ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรัก...นักล่าฝัน

    ลำดับตอนที่ #4 : เวิร์คช็อป (2)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 54


                    ผู้ชายผิวขาว สูงประมาณร้อยแปดสิบ รูปร่างค่อนข้างผอม ตากลม ๆ เหมือนตัวการ์ตูน ลุกขึ้นไปนั่งตรงกลางห้องแล้วหันหน้าเข้าหาคนอื่น ๆ อย่างมั่นใจ
                    “สวัสดีครับ ผมชื่อต้นครับ อายุ 21 ปี เป็นตัวแทนภาคอีสาน แต่จริง ๆ เป็นคนกรุงเทพฯครับ แนวเพลงที่ชอบ ชอบเพลงป็อปแดนซ์ครับ ที่มาสมัครรายการนี้ก็เพราะ...อยากดังครับ (^0^)” เหย...กล้าเนอะ ถึงถ้าเกิดฉันเข้ามาเพราะอยากดังจริง ๆ ฉันก็ไม่กล้าพูดหรอกนะ ว่าอยากดังอ่ะ เหอะ ๆ       
                    “กล้าพูดเนอะ...นี่เวลาให้สัมภาษณ์ก็อย่าลืมตอบแบบนี้ด้วยนะ” ครูกุ้งแทรกขึ้นมา หลายคนก็แอบขำ
                    “ขอดูสถานการณ์ก่อนละกันครับ แหะ ๆ (>_^)” พี่ต้นเรามือเกาหัว เหมือนเริ่มเขินขึ้นมานิด ๆ (นิดเดียวจริง ๆ นะ (+_+))
                    “อ่ะ...ลุกขึ้นแล้วแสดงความสามารถให้เพื่อนดูเลยจ้ะ”
                    “เพลงอะไรก็ได้เหรอครับ ใช้เพลงตอนที่ออดิชันเข้ามาได้มั้ยครับ”
                    “ได้จ้ะ ตามสบายเลย...คือครูแค่อยากเห็นความเป็นตัวตนของแต่ละคนนะจ้ะ (^_^)” ครูกุ้งพยักหน้าเหมือนเป็นสัญญาณบอกให้พี่ต้นเริ่มร้องได้แล้ว
    พี่ต้นลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว มองตัวเองในกระจกแล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าทีเล็กน้อย กระแอมเบา ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนที่จะเริ่มร้องเพลง และออกลีลาการเต้นราวกับเพิ่งซ้อมมา...พี่ต้นเป็นคนที่เต้นเก่งมากเลยอ่ะ จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งแบบเหมือนแดนซ์เซอร์เลยหรอกนะ แต่เวลาพี่ต้นเต้นแล้วฉันรู้สึกว่าน่ามองดีอ่ะ ทำให้อยากดูต่อไปเรื่อย ๆ แต่การร้องฉันว่ายังธรรมดาอยู่นะ มีเพี้ยนอยู่เยอะพอสมควรเลยล่ะ อืม...ทำไมเวลาพี่ต้นเค้าร้องเพลง เค้าชอบทำหน้าแบ๊ว ๆ อ่ะ ตาเค้าก็กลมอยู่แล้วนะ  และยิ่งบุคลิกเค้าดูอ่อน ๆ ยังไงไม่รู้อ่ะ จะมาเป็นเพื่อนสาวฉันรึเปล่าเนี่ย (-_-.) เหอ ๆ...ที่ฉันวิจารณ์อะไรมากมายนี่จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอกนะ แต่เวลาดูคนคนอื่นร้องคนอื่นเต้น แล้วฉันชอบวิจารณ์อยู่ในใจคนเดียวอ่ะ แหะ ๆ (>0^)
    เมื่อพี่ต้นร้องเสร็จ พี่ต้นก็นั่งลงพร้อมกับเสียงปรบมือของพวกเรารวมทั้งครูกุ้งด้วย
    “เหนื่อยเลยล่ะสิ ไปเอากระดาษตรงนู้นเช็ดเหงื่อก่อนก็ได้นะ (^_^) ครูจะยังไม่ขอวิจารณ์อะไรละกันนะคะ เข้าบ้านไปแล้วค่อยว่ากันดีกว่า วันนี้ครูอยากให้ได้รู้จักตัวตนของแต่ละคนกันให้มาก ๆ ก่อนนะคะ...เพื่อน ๆ คนอื่นมีอะไรจะถามต้นมั้ยคะ” ไม่มีใครถามอะไร “งั้นครูขอถามหน่อย...เมื่อกี้บอกว่าเป็นคนกรุงเทพฯ แล้วทำไมถึงไปสมัครภาคอีสานล่ะ”
    “วันที่เค้ารับสมัครที่กรุงเทพฯพอดีผมไม่ว่างอ่ะครับ ผมก็เลยตามไปสมัครที่ภาคอีสาน (^_^)”
       “ลงทุนมากอ่ะ” ข้าวปั้นพึมพำอยู่ข้าง ๆ ฉัน...นายนี่นี่ปากเสียจริง ๆ นะ มีสิทธิ์อะไรไปว่าเค้าฮะ
                    “ขอถามคุณต้นหน่อยครับ (^_^)” ผู้ชายหน้าตาคมคายผิวสีน้ำผึ้งยกมือขึ้นถาม “รู้สึกยังไงกับน้องเนยครับ (^0^)”
                    “...คุณไทถามแบบนี้ต้องการอะไรครับ” สองคนมองหน้ากันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่รู้กันอยู่สองคน...นี่มันอะไรกัน (-_-)...ทำไมอยู่ ๆ มีฉันไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ฉันงงนะเนี่ย (+_+)
                    “ก็คุณเคยบอกผมว่าน้องเนยน่ารักหนิครับ และถ้ามีโอกาส ก็อยากจะสานสัมพันธ์ต่อไปด้วย (^0^)” พี่ไททำหน้าเจ้าเล่ห์ และยักคิ้วใส่พี่ต้นประหนึ่งว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่าอีกฝ่าย
                    “ไอ้เพื่อนเลว (>_<) พูดอะไรของแกออกมาฮะ !!” พี่ต้นที่ตอนนี้หูกำลังเริ่มแดงปาขวดน้ำที่อยู่ในมือไปใส่พี่ไท แต่พี่ไทรับได้
                    “อ้าว ๆ ก็แกท้าฉันเองนะ เอาเหอะน่า น้องเนยเค้าจะได้รู้ความรู้สึกในใจแกไง 555+” พี่ไทที่ดูสะใจซะเหลือเกินโยนขวดน้ำกลับไปใส่พี่ต้น...อะไรกัน นี่ตกลงพี่ต้นแอบชอบฉันเหรอ (o^_<o) ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นเพื่อนสาวฉันซะอีก เหอะ ๆ... แต่นี่ก็แสดงว่าเราก็เสน่ห์แรงไม่เบานะเนี่ย เจอกันไม่ทันไรก็มีคนมาหลงรักฉันซะแล้ว เฮ้อ...แย่จัง เกิดมาเป็นคนหน้าตาดี...เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะยอมให้นายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มากมายของฉันละกันนะ (^0^) โฮ่ ๆ ๆ ๆ (เยอะไปมั้ยเนี่ยฉัน (-_-*))
