ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องความลับค่ะ ห้ามเปิดเด็ดขาด !!!!!

    ลำดับตอนที่ #7 : งานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 53


    โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล
    ชื่อ ด.ญ.พฤกษา ลิ้มบุญล้อม   ชั้น ม.1/2   เลขที่ 36 
    วิชา พระคริสต์  เรื่อง 
     
     
     
    นักบุญมารีอา กอร์เรตตี ( 1890 - 1902 )   พรหมจารีและมรณสักขี  ระลึกถึงวันที่ 6 กรกฏาคม
     
    นักบุญมารีอา กอแรตตี พรหมจารีและมรณสักขี องค์อุปถัมภ์เยาวชน หญิงสาวและหญิงที่ถูกขืนใจ
    ฉลองวันที่ 6 กรกฏาคม
    พระสันตะปาปาปิโอที่สิบสองทรงเรียกนักบุญมารีอา กอแรตตีว่า "นักบุญอักเนสแห่งศตวรรษที่ยี่สิบ" เธอเกิดวันที่ 16 ตุลาคม 1890 ในทุ่งนาเล็กๆ ใกล้เมืองแอนโคน่า ประเทศอิตาลี เธอเป็นลูกคนที่สามในพี่น้องทั้งหมดเจ็ดคน แม่บอกว่าเธอเป็นเด็กดี มีความสุข พูดจาตรงไปตรงมา อารมณ์แจ่มใส เอาการเอางาน มีความรับผิดชอบเกินวัยของตน และนบนอบพ่อแม่ตลอดเวลา พ่อได้ตายด้วยโรคมาเลเรียตอนเธออายุเก้าปี ขณะแม่ไปทำงานในทุ่งนา มารีอาช่วยดูแลน้องๆ และทำงานบ้าน อายุสิบปี เธอได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรก และตั้งใจที่จะประพฤติตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
    ในปี 1902 วีรสตรีผู้นี้ได้รับการทดสอบความเชื่ออย่างทารุณโหดร้าย ครอบครัวกอแรตตีอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเพื่อนร่วมงานของพ่อ และลูกชายของเขาชื่อ อเล็กแซนเดอร์ ผู้ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีจิตใจชั่วร้าย อายุสิบแปดปี เขาพยายามหาโอกาสที่จะทำมิดีมิร้ายต่อมารีอาตลอดเวลา เธอต่อต้านเขาทุกครั้งอย่างทันกาล แต่เธอไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะเขาได้ขู่จะฆ่าเธอและแม่ด้วย ถ้าเธอบอกให้คนรู้ ในที่สุดราคะตัณหาที่สะสมมาเป็นเวลานานได้ผลักดันอเล็กแซนเดอร์ทำสิ่งที่ไม่ดีงามต่อเธอ แต่เธอได้ต่อต้านเขาสุดกำลัง เธอร้องสุดเสียงติดต่อกันหลายครั้ง "อย่าทำบาป! พระเป็นเจ้าไม่ต้องการให้คุณทำบาป!" หนุ่มใจทรามตกอยู่ในอิทธิพลของอำนาจมืด เขาผู้ซึ่งกำลังหวาดกลัวและโมโหฉุนเฉียว เพราะไม่ได้รับสิ่งที่พึงปรารถนา ชักเหล็กแหลมยาวออกมา และแทงเธอสุดแรง ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดทะลักออกมา
    มารีอาถูกส่งอย่างรีบด่วนเข้าโรงพยาบาลที่เมืองเนททูโน และนายแพทย์ผ่าตัดได้พยายามช่วยชีวิตเธอ แต่ก็สุดความสามารถ เช้าวันรุ่งขึ้นพระสงฆ์ได้นำพระกายพระคริสตเจ้ามาให้เธอ และถามเธอก่อนถึงท่าทีของเธอต่ออเล็กแซนเดอร์ เธอตอบอย่างชัดเจนว่า เธอได้ให้อภัยเขา เธอได้วิงวอนพระเป็นเจ้าให้เขากลับใจ และวันหนึ่งเธอปรารถนาเห็นเขาในเมืองสวรรค์ วันที่ 6 กรกฏาคม 1902 เธอได้หมดลมหายใจและพบในสวรรค์พระเยซูคริสตเจ้า องค์ความรักที่เธอได้พลีชีวิตให้
    อเล็กแซนเดอร์ถูกตำรวจจับกุมและศาลตัดสินจำคุกเขาสามสิบปี เขาไม่กลับใจจนกระทั่งคืนหนึ่งเขาได้ฝันว่าเขาอยู่ในสวนแห่งหนึ่ง มารีอาก็อยู่ที่นั่นและได้ยื่นดอกไม้ให้เขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาได้เปลี่ยนเป็นคนละคน เป็นทุกข์เสียใจที่ได้ทำผิด และตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำรงชีวิตเป็นคนดีตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หลังจากติดคุกเป็นเวลายี่สิบเจ็ดปี เขาได้รับอิสรภาพ และไปกราบเท้าแม่ของมารีอาเพื่อขอขมา เธอได้ให้อภัยเขาและพูดว่า "ถ้าลูกสาวฉันได้ให้อภัยคุณ แล้วฉันจะหน่วงเหนี่ยวการให้อภัยของฉันไว้ทำไม?"
    ในปี 1950 มารีอาได้รับการประกาศเป็นนักบุญ อเล็กแซนเดอร์ก็อยู่ในพิธีฉลองนั้นด้วย พร้อมกับแม่และพี่น้องของนักบุญในพระมหาวิหารนักบุญเปโตร เธอเป็นแบบอย่างสำหรับเยาวชนและหญิงสาวทั่วโลกในการถือความบริสุทธิ์
    เราเรียกเธอมรณสักขีเพราะเธอยอมตาย ต่อสู้กับอเล็กแซนเดอร์ ไม่ยอมให้เขาทำบาป อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญของเรื่องนี้ คือ เธอให้อภัยคนที่ได้ทำร้ายเธอ และเป็นห่วงกังวลถึงความรอดของวิญญาณเขา หลังจากความตายของเธอเลยกาลเวลาออกไป
    ให้เราภาวนา นักบุญมารีอากอแรตตี กรุณาสอนเราต่อสู้กับการประจญ
    บทสวดขอนักบุญมารีอากอเรตตี้
    โอ้ นักบุญมารีอากอแรตตี ผู้ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงประทานพระหรรษทานแห่งความเข้มแข็ง แม้อายุเพียง 12 ปี ได้หลั่งโลหิตเพื่อรักษาพรหมจรรย์ของท่าน และถวายชีวิตของท่านเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ โปรดเมตตามนุษยชาติที่น่าสงสาร ไม่มีสันติสุข และได้หลงทางแห่งความรอดชั่วนิรันดร กรุณาสอนเราทุกคน โดยเฉพาะ เยาวชน หลบหลีกอย่างกล้าหาญและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อความรักต่อพระเยซูคริสตเจ้า ทุกสิ่งที่ทำเคืองพระทัยพระองค์ หรือทำให้วิญญาณเราเปรอะเปื้อนด้วยบาป กรุณาวอนขอพระเป็นเจ้าให้เราชนะการประจญทุกชนิด มีความบรรเทาใจเมื่อเราเป็นทุกข์โศกเศร้าในชีวิต และได้รับพระหรรษทานที่เราขอจากพระองค์ . . . . . (บอกสิ่งที่ต้องการขอ) . . . . . วันหนึ่งเราจะได้เชยชมพระสิริโรจนาของพระองค์ในสวรรค์ชั่วนิรันดร อาแมน
    (สวดบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา และสิริพึงมีอย่างละหนึ่งจบ)
