ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : การกลับมาของชาร์เตอร์
ฉันออกจากโรงพยาบาลมาได้ประมาณสองวัน พรุ่งนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์พอดี เฮ้อ...แล้วฉันจะซื้ออะไรให้หมอนั่นดีล่ะเนี่ย-_-
“เฮีย จะออกไปไหนอ่ะ” ฉันถามขึ้นเมื่อเห็นเฮียบัสกำลังจะเดินออกจากบ้าน
“ไปร้านเพชรน่ะสิ ว่าจะไปหยิบสร้อยซักเส้นสองเส้นไปแจกสาวๆวันวาเลนไทน์” เฮียมันตอบแบบไม่กลัวบ้านตัวเองจะกินแกลบเลย
ก็แหม...ไอ้สร้อยที่ว่านี้มันไม่ได้ราคาห้าร้อยบาทนะคระ-_-^
“งั้นเค้าไปด้วย ว่าจะหยิบไปให้ชีต้าร์เช่นกัน”
เอ่อ...ก็เราสองคนเป็นพี่น้องกันนี่นา-_-;;
สแหยม พาราก๊อตซิล่าฟู่ฟู่ (อีกแล้วครับท่าน)
พอมาถึงที่ห้างฉันก็เข้าไปกอดหม่าม้าที่ยืนดูเพชรมาใหม่อยู่อย่างประจบประแจง หุหุหุ เผื่อจะได้เป็นของกำนัลกลับบ้านซักเส้นสองเส้นนี่คะ>O<
“ว่าไงลูก หายดีแล้วใช่มั๊ย”
“แน่นอนค่ะม้า ตอนเนี๊ย บิสวิ่งปรื๋อได้สบายๆอยู่แล้ว^^”
“แต่ถ้าไม่ได้ชีต้าร์ป๊าคงหัวใจวายนะลูก” ป๊าฉันที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมที่บริษัทใหญ่ในฝรั่งเศสเอ่ยขึ้น
“แฮ่ แฮ่ ก็แฟนหนูเก่งไงคะป๊า”
“จ้า~”
แล้วเราสามคนพ่อแม่ลูกก็หัวเราะให้แก่กัน ส่วนไอ้เฮียน่ะเหรอ....
“ม้าครับ บัสขอเอาไปให้น้องกิ๊ฟท์กับน้องแนนคนละเส้นนะครับ”
“นี่บัสเตอร์ของม้ายังไม่มีตัวจริงแบบน้องอีกเหรอลูก”
“โห่...ม้าก็รู้นี่ครับว่าบัสเตอร์ผู้นี้รักอิสระ และไม่ชอบการผูกมัดใดๆ”
“เฮ้อ....แต่อย่าลืมที่ตกลงกับป๊าไว้ก็แล้วกันนะไอ้ลูกชาย” ป๊าหันไปบอกเฮียบัสยิ้มๆ
“ไม่ลืมครับป๊า ยืดอกพกถุง ฮ่าฮ่าฮ่า”
แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เราสี่คนทั้งครอบครัวได้หัวเราะพร้อมกันอย่างมีความสุข^-^
(โดนัท Talk)
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่มุมตรงข้ามของร้านเพชร B&B
“ดวงแข็งนักนะแกที่ยังรอดมาได้” ฉันยืนมองยัยบิสที่พูดคุยและหัวเราะอยู่กับครอบครัวอย่างสนุกสนาน ทั้งๆที่เมื่อหลายวันก่อนฉันอุตส่าห์วางแผนไว้กับยัยแซนดร้าไว้ซะอย่างดิบดี แต่ก็ยังพลาดท่าซะได้ ยัยนี่มันดวงแข็งจริงๆ ที่สำคัญตอนนี้ยัยแซนดร้าที่เป็นแนวร่วมของฉันก็ยังจะถูกฝากขังอีกต่างหาก ทำไมอะไรๆถึงได้กลับตาลปัตรไปเป็นแบบนี้ได้นะ
อยากจะรู้จังว่าชาติก่อนฉันไปสร้างเวรสร้างกรรมอะไรไว้นักหนา (ไม่ต้องพูดถึงชาติก่อนหรอกย่ะ ชาตินี้แกก็บาปหนามากมายแล้ว) จะมีความรักทั้งทีก็ดันมีมารมาขัดขวาง แถมมารนั้นยังมาเป็นอดีตเพื่อนรักของตัวเองอีก แผนคราวนี้ฉันคงจะทำพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“เห็นทีฉันคงจะต้องลงมือเองซะแล้ว” ฉันพูดกับตัวเองพร้อมกับเดินเข้าไปในร้าน B&B เมื่อเห็นป๊ากับม้าของยัยบิสเดินออกไปแล้ว
“อ้าวโดนัท มาหายัยบิสเหรอ” บัสเตอร์ถามขณะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปที่หลังร้าน
“ค่ะ บิสอยู่รึเปล่าคะ” กระดากปากจังที่ต้องพูดคะขากะไอ้บ้านี้
