้จะรู้สึกประดักประเดิดไม่น้อยก็ตาม ที่ต้องเข้าไปอยู่บ้านเดียวกับผู้ชายสองต่อสอง

    “เอ่อ แล้วเมื่อไหร่ครอบครัวของคุณดลถึงจะเข้ามาอยู่ด้วยคะ เบญจะได้ทยอยทำความสะอาดห้องที่เหลือเตรียมไว้ให้ทันเวลา” เธอเอ่ยถามสิ่งที่สงสัย

    “คือ...ผมอยู่ที่นี่คนเดียวครับ ผมยังโสดไม่มีครอบครัว ส่วนพ่อแม่ก็อยู่บ้านของตัวเอง ผมได้รับคำสั่งจากป๊าว่าให้มาอยู่ดูแลบ้านหลังนี้” เขาตอบเธอตามความจริงพร้อมกับยืนยันความโสดของตัวเอง

    “อ้อ อย่างนั้นหรือคะ” เธอพึมพำเบา ๆ

    เขาเปิดประตูบ้านแล้วเดินหิ้วกระเป๋าขึ้นไปชั้นบน หญิงสาววางเจ้านิลลงก่อนจะเดินตามขึ้นไป เจ้านิลก็กระโดดขึ้นบันไดตามมาด้วย เขาส่งกระเป๋าให้เธอเมื่อมายืนอยู่หน้าห้อง

    “เอ่อ...คุณเบญกลัวหรือเปล่าครับ” เอ่ยถามตะกุกตะกักเมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขาจะต้องเข้าไปนอนในห้องคนเดียวแล้ว

    “ไม่ค่ะ” เธอตอบแล้วยิ้มให้

    “แล้วคุณดลละคะ”

    “โธ่ ผมเป็นผู้ชายนะครับ” กลัวหรือไม่กลัวยังไม่กล้ายืนยัน กลัวเอ่ยว่าไม่กลัวก็กลัวว่าสิ่งที่มองไม่เห็นจะไม่พอใจ จะบอกว่ากลัวก็ไม่ได้อีก จึงได้แต่เอาความเป็นผู้ชายมาอ้างเป็นนัย ๆ ให้เธอคิดว่าไม่กลัว

    หญิงสาวอมยิ้ม

    “งั้น ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอว่าแล้วก็เปิดประตูห้องเข้าไป

    “ฝันดีนะครับ”

    “เช่นกันค่ะ” ตอบแล้วก็ปิดประตูลง ปล่อยให้เขายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าห้อง หันซ้ายแลขวาด้วยใจระทึก ก่อนจะคว้าเจ้าเหมียวที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างไม่สนใจใครอยู่บนพรมเช็ดเท้าหน้าห้องเข้าไปนอนเป็นเพื่อน

          ธนดลก้าวเข้าไปในห้องนอนของตัวเองแล้ววางแมวลงให้มันเดินเล่นอยู่ในห้อง เจ้าตัวเล็กเมื่อเข้ามาถึงก็เดินวนสำรวจโน่นนี่อย่างไม่คุ้นเคยไปรอบห้อง

    เขาละสายตาจากเจ้าแมวแล้วกวาดตามองห้องกว้างขวางที่ปูพื้นด้วยไม้ปาเก้สีน้ำตาลเข้มขัดมันเงาวับ ส่วนเตียงไม้แกะสลักนั่นก็ไม่รู้ว่ามีใครนอนตายมาแล้วกี่คน เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะสลัดความคิดด้านลบออกไป แล้วเดินตรงดิ่งไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดตู้แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดนอน เขาวางชุดนอนไว้บนเตียง แล้วถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าที่เธอวางไว้ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ 

    อาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมา ได้ยินเสียงเคาะประตูเขานิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงเรียก

    “คุณดลคะ” เสียงหวานเรียกอยู่หน้าห้อง เขาก้มมองตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบชุดคลุมในตู้เสื้อผ้ามาสวมอย่างลวก ๆ เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง

    “คุณดลหลับหรือยังคะ”

    “ยังครับ ยัง ๆ” ตอบไปพลางผูกสายรัดชุดคลุมให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเปิดประตู “คุณเบญมีอะไรหรือครับ” เขาถามหน้าตื่นเพราะคิดว่าเธออาจจะเจอดีอะไรเข้าแล้วก็เป็นได้

    “อ้อ เบญเอามาลัยมาให้ค่ะ คืนนี้คุณดลเพิ่งเข้ามานอนที่นี่คืนแรก อย่าลืมไหว้พระและขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางก่อนนอนนะคะ”