    นักบุญมารีอา กอแรตตี ช่วยวิงวอนเทอญ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    เด็กหญิงน้อยๆอายุเพียง 12 ขวบ ได้ถูกแทงตายด้วยเหล็กแหลมเธอเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่โหดร้ายทารุณ
    มารีอากอร์เรตตี้ (St. Maria Gorretti) เธอเกิดในปี 1890 ที่แอนโกนาประเทศอิตาลีเป็นบุตรคนที่สามในจำนวนลูกทั้งหมด 7 คนของชาวนายากจนคู่หนึ่งเธอไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพราะเธอต้องทำงานในทุ่งนาหาเงินมาจุนเจือครอบครัวถึงแม้เธอจำต้องเสียสละหลายสิ่งในชีวิตประจำวัน ทุกคนเห็นเธอมีความสุข สนุกสนานร่าเริงดี
    พ่อของเธอได้สิ้นใจด้วยโรคมาเลเรียเมื่อเธอมีอายุ 9 ขวบ แม่ของเธอจำเป็นต้องดูแลลูกๆในทุ่งนามารีอาจึงได้รับมอบหมายทำหน้าที่เป็นแม่ครัวและแม่บ้านด้วยในสมัยนั้นเด็กๆรับศีลมหาสนิทไม่ได้จนกว่าพวกเขาจะมีอายุครบ 12 ปีมารีอามีความศรัทธาต่อศีลศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างเหลือล้นจนพระสงฆ์เจ้าวัดได้อนุญาตเธอรับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่อเธอมีอายุเพียง 11 ปี
    ในการหารายได้เพิ่มเข้าครอบครัวแม่ของเธอได้ตัดสินใจเอาบ้านส่วนหนึ่งให้ครอบครัวเซรี่เนลลี่เช่าลูกชายของครอบครัวนี้ชื่อ อเล็กซานโดร อายุ 18 ปี คิดร้ายต่อมารีอาหลายหนเขาได้ทำมิดีมิร้ายต่อเธอ แต่เขาทำไม่สำเร็จ เพราะเธอได้ต่อต้านเขาทุกครั้งวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังทำงานอยู่ในทุ่งนา เขาได้พบมารีอาอยู่ตัวคนเดียวจึงฉวยโอกาสนั้นข่มขืนเธอ เมื่อเธอไม่ยินยอม เขาก็โมโหฉุนเฉียวในอารมณ์ชั่ววุบหนึ่งซึ่งขาดสติสัมปชัญญะเขาได้ทิ่มแทงร่างกายอันบอบบางของเธอติดต่อกัน14 ครั้ง ด้วยมีดปลายแหลม
    เมื่อแม่และพี่น้องกลับจากทำงานเขาทั้งหลายได้เห็นมารีอานอนจมอยู่ในกองเลือดบนพื้นห้อง ก็รีบนำเธอส่งโรงพยาบาลเธอยอมจบชีวิตลงด้วยการเป็นมรณีสักขีเพราะต้องการรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ก่อนเธอหมดลมหายใจ เธอได้ยกโทษให้อเล็กซานโดรพลางมอบชีวิตของเธอเองแทนฆาตกรด้วยและเธออยากเห็นเขาวันหนึ่งในเมืองสวรรค์ วันที่เธอเข้าสู่ชีวิตนิรันดรคือ 6 มิถุนายน 1902 โดยมีกางเขนและเหรียญพระแม่มารีย์ในมือของเธอ
    อเล็กซานโดรถูกจับกุม ฟ้องศาลดำเนินคดีและถูกตัดสินจำคุก 30 ปี (ประเทศอิตาลีไม่มีกฏหมายประหารชีวิตทั้งในอดีตและปัจจุบัน)ในตอนแรกเขายังมีจิตใจแข็งกระด้าง 8 ปีต่อมาเขาเล่าว่ามารีอาได้ปรากฏตัวให้เขาเห็นในฝันเธอสวมชุดสีขาวกำลังเก็บดอกลิลี่อยู่ในสวน เธอเดินมาใกล้เขาและยิ้มให้พลางคะยั้นคะยอให้เขารับดอกลิลี่ในอ้อมแขนของเธอ ขณะที่เขารับดอกไม้จากเธอนั้นดอกลิลี่แต่ละดอกได้เปลี่ยนเป็นแสงสีขาว แล้วมารีอาก็จากไป