“หลังร้านเลยจ้ะ กำลังคุยหวานแหวนอยู่กับไอ้ชีต้าร์นั่นแหละ”
ชีต้าร์ตามมาเฝ้าถึงที่ร้านเลยเหรอเนี่ย=_=+++
“เดี๋ยวบัสคงต้องเฝ้าร้านให้ป๊ากับม้าแทนพนักงานแป๊บนึง พอดีเค้าไปเข้าห้องน้ำน่ะ”
รู้สึกว่าฉันจะไม่ได้ถามแกเลยนะยะ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะ เหยื่อของฉันที่แท้จริงน่ะ มันนั่งจี๋จ๋ากับชีต้าร์อยู่ตรงนั้น
“จะบ้าเหรอ เมื่อวานนายยังลวนลามฉันยังไม่พออีกรึไงเนี่ย”
เสียงของยัยบิสลอดออกมานอกประตูที่ฉันยืนอยู่ เจ็บใจชะมัดเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ฉันต้องเคาะประตูก่อนเพื่อความปลอดภัย ว่าถ้าเข้าไปแล้วจะไม่เจ็บใจอีกครั้งเมื่อต้องเห็นภาพของยัยเพื่อนเลวกับชีต้าร์สวีทกัน
“ชีต้าร์ปล่อยนะ”
เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วขอบตาฉันก็ต้องร้อนผ่าวทันที ความแค้นที่มีอยู่แล้วค่อยๆสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพตรงหน้าฉันก็คือบิสกิตนั่งอยู่บนตักของชีต้าร์
“ฉันคงไม่ได้มาขัดจังหวะพวกเธอสองคนหรอกนะ”
“เปล่าซักหน่อย ฉันสองคนไม่ได้ทำอะไรกันนี่จะขัดจังหวะได้ยังไง จริงมั๊ยชีต้าร์”
“ไม่จริงเลยครับคุณโดนัท คุณเข้ามาขัดจังหวะของผมกับบิสเต็มๆ เมื่อกี้เรากำลังจูบกันอยู่พอดี” (นายนี่มันไร้ซึ่งความอายใดใดเลยนะชีต้าร์: บิสกิต)
“งั้นฉันก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน” พูดจบฉันก็วิ่งออกมาจากห้องนั้นทันที โอ๊ย!!! ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บข้างในหัวใจแบบนี้นะ ทำไมต้องไปรักคนที่เค้าไม่ได้รักเราด้วย
แต่ถ้าฉันทำให้สองคนนั้นเลิกกันได้ คนแรกที่ชีต้าร์จะนึกถึงต้องเป็นฉันอย่างแน่นอนเลย (มั่นใจในตัวเองสูงเนอะ) คอยดูนะบิสกิต คอยดู ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชีต้าร์กลับมาหาฉัน คอยดู
“ฮึก....ฮือ...บิสกิต...ฉันเกลียดแก๊!!!!!!!”
ฉันกับชีต้าร์มองดูนัทพรวดพราดออกไปอย่างงงๆ มันเป็นอะไรของมันวะเนี่ย มาพูดอยู่แค่ไม่กี่คำก็เดินเร็วๆออกไปซะและ
ค่อนข้างงงอย่างแรงกล้าเลย-_-?
“เฮ้ย!! โดนัทมันเป็นอะไรวะ” ไอ้เฮียเดินมาถามแบบงงๆ
ไม่ต้องถามหรอกเพราะเค้าก็งงพอๆกันกับเฮียนั่นแหละนะ
“ไม่ต้องมาถามหรอก เพราะเค้าก็ไม่รู้” ฉันตอบกลับไปแบบเนือยๆ ผิดกับชีต้าร์ที่ไม่ยอมละใบหน้าไปไหนเลย เดี๋ยวก็หอมตรงโน้น ดมตรงนี้ฉันอยู่นั่นแหละ (หมายถึงบนใบหน้านะคะ อย่าคิดลึก)
“แหม...แกสองคนนี่ก็ไม่ยอมแยกออกจากกันเลยเนอะ” พูดจบแล้วไอ้เฮียก็เดินออกไป
“อิจฉาอ่ะเด่ะ” ชีต้าร์พึมพำเบาๆ-_-//
“ชีต้าร์ พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์แล้วน้า”
“เธอจะให้อะไรฉัน”
เป็นฉันไม่ใช่เหรอที่จะต้องพูดประโยคนี้เนี่ย ตูเริ่มเครียด=_=;;
“ฉันตะหากเล่าที่ต้องถามนายว่าจะให้อะไรฉันน่ะ-_-”
“ได้ไงเล่า เธอก็มีเพชรอยู่ทั้งร้านแล้วนี่ไง ยังจะอยากได้อะไรอีก”
“ไม่เอาอ่ะ ก็ฉันอยากได้ของจากนายนี่นา”
“โห...ฉันไม่เคยซื้ออะไรให้เธอให้เลยเนอะ” ชีต้าร์ตอบแบบประชดประชัน