                    “น้องเนย อย่าไปฟังไอ้ไทมันนะครับ ไอ้นี่มันเพ้อเจ้อ” พี่ต้นหันมาพูดกับฉัน แล้วหูของพี่ต้นที่แดงอยู่แล้วก็แดงหนักกว่าเดิม
                    “(^_^)” ฉันก็ได้แต่ยิ้มให้เขา ไม่รู้จะพูดอะไร (-_-.) จริง ๆ แล้วฉันก็รู้สึกดีนะที่มีคนมาชอบ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะมีใครหรอกนะ เฮ้อ...คิดถึงเรื่องนัทขึ้นมาอีกแล้ว (>_<)
                    “นี่ต้นกับไทรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า ทำไมดูเหมือนสนิทกันจังเลย” ครูกุ้งพูดตัดบทขึ้นมาด้วยความสงสัย
                    “อ๋อครับ ผมกับมันสนิทกันอยู่แล้ว เพราะเรียนที่เดียวกัน อยู่มหา’ลัยก็เจอกันเกือบทุกวัน แต่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยอยากจะสนิทกับมันแล้วล่ะครับ” พี่ต้นทำหน้าเบ้ใส่พี่ไท แล้วพี่ไทก็ทำท่าหัวเราะแบบไม่มีเสียงใส่พี่ต้น
                    “เอาล่ะ ๆ เดี๋ยวค่อยเก็บไปเคลียร์กันทีหลังละกันนะจ๊ะ (^_^) เข้ามานั่งได้จ้ะต้น...ต่อไป S2 เชิญเลยคะ”
                    ผู้หญิงผิวคล้ำนิด ๆ รูปร่างอวบเล็กน้อย ลุกขึ้นไปนั่งแทนที่ผู้ชายที่หลงเสน่ห์ฉัน (อิอิ (>0^))
                    “ชื่อจิ๊บ อายุ 22 เป็นตัวแทนภาคใต้ ชอบเพลงร็อค ที่มาแข่งรายการนี้ เพราะอยากทำงานดนตรี ซึ่งเป็นอะไรที่รักที่สุดในชีวิตแล้ว” พี่จิ๊บพูดเหมือนไม่ค่อยใส่ใจในคำพูดตัวเอง รีบ ๆ พูดให้มันจบไปอะไรประมาณนั้น เสียงพูดก็แมนเหลือเกิน...ทั้ง ๆ ที่หน้าตาของพี่จิ๊บก็ดูหวานไม่เบา แต่บุคลิกของพี่จิ๊บกลับดูแข็งกระด้างกว่าใบหน้าของเธอมาก มากจนดูน่ากลัว (>_<)
                    “ครูได้ยินมาว่า ตอนแรกจิ๊บเกือบจะได้ออกอัลบัมแล้วเหรอจ๊ะ แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ” ครูกุ้งถามขึ้นมา
                    “อ๋อ ก็เมื่อประมาณสองปีที่แล้วอ่ะ จิ๊บทำวงกับเพื่อน และก็มีค่ายเพลงเล็ก ๆ ค่ายนึงเค้าติดต่อมา ก็คุยกันอะไรเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ ๆ ค่ายนั้นแม่งก็เจ๊งไปซะงั้นอ่ะ ก็เลยปิ๋วเลย...โคตรเซ็งอ่ะ คนในวงก็เลยแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นกัน จิ๊บก็เลยมาสมัครที่นี่เนี่ย” อื้อหือ...ของเค้าแรงจริงอ่ะ (>_<) พูดจาไม่มีหางเสียงซักคำ คำพูดก็แรง แถมเสียงยังห้าวอีก นี่ขนาดพูดกับครูกุ้งยังขนาดนี้เลยนะ แล้วแบบนี้เวลาเข้าบ้าน ถ้าเค้าคุยกับฉันทั้งวัน ฉันไม่ต้องโดน ‘ตัวที่ลากไก่ลงไปกินในน้ำ’ กระแทกหน้าวันละสามเวลาเลยเหรอ (>0<)
                    “อ๋อ...จ้ะ ๆ...อ่ะ เริ่มร้องเพลงได้เลยจ้ะ” ครูกุ้งดูอึ้ง ๆ เล็กน้อย...สงสัยคงจะกลัวโดนตัวที่ฉันพูดถึงเมื่อกี้กระแทกหน้าเหมือนกันแน่ ๆ เหอะ ๆ (-_-*)
                    พี่จิ๊บลุกขึ้นยืนอย่างมาดมั่น และเริ่มร้องเพลงทันที...เสียงของพี่จิ๊บเวลาร้องเพลงหนักแน่นมาก ซึ่งเสียงพูดของพี่จิ๊บก็หนักอยู่แล้ว แต่เสียงเวลาร้องหนักกว่าเสียงพูดอีก เวลาร้องเพลงเธอจะไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น อารมณ์เต็มที่มาก ๆ ตาก็ไม่ค่อยจะลืมเท่าไหร่ เธอเธอคงกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวของเธอเพียงคนเดียว...ถึงแม้บุคลิกท่าทางของเธอบางคนอาจจะรู้สึกขัดหูขัดตาหรืออาจจะไม่ได้ถูกต้องตามหลักการแสดงบนเวที แต่ฉันว่ามันก็เป็นเอกลักษณ์ดีนะ เหมือนอย่างที่ฉันเห็นนักร้องร็อคชื่อดังหลายคนเค้าทำกัน นี่แหละมั้ง ที่เค้าเรียกว่าอารมณ์ศิลปิน
                    เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องชอบใจของพวกเราดังขึ้นเมื่อพี่จิ๊บร้องจบ...พี่จิ๊บร้องได้สะใจมากเลยน่ะสิ ถึงเทคนิคอาจจะไม่ได้มากมาย อาจมีเพี้ยนอยู่บ้าง แต่อารมณ์ถึงใจสุด ๆ
                    “มีใครจะถามอะไรจิ๊บมั้ยคะ” ครูกุ้งพูดขึ้นหลังจากสิ้นเสียงปรบมือของพวกเรา...จริง ๆ ฉันอยากถามพี่จิ๊บนะ ว่าถ้าฉันเข้าไปคุยด้วยเค้าจะกินหัวฉันรึเปล่า (>_<) เหอ ๆ...แต่ไม่ถามจะปลอดภัยกว่า แหะ ๆ (-_-.)
                    “คือ...อยากจะบอกว่า เข้ามาคุยกับจิ๊บได้นะ ไม่ต้องกลัว...คือบอกไว้ก่อน เพราะคนส่วนมากไม่ค่อยจะกล้าเข้ามาคุยกับจิ๊บเท่าไหร่” คงเป็นเพราะทุกคนเงียบสนิท พี่จิ๊บก็เลยพูดขึ้นมาแบบเขิน ๆ...เหมือนเค้าจะอ่านใจฉันออกแฮะ ดีและฉันจะได้ไม่ต้องถาม แหะ ๆ (>_^)
                    “S3 ต่อเลยคะ” ครูกุ้งพูดขึ้นหลังจากพี่จิ๊บเดินกลับเข้ามานั่งด้วยท่าทีที่ดูอ่อนลงเล็กน้อย
