ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรัก...นักล่าฝัน

    ลำดับตอนที่ #2 : เตรียมตัวเข้าบ้าน (2)

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 54


                   “ว่าไงยัยฝน มาซะเร็วเชียวนะแก...ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ” ฉันทักเพื่อนของฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม (-_-*)
                    “แหม แค่สิบห้านาทีเองทำบ่นไปได้ ทำไมล่ะรอนิดรอหน่อยไม่ได้เหรอไง และใครใช้ให้มาเร็วล่ะจ๊ะแม่ดารา” สรุปว่าฉันผิดใช่มั้ยที่ฉันมาเร็วเนี่ย (+_+)
                    “นี่ยังดีนะ ที่ฉันยังไม่ได้ดังอะไรมากมาย นี่ถ้าเกิดฉันดังขึ้นมาแล้วแกมาปล่อยให้ฉันรอแบบนี้นะ สงสัยมีหวังแฟน ๆ ได้มารุมทึ้งฉันตายแน่ ๆ เลย...น่ากลัวมากเลยนะแก ถูกคนมาขอถ่ายรูปมาขอลายเซ็นต์มาขอจับมือเยอะแยะอะไรอย่างเงี่ย (^0^)” เอ่อ...ทำไมคนที่เดินผ่าน เค้าถึงมองเราแบบนั้นล่ะ...ไม่นะ อย่าเข้าใจน้องเนยผิดนะ น้องเนยแค่ล้อเล่น (>0<)
                    “เออ ๆ เอาเถอะ ๆ จะเป็นดาราอยู่แล้ว เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วนะแก เดี๋ยวประชาชนจะรับไม่ได้ (+_+)”
                    “จะพยายามละกัน (-_-) แล้วนี่เฟิร์นจะมาด้วยรึเปล่าอ่ะ”
                    “มาสิ บิ๊กก็มาด้วยนะ แต่พวกมันบอกว่าจะมากันตอนเที่ยง มันบอกว่าให้เราไปหาร้านกินข้าวเลย เดี๋ยวมันตามไป”
                    “อืม งั้นไปกันเลยเถอะ”
     
                    “แล้วช่วงนี้แกไม่ต้องออกงานอะไรแล้วเหรอ” ฝนถามฉันขณะที่พวกเรากำลังเดินเข้าประตูห้าง
                    “อืม ไม่ต้องแล้วอ่ะ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีเวิร์คช็อปอ่ะ”
                    “คืออะไรวะ…เวิร์คช็อป ?” ฝนถามด้วยสีหน้างง ๆ
                    “ก็คงแบบ ทำกิจกรรมร่วมกันก่อนเข้าบ้าน จะได้รู้จักกันมากขึ้น อะไรประมาณนี้มั้ง” จริง ๆ ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอก ก็รู้แค่นี้แหละ แหะ ๆ
                    “อ้าวเหรอ ฉันคิดว่าแกสนิทกันหมดแล้วซะอีกนะเนี่ย”
                    “ยังเลย นี่ฉันจำชื่อได้หมดทุกคนก็บุญมากแล้วนะเนี่ย (>_<) เจอกันจริง ๆ จัง ๆ แค่ประมาณสี่ครั้งเอง และก็ยังไม่ค่อยได้คุยไรกันมากเลยอ่ะ แต่เดี๋ยวก็คงสนิทกันไปเองแหละมั้ง” จริง ๆ ฉันก็แอบกลัวว่าจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้เหมือนกันนะ (>0<)
                    “อืม...นี่แก และในนั้นอ่ะ ผู้ชายหล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย แกไม่แอบปิ๊งใครบ้างเลยเหรอ (^0^)” มันถามฉันด้วยสายตาอยากรู้เป็นที่สุด (-_-;)
                    “จะบ้าเหรอแก ไม่มีหรอก (>_<)”
