คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : คืนแรก 50% (รีไรท์)
๕
คืนแรก
หลังจากขับรถมาถึงบ้าน ธนดลเห็นนายมั่นและคนงานอีกสามคนกำลังขนกิ่งไม้ที่ตัดไว้ขึ้นรถกระบะ เขาจอดรถหน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาดูผลงาน แหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบน ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อความทึบทะมึนก่อนหน้านี้หายไป เหลือเพียงความโปร่งสบายตา
ต้นอโศกที่เธอแปลให้ฟังว่าปราศจากทุกข์ก็ยังยืนต้นให้ร่มเงาอยู่เช่นเดิม เพียงแต่กิ่งที่ขึ้นระเกะระกะได้ถูกตัดแต่งจนดูบางตา ต้นไม้บางต้นที่เธอบอกว่าโค่นทิ้งได้ ก็ถูกโค่นไปจนเหลือพื้นที่ว่างอีกกว้างขวาง
“ดูสบายตาขึ้นเยอะเลยนะครับ” ชายหนุ่มหันมายิ้มให้แม่บ้านสาว
“ค่ะ เบญว่าเราย้ายม้าหินอ่อนชุดนั้น มาตั้งใต้ต้นอโศกดีกว่าไหมคะ” เขาหันไปยังโต๊ะที่เธอว่าแล้วหันกลับมามองต้นอโศก
“อืม เป็นความคิดที่ดีครับ เพราะตรงโน้นไม่มีต้นไม้บังแสงแดดแล้ว ย้ายมาใต้ต้นอโศกดีกว่า แล้วค่อยหาซุ้มไม้ระแนงน่ารัก ๆ มาวางแทน”
“ค่ะ ก็ดีนะคะ เบญจะได้ตอนกิ่งแก้วมุกดาที่บ้านมาปลูกให้มันเลื้อยขึ้นพรางแสง บ้านจะได้มีกลิ่นหอมด้วยค่ะ”
“ดีจัง คุณเบญชอบดอกไม้ไทย ๆ เหรอครับ”
“ค่ะ เบญชอบดอกไม้แบบไทย ๆ กลิ่นหอมไปไกลดี” เธอตอบด้วยดวงตาเป็นประกาย จนคนฟังอดยิ้มตามไม่ได้
“งั้น เบญเอาของเข้าไปเก็บในบ้านก่อนนะคะ” ว่าแล้วก็เดินไปยังรถที่จอดไว้หน้าบ้าน
“เดี๋ยวครับคุณเบญ รอนายมั่นขนกิ่งไม้เสร็จก่อน ผมจะได้เอารถเข้าบ้านเลย แล้วค่อยช่วยกันขนจะได้ไม่ต้องเดินไกล ตอนนี้ผมจะย้ายโต๊ะหินอ่อนนี่ก่อน” เขารีบก้าวเท้ายาว ๆ เดินตาม
“อ้อ งั้นเบญช่วยค่ะ” เบญจาหันไปมองโต๊ะหินอ่อนที่กำลังจะเดินไปถึง
“คุณเบญจะไหวหรือครับ มันหนักนะ” เขากลัวว่าเอวบางร่างน้อยของเธอจะหักพับไปเสียก่อนหากยกโต๊ะหนัก ๆ นั่น
“ก็ช่วยกันหามเก้าอี้ก่อนไงคะ ส่วนโต๊ะนั่น คงต้องขอแรงหนุ่ม ๆ มาช่วยละค่ะ มันน่าจะเกินแรงเบญ” เธอว่าพลางมองเก้าอี้ที่ซึ่งเป็นเพียงแผ่นหินอ่อนไม่มีพนักพิง ซึ่งน่าจะพอยกกันสองคนไหว
“เอางั้นก็ได้ครับ ลองดู” เขาตอบเสียงแจ่มใสก่อนจะก้มลงยกเก้าอี้ขึ้นมาตัวหนึ่ง เขาพอยกไหว แต่ถ้าช่วยกันหามคงจะเดินถนัดกว่า เธอจึงยกอีกด้านหนึ่ง เขาหามอีกด้านหนึ่ง