                    ผู้ชายหน้าตาคมเข้ม ผิวสองสี รูปร่างสมสัดส่วนกับความสูง ผู้ซึ่งเพิ่งมีปากเสียงกับผู้ชายที่หลงเสน่ห์ฉันเมื่อสักครู่นี้ ลุกไปนั่งที่กลางห้อง
                    “สวัสดีครับ ชื่อไทนะครับ อายุ 23...เกือบจะแก่สุดในนี้เลยนะเนี่ย แหะ ๆ (>_^) ...เป็นตัวแทนภาคกลาง ชอบเพลงร็อคกับป็อปร็อคครับ ที่มาสมัครรายการนี้ ก็เพราะว่าชอบร้องเพลงอ่ะครับ อยากมีอัลบัมเป็นของตัวเองอ่ะครับ” คนอะไรอ่ะ เท่ห์เป็นบ้าเลย (>_<) ฉันเจอเค้ากี่ครั้งฉันก็รู้สึกว่าเค้าเท่ห์ทุกครั้งเลยอ่ะ...ถึงแม้หน้าตาเค้าจะไม่ได้หล่อบาดใจอะไรมากมาย แต่เค้าดูเป็นคนที่มีบุคลิกเท่ห์มากเลยอ่ะ ไม่ใช่เท่ห์แบบเก๊ก ๆ แต่เท่ห์มาจากข้างในจริง ๆ อ่ะ...ฉันว่าพี่ไทเข้าบ้านไปต้องมีแฟนคลับตรึมแน่เลยอ่ะ
                    “อ่ะ...โชว์ความสามารถเลยจ้ะ (^_^)” ครูกุ้งบอกพี่ไท
                    พี่ไทลุกขึ้นยืนด้วยมาดเท่ห์ ๆ ของเขา และเริ่มร้องเพลง...กรี๊ด (>_<) ฉันอยากจะกรี๊ดให้พี่ไทจริง ๆ เลยอ่ะ ยิ่งเขาร้องเพลงเขายิ่งเท่ห์เข้าไปใหญ่เลยอ่ะ แถมร้องเพราะอีกด้วยอ่ะ เป็นร็อคที่ดูพอดี ๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป...ถ้าฉันเป็นคนดูอยู่นอกบ้านฉันต้องโหวตกระจายแน่ ๆ เลยอ่ะ (>0<)
                    พี่ไทโค้งเล็ก ๆ ให้พวกเราหลังสิ้นเสียงปรบมือ ซึ่งฉันอยากจะกรี๊ดให้ แต่ไม่กล้าพอ (>_<)
                    “มีใครจะถามอะไรพี่ไทเค้ามั้ยจ๊ะ” ครูกุ้งหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคำถามจากพวกเรา
                    “มีครับ ๆ (^_^)” นั่นไง ฉันกะแล้ว ต้องมีชำระความกันแน่ ๆ เหอะ ๆ (>_<)
                    “ว่ามาเลยครับคุณต้น” พี่ไทพยายามทำหน้าตาท้าทาย
                    “ล้อเล่น...ไม่มีอะไรหรอกครับ แหม...คุณไทก็ทำเป็นซีเรียสไปได้ครับ เอ๊ะ ๆ หรือว่ากลัวคำถามอะไรรึเปล่าครับ (^_^)” พี่ต้นทำหน้าตาเริงร่าอย่างท้าทาย... ท่าทางจะสนิทกันมากนะสองคนนี้ ดูเหมือนจะรู้เรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว
                    “อ่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญ S4 ต่อเลยจ้ะ” ครูกุ้งพูดขณะที่พี่ไทกับพี่ต้นกำลังเขม่นกันอยู่
                    ผู้หญิงผิวขาวอมชมพูหน้าตาสวยสะดุดตา ความสูงใกล้เคียงกับฉัน เดินไปนั่งตรงกลางห้อง ราวกับเธอกำลังเดินอยู่บนแคทวอล์ค
                    “สวัสดีค่ะ ชื่อซูกัส อายุ 18 ปีค่ะ เป็นตัวแทนภาคกลาง จริง ๆ ชอบเพลงฮิปฮอป แต่ถนัดป็อปแดนซ์มากกว่าค่ะ (^_^) ที่มาสมัครรายการนี้เพราะว่าอยากเข้าบ้าน SF มากเลยค่ะ ติดตามรายการนี้มาตลอดเลย ก็หวังว่าสักวันหนึ่งอยากจะมีโอกาสเข้ามาในบ้าน ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ และได้ร้องได้เต้นซึ่งเป็นสิ่งที่ซูกัสชอบด้วยอ่ะค่ะ...แต่จริง ๆ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้มาถึงรอบนี้นะคะ เพราะไม่เคยประกวดที่ไหนมาก่อนเลยอ่ะค่ะ ที่นี่เป็นที่แรก ก็ไม่คิดว่าจะได้มาถึงตรงนี้เร็วขนาดนี้อ่ะค่ะ (^_^)” ทำไมซูกัสพูดยืดยาว แต่กลับน่าฟัง...นี่เธอจะดีไปซะทุกอย่างเลยเหรอไง ทั้งสวยทั้งหุ่นดีทั้งพูดเก่ง (แอบหมั่นไส้ (>_<))
                    ซูกัสลุกขึ้นเตรียมตัวร้องเพลงโดยไม่ต้องรอครูกุ้งเรียก เธอมองตัวเองในกระจกเล็กน้อยก่อนจะเริ่มร้องและเต้น...ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ซูกัสจะได้เข้ามาถึงรอบนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น ทั้งการเต้นที่คล่องแคล่วและสวยงาม ส่วนการร้องก็ถือว่าใช้ได้ (แต่ฉันว่าฉันร้องดีกว่านะ (^0^) โฮ่ ๆ ๆ ๆ) เธอคงเข้ารอบแบบลอยมาเลยแหละ ตอนกรรมการตัดสินใจเลือกเธอเข้ามาคงไม่ต้องคิดอะไรมากเลยล่ะ...เธอเต้นเก่งมากเลยอ่ะ ยิ่งรูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้ด้วย สุดยอดเลยอ่ะ...อิจฉา !! (>0<)
                    เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากซูกัสโพสท่าจบประมาณสามวินาที
    “ขอบคุณค่ะ (>0^) เหนื่อยค่ะ แหะ ๆ” ซูกัสพูดพลางเอามือทาบเหนืออกแล้วจึงนั่งลง
    “มีใครจะถามอะไรเพื่อนมั้ย” ครูกุ้งมองหาคำถามจากพวกเราเช่นเคย
    “ไม่ทราบว่า ทานอะไรถึงได้สวยขนาดนี้เนี่ยครับ” อ้าวเฮ้ยพี่ต้น (-_-) เมื่อกี้ยังชอบฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ
    “พี่ต้นพูดอย่างนี้หนูก็เขินแย่เลยสิ (>_^)” ตอนเขินก็ยังสวยนะยะหล่อน (>_<)
    “แหม พี่ต้น...ทำไมเมื่อกี้พี่ต้นไม่หยอดน้องจิ๊บแบบนี้บ้างล่ะจ๊ะ” ครูกุ้งปล่อยมุข จนพวกเราทุกคน (ยกเว้นพี่ต้นกับพี่จิ๊บ) หลุดขำออกมาโดยไม่รู้ตัว 555+