                    “จริงดิแก ถ้าเป็นฉันนะ ฉันคงมีความสุขมากเลย ได้อยู่บ้านเดียวกับผู้ชายหล่อ ๆ โอ๊ย คิดแล้วเขิน อิอิ (>o^) แต่ในผู้ชายทั้งสี่คนนะ ฉันว่าทีหล่อสุดเลยอ่ะ (^_^) คนอะไรจะน่ารักขนาดนี้...ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้ทีหลุดมือฉันไปเด็ดขาด !!” มันพูดด้วยอารมณ์เพ้อฝันเป็นที่สุด
                    “นี่แกจะบ้าเหรอ นี่มันรายการร้องเพลงนะยะ ไม่ใช่รายการหาคู่...ฉันไปร้องเพลงนะ ไม่ได้ไปร้องหาสามี (-_-*)” อืม...แต่จริง ๆ จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ มีแต่คนหน้าตาดี ๆ เจริญหูเจริญตาดี อิอิ
                    “แกก็พูดเกินไป ก็คิดซะว่าไปตามความฝันแต่ได้แฟนติดไม้ติดมือกลับมาเป็นของแถมไง โฮ่ ๆ ๆ  (^0^) นี่...แต่แกห้ามคิดอะไรกับทีของฉันเด็ดขาดเลยนะยะ แกน่ะมีหน้าที่ทำความสนิทสนมกับทีของฉันและก็พูดถึงเพื่อนคนสวยคนนี้ให้เค้าฟังบ่อย ๆ จนเค้าหลงรักฉัน และเค้าก็จะเริ่มถวิลหาฉัน พอจบรายการแกก็ต้องพาเค้ามาทำความรู้จักกับฉัน และจากนั้นเราสองคนก็จะ...อิอิอิ โอ๊ย เขิน (>0^)”
                    “เฮ้ย แก เป็นไรมากเปล่า ตัวก็ไม่ร้อนหนิ...ประจำเดือนมาปรกติรึเปล่าแก (-_-) อาการขนาดนี้นี่สาหัสแล้วนะเนี่ยแก (>_<)” ฉันพูดพลางเอามือแตะหน้าผากฝน...ฉันไม่เคยเห็นเพื่อนฉันเป็นอะไรขนาดนี้เลยนะเนี่ย (*_*)
                    “บ้าเหรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ก็ทีน่ารักจริง ๆ อ่ะ เหมือนเทพบุตรในฝันเลยอ่ะ”
                    “เอาร้านนี้ละกัน” ฉันพูดตัดบทแล้วลากเพื่อนสาวของฉันเข้าร้านพิซซ่า ขณะที่ดวงตากลม ๆ ของหล่อนกำลังเป็นประกายวับวาว จนน่าขนลุก (>_<)
                   
                    “เดี๋ยวสักครู่จะมารับออเดอร์นะคะ (^_^)” พนักงานวางเมนูลงบนโต๊ะทันทีที่พวกเรานั่งลง
                    “นี่ฝน โทรบอกเฟิร์นกับบิ๊กสิ ว่าเราอยู่ร้านนี้” ฉันพูดขณะที่ฉันกำลังดูรายการอาหารอยู่
                    “...”
                    “ฝน !!”
                    “...”
                    “นี่แก !! ตื่น ๆ ๆ...นี่เพื่อนฉันโดนเล่นของรึเปล่าเนี่ย (>_<)” พอฉันละสายตาจากรายการอาหาร ฉันก็เห็นยัยฝนนั่งยิ้มตาลอยไร้สติอยู่ตรงหน้า (+_+) ฉันจึงเอามือตบ ๆ หน้ามันเบา ๆ ไปสองสามที
                    “แกมาตบฉันทำไมเนี่ย (-_<) และเมื่อกี้แกว่าไงนะ” พอมันได้สติมันก็เอามือลูบแก้มอ้วน ๆ ของมัน
                    “ฉันบอกให้แกโทรไปหาเฟิร์นกับบิ๊ก ว่าเราอยู่ร้านนี้” ฉันพูดเน้นคำสุด ๆ ...อารมณ์เสียเหมือนกันนะเนี่ย เพื่อนตัวเองเข้ารอบแต่ดันไปปลื้มคนอื่นจนออกนอกหน้า เชอะ !! (>_<)
                    “อ่า...และนี่ที่ไหนอ่ะ” มันทำหน้าเหวอ ๆ
