ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #17 : นัดดูตัว 30%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.32K
      28
      18 ส.ค. 60

    นัดดูตัว

     

     ธนดลนั่งรับประทานอาหารด้วยท่าทีเอื่อย ๆ พลางเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า หลายวันมานี้ เบญจาทำให้เขาอุบอุ่นใจอย่างประหลาด กิริยานุ่มนวลแช่มช้อยราวกับหญิงสาวยุคแม่พลอยของเธอดูสบายตา หรือเขาจะอยู่กับผู้คนที่ทำอะไรด้วยความเร่งรีบแข่งขันอยู่ตลอดเวลาเช่นทุกคนในครอบครัวของเขา ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไมเช่นนี้เป็นแน่ ถึงทำให้เขาชอบการทำอะไรนุ่มนวลต่างจากที่เคยเห็น

    ชายหนุ่มคิดถึงภาพที่ทุกเช้าคนในบ้านจะต้องรีบกินมื้อเช้าแล้วออกไปทำงาน ส่วนตอนเที่ยงเขาก็ให้พนักงานสั่งอะไรง่าย ๆ มากินที่โต๊ะทำงาน หรือไม่ก็ไปสั่งเอาง่าย ๆ ที่ร้านติดกับโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อว่าทำอาหารตามสั่งได้รวดเร็วทันใจ แต่รสชาติก็พอกินกันตายได้เท่านั้น หรือถ้าเบื่อ ๆ ก็ขับรถไปกินร้านอาหารใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาสุขใจเท่ากับได้กลับมาที่บ้าน พูดคุยกับเจ้านิลระหว่างรอเธอจัดโต๊ะอาหาร ได้ยินเสียงหวาน ๆ เรียกให้เข้าไปกินข้าวได้แล้ว และเธอก็ดุเจ้านิลนิดหน่อยที่ซุกซนเหลือเกิน ก่อนจะปิดประตูไม่ให้เจ้าตัวเล็กเข้ามากวน จนเขารู้สึกว่านี่คือครอบครัวของเขาไปเสียแล้ว

    เฮ้อ! ชายหนุ่มเผลอถอนใจเสียงเบา เมื่อนึกถึงคำสั่งให้ไปดูตัวของบิดาในวันมะรืนนี้

    “มีอะไรหรือเปล่าคะ” เบญจายิ้มให้บาง ๆ

    “อ้อ เปล่าครับ พอดีคิดอะไรเพลินนิดหน่อย  เอ่อ มะรืนนี้ผมคงไม่ได้กลับมาทานข้าวเย็นนะครับ จะไปธุระแล้วค้างที่บ้านเลย” เขาบอกเธออย่างนั้น

    “ค่ะ งั้นเบญพาเจ้านิลกลับไปนอนที่บ้านนะคะ พอดีที่บ้านไม่ได้ทำความสะอาดหลายวันแล้ว” เธอว่า

    “ครับ” ตอบเสียงเบา รู้สึกราวกับว่าเขาขังเธอไว้ที่นี่แทบทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็นจนถึงกลางคืน เพราะที่นี่ห้องหับเยอะเหลือเกิน เธอต้องทำความสะอาดห้องนั้นห้องนี้ รวมทั้งตอนนี้เธอเริ่มลงดอกไม้และจัดสวนหน้าบ้านจนสวยงามสดชื่นสดใสไปหมด คิดแล้วก็นึกอยากให้เธออยู่ด้วยตลอดไปเสียแล้ว

    บ้าแล้วธนดล! ชายหนุ่มอดดุตัวเองไม่ได้ เขาไม่ได้แคร์ว่าเธอเป็นรุ่นพี่ แต่กำลังคิดว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรถ้าเขาไม่ได้อายุเท่าเธออย่างที่บอกไป แล้วท่าทางของเธอก็ดูเรียบร้อยมีความคิดความอ่านจะรังเกียจว่าเขาเป็นเด็กเกินไปหรือไม่

    แต่...ถึงเขาจะอายุน้อยกว่า เขาก็มีความมั่นคงทางอาชีพ แม้ตอนนี้ยังต้องขอเงินของครอบครัวมาต่อสายป่านก็เถอะ แต่มันก็เป็นธุรกิจของเขาซึ่งตั้งใจจะทำเลี้ยงชีพไปตลอดชีวิต ไหนจะทรัพย์สมบัติมากมายของตระกูลที่บิดายังไม่ได้แบ่งให้ ไหนจะเงินปันผลหุ้นจากโรงพยาบาลเอกชนของครอบครัวที่เขาก็มีหุ้นอยู่หลายเปอร์เซ็นต์แม้จะให้พี่ชายบริหารก็ตาม ไหนจะรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากการลงทุนที่อื่น ๆ อีกหลายที่ ซึ่งน่าจะเป็นหลักประกันแล้วว่าเขาสามารถดูแลเธอได้

    ชายหนุ่มคิดปลอบใจตัวเอง แล้วก็ต้องตกใจอีกรอบว่าเขาคิดอะไรไกลออกไปได้เช่นนี้เชียวหรือ

    หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จธนดลยังนั่งเล่นอยู่ที่ห้องโถงกับเจ้านิลไม่ได้รีบร้อนกลับไปทำงานเช่นทุกวัน “นี่แน่ะ ซนเหลือเกิน ข่วนป๊าอีกแล้ว” เขาตีเจ้านิลแปะหนึ่งเพราะอยู่ ๆ ก็ข่วนกางเกงจนเป็นรอย โชคดีที่โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้สักแกะสลัก ไม่อย่างนั้นคงได้พังเพราะเจ้านิลข่วนจนเป็นรอยไปทั่วเป็นแน่