    “...” พี่ต้นก้มหน้าสงบเสงี่ยมเจียมตัวลงทันที...พี่จิ๊บก็ยิ้มขำ ๆ เล็กน้อย ค่อยดูโหดน้อยลงหน่อย
     “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...S5 ต่อเลยจ้ะ” ครูกุ้งพูดเสร็จซูกัสก็กลับเข้ามานั่งที่
                  ผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง รูปร่างค่อนข้างเล็ก ลุกขึ้นไปนั่งตรงกลาง
                  “สวัสดีค่ะ ชื่อแพท อายุ 20 ปีค่ะ เป็นตัวแทนภาคกลาง ชอบเพลงคลาสสิกค่ะ ที่มาเข้าร่วมรายการนี้ก็เพราะแพทอยากทำตามความฝันของตัวเองน่ะค่ะ อยากมีโอกาสได้ร้องเพลงให้คนฟังฟังเพลงของแพทแล้วมีความสุขค่ะ” พี่แพทพูด แต่เสียงเหมือนกำลังร้องเพลงอยู่เลย มีทั้งสูงต่ำหนักเบาครบเลย เหอๆ
                    “เริ่มร้องเลยจ้ะ ครูอยากฟังแพทร้องเพลงแบบเต็ม ๆ จังเลย...เอาเลยจ้ะ (^_^)”
                    พี่แพทยิ้มเขิน ๆ แล้วยืนขึ้น หลังเหยียดตรง สูดหายใจเข้า แล้วจึงเริ่มขับร้องบทเพลงคลาสสิกที่เธอถนัดออกมา...พี่แพทเสียงดีมากเลยอ่ะ ถึงตัวจะเล็ก แต่เสียงมีพลัง ควบคุมเสียงได้ดีมาก ๆ ไม่มีเพี้ยนเลยอ่ะ สุดยอด เทคนิคก็เหนือชั้นจริง ๆ สมแล้วที่เรียนมาทางนี้โดยตรง...แต่ฉันรู้สึกว่าพี่แพทขาดอะไรไปซักอย่างอ่ะ ไม่งั้นพี่แพทจะสมบูรณ์แบบมาก ๆ ขาดอะไรไปนะ...นึกไม่ออกอ่ะ (>_<)
                    “ขนลุกเลย (^_^) เก่งมากจ้ะเก่งมาก” ครูกุ้งพูดพลางปรบมือพร้อมไปกับพวกเรา
                    “ขอบคุณค่ะ” พี่แพทโค้งพร้อมย่อเข่าอย่างสวยงามให้เป็นการขอบคุณก่อนนั่งลง
                    “มีใครจะถามอะไรมั้ยคะ” ครูกุ้งมองซ้ายมองขวา “ถ้าไม่มีแล้ว ก็ขอบคุณแพทมากจ้ะ...ต่อไป S6 เชิญเลยค่ะ”
        ผู้ชายผิวขาว รูปร่างสมส่วน หน้าตาดีมาก ๆ...เดินไปนั่งตรงกลางห้อง
        “สวัสดีครับ ชื่อที อายุ 19 ครับ (^_^) เป็นตัวแทนภาคกลาง ชอบเพลงป็อปช้า ๆ ครับ ที่มาสมัครที่นี่ก็เพราะว่าชอบร้องเพลงอ่ะครับ...ดู SF มาตลอด แล้วก็หวังว่าวันหนึ่งอยากจะมีโอกาสได้มายืนอยู่บนเวทีนี้บ้างครับ” นี่แหละ ผู้ชายที่มีคนปลื้มเยอะแยะมากมายตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน รวมทั้งยัยฝนเพื่อนของฉันด้วย...ทีเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ๆ อ่ะ ยิ่งเวลายิ้มยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลยอ่ะ…ประหนึ่งว่า ถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงแค่ไหน แค่ทียิ้มขึ้นมา โลกนี้ก็จะดูเย็นลงขึ้นมาแหละ...แต่ไม่ใช่ว่าฉันแอบชอบทีนะ (>_<) คือทีดูดีเกินไปอ่ะ ดีจนฉันรู้สึกไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยเลยอ่ะ เหมือนเค้าอยู่ไกลเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างฉันจะสัมผัสได้อ่ะ
                    ทีลุกขึ้นยืน แล้วเริ่มร้องเพลงช้าเศร้า ๆ ขึ้นมา...ทีร้องเพราะมากเลยอ่ะ (O_O) ทำไมที่ผ่าน ๆ มาฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าทีร้องเพลงเพราะขนาดนี้นะ หรือเป็นเพราะหน้าตาของทีโดดเด่นจนกลบความสามารถที่แท้จริงของเขาเอง...แต่วันนี้ฉันได้เห็นแล้ว ว่าความสามารถของทีไม่ได้ด้อยไปกว่าหน้าตาของเขาเลย...ทีร้องเพลงนี้ได้เพราะมากอ่ะ มากจนทำให้ฉันรู้สึกเหงาตามไปกับเพลงเลย นี่ขนาดไม่มีดนตรีไม่มีอะไรช่วยเลยนะเนี่ย แค่เสียงของที ก็ทำให้ฉันหลุดเข้าไปในบทเพลงของทีได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย...ทำไมทีถึงได้เพอร์เฟ็คขนาดนี้เนี่ย เหมือนจะไม่มีอะไรในตัวเค้าที่ไม่ดีเลยอ่ะ...เดี๋ยวขอดูต่อไปก่อนละกัน ว่านิสัยจะดีเหมือนอย่างอื่นด้วยรึเปล่า
                    เมื่อทีร้องเพลงจบ ไม่มีเสียงใด ๆ เกิดขึ้น ทุกคนยังจับจ้องอยู่ที่ที จนเมื่อทีนั่งลง เหมือนทุกคนจะเพิ่งได้สติจึงปรบมือให้ทีกันอย่างพัลวัน ทีจึงยิ้มและก้มหัวขอบคุณอย่างเขิน ๆ อีกทีขณะนั่งอยู่...ฉันว่า คนอื่นก็คงโดนทีดึงเข้าไปในเพลงของเขาเหมือนฉันแน่ ๆ เลยล่ะ
                    ไม่มีคำพูดใด ๆ จากครูกุ้ง ฉันจึงหันไปมองครูกุ้ง ซึ่งหลายคนก็ทำเหมือนกับฉัน...และฉันก็ต้องตกใจ เพราะ...ฉันเห็นน้ำตาของครูกุ้ง
                    “โทษทีจ้ะ...ครูมีความหลังกับเพลงนี้นิดหน่อย...ทีร้องได้ดีมาก ๆ เลยนะ ทำเอาครูต่อมน้ำตาแตกเลย (>_^.)” ครูกุ้งที่ตอนนี้หน้าแดงเล็กน้อยเอามือปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว...ครูกุ้งคงเขิน ที่อยู่ ๆ ต้องมาร้องไห้ต่อหน้าพวกเรา สงสัยครูกุ้งคงเคยมีความหลังกับเพลงนี้ล่ะมั้ง และยิ่งมาเจอคนที่ถ่ายทอดเพลงได้ดีขนาดนี้ด้วย ต่อมแตกเลย เหอ ๆ