                    “โอ๊ย...ยัยบ้า นี่แกไม่รับรู้อะไรเลยเหรอเนี่ย (-_-) ตั้งสติก่อนสิ แล้วลองมองดูรอบ ๆ ” เฮ่อ...เหนื่อยใจ (-_-*) มีเพื่อนไม่สมประกอบ...เอาไว้เดี๋ยวถ้าฉันไปวัดแล้วฉันจะทำบุญเผื่อให้แกละกันนะ (=_=)
                    “อ่อ ๆ โอเค ๆ จะโทรและจ้ะ...แหะ ๆ โทษที ๆ ก็แบบว่า...คนมันกำลังมีความรักอ่ะนะ อ๊าย เขิน (>0^)” ฉันว่าฉันคงไม่ต้องสั่งอาหารแล้วแหละ...เพราะฉันอยากจะอ้วกออกมาเป็นสปาเก็ตตี้ไวท์ครีมซอสซะจริง ๆ เลย (>_<)
     
                    “พวกนั้นบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว ให้สั่งอาหารไปก่อนเลยก็ได้” ฝนพูดหลังจากวางสายจากเฟิร์น
                    “เดี๋ยวค่อยสั่งตอนมากันครบแล้วก็ได้...นี่แก ฉันว่านะ ทีเค้าก็ดีอ่ะนะ แต่เค้าดูแบบ...ยังไงไม่รู้อ่ะ บอกไม่ถูก”
                    “ยังไงล่ะ...ฉันว่าเค้าดูออกจะเพอร์เฟ็คซะขนาดนั้น”
                    “ก็เพราะว่าดูเพอร์เฟ็คไปนะสิ เค้าก็เลยดูเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากอ่ะ...ฉันว่านะ อย่างข้าวปั้นดูน่ารักกว่าเยอะเลย ถึงอาจจะหล่อสู้ทีไม่ได้ แต่ฉันว่าเค้าดูน่าเข้าใกล้กว่าเยอะเลยอ่ะ”
                    “แหนะ !! ชอบเค้าอ่ะดิ (^0^)” ฝนมองฉันด้วยหางตาอย่างมีเลสนัย
                    “จะบ้าเหรอแก ฉันเพิ่งเจอเค้าแค่ไม่กี่ครั้ง แกจะไปให้ฉันชอบเค้าได้ไง...ฉันไม่ใช่แกนะ ที่แค่เห็นรูปนิดหน่อยก็เอามาเพ้อฝันอะไรไปไกลซะขนาดนี้”
                    “งั้นหมายความว่า ถ้ารู้จักกันนานกว่านี้ แกก็จะชอบเค้าอ่ะดิ ใช่มะ ๆ ฮั่นแน่ (^0^)” ตอนนี้ฝนชี้หน้าฉันเหมือนจะให้ฉันยอมรับว่าฉันคิดอะไรกับข้าวปั้นให้ได้ (>0<) ฉันไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ
                    “ไม่ใช่อย่างงั้น ที่ฉันพูดก็แค่จะเปรียบเทียบว่าในความคิดฉัน ฉันว่าข้าวปั้นน่าเข้าหากว่าทีก็แค่นั้นเอง”
                    “แกจะให้ฉันช่วยสร้างข่าวให้แกมั้ย ว่าแกกับข้าวปั้นกิ๊กกั๊กกันในบ้าน แกจะได้ดัง ๆ ไง เอามั้ย ๆ”
                    “จะบ้าเหรอแก (>0<) ไม่เอา !! แกจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่ามายุ่งกับฉัน (+_+) ฉันไม่อยากเป็นข่าวอะไรแบบนี้นะ (-_-*)” นี่ฉันก็เริ่มกลัวแล้วนะเนี่ยว่าถ้าฉันเข้าบ้านไป จะมีข่าวอะไรแบบนี้กับฉันรึเปล่า ฉันไม่อยากเป็นข่าวอะไรประเภทนี้นะ (>_<)
                    “เอ่อ...โทษนะคะ นี่ใช่เนย SF4 รึเปล่าคะ” ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับฉันที่นั่งโต๊ะตรงข้ามลุกขึ้นมาพร้อมเพื่อนอีกสองคนลุกจากที่นั่งและเดินมาถามฉัน
                    “เอ่อ...อ่า...ใช่คะ (^0^)” อยากจะกรี๊ดดัง ๆ ในที่สุดก็มีคนจำฉันได้ (T_T) ซึ้งใจเป็นที่สุด ราวกับได้เป็นสุดยอดนักล่าฝัน (อีกแล้ว)