อะโด่เอ๊ย!ทำเป็นงอน แต่อันที่จริงเค้าก็ให้ฉันเยอะเหมือนกันแหละ ก็แบบเวลาไปเที่ยวกันทุกอย่างชีต้าร์จะเป็นคนจ่ายหมด ตอนช๊อปปิ้งฉันอยากได้อะไรเค้าก็ซื้อให้ พาไปเลี้ยงข้าวในอาหารราคาแพงลิบลิ่วก็เคยมาแล้ว ขนาดเหมาร้านสเวนเซ่นให้ฉันทั้งร้านชีต้าร์ยังเคยทำเลยอ่ะ แต่ว่านี่มันเป็นโอกาสพิเศษทั้งทีนี่นา เค้าก็น่าจะให้ความสำคัญกับฉันบ้างดิ
“=_=+” <<<< อยู่ในโหมดงอนค่ะ
“ฟู่~ ล้อเล่นหน่อยเดียวเองน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ทุ่มตรงเจอกันที่ผับเรดดราก้อนก็แล้วกัน”
“แค่ไปผับเองเหรอ ไม่มีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นเลยรึไง” แต่ก็ยังพอให้อภัยนะ อย่างน้อยฉันก็อิ่มท้องล่ะวะ
“หรือว่าธอจะให้ฉันพาขึ้นห้องสวีทชั้นบนต่อดีล่ะ”
“ชีต้าร์...-_-+++”
“เอาน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เองแหละ แต่งตัวให้สวยๆล่ะ แล้วก็อย่าลืมช่วยเปลี่ยนปิศาจให้เป็นเจ้าหญิงหนึ่งวันด้วย”
เดี๋ยวเหอะนะ ชีต้าร์! =_=+++
ลัน ลัน ล้า~~~ และแล้ววันวาเลนไทน์นี้ก็มาถึงไวปานโกหก บอกแล้วไงว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปีก้า อ้า อ้า อ้า อ้า
ตอนนี้ฉันกำลังยืนเลือกชุดอยู่ที่บ้าน อยากจะบอกว่าเลือกมาตั้งแต่บ่ายสอง กว่าจะได้ชุดที่ถูกใจก็ปาเข้าไปบ่ายสี่-_-;; เฮ้อ...เครียดจัง เกิดมาเป็นคนสวยนี่ลำบากเนอะ กว่าจะเลือกชุดที่เหมาะกับความสวยของตัวเองได้ก็หมดเวลาไปตั้งสองชั่วโมง>_<
และชุดที่ฉันกำลังสวมอยู่นี่ก็เป็นราตรีเดรสสั้น เป็นเกาะอกสีชมพูประดับมุกและคริสตัลอย่างสวยงาม ที่ลำคอใส่สายสร้อยทองคำขาวมีจี้อันเล็กรูปปลาโลมาคู่ (แพงสุดๆ) ที่ชีต้าร์ซื้อให้ตอนวันที่คบกันครบหนึ่งเดือน^^
ฉันปล่อยผมให้ยาวสยายถึงกลางหลังโดยดัดให้เป็นลอนใหญ่ๆตรงปลาย ส่วนการแต่งหน้านี่ก็แต่งโทนสีชมพูเข้มเล็กน้อย เพื่อเวลากระทบกับแสงไฟจะได้ดูสวย อีกอย่างเมื่อคืนฉันอดนอนด้วย ทำให้ต้องแต่งหน้าปิดรอยคล้ำใต้ตามากมายเลย=_=
“เรียบร้อยแล้ว” ฉันบอกกับตัวเองพลางสำรวจดูความเรียบร้อยในกระจกอีกครั้ง ก่อนที่จะออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมหยิบกล่องของขวัญมาให้ชีต้าร์ด้วย
หึหึหึ เพราะไอ้ของขวัญนี้แหละที่ฉันถ่างตาทำ 7 ชั่วโมงเต็มๆเลย
ฮ้าว.....ง่วง-O-
“โอ้โหคุณหนู สวยจังเลยค่ะ” นมอรเดินเข้ามาทักทายฉันเมื่อฉันเดินลงบันไดมา
“ขอบคุณค่ะ นม”
“เฮ้ย!!! อะไรดลใจให้แกเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้วะเนี่ย”
“นี่เฮียกลังจะบอกว่าเค้าสวยอย่างงั้นเหรอ *O*” ตาเป็นประกายวิ้งๆเลยครับท่าน ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาสิบเจ็ดปี ไอ้เฮียมันไม่เคยชมว่าฉันสวยเลยซักครั้งเดียว แต่วันนี้มันกำลังจะชมแล้ว
“เปล่า แกก็แค่ดูเป็นคนขึ้นมานิดเดียวเอง อ้อ! รออยู่นี่ก่อนนะ อีกครึ่งชั่วโมงจะมารับ” พูดจบมันก็เดินหน้ามึนออกจากบ้านไปในทันที
ฮึ่ย!!! แกกำลังทำให้ฉันเสียความมั่นใจนะยะ ไอ้เฮีย=[]=!!!
