คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ดอกไม้ บนห้วยกลางภู
ฝนตกลงมาเย็นฉ่ำ บรรยากาศเย็นชื้นทำให้ฉันกระชับผ้าห่มเข้ากับตัว ฉันลืมตาขึ้นมองฝ้าเพดาน ความรู้สึกเหมือนหัวใจมันร้าวอยู่ข้างใน ฉันฝันถึงเขาอีกแล้วหรือ? ทั้งที่เราก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็แล้วแต่ฉันไม่ปล่อยให้น้ำตาของฉันไหลออกมาเพื่อคนๆนี้อีกเป็นอันขาด คนที่ไม่แม้แต่จะรักฉันเลยด้วยซ้ำ
"ปิง" เสียงยายเรียกจากข้างนอก จริงๆแล้ว ความรู้สึกเจ็บๆเล็กๆนั้นต่างหากที่ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้
"ปิงตื่นแล้วจ๊ะยาย"
"วันนี้ยายกับตาจะเข้าเมืองละกัน จะเอาอะไรรึเปล่าล่ะเรา?"
ยายถามฉันขณะที่ฉันกำลังลุกขึ้นพับผ้าห่มเก็บไว้ ฉันพับมุ้งขึ้นพาดไว้ข้างบนให้เรียบร้อยก่อนจะหันมาตอบยาย
"ไม่ล่ะยาย อยากกินขนมมากกว่า ซื้อของกินมาให้ปิงด้วยนะ"
ฉันยิ้มให้ยาย โดยพยายามให้สดใสมากที่สุด
"โอ๊ยดูซิ ขี้ตาเป็นกระพรวนแบบนั้นยังจะมายิ้มให้คนอื่นอีก รีบไปล้างหน้าล้างตาไป ยายไม่ได้ทำกับข้าวไว้นะ วันนี้ดูแลตัวเองก็แล้วกัน ยายต้องรีบไปทำธุุระ"
ยายของฉันแม้จะดูเป็นชาวสวนธรรมดาๆใช่ว่าแกจะไม่รู้เรื่องของโลกภายนอกเสียเมื่อไหร่ ยายมักจะต้องไปติดต่องานในเมืองบ่อยๆเสมอเพราะคุณตา เคยเป็นผู้ใหญ่บ้านและทุกวันนี้ตาก็มักจะนำความรู้ใหม่ๆเช่นด้าน การ เกษตรไร้สาร ต่างๆมาเผยแพร่ในชุมชนเสมอ ใครๆก็รู้ว่าผักของตากับยายโต สด อร่อย แถมยังไร้สารพิษอีกต่างหาก
หลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้ว รถเก๋งคันเก๋าสีแดงของตาก็ได้หายไปจากที่จอดของมัน ฉันเดินเข้าไปในสวนหา อะไรเล็กน้อยเข้าไปทำกับข้าวสำหรับใส่บาตรและตัวฉันเองในเช้าวันนี้
ฉันเดินเข้าไปในสวน มีทั้งกะหล่ำ ผักกาดเมือง ผักชี ต้นหอม และผักเล็กผักน้อยอีกมากมายที่ฉันไม่รู้จัก ต้นลำใยกำลังออกผลเล็กๆ อยู่เต็มต้น อีกไม่นานคงได้กินอีกแน่นอน
ฉันเก็บไข่จากในเล้าแม่ไก่ที่ตอนนี้ส่งเสียงร้องกระต๊ากก้องหมู่บ้าน เพราะฉันคงไปขโมยลูกรักของมันมาแบบนี้ ขอโทษนะแม่ไก่ อโหสิกรรมให้ปิงด้วยแล้วกัน
ไข่ต้มสองฟอง กับผัดกะหล่ำปลี ใส่บาตรตอนเช้า ฉันต้องอาศัยไปซื้อข้าวเหนียวที่ตลาดมาใส่บาตรและใส่ท้องฉันเองด้วยเหตุที่ว่าฉันนึ่งข้าวเหนียวไม่เป็น เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จฉันเก็บไข่ต้มและผัดกะหล่ำปลีใส่ปิ่นโต และเก็บกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า เตรียมหิ้วของออกจากบ้านก่อนแดดจะออก
วันนี้ฉันกะว่าจะเดินเข้าไปที่ห้วยกลางภู เป็นแหล่งน้ำของหมู่บ้านที่กักเก็บน้ำไว้เพื่อใช้ในการเกษตรลุ่มดอย ฝนตกชุ่มฉ่ำทำให้ต้นไม้ดอกไม้ ใบหญ้าเขียวชะอุ่มไปหมด จนอดไม่ได้ทีจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ ดอกไม้สีขาวเล็กๆขึ้นสลับกับหญ้าสีเขียวอ่อน เต็มดอย เป็นภาพที่ฉันไม่คิดว่าจะเห็นได้ ในป่าหลังหมู่บ้านของฉันเอง
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงข้อความมือถือเข้ามา จนฉันต้องวางมือจากกล้องถ่ายรูป ฉันมองดูชื่อคนทีส่งข้อความาให้แล้วต้องนิ่งไปสักพักหนึ่ง
"พี่เต้"
ฉันนิ่งไป โดยสับสนว่าจะเปิดมันอ่านหรือลบมันทิ้่งไปเหมือนไม่เคยได้เห็นมันจะดีหรือเปล่า
แต่สุดท้าย ความอยากรู้มันก็ทำให้ฉันเปิดข้อความนั้นอ่านอยู่ดี