                    “ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ (^_^)” ผู้หญิงคนนั้นถามฉันอย่างเขินอาย
                    “ได้สิคะ” ฉันก็ตอบอย่างนิ่ง ๆ...หารู้ไม่ ว่าจริง ๆ แล้วฉันอยากจะกรี๊ดออกมาตรงนี้เลย ว่ามีคนรู้จักฉัน (>0^)...จากนั้นแฟนคลับของฉัน (ช่างกล้าเนอะเรา แค่เค้าขอถ่ายรูปด้วยก็เรียกเค้าว่าแฟนคลับ โฮ่ ๆ ๆ ๆ (^0^)) ก็ผลัดกันถ่ายรูปคู่ทั้งสามคน และรูปรวมอีกหนึ่งรูปโดยให้ฝนเพื่อนสาวคนสวยของฉันที่ทำหน้าหมั่นไส้ฉันอยู่เป็นคนถ่ายรูปให้
                    “ขอบคุณมากนะคะ (^_^)” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวขอบคุณฉันและฝนหลังจากรับกล้องคืนมาจากฝน
                    “ไม่เป็นไรค่ะ ^_^ แล้วนี่จำเนยได้ด้วยเหรอคะ นี่ยังไม่ได้เข้าบ้านเลยนะคะเนี่ย” ฉันปั้นหน้าสวยแบ๊วเต็มพิกัด ให้สมกับความเป็นดาราของฉัน อิอิ (^0^)
                    “จำได้ค่ะ เห็นจากรูปวันแถลงข่าวอ่ะค่ะ...แล้วเดี๋ยวจะเอาใจช่วยนะคะ (^_^) ถ้าเข้าบ้านแล้วฝากบอกพี่ไทหน่อยนะคะ ว่าเท่ห์มาก ๆ เลย แล้วเดี๋ยวจะช่วยโหวตให้พี่ไทเต็มที่เลย” เธอพูดก่อนที่จะร่ำลาฉันแล้วกลับไปนั่งที่เดิม...เหอะ ๆ (-_-*) อะไรกันยัยนี่ มาขอถ่ายรูปกับฉัน และบอกว่าจะเป็นกำลังใจให้ แต่กลับบอกว่าชอบพี่ไท จะโหวตให้พี่ไท ให้มันได้อย่างงี้สิ (*_*) นี่ตกลงฉันควรจะดีใจหรือจะเสียใจดีเนี่ย (>_<)
                    “เป็นไง แม่ดารา (^0^) อย่าลืมไปบอกพี่ไทเขาล่ะ อิอิ” ฝนทำหน้าสมน้ำหน้าฉัน
                    “ฉันไม่แคร์หรอก อย่างน้อยเค้าก็มาขอฉันถ่ายรูป” ฉันทำหน้าแป้นแล้นใส่ฝนบ้าง (>_<)
                    “แหม ๆ ไม่แคร์…ฉันรู้หน่าว่าแกก็เสียเซล์ฟเหมือนกัน...เอาเถอะ ๆ เดี๋ยวพอแกเข้าบ้านแล้วเดี๋ยวก็มีคนเชียร์แกเยอะเองแหละ เชื่อฉันสิ (^_^)” ฝนคงรู้ว่าฉันก็คงแอบคิดเหมือนกันว่าทำไมไม่มีใครเชียร์ฉันเลย ฝนก็เลยปลอบใจฉัน...ขอบใจนะเพื่อนรัก (T_T)
                    “สวัสดีจ้ะแม่ดารา” เฟิร์นกับบิ๊กมาถึงพอดี และทักทายฉันด้วยชื่อใหม่ที่ตอนนี้เพื่อน ๆ เรียกฉันอย่างนี้กันทุกคน...ฉันล่ะไม่คุ้นกับชื่อนี้จริง ๆ (>0<)
                    “สวัสดีจ้ะเฟิร์น บิ๊ก...ฉันไม่ใช่ดารงดาราอะไรซักหน่อย ฉันก็คงเป็นได้แค่...ซุป’ตาร์ตัวน้อย ๆ แค่นั้นเองแหละ (^0^)” อยากเรียกกันนัก ก็เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยดีกว่า...ผู้หญิงโต๊ะตรงข้ามที่เมื่อกี้มาขอถ่ายรูปกับฉัน หันมามองฉันทันทีที่ฉันพูดว่าซุป’ตาร์ เหอ ๆ (>_<) อย่าเข้าใจน้องเนยคนสวยผิดนะ น้องเนยล้อเล่นค่า (>0<)
                    “เว่อร์ไม่เปลี่ยนเลยนะแกน่ะ (+_+)” เฟิร์นพูดก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ ฉัน