“วันนี้อาจจะกลับดึกหน่อยนะคะนม”
“ค่า ยังไงก็อย่าลืมที่นมพร่ำสอนคุณหนูนะคะ”
“เกิดเป็นหญิงต้องอย่าชิงสุกก่อนห่าม ไม่ลืมแน่นอนค่ะ” ฉันพูดทวนคำสอนของนมอย่างอนาถใจ
เฮ้อ
นมขาบิสคงใกล้จะสุกแล้วล่ะค่ะเพราะถูกชีต้าร์มันแทะเล็มอยู่ในทุกๆวันเลย-_-;;
เนื่องจากวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ผมเลยปิดบริการผับหนึ่งวัน และได้สั่งให้บริษัทรับจัดตกแต่งสถานที่ มาตกแต่งผับเรดฯใหม่ทั้งหมดด้วย โดยให้มีแต่ลูกโป่งสีขาวและดอกกุหลาบหลากสีที่ส่งตรงมาจากเชียงใหม่ทั้งหมดหนึ่งพันดอกประดับประดาไว้อย่างสวยงามทั่วบริเวณชั้นที่หนึ่งของผับ ผมรับรองเลยบิสกิตต้องชอบแน่ๆ
“นั่นแหละ ตั้งเปียโนไว้กลางเวทีเลย” ผมหันไปสั่งให้บัส ที่เพิ่งเอาเปียโนมา ให้ตั้งไว้ที่กลางเวที ก็วันนี้ผมจะทำเซอร์ไพรส์บิสกิตนี่ครับ^^
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดสูททักซิโด้สีดำโดยมีเนตไทต์ชมพูเพื่อให้เข้ากับวันแห่งความรัก (หารู้ไม่ว่ามันเข้ากับชุดของบิสกิตด้วย) สงสัยวันนี้ต้องสั่งให้ลดอุณหภูมิแอร์ในผับซะแล้ว ใส่ชุดนี้แล้วร้อนเป็นบ้าเลย
“เฮ้ยไอ้ชี เสร็จยังวะ” เสียงไอ้บัสนี่หว่า
“เออๆ เสร็จแล้วๆ มีอะไร”
“เมิงจำไอ้ชาร์เตอร์ได้รึเปล่า”
พอเจอกับถามนี้เข้าไป ภายในสมองของผมก็สั่งการให้ประมวลภาพที่เกี่ยวกับบุคคลที่ชื่อชาร์เตอร์ทันที ไอ้ชาร์เตอร์มันเป็นลูกครึ่งไทย-อาหรับครับ เป็นลูกชายกับภรรยาใหม่ของพ่อผมเอง มันอายุอ่อนกว่าผมเพียงปีเดียว แล้วก็เป็นศัตรูกับผมมาตลอด เพราะเมื่อก่อนผมจะอยู่กับพ่อที่ประเทศไทย ตัวมันและแม่เลี้ยงก็อยู่ด้วย ส่วนสาเหตุที่พ่อย้ายไปทำธุรกิจที่กรุงอาบูดาบีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็เพราะผมกับมันเกือบจะฆ่ากันตาย
ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็อยู่กับพ่อ แม่เลี้ยงและชาร์เตอร์ ส่วนกับแม่จริงๆนั้น ผมจะได้เจอเพียงเดือนละหนึ่งครั้งหรือไม่ก็ปีละครั้งเลย เนื่องจากพ่อไม่ยอมให้ผมไปอเมริกา ตอนประมาณผมเริ่มเรียนหนังสือก็ต้องเรียนแข่งกันกับชาร์เตอร์มาตลอด ตอนนั้นผมรู้อย่างเดียวว่าต้องทำทุกอย่างให้เหนือกว่ามัน แล้วผมก็เหนือกว่ามันจริงๆ เรามีเรื่องต่อยตีกันบ่อยครั้งด้วยสาเหตุที่ว่ามันไม่ชอบหน้าผม แต่ก็ใช่ว่าผมจะชอบหน้ามันนี่ครับ ก็เลยทำให้เราฟัดกันนัวเนีย สำหรับเรื่องของการต่อสู้ชาร์เตอร์มีความสามารถพอๆกันกับผมเลย ทำให้ตอนประมาณผมอยู่เกรดเก้า แม่โทรมาบอกว่าจะให้ผมเรียนต่อไฮสคูลที่อเมริกา ผมดีใจมาก เฝ้ารอให้เรียนจบเกรดเก้า เพื่อที่แม่จะได้ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ไวๆจนกระทั่งวันที่แม่ส่งตั๋วเครื่องบินมา ผมรีบกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษ เพื่อไปรอรับตั๋วเครื่องบินที่จะส่งมาที่บ้าน แต่ผลเป็นยังไงรู้มั๊ยครับ พอผมกลับมาถึงปุ๊บ ไอ้ชาร์เตอร์ก็เดินถือตั๋วเครื่องบินมายั่วโมโหผม ผมขอมันดีๆก็แล้ว ขอด้วยคำหยาบก็แล้ว แต่มันก็ไม่ยอมคืน กลับฉีกตั๋วเครื่องบินผมทิ้งอีกต่างหาก ยอมรับเลยว่าสติผมขาดผึง ผมโมโหสุดขีดเลยเข้าไปซัดหน้ามันเต็มแรง จากนั้นเราก็สู้กันโดยที่ผมเกือบต่อยมันตาย โชคดีที่พ่อเข้ามาเห็นก่อนเลยแยกเราออกจากกัน แต่ด้วยความที่พ่อผมเป็นคนยุติธรรมครับไม่เข้าข้างใคร ผมเลยประกาศไปว่าถ้าพ่ออยากให้มันมีชีวิตอยู่ก็อย่าให้ผมเห็นหน้ามันอีก จากนั้นไม่นานพ่อและแม่เลี้ยงจึงได้พาชาร์เตอร์ย้ายไปอยู่ที่กรุงอาบูดาบีแทน ช่วงนั้นความรู้สึกที่ผมมีต่อชาร์เตอร์ก็คือความแค้นที่มันทำให้ผมไม่ได้ไปอยู่กับแม่ ส่วนมันก็คงแค้นผมเช่นเดียวกันที่ชนะมันมาตลอด