    เอาแล้วไง จะกลัวหนักขึ้นก็ตรงนี้แหละ คนตัวใหญ่แต่ใจปลาซิวยื่นมือไปรับมาลัยพวงสวยสองพวงที่ยื่นมา

    “เอามาจากไหนครับเนี่ย” เขามองอย่างแปลกใจ เพราะตอนไปซื้อของด้วยกันก็ไม่เห็นว่าเธอซื้อมาลัยมาด้วย หญิงสาวยิ้มก่อนตอบ

    “เบญร้อยไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วค่ะ เอาใส่ตู้เย็นไว้ ตั้งใจจะเอามาให้คุณดลไหว้ที่ศาลพระภูมิกับห้องพระแต่มัวยุ่ง ๆ จนป่านนี้เพิ่งจะนึกออกแล้วเดินกลับไปเอาเมื่อกี้นี้เองค่ะ” ชายหนุ่มมองมาลัยอีกครั้งอย่างทึ่ง ๆ ฝีมือของเธอประณีตลวดลายก็สวยแปลกตาไม่ใช่ฝีมือร้อยพวงมาลัยที่ขายดาดดื่นอยู่ตามท้องตลาด

    “คุณเบญกลับไปเอาอีกรอบเหรอครับ” เขาถามย้ำ

    “ค่ะ เบญจัดเสื้อผ้าใส่ตู้แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าเรายังไม่ได้ไหว้ศาลพระภูมิก่อนเข้ามาอยู่อาศัยตามธรรมเนียมกันเลยค่ะ ก็เลยรีบเดินกลับไปเอา”

    “แล้วจะให้ผมลงไปไหว้ที่ศาลพระภูมิตอนนี้หรือเปล่าครับ”

    “ได้อย่างนั้นก็ดีค่ะ ไหว้ที่ห้องพระพวงหนึ่ง แล้วไหว้ที่ศาลพระภูมิพวงหนึ่ง ห้องพระอยู่ด้านโน้นเบญทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”

    “อ้อ งั้นผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจะไปเรียกคุณเบญอีกทีนะครับ จะได้ไปไหว้ด้วยกัน ท่านจะได้คุ้มครองคุณเบญด้วย” เพราะถ้าให้เขาไปไหว้ศาลพระภูมิตอนดึก ๆ คนเดียวเห็นจะไม่ไหวแน่ ๆ ยังไงเขาก็ต้องให้เธอไปเป็นเพื่อน

    “ได้ค่ะ เดี๋ยวเบญไปด้วย” ว่าแล้วก็ถอยกลับเข้าห้องตัวเอง

    “เมี๊ยว!” เจ้าตัวดำมาคลอเคลียอยู่ข้างขาราวกับอยากขอมีส่วนร่วม

    “อือ ๆ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ เราก็ไปด้วยเจ้านิล” ว่าแล้วก็วางมาลัยลงบนโต๊ะข้างประตูก่อนจะไปแต่งตัวโดยเลือกกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดแทนชุดนอนที่วางไว้บนเตียงแล้วถือมาลัยกับอุ้มเจ้านิลเดินออกไป ซึ่งเหมือนเธอจะรออยู่แล้ว เมื่อเขาปิดประตูห้องเธอก็เปิดประตูออกมาพอดี เขาจึงเดินตามเธอไปห้องพระ

    เธอให้เขาไหว้และอธิษฐานไปตามสะดวก โดยที่เธอก็ปฏิบัติแบบเดียวกัน ก่อนจะพาไปยังศาลพระภูมิ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าไปไหว้กลางคืนจะเหมาะสมหรือไม่ แต่เพื่อความสบายใจก็ไปบอกเล่าเก้าสิบกับท่านสักหน่อยก็ยังดี เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วจึงได้กลับเข้ามานอน

    “งั้น ราตรีสวัสดิ์อีกรอบนะคะ ง่วงจัง คืนนี้เบญคงนอนหลับเป็นตายเชียว” เบญจายิ้มตาปรือ เขาก็อวยพรให้เธอฝันดีก่อนจะเข้าห้องนอน

    เธอคงจะหลับเป็นตายไปแล้ว แต่สำหรับเขา...ยังไม่รู้ว่าจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้สักงีบหรือไม่...

    ---------------------------------------------------

    ปะ...ไปนอนเป็นเพื่อนพี่ดลกัน ไรท์อัปเสร็จก็จะนอนกับพี่ดลเลยล่ะ ตอนนี้ก็ตาปรือแล้วเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่วันนี้แอดเข้ามากันเยอะเลยวันนี้ ขอต้อนรับสู่ชมรมโคอ่อนกินหญ้าแก่กันนะคะ มีความสุขในการอ่านกันทุกคนนะคะ...ทิพย์ทิวา 27/2/2016 21.12

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×