                    “นี่ยังไม่ได้สั่งอาหารอีกเหรอเนี่ย กะว่ามาถึงจะได้กินเลยนะเนี่ย...มา ๆ รีบ ๆ สั่ง”
                    “แหมไอ้บิ๊ก ห่วงแต่เรื่องกินนะแก”
                    “และนี่ มื้อนี้ใครเลี้ยงอ่ะ...อ่อ แกเลี้ยงใช่มั้ยเนย ดีเลย จะได้สั่งให้เต็มที่ (^0^)” อะไรกันไอ้บิ๊ก พูดเองเออเองเลยนะแก (-_-*)
                    “บ้าเหรอ ทำไมฉันต้องเลี้ยงด้วยล่ะ มาด้วยกันก็ต้องช่วยกันออกสิ (>0<)”
                    “เอาน่า แกกำลังจะดังแล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยแกก็มีตังค์เยอะแยะแล้ว เลี้ยงเพื่อนมื้อนี้หน่อยไม่เป็นไรหรอกหน่า...ใช่มะ ๆ” บิ๊กขอความเห็นจากฝนกับเฟิร์น...ซึ่งยัยเพื่อนตัวดีทั้งสองก็เห็นดีเห็นงามด้วย (-_-*)
                    “...” ไอ้เพื่อนเลว (>0<)
                   
                    บอกได้แค่รัก...มากมาย รักเธอ...มากมาย ไม่มีหน่วยวัดได้หรอกความรักนี้...ที่อยู่ในใจมันมากมาย ตรงอกซ้ายที่ฉันมี ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้...ขณะที่กำลังรออาหารกันอยู่เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น...
                    “อ้าว...ทำไมไม่รับซักทีละเนย” ฝนถามฉัน
                    “...” ฉันได้แต่จ้องหน้าจอมือถือที่ขึ้นชื่อของคนที่โทรเข้ามา ซึ่งเคยเป็นชื่อที่ฉันคุ้นเคยที่สุด แต่วันนี้...มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว...เค้าจะโทรมาอีกทำไมนะ...แล้วตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงดี
                    “เป็นอะไรรึเปล่าเนย ทำไมไม่รับล่ะ” เฟิร์นถามฉันด้วยความสงสัย
                    “...” ฉันตัดสินใจกดรับสายด้วยความลังเล โดยที่ไม่มีคำทักทายใด ๆ ของฉันไปยังปลายสาย
                    “ฮัลโหลเนย” ปลายสายทักทายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล...เสียงที่คุ้นหู...เสียงที่ฉันเคยอยากได้ยินทุก ๆ วัน...เสียงที่เคยทำให้ฉันมีความสุขที่สุด...แต่วันนี้ เสียงนี้กลับเป็นเสียงที่ทำร้ายจิตใจฉันมากที่สุด
                    “...” ฉันยังคงไม่มีคำพูดใดๆตอบกลับปลายสาย
                    “เนย...เนยสบายดีใช่มั้ย”
                    “สบายดี” ฉันพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุดเท่าที่การควบคุมร่างกายของฉันในตอนนี้จะทำได้...ทั้ง ๆ ที่ข้างในมันอัดอั้นจนอยากจะระบายออกมาเป็นน้ำตาเสียเหลือเกิน
                    “เราแค่จะโทรมาแสดงความยินดีน่ะ...ดีใจด้วยนะที่จะได้เป็นนักร้องเหมือนที่ฝันไว้แล้วน่ะ”
                    “อื้ม...ขอบคุณ” ฉันอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ฉันพูดได้แค่นี้จริง ๆ เพราะตอนนี้ข้างในใจของฉันมันกำลังร้องไห้...และมันสามารถทะลักออกมาให้คนอื่นได้เห็นทุกเมื่อ...