และเรื่องราวของไอ้ชาร์เตอร์นั้น คนที่รู้ก็มีแต่พ่อผม แม่เลี้ยง ไอ้บัส ไอ้โดนัทแล้วก็แม่ที่อเมริกาเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ ผมก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังอีกเลยแม้แต่ยัยตัวแสบก็ตาม
“เมิงจะเอายังไง” ไอ้บัสถามเสียงเครียด
“ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน”
“กูไม่รู้ แค่คาดว่ามันน่าจะมาป่วนเมิงที่นี่ ในคืนนี้”
ผมกระวนกระวายทันทีที่ได้ฟังข้อสันนิฐานของไอ้บัส ถ้ามันมาป่วนที่ผับ ผมจะทำยังไงดี ค่ำคืนนี้มันเป็นที่พิเศษสำหรับบิสกิต ผมยังไม่อยากฆ่าใคร-_-^
“เมิงไปรับบิสเถอะ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง” ผมหันไปบอกไอ้บัสก่อนที่จะเดินลงมาชั้นล่างสุดของผับ และกำชับลูกน้องในเรดดราก้อนทุกคน
“วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดสำหรับกูวันหนึ่ง แต่แมร่งอาจจะมีมารมาขัดขวาง ก็เลยอยากขอให้พวกเมิงช่วยคุ้มกันหน่อย”
“ใครครับพี่=[]=!!” ไอ้เติ้ล หนึ่งในเรดดราก้อนถามขึ้น
“มันชื่อ ชาร์เตอร์ เป็นศัตรูคนสำคัญของกรูเอง-_-++”
“คนเดียวเองเหรอครับ มันก็...ไม่น่าจะมีปัญหานะ” ไอ้อาร์ม
“นั่นน่ะสิครับ แค่คนๆเดียว เดี๋ยวเจอตีนไปหลายๆตีนแมร่งก็หมอบแล้ว^^” ไอ้อาร์ต
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ เพราะกูไม่รู้ว่ามันจะเอาพวกมาด้วยรึเปล่า งานนี้หนักกว่าพวกช่างกล พวกเทคนิคเทคโนฯ อยู่หลายเท่า”
“พวกมันก็แรงพอๆกับแบล็คฮิลรึเปล่าครับ” รุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แล้วถาม
“อันนี้กูยังไม่แน่ใจ มันอาจจะหนักหรือเบากว่าก็ได้ ที่สำคัญ พวกเมิงอย่าประมาท”
“ครับ-[]-” เรดดราก้อนทั้งหมดตอบรับพร้อมกัน
“ไอ้เติ้ล เดี๋ยวเมิงกระจายคนไปให้ทั่วผับด้านนอกเลยนะ ตรวจดูทุกคนที่เข้ามาใกล้ในระยะสิบเมตร”
“ได้ครับ”
“ส่วนไอ้อาร์ต เมิงเอาคนไปซักห้าหกคนเฝ้าประตูด้านหน้าไว้ ถ้ามีใครเข้าก็ให้มันแหกตาดูป้ายซะ ว่าผับปิดหนึ่งวัน”
“ครับพี่”
โชคดีที่ผับผมมีประตูทางเข้าออกเพียงด้านเดียวคือด้านหน้า เลยไม่ต้องเปลืองคนมามันมากมายเวลามีเหตุการ์อะไรแบบนี้ และเมื่อผมสั่งงานเสร็จ ก็เดินเข้ามาดูความเรียบร้อยในผับทันที
หลอมละลายสลายหายไปหัวใจที่เคยเข้มแข็งมานาน~
“ฮัลโหล-_-”
(ทำไมเสียงนาย ดูเครียดจังอ่ะ)
ยัยตัวแสบนั่นเองที่โทรมา^^
“เปล่า แล้วนี่อยู่ในแล้วเนี่ย”
(อยู่หน้าผับแล้วย่ะ กำลังจะเดินเข้าไปอยู่ ทำไมคนคุ้มกันมันถึงได้แน่นหนาขนาดนี้เนี่ย)
“ไม่มีอะไรหรอก งั้นแค่นี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวเดินไปหา”
ผมบอกพร้อมกับกดวางสาย เฮ้อ...ขอให้ค่ำคืนนี้ของผมและเธออย่าได้มีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นเลยครับพระเจ้า
และเมื่อผมเดินมาเห็นบิสกิต ความเครียดและความกังวลทั้งหลายแหล่ก็ถูก Delete ออกจากสมองผมทันที
โห....ปีศาจเปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงได้จริงๆด้วย -.,-
“จ้องอะไรนักหนาเล่า” ยัยตัวแสบของผมเอ่ยออกมาเบาๆ ขณะที่ใบหน้าเธอแดงแปร๊ด
เมื่อมาถึงไอ้ผับแดงนี่ปุ๊บ ฉันก็ต้องตกใจอย่างแรง เพราะ มีพวกเรดดราก้อนเดินวนเวียนอยู่รอบๆผับเต็มไปหมด แถมตรงทางเข้านะ มีนั่งอยู่ตั้งประมาณหกเจ็ดคน ไม่รู้ว่าจะมาคุ้มกันอะไรนักหนา
