ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] :: WAVER HEART เธอคนนี้ ฉันขอก(อ)ด :: มีทุกคู่

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 : บังเอิญ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 53



    CHAPTER 2 : บังเอิญ

     

                   สิ้นเสียงของเจสสิก้า ก็มีหญิงร่างเล็กหน้าตาดี จัดได้ว่าน่ารักเลยทีเดียว เปิดประตูออกมาจากรถดูท่าทางอารมณ์เสียพอๆกับเจสสิก้า

                   หนิคุณโวยวายอยู่นั่นแหละ ใจเย็นๆก่อนสิ ค่อยๆพูดก็ได้   พอร่างเล็กพูดจบประโยคทำเอาเจสสิก้าอารมณ์เสียรอบที่สาม (หลายรอบแล้วนะ วันนี้อะ)

                   คุณขับรถชนรถฉันยังจะมาพูดว่าใจเย็นอีกเหรอ พูดง่ายไปมั้ยคุณ ถ้าเพื่อนฉันเป็นอะไรขึ้นไปนะฉันไม่เอาคุณไว้แน่   เจสสิก้าโหดมาแล้ว (O_O!!)  เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงร่างเล็กที่ก้มหาของใต้เบาะรถก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้พูด

     

    .

    .

    .

    .

    ทันใดนั้น!!!

    .

    .

    .

    .

     

                   ยัยเจส/ยัยซันนี่   ทั้งสองต่างร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

                   ยัยเจส เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย!?”   ซันนี่ถามอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองยืนอยู่ตรงหน้า

                   ฉันต้องถามแกมากกว่า แกกลับมาจากฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อไหร่ห้ะ ทำไมไม่บอกฉันสักคำ ไม่โทรหาสักแอะ ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนสนิทอยู่มั้ยเนี่ย   เจสสิก้าดีใจมากที่เพื่อนสนิทของตัวเองกลับมาหลังจากไปเรียน (ตามคำสั่งพ่อ) ที่ฝรั่งเศส 3 ปี

                   ก็ฉันคิดว่าจะไปเซอร์ไพรส์แกที่บ้านวันพรุ่งนี้น่ะสิ แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อน   ซันนี่ทำหน้าเศร้าออกมา (เพิ่งนึกได้เหรอ ว่าไปชนรถคนอื่นอะ)

                   ไม่เป็นไรหรอก แกไม่เป็นไรใช่มั้ย แกนะแกถ้าเป็นคนอื่นฉันด่ายับไปแล้วนะ   เจสสิก้าที่อารมณ์เย็นขึ้นตั้งแต่เห็นหน้าซันนี่พูดเชิงต่อว่าซันนี่เล่นๆ

                   ย่ะ ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ขับรถชนแกน่ะ คือว่ามือถือฉันตกน่ะเลยก้มหา เงยหน้าขึ้นมาก็เจอแกเนี่ย...แม่เทพธิดามือถือ แกเสกให้มือถือฉันตกใช่มั้ย เราเลยได้เจอกัน   ซันนี่พูดกับเจสสิก้าพร้อมทำท่าแอ๊บแบ๊วที่ฝึกมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ให้เจสสิก้า

                   เสก เสิกอะไรล่ะ แกรู้มั้ยว่าแกเกือบทำให้คนที่ฉันรักมากที่สุดบาดเจ็บนะ ถ้าคนๆนั้นเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ฉันฆ่าแกเนี่ย ยัยเตี้ย!!!!!”   เจสสิก้าพูดอย่างเอาจริงเอาจัง

                   อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันขอโทษจริงๆ ดีนะที่เป็นแก ถ้าเป็นคนอื่นเรื่องคงยาว รถแกไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ส่วนรถฉันเดี๋ยวเอาเข้าอู่สัก 3-4 วันก็น่าจะได้ละ  ซันนี่พูดอย่างรู้สึกผิดสุดๆ

                   รู้แล้วย่ะ ฉันไม่โกรธแกหรอกนะ ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับกลับเกาหลีนะจ้ะ   พอเจสสิก้าเห็นเพื่อนสนิทตัวเองทำท่าเหมือนสำนึกผิดเลยหัวเราะออกมา ซันนี่จึงยิ้มได้อย่างสบายใจแต่ก็อดแกล้งเจสสิก้าไม่ได้