“อ้าว อึ๊บ ไม่ไหวบอกนะครับ” เขาบอกก่อนจะพากันไปจนถึงใต้ต้นอโศก ขนไปพลางหัวเราะกันไปพลางแล้ววางลง แม้จะหนักแต่รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
“โอ๊ย ถึงแล้ว ดีใจจัง” เธอยิ้มกว้าง
“เหลืออีกสามตัวครับ ไหวไหม” หันมาถามคนร่างบางที่มองผลงานของตัวเองอย่างดีใจ
“ไหวค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินตามเขากลับไปยกเก้าอี้ที่เหลือ
“โต๊ะมันแยกเป็นสองชิ้นนี่คะ เบญว่าเบญยกไหวค่ะ” เธอขยับโต๊ะถึงรู้ว่ามันแบ่งเป็นสองชิ้นคือแผ่นหินอ่อนที่ปูด้านบนกับขาโต๊ะเป็นคนละชิ้นกัน จึงช่วยกันยกจนเสร็จโดยไม่ต้องให้นายมั่นและคนงานสามคนมาช่วย
เบญจานั่งบนเก้าอี้หินอ่อนอย่างหมดแรงเมื่อขนทุกอย่างมากองไว้เสร็จแล้ว ซึ่งเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่งเช่นกัน เพื่อพักจนมีแรงถึงได้ช่วยกันจัดโต๊ะให้เข้าที่เข้าทางอีกที ชายหนุ่มก้มมองผลงานอย่างพอใจ แม้จะเป็นงานหนักแต่ถ้าทำด้วยความรู้สึกถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ก็ทำให้มีกำลังใจทำจนสำเร็จได้ไม่ยาก
“ขนกิ่งไม้ไปทิ้งหมดแล้ว มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับคุณดล” นายมั่นเดินเข้ามาถามคนเป็นนาย
“อ้อ ไม่มีแล้วละนายมั่น นี่ค่าแรงเอาไปแบ่งกัน ส่วนนี่ก็เอาไปซื้ออะไรกินกัน โทษทีนะนายมั่นในครัวยังไม่เรียบร้อยเลยไม่ได้ทำอะไรไว้ให้กินกัน ฝากบอกป๊าด้วยว่าฉันอยู่ที่นี่สบายดีไม่ต้องเป็นห่วง” ชายหนุ่มส่งเงินค่าแรงพิเศษและค่าอาหารให้จำนวนหนึ่งแล้วบอกกับคนงานอย่างเป็นกันเอง เพราะนายมั่นทำงานให้กับบิดามาตั้งแต่เขายังเด็ก จนสนิทสนมกันดี
“ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับคุณดล ขอบคุณมากครับ” นายมั่นยกมือไหว้ลาเจ้านาย คนงานที่ยืนอยู่ข้างหลังทั้งหมดก็ยกมือไหว้เช่นกัน
ทั้งคู่ยืนมองรถกระบะสีดำที่มีกิ่งไม้เต็มกระบะเคลื่อนที่ออกไปจากบ้าน ก่อนที่ธนดลจะไปขับรถยุโรปสีบอรนซ์เงินเข้ามาเก็บในโรงรถ แล้วลงมาช่วยแม่บ้านคนสวยขนของเข้าบ้าน
“คุณดลวางไว้เถอะค่ะ เดี๋ยวเบญเอาเข้าไปเก็บเอง” เธอบอกอย่างเกรงใจ เพราะรู้ว่าการจัดการภายในบ้านเป็นหน้าที่ตามตำแหน่งของเธอ เขาเป็นเจ้านายจ่ายเงินแล้วก็ควรได้พักอย่างสบาย