และพอเข้ามาถึงด้านในของผับ ชีต้าร์ก็ยังจะจ้องฉันซะอย่างกับอยากให้ทะลุเป็นรูพรุนซะอีกแน่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าฉันจะไปว่าเค้าทำไม เพราะตัวเองก็จ้องชีต้าร์ซะตาแทบหลุดออกจากนอกเบ้าเหมือนกัน ไม่อยากจะบอกเลยว่าวันนี้สุดที่รักของฉันจะกลายร่างจากซาตานมาเป็นเทพบุตรได้อย่างแนบเนียน =.,=
“จ้องอะไรนักหนาเล่า”
“ว่าแต่ฉัน เธอก็จ้องฉันเหมือนกันนั่นแหละ” ชีต้าร์ได้ทีเลยสวนคืน
“เดี๋ยวเถอะๆ ย้อนฉันเหรอยะ” พูดจบฉันก็เดินเข้ามาในผับทันที
ว้าวๆๆๆ *O* วันนี้ตกแต่งได้สวยชะมัด ชีต้าร์รู้ได้ยังไงนะว่าฉันชอบลูกโป่งสีขาว (มันมั่วเอาตะหากล่ะยัยบิส) แถมยังมีดอกกุหลาบดอกเบ้งๆหลากหลายสีสันเต็มไปหมด ฉันเลยอดใจไม่ไหว วิ่งเล่นกับฝูงลูกโป่งและดอกไม้นี่จนเหนื่อยเลย
“เฮ้อ...เธอนี่มันดูดีได้ไม่นานจริงๆ” ชีต้าร์บ่นเบาๆ ก่อนที่จะพาฉันไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะ โอ้โห....ของโปรดฉันทุกอย่างเลยนะเนี่ย หม่ำเลยล่ะกัน
“)-O-(ง่ำ ง่ำ ง่ำ แจ๊บๆ“
“เดี๋ยวก็ติดคอตายกันพอดี” เค้าว่าพร้อมกับหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ที่ข้างริมฝีปากฉัน
เฮ้อ...นายนี่ก็ยังน่ารักเสทอต้นเสมอปลายจริงๆเลยนะเนี่ย
“ชีต้าร์ นายไม่มีของขวัญอะไรให้ฉันเลยเหรอ” ฉันแกล้วถามหยั่งเชิง
“มีสิ แต่เธอกินให้อิ่มก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากนั้น เราก็คุยกันไป กินกันไป จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสองทุ่ม อาหารบนโต๊ะก็ถูกฉันฟาดเรียบ ไม่เหลือแม้แต่ไอศกรีมสตอเบอร์รี่ชีสเค้กที่มาเป็นของหวาน หุหุหุ ก็มันอร่อยนี่นา
พออิ่มได้ไม่นานไฟในผับก็ดับพรึ่บลง =[]=!!! ฉันกลัวความมืดนะยะ
“ชีต้าร์ ไม่เอานะ ไม่เล่นแบบนี้สิ ฉันกลัวความมืดน้า~”
ครืดดดดดดดดดดดด
เสียงของโต๊ะอาหารตรงหน้าของฉันถูกยกออกไป และอีกประมาณห้านาทีต่อมา ไฟก็สว่างไปทั่วห้อง
“ชีต้าร์~” ฉันพึมพำเรียกชื่อของชีต้าร์ทันทีที่เห็นฝูง ใช่มันต้องเรียกว่าฝูงตุ๊กตาอียอร์หลากหลายขนาดในอิริยาบถต่างๆประมาณเกือบห้าสิบตัววางเรียงรายอยู่ข้างหน้าฉัน
น่ารักจังเลย ทั้งแฟนฉันแล้วก็อียอร์ -///-
พรึ่บ!!!
คราวนี้ไฟในผับดับลงอีกครั้ง ก่อนที่จะมีแสงไฟสว่างจ้าสาดส่องไปยังที่เวที ซึ่งตอนนี้มีชีต้าร์นั่งเตรียมที่จะเล่นเปียโนอยู่ -.,-
โอ๊ย!! ดูดีมากก๊ะ นี่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเข้าเล่นเปียโนเป็น หรือว่าจะเพิ่งหัดเล่นเพื่องานนี้โดยเฉพาะฉันกันนะ-///-
“ไอ้เปียโนนี่ ฉันเพิ่งจะกดเป็นเมื่อวานเองนะ มันอาจจะไม่เพราะเท่าไหร่ แต่ฉันก็เต็มใจทำเพื่อเธอ” จบประโยคนี้ เสียงอินโทรของดนตรีก็ดังขึ้นมาทันที
“อยู่คนเดียวมานานกับความเหงาใจ.....วันเวลาผ่านไปก็นานแสนนาน.....
ก็ในหัวใจฉันเองก็ยังต้องการใครซักคน...ที่คอยดูแลและห่วงใย
.”
นิ้วเรียวยาวของชีต้าร์สัมผัสไปที่เปียโนโดยที่ไม่ต้องมองโน้ตดนตรี ทำให้สายตาของเข้าตอนนี้จับจ้องมาที่ฉันตลอดเวลาO///O
“จนวันนึงที่เธอได้ผ่านเข้ามา...ความอ่อนล้าที่มีก็จางหายไป...
คงเป็นเธอที่ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ เธอคือหัวใจ...ของฉันตั้งแต่นี้....
เธอคือคนที่ฉันตามหา มาแสนนาน...และเป็นคนที่ฉันใฝ่ฝัน ในหัวใจ...
แม้ชีวิตของฉันตอนนี้ จะเป็นเช่นไรแต่อยากให้รับรู้เอาไว้......
อยากบอกว่ารัก...รักเธอเหลือเกิน แม้วันคืนล่วงเลยพ้นเป็นปี
แต่คืนนี้....จะบอกเธอนะคนดี อยากให้เธอ เชื่อฉันคนนี้...ฉันรักเธอ...”