                   หนิ ที่บอกว่าฉันเกือบไปทำให้คนที่แกรักมากที่สุดบาดเจ็บเนี่ย ใครกันยะ บอกมาซะดีดีนะ   ซันนี่สงสัยกับคำพูดเจสสิก้ามากเพราะส่วนใหญ่คนที่มาจีบเจสสิก้าเพื่อนรักของเธอนั้น ไม่มีซักคนที่เจสสิก้าเรียกว่า คนที่ฉันรักมากที่สุด ให้ฟังเธอฟังน่ะสิ

                   อะร๊าย!!!!  ฉันไม่รู้ไม่ชี้นะ   เจสสิก้าที่พูดกับซันนี่พร้อมหันหน้าหนีเพราะตอนนี้เธอเขินจนหน้าแดงไปแล้ว

                   อย่าบอกนะ ว่าเป็นคนที่แกเล่าให้ฉันฟัง ที่อยู่บ้านเดียวกับเธอน่ะ   ซันนี่จำได้ว่าเจสสิก้าเคยเล่าว่าแอบรักคนๆหนึ่งที่อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่ใช่ญาติ เพราะพ่อหรือคุณจองสงสารจึงรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตั้งแต่วันที่คนๆนี้เข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับเจสสิก้า ก็ไม่มีวันไหนเลยที่เจสสิก้าไม่หวั่นไหวให้กับเธอ คนนี้ เจสสิก้าที่ฟังซันนี่พูดถึงคนที่ตนแอบรักมานานก็ยิ้มและพยักหน้าตอบออกมา ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงที่ฟังดูอ่อนล้าแทรกขึ้นมา

                   เจส ฟานี่ไม่เป็นไรแล้ว เจสอย่าไปเอาเรื่องเขาเลยนะ   ทิฟฟานี่ที่พูดดักเจสสิก้าเอาไว้เพราะกลัวเจสสิก้าจะเอาเรื่องถึงขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเธอเห็นเจสสิก้าตกลงกับคู่กรณีนานแล้วยังไม่กลับมาซะที จึงเดินไปหาเจสสิก้า

                   อ่าว ฟานี่ลงมาจากรถทำไม เจ็บตรงไหนรึเปล่า   เจสสิก้าที่คุยกับซันนี่เพลินจนลืมนึกถึงทิฟฟานี่ไป เมื่อได้ยินเสียงของทิฟฟานี่ทักมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เจสสิก้าจึงเดินไปประคองทิฟฟานี่ที่ดูอ่อนล้าเต็มที

                   ต้องขอโทษด้วยนะคะ ทางที่ดีเราอย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ   ทิฟฟานี่ที่ยังไม่รู้ว่าซันนี่คือเพื่อนสนิทของเจสสิก้าก็พูดขอโทษซันนี่เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต

                   คิคิ ชั้นลีซุนคยู เรียกซันนี่ก็ได้ เป็นเพื่อนสนิทของเจสจ๊ะ   ซันนี่ที่เห็นท่าทางของทิฟฟานี่ก็อดขำไม่ได้ พร้อมแนะนำตัวเองและส่งยิ้มหวานให้ทิฟฟานี่ ทางด้านเจสสิก้าที่เห็นทิฟฟานี่ยืนงง ประกอบกับไม่อยากให้ซันนี่ยิ้มแบบนั้นกับทิฟฟานี่ (ก็หึงนั่นแหละ) จึงแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันอย่างเป็นทางการ

                   ฟานี่ นี่ซันนี่เป็นเพื่อนสนิทของเจสเอง ที่เจสเล่าให้ฟังว่าไปเรียนที่เมืองนอก 3 ปีไง ฟานี่จำได้มั้ย มันเพิ่งกลับมา แล้วก็โชคดีรถชนกับรถเราพอดีไง   เจสสิก้าอธิบายให้ทิฟฟานี่เข้าใจ

                   ส่วนแก นี่ทิฟฟานี่ คนที่ฉันเล่าให้ฟังนั่นแหละ   เจสสิห้าที่หันไปบอกซันนี่แต่ก็ต้องหันหน้าหนีเพราะกลัวทิฟฟานี่และซันนี่จะเห็นหน้าของเธอที่ตอนนี้แดงไปหมดแล้ว

                   ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ   ทิฟฟานี่และซันนี่ทำความรู้จักกัน