                    “คือสงสัยมาตั้งนานแล้วอ่ะ ตกลงทีเป็นน้องไอ้ไทใช่ป่ะ” พี่ต้นเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากครูกุ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ
                    “(-_-)( _ _ )(-_-)( _ _ )” ทีพยักหน้าแทนคำตอบ...บ้านนี้นี่เก่งเนอะ เข้ารอบมาได้ทั้งพี่ทั้งน้องเลยอ่ะ
                    “แล้วทำไมถึงใช้คนล่ะนามสกุลล่ะ แถมหน้าตาก็ไม่เห็นจะเหมือนกันเลย ทีหล่อกว่าไอ้ไทตั้งเยอะ” พี่ต้นถามขึ้นมา คือจริง ๆ ฉันเองก็อยากรู้มาตั้งนานแล้วนะ แต่ไม่กล้าถาม ดีและที่พี่ต้นถาม แต่จริง ๆ ถ้าพี่ต้นไม่ได้สนิทกับพี่ไท ก็คงไม่กล้าถามคำถามนี้เหรอมั้ง เหอ ๆ
                    “ก็เป็นพี่น้องกัน แต่คนละพ่อ” พี่ไทตอบคำถามแทนที “พ่อฉันเสียตั้งแต่ฉันอยู่ในท้องแม่ แล้วพอฉันอายุได้ประมาณ 3 ขวบ แม่ก็ไปแต่งงานกับพ่อไอ้ทีมัน และที่หน้าตาฉันกับไอ้ทีไม่ค่อยจะเหมือนกันก็เพราะแม่ฉันมีเชื้อจีน แต่พ่อฉันเป็นคนไทยแท้ แล้วฉันได้พ่อมาเยอะกว่า ผิวกับหน้าตาก็เลยเป็นอย่างนี้ ส่วนไอ้ทีพ่อมันเป็นคนเยอรมัน แล้วมันได้มาทั้งพ่อทั้งแม่ ก็เลยหล่อแบบนี้ไง” พี่ไทเหมือนพูดกับพี่ต้น แต่ก็พูดเสียงดังเพื่อให้พวกเราได้ยินกันหมด
                    “ไทก็หล่อเหมือนกันแหละจ้ะ (^_^) อ่ะมีอะไรกันอีกมั้ย ถ้าไม่มี ต่อไป S7 มาเลยจ้ะ” ครูกุ้งพูดขึ้น ซึ่งตอนนี้ครูกุ้งกลับสู่สภาพปกติแล้ว
                    ฉันก็รอ...เอ๊ะ ทำไมไม่มีใครลุกขึ้นไปล่ะ
                    “S7 คะ เชิญค่ะ” ครูกุ้งพูดย้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครลุกไปอยู่ดี
                    “เอ้า...ไปสิ ถึงตาเธอแล้วนะ” ข้าวปั้นเขย่าตัวฉันเบา ๆ...ฉันเหรอ เออใช่ ถึงฉันแล้วนี่นา (>0<) มัวแต่ดูคนอื่นจนเพลิน ลืมเลยว่าฉันก็ต้องออกไปเหมือนกัน (+_+)
                    ฉันลุกขึ้นไปแบบงง ๆ คนอื่นมองก็ยิ้ม ๆ สงสัยคงสมเพชกับความเอ๋อของฉันมั้ง ไม่น่าเลยฉัน (T_T) มาก็สาย แต่งตัวก็ประหลาด แถมมาโชว์เอ๋ออีก ชีวิตหนอชีวิต (T0T)
                    ฉันนั่งลงบนพื้นที่เมื่อกี้มีก้นวางมาบนตำแหน่งนี้แล้วหกก้นถ้วน...เอ๊ะ แล้วนี่ฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ แนะนำตัวใช่มั้ย...ใช่...แล้วฉันต้องพูดอะไรบ้างล่ะ ลืมไปหมดแล้ว (>_<)
                    “สวัสดีค่ะ ชื่อเนย อายุ 18 ค่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจเป็นที่สุด...ฉันเงียบ เพราะไม่รู้ต้องพูดอะไรต่อ (>0<)...อีตาข้าวปั้นบ้า มามองฉันแล้วยิ้มแบบนี้ทำไม ฉันยิ่งตื่นเต้นอยู่นะ (>_<)
                    “เป็นตัวแทนภาคไหนคะ” ครูกุ้งถาม ทั้ง ๆ ที่คนอื่นครูกุ้งไม่ต้องถามแบบนี้ (>0<)
                    “ภาคกลางค่ะ” ฉันตอบ...แล้วต้องพูดไรอีกว้า (+_+)
                    “ชอบเพลงแนวไหนคะ (^_^)” ครูกุ้งยิ้ม ๆ เหมือนจะรู้ว่าฉันจำไม่ได้ว่าต้องพูดอะไรบ้าง
                    “เอ่อ...ชอบป็อปค่ะ...แล้วก็อาร์แอนบีด้วยค่ะ” ให้ตายสิ ฉันจะพูดตะกุกตะกักทำไมนะ ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นอะไรเลย (>_<)
                    “แล้วทำไมถึงมาสมัครรายการนี้ล่ะจ๊ะ (^_^)”
                    “เนยติดตามรายการนี้มาทุกซีซันเลยอ่ะค่ะ เนยรู้สึกว่าคนที่ได้เข้ามาเป็นแปดคนสุดท้ายโชคดีมาก ๆ เลย ได้ร้องเพลง ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้เพื่อนที่ดีกลับไป และก็ได้อะไรอีกเยอะแยะเลย...ครั้งหนึ่งในชีวิต เนยเลยอยากจะมีประสบการณ์แบบนั้นบ้างค่ะ (^0^)” ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าน้อยลง หลังจากที่พูดความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเองออกไป
                    “(^_^) เริ่มร้องเพลงได้เลยจ้ะ” ครูกุ้งพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อยเหมือนเป็นสัญญาณให้ฉันลุกขึ้นยืน
                    เอ่อ...แล้วฉันจะร้องเพลงอะไรดีล่ะ ไม่ได้คิดมาก่อนเลยอ่ะว่าจะร้องเพลงอะไร (>_<) เมื่อกี้มีเวลาตั้งเยอะแยะ ดันไม่ยอมคิดเตรียมเพลงไว้ก่อน (T_T) เอาไงดี เอาไงดี...
                    ฉันมองตัวเองในกระจก เห็นผู้หญิงใส่ชุดนอนคนหนึ่งในกระจก...ทำให้ฉันนึกไปถึงสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นตื่นสาย...ตอนนี้ความประหม่า และความตื่นเต้นของฉันหายไปหมด แต่ความรู้สึกที่มันค้างคาอยู่ในใจมันกลับค่อย ๆ เอ่อล้นขึ้นมา จนร่างกายของฉันไม่มีที่พอที่จะเก็บความรู้สึกนี้ได้แล้ว ฉันจึงต้องปล่อยความรู้สึกที่เอ่อล้นผ่านออกมาทางเสียงของฉัน...
     