น้ำตาของฉันค่อยๆไหลออกมาช้าๆด้วยความตื้นตัน นี่เค้ายอมทำอะไรขนาดนี้เพื่อฉันเลยเหรอเนี่ย ทั้งตกแต่งผับใหม่ หัดเล่นเปียโน รวมไปถึงความรู้สึกดีๆที่เค้ามีให้ฉันเสมอมา TT__TT เสียงเพลงยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ ส่วนฉันก็เดินเข้าไปใกล้เวทีเรื่อยเหมือนกับว่ามีแรงดึงดูดจากชีต้าร์
“เธอคือคนที่ฉันตามหา มาแสนนาน และเป็นคนที่ฉันใฝ่ฝัน ในหัวใจ...
แม้ชีวิตของฉันตอนนี้ จะเป็นเช่นไรแต่อยากให้รับรู้เอาไว้......
อยากบอกว่ารัก...รักเธอเหลือเกิน แม้วันคืนล่วงเลยพ้นเป็นปี
แต่คืนนี้....จะบอกเธอนะคนดี อยากให้เธอ เชื่อฉันคนนี้ ฉันรักเธอ...”
ตอนนี้เสียงเพลงจบลงแล้ว ส่วนเค้าก็ค่อยๆ เดินลงจากเวที และมาหยุดตรงหน้าฉันพร้อมกับพูดว่า...
“ฉันรักเธอนะบิสกิต...เธอคือหัวใจของฉัน”
หมับ!!!
เราโผเข้ากอดกันโดยไม่ได้นัดหมาย อ้อมกอดของชีต้าร์ในครั้งนี้มันอบอุ่นมากกว่าครั้งไหนๆเลย
“ชีต้าร์ ฮึก ขอบคุณนะ ฮือ...”
“ยัยตัวแสบ นี่เธอร้องไห้ทำไมเนี่ย เฮ้อ....” ชีต้าร์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แต่แววตานั้นเป็นห่วงเป็นใยฉันเหลือเกิน “ทีหลังน่ะ เธอดีใจได้อย่างเดียวนะ ห้ามมีน้ำตาเป็นอันขาด”
“ฉัน ฮึก จะพยายามนะ อ่ะนี่ ฉันทำให้นายทั้งคืนเลย” ฉันยื่นตุ๊กตาหมีแฮนด์เมคสีน้ำตาลให้ชีต้าร์ ซึ่งข้างในตุ๊กตาบรรจุแผ่นซีดีแผ่นเล็กๆเอาไว้ด้วย แต่ฉันไม่บอกเค้าหรอก ปล่อยให้รู้เองดีกว่า
“ขอบใจนะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเธอจะทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย”
“หึ ก็ทุลักทุเลอยู่เหมือนกันแหละย่ะ ถูกเข็มทิ่มไปหลายรอยเหมือนกัน”
“ขอบใจนะ” แล้วชีต้าร์กับฉันก็จูบกันอย่างอ่อนหวานและเนิ่นนาน
ฮ้า~ มีความสุขจัง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“ว๊าย!!”
เสียงลูกโป่งที่ใช้ประดับประดาพื้นแตกดังสนั่น ชีต้าร์ดึงเอาฉันเข้าไปกอด และเมื่อเสียงนั้นเงียบสงบลง เราสองคนก็เงยหน้าขึ้นไปมองบุคลที่มาใหม่ในทันที
“Hallo ชีต้าร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ^^”
บุคคลที่เข้ามาใหม่นั้นมีหน้าตาที่หล่อมากกกกกกกกก โอ้...แม่เจ้า โครงหน้าของเค้าคล้ายชีต้าร์อยู่โข แต่คิ้วและดวงตาแสนคมเข้มกระเดียดไปทางพวกแขกเล็กน้อย แถมสีผิวก็คล้ำกว่าชีต้าร์อยู่หน่อยนึง แต่ส่วนสูงนี่พวกเค้าพอๆกัน มันเลยทำให้ฉันดูเตี้ยลงไปทันตาเห็น=_=++
“ชาร์เตอร์” น้ำเสียงของชีต้าร์เบาราวกระซิบ เค้าดึงให้ฉันไปหลบอยู่ข้างหลัง ก่อนที่จะตะโกนถามคุณคนหล่อที่ฉันคาดว่าน่าจะชื่อชาร์เตอร์นั้นด้วยเสียงเย็นๆ “แกมาที่นี่ทำไม”
“หึ จะไม่แนะนำสาวน้อยที่อยู่ข้างหลังแกให้ฉันรู้จักหน่อยเหรอ” คุณชาร์เตอร์ไม่ตอบคำถามแต่กลับเดินเข้ามาหาฉันแทน
“ออกไปซะ! อย่ายุ่งกับเธอ” ชีต้าร์ตวาดลั่น พร้อมกับจับมือฉันไว้แน่นและเมื่อชาร์เตอร์เดินเข้ามาจับที่ปลายเส้นผมฉันเค้าก็ถูกชีต้าร์ถีบจนกระเด็น
“แกยังเลือดร้อนเหมือนเดิมเลยนะ ชีต้าร์”
“แกก็ยังไม่เลิกนิสัยลอบกัดเหมือนกัน”
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อของอีกฝ่าย ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ไอ้เฮียก็ถูกบุคคลที่ฉันไม่รู้จักลากเข้ามาในนี้ด้วยสภาพยับเยินO_O!!!