                    “แล้ว...ตอนนี้...ตอนนี้เนยมีใครใหม่หรือยังอ่ะ” เสียงจากปลายสายดูเหมือนไม่ค่อยจะมั่นใจนัก
                    “...” ตอนนี้น้ำใส ๆ ในตาของฉันค่อย ๆ ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
                    “เรา...เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย” นี่คงเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เธอโทรมาสินะ...ทำไมนะ ทำไม...ทำไมเธอต้องมาทำแบบนี้ ทำไมตอนที่ฉันขอร้องให้เธออยู่ เธอกลับเดินจากฉันไป ทำไมตอนที่ฉันต้องการให้เธอกลับมา เธอกลับยิ่งผลักไสฉัน...แล้วทำไมวันนี้ เธอต้องมาทำให้ฉันลำบากใจ ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามจะลบเธอออกไปจากใจฉันอยู่...เธอต้องการอะไรกันแน่...
                    “ตอนนี้เนยไม่ว่างคุย แค่นี้ก่อนนะ...” ฉันวางสายไป...ตอนนี้ฉันสับสนไปหมด ขอเวลาฉันตั้งตัวหน่อยนะ...ฉันควรจะทำยังไงดีนะ...ฉันควรจะทำยังไงดี...
                    “เฮ้ยเนย...แกเป็นอะไรอ่ะ” เฟิร์นถามฉันด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้เพื่อน ๆ ทั้งสามกำลังมองฉันด้วยความเป็นห่วงปนตกใจ ที่อยู่ๆฉันก็ร้องไห้ออกมา
                    “ใครโทรมาน่ะ อย่าบอกนะว่าไอ้นัทโทรมา !!” ฝนพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ และกำลังรอคำตอบจากฉันอยู่ ทั้ง ๆ ที่มันก็คงรู้อยู่แล้วว่าคนที่จะทำให้ฉันเป็นแบบนี้ได้คือใคร
                    “อืม” น้ำตายังคงไหลออกมาจากตาของฉันอย่างไม่ขาดสาย...ฉันไม่อยากแสดงความอ่อนแอแบบนี้ให้คนอื่นเห็นเลย...
                    “แล้วมันโทรมาทำไม” ดวงตากลม ๆ ของฝนเบิกกว้างและจ้องมาที่ฉันด้วยความใคร่รู้
                    “นัทขอให้ฉันกลับไปคบกับเค้าเหมือนเดิม (T0T)” ทันทีที่สิ้นประโยค ฉันยิ่งปล่อยโฮออกมาหนักกว่าเดิม จนฉันต้องโผเข้าไปกอดเฟิร์น และเอาหน้าซุกที่ไหล่ของเฟิร์น เพราะไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาของฉัน...ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องทำร้องไห้ในที่แบบนี้ด้วยนะ (T_T)
                    “เฮ้ย...มันพูดแบบนี้ทำไมวะ...มันต้องการอะไร” ฝนเริ่มอารมณ์เสีย ฝนเป็นคนที่รู้เรื่องฉันกับนัทมากที่สุด มันเลยรู้ว่าฉันเสียใจขนาดไหนตอนที่ฉันกับนัทเลิกกัน
                    “...” ฉันก็ยังคงเอาหน้าซุกไหล่ของเฟิร์นอยู่ ซึ่งตอนนี้เสื้อของเฟิร์นเปียกเพราะน้ำตาของฉันไม่หมดแล้ว (>_<) เฟิร์นก็ได้แต่เอามือลูบหัวปลอบฉันด้วยเห็นใจ
                    “ฉันหวังว่าแกคงไม่โง่กลับไปคบกับมันอีกนะ !! แกยังจำได้มั้ยว่าแกต้องเสียใจเพราะมันขนาดไหน” ตอนนี้ฝนของขึ้นสุด ๆ
                    “(T_T)” ฉันก็ยังคงร้องไห้ต่อไป
                    “ตอนที่มันทิ้งแกไปมันทำเหมือนมันกับแกไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเลย...แล้วอยู่ ๆ วันนี้มันก็มาขอแกคืนดี...ฉันว่านะ มันคงเห็นแกกำลังจะดัง มันก็เลยเกิดนึกเสียดายแกขึ้นมา...โธ่เอ๊ยไอ้ผู้ชายเฮงซวย !!” ฝนพูดอย่างใส่อารมณ์เต็มที่
                    “ฮือ ๆ (T0T)” คราวนี้ฉันปล่อยโฮออกมาเต็มที่...จริงสินะ นัทคงนึกเสียดายฉัน...เพราะฉันกำลังจะมีชื่อเสียง ก็เลยดูเหมือนมีค่าขึ้นมา แสดงว่าถ้าฉันเป็นฉันโดยที่ไม่มีอะไรเลย นัทก็ไม่มีทางหันกลับมามองฉันแน่ ๆ ฮือ ๆ (T0T)