    “มองฉัน บอกกับฉันที เธอจำได้ไหมใครเคยเสียน้ำตา
    ก็ตอนนั้น ตอนเธอร่ำลา ใครเคยขอร้องให้เธอเปลี่ยนใจ

    แล้วก็ผ่านพ้นมา เธอบอกลาแล้วจากไป
    ฉันก็อยู่เยียวยาหัวใจจนหาย แล้วเธอนั้นก็กลับมา

    อย่าทำแบบนี้ หยุดเกมนี้เลย จะเอ่ยว่ารักกันตอนนี้ทำไม
    พอแล้วไม่อยากสับสนในใจ เจ็บตอนเธอไปไม่เท่าตอนเธอกลับมา

    ฟังฉัน อยากขอร้องเธอ ถ้าเธอรักฉันเหมือนเธอพูดจริง ๆ
    ก็ปล่อยฉัน ปล่อยให้ฉันไป ให้เธอช่วยทิ้งฉันไว้อย่างเดิม

    แล้วก็ผ่านพ้นมา เธอบอกลาแล้วจากไป
    ฉันก็อยู่เยียวยาหัวใจจนหาย แล้วเธอนั้นก็กลับมา

    อย่าทำแบบนี้ หยุดเกมส์นี้เลย จะเอ่ยว่ารักกันตอนนี้ทำไม
    พอแล้วไม่อยากสับสนในใจ เจ็บตอนเธอไปไม่เท่าตอนเธอกลับมา”
     
                ...คำพูดที่เขาบอกเลิกฉัน...
    ...ภาพของผู้หญิงอ่อนแอที่ยืนร้องไห้อยู่คนเดียวกลางห้าง...
                ...คำพูดของเขาที่ขอให้ฉันกับเขากลับไปเป็นเหมือนเดิม วนเวียนอยู่ในห้วงความคิดคำนึง...
                   