“เฮียบัส” ฉันสะบัดมือออกจากชีต้าร์แล้วรีบวิ่งไปหาไอ้เฮียที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดทันที
“อ๊าย!! O[]O!!”
เวรกรรม นี่ฉันยังวิ่งไปไม่ถึงไอ้เฮียเลยนะเนี่ย คุณคนหล่อที่ชื่อชาร์เตอร์ก็คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนฉันก่อนที่จะบีบอย่างแรง
“ชาร์เตอร์!!! ปล่อยบิสกิตเดี๋ยวนี้!!!” ทั้งชีต้าร์แล้วก็เฮียบัสตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน นี่เฮียก็รู้จักชาร์เตอร์ด้วยเหรอ แล้วเค้าเป็นอะไรกับชีต้าร์กันแน่นะ ที่สำคัญฉันว่าสองคนนี้ต้องเคยมีเรื่องไม่ลงรอยกันแหงมๆ-_-;;
แต่แล้วเหตุการณ์ตรงหน้าฉันตอนนี้มันก็เริ่มเลวร้ายขึ้นทุกที เมื่อมีผู้ชายอายุประมาณยี่สิบปีหลายคนเริ่มลากเอาพวกเรดดราก้อนที่มีสภาพพะงาบๆ เข้ามาในผับนี่จนครบ ส่วนชาร์เตอร์ก็ยังคงไม่ปล่อยแขนฉันซักที TOT
“เธอน่ะเหรอ คือคนไอ้ชีมันหลงนักหลงหนารักนักรักหนาน่ะ” ชาร์เตอร์ก้มลงมากระซิบถามฉันโดยที่ใบหน้าห่างกันไม่คืบ
พลั่ก!!!
“ชาร์เตอร์ แกอย่าคิดที่จะแตะต้องเธอแม่แต่ปลายเล็บ จำเอาไว้” ชีต้าร์เข้ามาผลักชาร์เตอร์ให้หลุดออกไปจากฉันก่อนที่จะกดโทรศัพท์หาใครซักคนแล้วก็วางสายไปด้วยใบหน้าสะใจ
ติ๊ดติ๊ดติ๊ด ตี๊ดตี๊ด ติ๊ดติ๊ดติ๊ด
เสียงลูกใครร้องฟระ โครตติ๊งต๊องเลย
ติ๊ดติ๊ดติ๊ด ตี๊ดตี๊ด ติ๊ดติ๊ดติ๊ด
“ฮัลโหล”
อ่อ...ที่แท้มันก็คือเสียงโทรศัพท์ของชาร์เตอร์น่ะเอง ปัญญาอ่อนได้ใจจริงๆ=_=^
“ครับพ่อ...อะไรนะครับ...ครับๆ...ขอโทษครับ...ครับ...ครับ...สวัสดีครับ”
แล้วหมอนั่นก็วางสายไป อะไรฟะ คุยแค่ครับๆแค่เนี๊ยรู้เรื่องแล้วเหรอ
“กลับไปซะชาร์เตอร์ แล้วอย่ามาทำหมาหมู่ที่นี่อีก” ชีต้าร์บอกเสียงเรียบๆผสมเยาะเย้ย ส่วนชาร์เตอร์ก็ทำหน้าขัดใจก่อนที่จะบอกว่าฝากไว้ก่อนเหอะแก และพาลูกน้องของเค้าออกไป
“บิส โทรเรียกรถพยาบาลที เอามาเยอะๆเลยนะ พวกนี้กำลังแย่” ชีต้าร์หันมาสั่ง
“อืมๆ” พูดจบฉันก็กดโทรเรียกรถพยาบาลทันที ไม่นานรถพยาบาลก็รับเอาคนเจ็บทั้งหมดเกือบสามสิบคนไปโรงพยาบาล เฮ้อ...นี่มันเรื่องอะไรกัน-_-^^
“ชีต้าร์...นี่มัน...”
“แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง-_-” พูดแค่นั่นเค้าก็ดึงแขนฉันไปที่ลานจอดรถทันที เมื่อเราสองคนอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงได้เอ่ยถามชีต้าร์อีกครั้ง
“ชาร์เตอร์ คือใครเหรอ”
“ฟู่.....” ชีต้าร์พ่นลมหายใจออกทางปากเหมือนอึดอัดใจก่อนที่จะตอบว่า “มันเป็นน้องชายต่างแม่ของฉันเอง”
“แล้วเค้าทำแบบนี้ทำไม”
“มันเกลียดฉัน ส่วนเรื่องอะไรเธอไม่ต้องรู้หรอก เพราะว่าฉันขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่าต่อไปนี้ถ้าเธอเจอมันที่ไหนก็อยู่ห่างเอาไว้เป็นที่ดีสุด แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ เธอไม่เจอมันน่ะโครตดีเลย”
“เค้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
“รู้ไว้แค่ว่ามันน่ากลัวกว่าพวกที่จะข่มขืนเธอในโกดังร้างก็แล้วกัน”
โห...จะมีอะไรหน้ากลัวกว่าการเกือบจะถูกพรากพรหมจรรย์จากไอ้พวกวัน ทู ทรี โฟร์ ขบวนการบัฟเฟอร์โร่แมนอีกมั๊ยเนี่ย =_=;;
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น