'คนอย่างฉัน ไม่ดี อย่างใคร ใคร หลงทางมาไกลจนน่ากลัว ทางเดินวันนี้ไม่มีสิทธิ์ กลับตัว อย่าฝากชีวิตดีๆไว้ที่ฉัน อย่าเอาความฝันของเธอมาเสี่ยงรู้ไม๊ เก็บเอาชีวิตของเธอแล้วเดินไปให้ไกล ไม่อยากทำร้ายคนดีอย่างเธอ'
ฉันต้องจ้องมองมันสักพักหนึ่ง อ่านมันซ้ำไปซ้ำมาหลายๆรอบ ฉันรู้ดีกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นคนที่สำคัญเลยแม้แต่น้อย สักวันหนึ่ง เค้าคงต้องไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเสียเวลากับคนที่ไม่มีค่าอย่างฉัน
ฉันเก็บมือถือลงไปในกระเป๋า บรรยายไม่ถูกว่ามันรู้สึกอย่างไร เหมือนกับต้องเจอกับ เดจาวู คือเหตุการณ์ที่เรารู้สึกว่ามันเกิดขึ้นซ้ำ เกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นเพราะว่า ฉันรู้ดีมาตลอด ว่าวันนี้ต้องมาถึงแน่ๆ
ขอบคุณนะที่เคยพยายามทำเหมือนว่ารักและใส่ใจ ความคิดถึงมันเลื่อนเข้ามาเกาะกุมในหัวใจเต็มไปหมด
น้ำตาที่ไม่คิดว่าจะไหลมันก็ต้องออกมาอาบใบหน้าอีกครั้ง มันเป็นแค่ความเหงา ความคิดถึงเท่านั้นไม่ใช่ความเสียใจ ฉันเฝ้าบอกตัวเองเสมอว่ามันเป็นเช่นนั้นแม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำไปว่ามันคืออะไร ฉันเฝ้าบอกตัวเองเสมอว่าฉันไมได้รักเขาเลยแม้แต่น้อยมันเป็นเพียงแค่อารมณ์ที่อ่อนไหวแค่นั้น
ฉันเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆโดยที่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกดถ่ายอะไรไปบ้าง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ที่เขาบอกให้ฉันเดินไปให้ไกลจากชีวิตเขา ไม่ว่ามันจะเป็นความจริงหรือไม่ แต่สุดท้ายสิ่งที่ฉันต้องทำคือเดินออกมาจากชีวิตของเขาอยู่ดี
ห้วยกลางภู เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำ ฉันเดินเข้าไปนั่งบนศาลาเล็กๆที่ถูกสร้างให้อยู่กลางห้วย ฉันมองไปรอบๆอย่างล่องลอย มันไม่ได้เจ็บจนเจียนตาย แต่มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยแม้แต่น้อย
"ไอ้ปิง" เสียงใครคนหนึ่งดังมาจากข้างหลัง ฉันรีบหันไปมอง ก็ต้องพบกับผู้ชายคนหนึ่งยืนใส่เสื้อยืดกางเกงยีนต์ ผมเผ้ากระเซิง อยู่ด้านหลัง
"อ้าว พี่ป๊อบ"
พี่ป๊อบรุ่นพี่ที่แก่กว่าฉันถึงสองปี เราเล่นด้วยกันแต่เด็ก ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอกันแบบนี้ เพราะพี่ป๊อบไปเรียนต่อที่เชียงใหม่กว่าสองปีแล้ว
"นึกว่าจะได้ไปเจอกันที่ เชียงใหม่ซะอีกไม่นึกว่าจะได้มาเจอที่นี่"
พี่ป๊อบพูดพลางยิ้มระรื่น
"พี่ป๊อบรู้ได้ไงว่าปิงติดที่เชียงใหม่?"
"โอ๊ย เขาลือกันให้ว่อน ลูกสาวตาสอนนี่เนอะ หมู่บ้านเราจะมีคนเรียนเก่งซักกี่คน"
"แหม จะบอกว่าตัวเองเรียนเก่งว่างั้นเถอะ"
ความจริงมันไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไรมากมายที่จะได้ไปเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ ถึงแม้ฉันจะเป็นเติดในโครงการพิเศษก็เหอะ ....แค่นั้นเอ๊งงงงงงงงงงงง
"โอ้ ใครจะขี้ โอ่เท่าเธอกันล่ะ"
"อะไรกันพี่ป๊อบ ปิงไม่ได้ไปป่าวประกาศซะหน่อย"
"แต่มาอวดยาย กับป้าว่างั้น?"
"เค้าเรียก เอาใจต่างหาก 5555 กินข้าวรึยัง กินด้วยกันไหม ปิงมาถ่ายรูป ห่อข้าวมาด้วย"
"พี่ก็มาวาดภาพเหมือนกัน ห่อข้าวมาด้วย 555อะไรวะ จะมานัดกันอารมณ์ สุนทรีอะไรกันวันนี้555"
เห้อออ มาเจอกันแบบนี้ อย่างน้อยก็ได้มีเพื่อนล่ะวะ.....
ความคิดเห็น