                    ฉันค่อย ๆ นั่งลงโดยที่แทบจะไม่รับรู้ถึงเสียงปรบมือที่ทุกคนส่งมาให้ฉันเลย...
                    “อ่ะ นี่จ้ะ (^_^)” ครูกุ้งยื่นกระดาษทิชชูให้ฉัน โดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลยว่า ครูกุ้งมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
                    “...” ฉันรับกระดาษมาจากมือครูกุ้ง โดยที่ฉันก็ไม่รู้ว่าครูกุ้งเอามาให้ฉันทำไม...ฉันมองตัวเองในกระจก...ตายแล้ว !! นี่ฉันร้องไห้เหรอเนี่ย (>0<) ทำไมฉันไม่รู้ตัวเลยล่ะ...ทำไมฉันต้องไปคิดถึงเรื่องนั้นตอนนี้ด้วยเนี่ย (T_T)
                    “ไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ยจ๊ะ (^_^)” ครูกุ้งยิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง...เหมือนครูกุ้งจะเข้าใจนะ ว่าทำไมอยู่ ๆน้ำตาฉันถึงไหลออกมา
                    “ค่ะ (.^_^.)” ฉันยิ้มให้ครูกุ้งทั้งที่น้ำตายังเปื้อนแก้มอยู่
                    “มีใครจะถามอะไรเนยมั้ยจ๊ะ” ครูกุ้งพูดขณะที่ฉันกำลังใช้ทิชชูซับน้ำตาอย่างรีบ ๆ...คนอื่นเห็นฉันร้องไห้อย่างนี้คงไม่มีใครกล้าถามอะไรฉันอีกแล้วล่ะ (>_<) “ขอบคุณเนยมากจ้ะ...คนสุดท้าย S8 เชิญเลยจ้ะ”
                    ฉันเดินกลับเข้าไปนั่งที่เดิมแบบเขิน ๆ...ก็ทุกคนเอาแต่จ้องฉันอย่างนั้นอ่ะ แล้วฉันจะทำหน้ายังไงดีล่ะ (>_<)
                    “ไม่เป็นไรใช่มั้ย...เดี๋ยวฟังเพลงที่เราร้องด้วยนะ (^_^)” ข้าวปั้นยิ้มให้ฉันพร้อมกับตบไหล่ฉันเบา ๆ ก่อนที่จะลุกไปนั่งตรงกลางห้อง...ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันต้องไม่คิดถึงเรื่องนั้นนะ...ใช่ ฉันต้องไม่คิด ฉันต้องลืมให้ได้ได้ !!
                    “สวัสดีครับ ข้าวปั้นครับ อายุ 18 ปี เป็นตัวแทนภาคเหนือ แนวเพลงที่ชอบก็...ป็อปกับป็อปร็อคครับ ที่มาสมัครรายการนี้ก็เพราะชอบร้องเพลง อยากมีเพลงเป็นของตัวเองอ่ะครับ...แล้วก็อยากอยู่ในบ้าน SF ด้วยอ่ะครับ ใหญ่ดี แหะ ๆ (^0^) อยากรู้ว่าความรู้สึกเป็นยังไง อยากรู้ว่าถ้าต้องมาใช้ชีวิตกับคนอื่น ๆ ที่ต่างที่มากันเนี่ย จะเข้ากันได้รึเปล่า แล้วที่สำคัญ...ในบ้านของกินเยอะดีอ่ะครับ ชอบ แหะ ๆ (>_^)” ข้าวปั้นนี่พูดจาน่ารักดีเนอะ ดูจริงใจดีอ่ะ...เวลานายทำตัวดี ๆ ก็น่ารักดีเนอะ ไม่เหมือนตอนที่มาพูดจากวนฉันเมื่อกี้เลย (=_=)
                    “เข้าไปในบ้านก็อย่ากินจนอ้วนฉุละกันจ้ะ (^_^) อ่ะ เริ่มร้องเพลงได้เลยจ้ะ” ไม่ธรรมดานะ อยากเข้าบ้าน เพราะของกินเยอะเนี่ย เหอ ๆ
                    “ผมขอนั่งร้องได้มั้ยครับ”
                    “เอาเลยจ้ะ ตามสบายเลย”
                    ข้าวปั้นก้มหน้าลงเพื่อเตรียมตัวเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา...
                   
    “ไม่ต้องบอกฉัน ถึงวันที่เลยผ่าน ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง
    ถ้าเผื่อฉันเผลอ บังเอิญฉันถามเธอไป เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย”
    ...ข้าวปั้นเหลียวหน้ามาที่ใครสักคนใกล้ ๆ ฉัน...

    “แต่ฉันคนนี้ ก็มีที่พลาดผิด ใช่ว่าชีวิตจะดีจะงามซักเท่าไร
    ไม่อยากให้ถาม มันไม่น่ารู้เท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นของเรา”
    ...ข้าวปั้นยิ้มให้กับตัวเอง...

    “วันวานยังคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้
    ฉันพร้อมจะอยู่ ฉันพร้อมจะตาย เพื่อรักคำเดียว”

    “ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมา ขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ
    ไม่ว่ามันจะเกิดอะไร ต่อจากนี้ไป ฉันจะอยู่ดูแลเธอ ด้วยคำว่ารักด้วยใจ”
    ...ข้าวปั้นหันหน้ามาทางฉัน และเหมือนกำลังสบตาฉัน...

    “ไม่ต้องบอกฉัน ถึงวันที่เลยผ่าน ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง
    แค่บอกว่ารัก แค่เธอรักฉันง่าย ๆ ฉันต้องการแค่ใจของเธอ”
    ...ฉันพยายามไม่สบตาข้าวปั้น...

    “วันวานยังคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้
    ฉันพร้อมจะอยู่ ฉันพร้อมจะตาย เพื่อรักคำเดียว”
    ...แต่ข้าวปั้นก็ยังคงจับจ้องมาที่ฉัน ฉันจึงตัดสินใจไม่หลบสายตาเขาอีกต่อไป...

    “ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมา ขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ
    ไม่ว่ามันจะเกิดอะไร ต่อจากนี้ไป ฉันจะอยู่ดูแลเธอ จะรักเพียงเธอ”

    “ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมา ขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ
    ไม่ว่ามันจะเกิดอะไร ต่อจากนี้ไป ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ เป็นคนรักเธอ...”
                ...ข้าวปั้นผายมือออกมาเล็กน้อย...
                “ตลอดไป...”
     