                    “เฮ้ยแก...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้แกเสียใจนะ...ฉันขอโทษ (>0<)” ฝนเริ่มอารมณ์เย็นลงเมื่อเห็นฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม
                    “ฉันไม่เป็นไรหรอก...โทษทีนะเฟิร์น ฉันทำเสื้อแกเปียกหมดเลยอ่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมา...หน้าฉันตอนนี้คงตลกน่าดูเลยสิ (>_<) ทำไมฉันจะต้องมาร้องไห้ที่นี่ด้วยเนี่ย น่าอายจริง ๆ เลย
                    “ไม่เป็นไรหรอกเนย (^_^)” เฟิร์นยิ้มให้ฉัน ฉันก็ได้แต่ก้มหน้าแล้วมองนิ้วโป้งของตัวเองที่เขี่ยกันไปมา ราวกับว่ามันคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับฉันในตอนนี้
                    “เนย ฉันพูดจริง ๆ นะ ถึงปากฉันจะไม่ค่อยดี แต่ฉันหวังดีกับแกนะเว่ย...แกอย่ากลับไปคบกับมันเลยนะ...แกคิดดูสิ ตอนนี้แกกำลังจะได้ไปสู่สังคมใหม่ จะมีคนมากมายเข้ามาในชีวิตแก แกยังมีโอกาสได้เจอกับคนดี ๆ อีกมากนะ อย่ามาเอาตัวเองไปจมอยู่กับไอ้คนที่มันเคยทำให้เราเสียใจเลย...” ฝนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยอย่างที่มันไม่เคยพูดกับฉันมาก่อน...ขอบใจนะฝน
                    ฉันกับนัทรู้จักกันตอนม.4 เพราะอยู่ห้องเดียวกัน และเราก็เริ่มสนิทกัน ไม่นานเราก็เป็นแฟนกัน ซึ่งนัทเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของฉัน...นัทเป็นผู้ชายที่เป็นที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน เพราะเค้าทั้งรูปร่างหน้าตาดี การเรียนก็ดี มนุษยสัมพันธ์ก็ดี ก็เลยมีแต่คนอยากเข้าใกล้...ตลอดเวลาที่ฉันคบกับนัท ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชอบมาตามตื้อนัทอยู่บ่อยครั้ง แต่นัทก็ทำให้ฉันมั่นใจในตัวเค้า ว่าเค้าจะไม่ทิ้งฉัน...แต่แล้ววันหนึ่ง...
                    “เนย” นัทเรียกชื่อฉันขึ้นมา ขณะที่เรากำลังเดินจูงมือกันอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
                    “หืม ^_^” ฉันตอบรับ
                    “ตอนนี้นัทมีคนใหม่แล้ว” นัทพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
                    “อะไรนะ...หมายความว่าไง” ฉันหันไปมองหน้านัทด้วยรอยยิ้มที่ฝืน ๆ ด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมว่าสิ่งที่ฉันได้ยินนั้น อาจไม่ได้มีความหมายอย่างที่ฉันคิด
                    “เนย...นัทขอโทษ แต่นัทว่า เราสองคนคงไปด้วยกันไม่ได้อ่ะ...เราเลิกกันเถอะ” เสียงของนัทยังคงราบเรียบ
                    “นัท...แต่เนยรักนัทนะ” ฉันมองตานัทด้วยสายตาที่วิงวอน
                    “มันไม่มีประโยชน์หรอกเนย” แต่สายตาของเขาช่างดูว่างเปล่า...
                    “หึ หึ...” ฉันหัวเราะเบา ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว...และนัทก็เดินจากฉันไป ทิ้งฉันที่ยืนหัวเราะสมเพชตัวเองอยู่ตรงนั้น...จากเสียงหัวเราะก็กลายมาเป็นน้ำตาโดยไม่รู้ตัว...
                    จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็เกือบหนึ่งปีแล้ว ตลอดเวลาฉันพยายามจะไม่พาตัวเองให้จมลงไปกับความทรงจำในอดีต จนมาถึงตอนนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มหักห้ามใจตัวเองได้แล้ว...แต่มาวันนี้ เขากลับมาทำให้ฉันปวดใจ...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×