    เบญจาออกมาจากห้องครัวแล้วตรงไปหยิบกรรไกรตัดเล็บที่ลิ้นชัก

    “เจ้านิล มาตัดเล็บค่ะ” เธอส่งเสียงเรียกเบา ๆ เจ้านิลหันมาหาแล้วกระโดดผลุงจากตักคนเป็นป๊ามาหาเบญจาที่นั่งอยู่บนพื้น แต่พอเธอจับมาตัดเล็บเท่านั้น มันร้อง “แอว๊วววว” ดิ้นพลาด ๆ แล้วกระโดดผลุงลงจากตักวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เบญจาเงยหน้าขึ้นยิ้มเจื่อน

    “ไปแล้วค่ะ” เธอบอกเบา ๆ แกมตกใจนิด ๆ ธนดลหัวเราะขำ

    “เดี๋ยวผมไปตามตัวมาให้ครับ ร้ายจริง ๆ เลย” บอกพลางบ่นเจ้าตัวร้ายพึมพำ แล้วเดินไปดูหลังบ้าน สักพักก็หิ้วคอกลับมา

    “จัดการเลยครับ เดี๋ยวผมจับให้” แค่โดนหิ้วคอเจ้านิลก็สิ้นฤทธิ์มันทำตาปริบ ๆ ดูเล็บถูกตัดไปทีละเล็บแล้วทำหน้าเซ็ง พอตัดเสร็จก็วางลง มันตวัดค้อนแล้วเดินไปนั่งเลียมือเลียขาอยู่มุมห้องทำหน้ามุ่ยไม่สนใจใคร

    ทั้งสองคนมองตามก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มขำ

    “เอ่อ ผมขอยืมกรรไกรตัดเล็บหน่อยครับ เล็บผมก็ดูจะยาวแล้วเหมือนกัน” เขากางนิ้วตัวเองเพื่อดูเล็บซึ่งไม่ได้ตัดมาหลายวันแล้ว หญิงสาวก้มมองกรรไกรตัดเล็บในมือซึ่งเธอเก็บไว้ตัดเล็บให้เจ้านิล

    “เดี๋ยวเบญไปเอาอีกอันมาให้ค่ะ อันนี้สำหรับเจ้านิล” เธอกลัวว่ามันจะมีเชื้อโรคติดอยู่ที่กรรไกรเพราะเจ้านิลแสนจะซน ชอบจับสารพัดสัตว์จากป่าหลังบ้านมาขบกัดเล่นแล้วทิ้งซากไว้เกลื่อนอยู่เป็นประจำ เล็บของมันอาจมีเชื้อโรคจากสัตว์เหล่านั้นก็ได้

    หญิงสาวจึงขึ้นไปบนห้องนอนแล้วหยิบอันที่เธอใช้ประจำลงมาให้ ธนดลตัดเล็บอยู่พักหนึ่งจนฝั่งซ้ายมือตัดเสร็จไปแล้ว เขาก็ตัดข้างขวาต่อ ด้วยความที่ไม่ถนัดจึงทำกรรไกรตัดเล็บตกพื้นอยู่สองสามครั้ง

    “คุณเบญช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ” เขาต้องยอมแพ้เพราะปกติถ้าอยู่ที่บ้านเขาจะได้มารดาเป็นคนตัดเล็บให้ประจำ จนโดนพี่สาวน้องสาวเหน็บด้วยความหมั่นไส้อยู่เสมอว่าโตแล้วยังอ้อนเป็นเด็ก ๆ

    “ค่ะ” เธอรับคำเพราะมองด้วยความเกะกะตาอยู่พักใหญ่แล้วกับท่าทางเก้งก้างนั่น ก่อนจะยื่นมือไปรับกรรไกรตัดเล็บ

    “ขอโทษนะครับ ผมไม่เคยตัดเล็บข้างขวาได้เองสักที ต้องให้แม่ตัดให้ตลอดเลย” เขาว่าอย่างนั้น หญิงสาวยิ้มขำก่อนจะค่อย ๆ ตัดให้ แล้วหยิบตะไบเล็บมาตะไบให้จนเรียบร้อยทั้งสองข้าง โดยมีเจ้าของมือนั่งมองตาปรอย

    ++++++++++++++++++++

    E-book ดาวน์โหลดได้แล้วนะคะตามลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ


    รูปเล่มสั่งซื้อได้ที่ผู้เขียนค่ะ ไม่มีวางขายหน้าร้านหนังสือทั่วไปนะคะ suthantip@gmail.com , id lind : iThip499 หรือทางเฟซบุ๊กที่ แฟนเพจ ทิพย์ทิวา ค่ะ

    ----------------------------------------------------------------

    แหม ๆ อยากรู้จังใครเคยตัดเล็บให้หนุ่ม ๆ บ้าง หรือหนุ่ม ๆ คนไหนเคยมีแฟนตัดเล็บให้บ้าง รู้สึกยังไง นั่งมองตาปรอยแบบพี่ดลรึเปล่า ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ และฝากแอดแฟนอย่างเคยด้วยค่ะ อ้อ วันนี้วันหวยออกใครถูกหวยกระซิบบอกกันบ้างนะคะ ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ...ทิพย์ทิวา 1/3/2016 19.28

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×