“ไม่เป็นไรครับ ช่วย ๆ กันจะได้เสร็จเร็ว ถ้าคุณเบญเหนื่อยพักก่อนก็ได้นะครับ” เขาเห็นเธอดูหน้าซีด ๆ เพราะคงเหนื่อยจากการยกโต๊ะเมื่อสักครู่นี้ แต่หญิงสาวปฏิเสธ
“แค่เก็บของเองค่ะ เบญอยากทำให้เสร็จจะได้ไม่เกะกะบ้าน” เธอว่าแล้วก็หยิบข้าวของไปจัดวางให้เข้าที่เข้าทาง
“เมี๊ยว!” เสียงทักทายจากเจ้าตัวดำที่เดินออกมาจากทางเข้าห้องครัว
“อ้าว เจ้านิล ป๊าลืมไปเลยว่าเอาอาหารเม็ดมาให้แล้ว คงหิวแย่แล้วสิ” เขาเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อเช้ายังไม่ได้เอาอาหารเม็ดที่หยิบมาจากโรงพยาบาลมาให้กิน ก่อนจะเดินกลับไปที่รถอีกครั้ง แล้วหยิบถุงอาหารแมวกับชามสำหรับใส่อาหารแมวมาแล้วเทใส่ เจ้านิลได้กลิ่นอาหารก็ไม่ลังเลรีบพุ่งเข้ามาหา ก่อนจะชะงักแล้วมองหน้าคนเป็นป๊านิดหนึ่งเพื่อความมั่นใจ
“กินสิ” เขาขยับชามสีชมพูไปให้นิดหนึ่งเหมือนกับบอกว่าอนุญาตให้กินได้ เจ้าแมวน้อยไม่รอให้เจ้านายเปลี่ยนใจอีกต่อไป มันรีบกินอย่างตะกรุมตะกรามพลางทำเสียง “ม๊าว ๆ” ระหว่างกินไปพลาง ราวกับบอกว่าห้ามแย่งนะ คนเป็นป๊านั่งมองลูกชายสี่ขาแล้วยิ้มอย่างสุขใจก่อนจะเปลี่ยนจากนั่งยอง ๆ เป็นนั่งลงบนพื้นเหยียดขาไปข้างหน้าส่วนมือสองข้างก็ค้ำกับพื้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เจ้าตัวตะกละที่กินอย่างไม่คิดจะแบ่งใคร
“โห กินเกลี้ยงไม่เหลือให้ป๊าเลยนะเจ้านิล” ว่าแล้วก็จับตัวเจ้าเหมียวที่อิ่มจนพุงกางแล้วมาอุ้ม
เบญจามองคนเป็นเจ้านายแล้วยิ้มขำก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ธนดลหันมามองแล้วเลิกคิ้วสงสัย
“หัวเราะอะไรหรือครับคุณเบญ” เบญจายิ้มก่อนว่า
“ถ้าเจ้านิลเหลือให้ แล้วคุณดลจะกินเหรอคะ” คนเป็นเจ้านายยิ้มเขินจนแก้มแดงกับคำเย้าแหย่ก่อนแก้ตัว
“โธ่ คุณเบญก็...ผมแค่พูดเล่นกับเจ้านิลเท่านั้นเองครับ” เบญจาไม่เถียงแต่อมยิ้มแล้วนั่งจัดของเข้าตู้ปล่อยให้พ่อลูกเขาได้พูดคุยกันตามสะดวก
-----------------------------------------------
เย้!!! ในที่สุดเค้าก็แฟนครบร้อยแล้ว ดีใจจังที่เมื่อวานกดแอด fav กันจนผ่านหนึ่งร้อยแรกมาได้แล้ว ขอบคุณทุกคอมเมนต์และทุกคนที่กดแอด fav.กันมานะคะ เข้ามาเป็นพันธมิตรโคอ่อนหญ้าแก่กันนะคะ ฝากติดตามและเป็นกำลังใจกันต่อไปนะคะ...ทิพย์ทิวา 25/2/2016 22.39
ความคิดเห็น