                    เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับเสียงวี้ดวิ่วของใครซักคนในหมู่พวกเรา ข้าวปั้นยิ้มพร้อมก้มหัวลงนิด ๆ เป็นการขอบคุณ
                    เพราะจังเลยอ่ะ แถมเพลงยังมีความหมายดีอีกด้วย...ถ้าข้าวปั้นมาร้องเพลงนี้ให้ใครนะ คนนั้นคงรักข้าวปั้นตายเลยแหละ...แต่เอ๊ะ ! เมื่อกี้ก่อนที่ข้าวปั้นจะลุกไป ข้าวปั้นบอกให้เราฟังเพลงที่เขาร้องหนิ หรือเขาแค่จะบอกให้เราฟังเฉย ๆ...แล้วสายตาตอนที่ข้าวปั้นร้องเพลงล่ะ มันหมายความว่ายังไง...หรือว่าฉันจะคิดมากไปเอง...ใช่ ! ฉันต้องคิดไปเองแน่ ๆ อยู่ ๆ ข้าวปั้นจะมาคิดอะไรกับฉันได้ยังไง (>0<)
                    “ข้าวปั้น...ร้องเพลงนี้ให้ใครเป็นพิเศษรึเปล่าเอ่ย (^0^)” ครูกุ้งพูดแล้วสะบัดหน้ามาทางฉัน...เหอะ ๆ นี่มันอะไรกัน ครูกุ้งก็คิดว่าข้าวปั้นคิดอะไรกับฉันเหรอเนี่ย (>_<)...ก็น่าคิดอยู่หรอกนะ ส่งสายตาให้ฉันขนาดนั้นอ่ะ...ไม่ ๆ !! ฉันว่าต้องมีการเข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ (>0<)
                    “เปล่าหนิครับ (^_^)” ข้าวปั้นยิ้มให้ครูกุ้ง...แล้วก็หันมายิ้มให้ฉัน...อ้าว (+_+) อีตาบ้าตกลงจะเอายังไงกันแน่ฮะ...บอกว่าเปล่า แล้วจะหันมาหาฉันทำไมยะ !! (>0<)
                    “ครูจะพยายามเชื่อนะ (^_^)” ประโยคนี้แปลว่าเชื่อจริง ๆ เหรอ (-_-*) เหอะ ๆ (>_<) “มีใครจะถามอะไรข้าวปั้นมั้ยจ๊ะ”
                    “คิดอะไรกับเนยรึเปล่าอ่ะ” พี่ต้นพูดเสียงเข้ม...นั่น งานเข้าแล้วฉัน (>_<) ให้ตายสิ ทำไมฉันถึงต้องมีเอี่ยวแทบทุกตอนเลยเนี่ย (>0<) ฉันไม่ได้อยากทำตัวเด่นเลยนะ เดี๋ยวคนอื่นก็หมั่นไส้ฉันเอาหรอก (T_T)
                    “ก็...แล้วแต่พี่ต้นจะคิดละกันครับ (^_^)” ข้าวปั้นยิ้มให้พี่ต้น...นี่ อย่ามาผิดใจกันเพราะฉันนะ (>_<) ขอร้องล่ะ ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหานะ (T^T) (ลึก ๆ แอบรู้สึกภูมิใจที่มีแต่คนมารุมแย่งเรา อิอิ (^0^))
                    “แหม ครูล่ะอิจฉาเนยจริง ๆ (^_^)” ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีอ่ะ (>_<) “อ่ะ เข้ามานั่งได้จ้ะข้าวปั้น”
                    ข้าวปั้นกลับมานั่งข้าง ๆ ฉันเหมือนเดิม แต่เขากลับไม่ยอมสบตาฉันเลย
                    “ที่ครูให้ถามคำถามเพิ่ม ครูกะจะให้พวกเราได้รู้จักตัวตนของกันและกันซักหน่อย...แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้รู้เรื่องหัวใจแทนซะอย่างงั้น (^_^) อิอิ” ครูกุ้งหันมามองที่ฉันอีกแล้ว (>_<) “ตอนนี้ก็แนะนำตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เดี๋ยววันนี้ครูยังมีอีกหลายกิจกรรมให้พวกเราได้ทำกันนะคะ แต่เดี๋ยวครูขอตัวสักครู่นึง ถ้าใครจะไปเข้าห้องน้ำหรือทานน้ำก็เชิญเลยนะคะ เดี๋ยวอีกสิบนาทีเจอกันที่สนามหญ้าข้างหน้าเลยนะจ๊ะเจอกันค่ะ” ครูกุ้งพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป
                    “นี่ข้าวปั้น ที่เมื่อกี้นายบอกให้ฉันฟังเพลงที่นายร้องด้วย...หมายความว่าไง” ฉันคว้ามือข้าวปั้นขณะที่ข้าวปั้นจะลุกขึ้นแล้วกำลังจะเดินไปที่อื่น
                    “(O_O)” ข้าวปั้นไม่ตอบ แต่กลับมองที่มือ...(>_<) นี่ฉันจับมือข้าวปั้นอยู่นี่นา
                    “อุ๊ย !! ขอโทษ...ฉันลืมตัว (>0<)” ฉันรีบปล่อยมือของฉันออกทันที...รู้สึกว่าตอนนี้หน้าฉันมันร้อน ๆ ยังไงไม่รู้อ่ะ (>_<)
                    “ไม่เป็นไรหรอก จะจับอีกก็ได้นะ (^0^)” ข้าวปั้นก้มตัวลงมาและยื่นมือมาให้ฉัน
                    “บ้าเหรอ ไม่ได้อยากจับซักหน่อย (>0<)” ฉันปัดมือข้าวปั้นออกไป
                    “แล้วเมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”
                    “ฉันถามนายว่า ที่เมื่อกี้นายบอกให้ฉันฟังเพลงที่นายร้องด้วย หมายความว่ายังไง”
                    “อืม...แล้วเธอคิดว่าฉันหมายความว่าไงล่ะ (^_^)” นายอย่ามายิ้มแบบนี้นะ (>_<)
                    “ก็...ก็...เอ่อ...ไม่รู้ (>_<)...ฉันถึงได้มาถามนายไง (=_=)”

                    “มันก็คงหมายความแบบที่เธอคิดน่ะแหละ (^_^)” ข้าวปั้นเดินจากไป แล้วทิ้งคำพูดให้ฉันสับสนอยู่คนเดียว...หมายความว่าไง...หมายความแบบที่ฉันคิด...แล้วฉันคิดอะไรล่ะ...นายชอบฉันเหรอ (o_O)...เป็นไปได้เหรอ อยู่ ๆ นายจะมาชอบฉันได้ยังไงอ่ะ...แล้วที่สำคัญ...ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะมีใครหรอกนะ...ถึงแม้นายจะดีขนาดไหน แต่ฉัน...ฉันก็ยังไม่สามารถเปิดรับใครได้ตอนนี้หรอกนะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×