    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไปชีวิตของเขาได้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เขาได้กลับใจและได้เป็นพยานยืนยันถึงคุณธรรมวีรกรรมของเธอด้วย เมื่อเขาได้รับอิสระภาพแล้วเขาได้ไปเยี่ยมคารวะและขอขมาแม่ของมารีอา และบวชเป็นภารดาในคณะกาปูชิน
    เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 1950 พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ได้แต่งตั้งมารีอากอร์เรตตี้เป็นนักบุญ คุณแม่อัสซุนตาอายุได้ 84 ปี พร้อมกับลูกๆ อีก 4 คนได้มีโอกาสร่วมพิธีสถาปนาบุตรีน้อยของเธอเป็นนักบุญ รวมทั้งชายชราอายุ 66 ปีเขาคือ อเล็กซานโดร เซรี่เนลลี่ ผู้เป็นฆาตกร
    ชีวิตของนักบุญมารีอา กอแร็ตตีเป็นการเตือนบรรดาหญิงสาวทั้งหลายในวันนี้ให้รู้จักรักษาป้องกันศักดิ์ศรีและความบริสุทธิ์ของตนให้พ้นจากผู้ที่ต้องการจะทำลายย่ำยีนักบุญมารีอา กอแร็ตตีแม้ว่ายังเด็กอายุเพียง 12 ขวบและเพิ่งได้มีโอกาสรับศีลมหาสนิทเพียง 5 ครั้งเท่านั้นเองพระบิดาเจ้าสวรรค์ได้ทรงพระกรุณาบันดาลให้พลังอำนาจแห่งความรักของเธอส่องแสงสุกใสในตัวเธอแล้ว
    สำหรับชีวิตของอเล็กซานโดรนั้นเนื่องจากอิตาลีไม่มีกฏหมายประหารชีวิตนักโทษเขาจึงมีโอกาสได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี มิฉะนั้นคงถูกประหารไปแล้วในขณะที่มีอายุ 18 ปี อาศัยนักบุญมารีอา กอร์ เรตตี้ เป็นองค์อุปถัมภ์ช่วยเราวิงวอนพระเป็นเจ้าองค์ความดีบริบูรณ์ โปรดให้มนุษยโลกยกเลิกกฎหมายประหารชีวิตนักโทษและอาศัยแบบอย่างนักบุญมารีอา กอร์เรตตี้ซึ่งเป็นเพียงเด็กหญิงอายุ 12 ขวบช่วยให้เรากล้าปฏิเสธกับคนที่มาชักชวนเราไปในทางที่ไม่ดีด้วยความกล้าหาญ " ไม่เอา นี่เป็นบาปนะ"ขอให้ความรักต่อพระเยซูคริสตเจ้าในตัวเราช่วยเราให้มีพลังที่จะเอาชนะความชั่ว ไม่ยอมแพ้แม้การประจญเล็กๆ น้อยๆและให้เราได้เรียนรู้จักที่จะให้อภัยแก่ผู้ที่ทำไม่ดีกับเรา
    คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
    1. ให้เรากล้าพูดกับคนที่มาชักชวนเราไปในทางที่ไม่ดีด้วยความกล้าหาญไม่เอานี่เป็นบาปนะ
    2. ขอให้ความรักต่อพระเยซูคริสตเจ้าในตัวเรา ช่วยเราให้มีพลังที่จะเอาชนะความชั่ว
    3. ขอให้เราอย่าได้ยอมแพ้ต่อการประจญเล็กๆ น้อยๆ เลย เพื่อว่าเราจะได้สามารถเอาชนะการประจญที่ยิ่งใหญ่ๆ และหนักหนา ได้
    4. ให้เราได้เรียนรู้จักที่จะให้อภัยแก่ผู้ที่ทำไม่ดีกับเรา
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×