                   ยัยซันนี่ วันนี้ฉันกับฟานี่ต้องขอตัวก่อนนะ ฟานี่ดูเพลียมากแล้ว ฉันขอพาฟานี่กลับบ้านก่อนแล้วเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ที่บ้านฉันละกันนะ   เจสสิก้าบอกซันนี่เพราะเธอเห็นทิฟฟานี่เพลียมากจึงจะพากลับบ้าน

                   จ๊ะ จะขอตัวหรือขอหัวใจก็เอาไปด้วยละกันนะ แต่อย่าลืมหัวใจตัวเองไว้ที่คนอื่นล่ะ   ซันนี่อดแกล้งเจสสิก้าไม่ได้ที่เป็นห่วงทิฟฟานี่ออกนอกหน้า

                   ย่ะ ฉันไปละนะ บาย   เจสสิก้ายิ้มแก้มปริพร้อมบอกลาเพื่อนตัวเองเพราะทิฟฟานี่เหมือนจะไม่มีแรงยืนด้วยซ้ำ ทั้งสามบอกลากันและแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน

     

     

     

                   อีกด้านหนึ่ง ณ ที่ไหนซักแห่งในกรุงโซล

                   เพื่อนยุน เพื่อนยุน เป็นอะไรมั้ย   ซูยองถามเพื่อนคู่หูนักข่าวสุดซี้ของตัวเองหลังจากเกิดเหตุรถชน

                   โอ๊ย! เพื่อนหยองเพื่อนยุนเจ็บหัวอะ   ยุนอาที่เป็นคนขับรถเอ่ยหลังจากที่รถหยุดนิ่งแล้ว

                   ไหน เพื่อนยุนเจ็บตรงไหนอีกมั้ย   ซูยองถามเพื่อความแน่ใจ

                   ไม่อะ มีที่หัวที่เดียว แกดูให้หน่อยสิเพื่อนหยอง   ยุนอาขอให้ซูยองตรวจดูความผิดปกติภายนอกของตน

                   เฮ้ย งานเข้าละเพื่อนยุน   ซูยองตกใจเหมือนบ้านตัวเองถูกไฟไหม้

                   ทำไมอะ อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ ฉันกลัวนะ  ยุนอาที่ตอนนี้เริ่มใจเสียเพราะท่าทางของซูยองที่ตกใจเหมือนบ้านไฟไหม้ ทำให้ยุนอาน้ำตาเริ่มคลอ

                   กะ..แก....หัวแตกอะ   ซูยองบอกคู่หูของเธอ

                   ห้ะ! หัวแตกฉันไม่ไปโรงพยาบาลนะเพื่อนหยอง ฉันกลัว   ยุนอาพูดห้ามซูยองไม่ให้พาเธอไปโรงพยาบาลเพราะยุนอาเกลียดโรงพยาบาลเป็นซีวิตจิตใจเลยน่ะสิ ในขณะที่ซูยองพยายามเกลี้ยกล่อมยุนอาให้ไปโรงพยาบาล แทยอนและยูริที่เป็นฝ่านเสียหายเพราะถูกรถของยุนอาชนก็เดินมาตกลงกันเรื่องรถที่เสียหาย  แทยอนเคาะกระจกรถของยุนอาเพื่อให้ออกจากรถมาตกลงกัน  ทางด้านยุนอาที่หาข้ออ้างต่างๆนาๆมาเพื่อไม่ให้ซูยองพาไปโรงพยาบาล พอได้ยินเสียงเคาะกระจกรถก็นึกได้ว่าตัวเองขับรถชนคนอื่นไว้ จึงออกมาเคลียร์ให้รู้เรื่อง แต่ซูยองดันลงรถไปเคลียร์ให้แทนซะงั้น

                   เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณขับรถชนรถฉัน   แทยอนบอกเตือนสติคู่กรณี

                   ค่ะ ดิชั้นต้องขอโทษด้วย รถคุณเสียหายตรงไหนมั้ยคะ มีใครบาดเจ็บรึเปล่าคะ   ซูยองที่ลงจากรถก่อนยุนอาก็จัดการตกลงเพื่อให้เรื่องรีบๆจบ

                   ทางฉันไม่มีใครเป็นอะไรมากหรอกค่ะ รถก็ไม่ได้เสียอะไร ทางคุณล่ะคะ   แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ

                   นิดหน่อยน่ะค่ะ เอาเป็นว่าเราต่างคนต่างจัดการเรื่องของตัวเองดีมั้ยคะ เพราะแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครเป็นอะไรมาก   ซูยองเสนอขึ้นเพราะต้องรีบพายุนอาไปโรงพยาบาล ในขณะที่ซูยองกำลังเคลียร์กับแทยอนอยู่ ยุนอาก็เปิดประตู
    รถลงมา

                   ยุน / ไอ่ยุน   แทยอนและยูริร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นน้องที่พวกเขารู้จักและสนิทเป็นอย่างดี

                   พี่ยูล พี่แท   ยุนอาที่ดูเหมือนจะอึ้งกับการได้เจอพี่และเพื่อนของพี่ตัวเองร้องขึ้น

                   อ่าว หนิแกรู้จักกันเหรอ เพื่อนยุน  ซูยองถามด้วยความงุนงง

                   ไม่ใช่แค่รู้จักหรอก คลานตามกันมาเลยแหละ   ยูริที่นิ่งเงียบมานานพูดขึ้น

                   ใช่ นี่พี่ยูริพี่ฉันเอง ส่วนนี่พี่แทยอนคูหู่สุดซี้ของพี่ฉันเอง   ยุนอาแนะนำยูริและแทยอนให้ซูยองรู้จัก

                   พี่ยูล พี่แท นี่ซูยองแฟนยุนเอง   ยุนอาแนะนำซูยองให้พี่ทั้งสอง

                   ห้ะ!”   เสียงของลิงและหมาประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

                   ฮ่าฮ่า ยุนล้อเล่น นี่เพื่อนสุดซี้ของยุนเอง เพื่อนหยอง   ประโยคนี่ทำให้ลิงกับหมาที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกในตอนแรกกลับสู่สภาพปกติ (อันที่จริงต้องเป็นลิงกับหมาที่ตาแตก)

                   ตกลงไม่ได้เป็นอะไรกันใช่มั้ย?”   ยูริถามเพื่อความแน่ใจ  

                   ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกค่ะ   ซูยองรีบบอกยูริและแทยอนเพื่อไม่ให้ถูกเข้าใจผิด

                   แล้วไป...แล้วนี่แกขับรถท่าไหนห้ะ ยุนอา ทำไมถึงประมาทแบบนี้ ถ้าคนที่แกชนไม่ใช่พวกฉันแล้วรู้มั้ยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น อย่าให้มีคราวหน้านะ ควอน ยุนอา   ยูริสวดน้องตัวเองเปรียบได้กับแม่คนที่ 2 ของยุนอา

                   ยุนต้องขอโทษจริงๆ ยุนทำงานหนักเลยหลับในน่ะ   ยุนอายอมรับผิดแต่โดยดี

                   ยังดีนะ ที่มีซูยองมาด้วยไม่งั้นแกเป็นหนักกว่านี้แน่   ยูริยิ้มส่งให้ซูยอง

                   แล้วยุนเป็นอะไรมากมั้ย บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า   แทยอนถามน้องที่ตนเองซี้ด้วยความเป็นห่วง

                   แค่หัวแตกน่ะค่ะ ซูกำลังจะพามันไปโรงพยาบาล   ซูยองตอบแทนยุนอา

                   ก็ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก แล้วเรื่องรถแกล่ะ   ยูริเอ่ยปากถามยุนอา

                   ไม่เป็นไรพี่ยูล เดี๋ยวยุนให้เพื่อนหยองจัดการ บ้านมันเปิดอู่รถน่ะ   ยุนอามองซูยองเพื่อแสดงว่า เค้าฝากรถเค้าให้ตัวเองดูแลนะพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ^^

                   อ่อ ฉันว่าแกรีบไปโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าทำแผลแล้วก็รีบกลับไปพักผ่อนที่หอซะ อย่าไปซ่าส์ที่ไหนอีกล่ะ เข้าใจมั้ย!!”   ยูริที่เป็นห่วงน้องตัวเองพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

                   เดี๋ยวซูดูแลให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ว่าแต่พวกพี่ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยคะ”   ซูยองถามด้วยความเป็นห่วง

                   ค่ะ พี่ไม่เป็นไรมากหรอก พี่ขอตัวนะ พรุ่งนี้มีงานน่ะ.....ป่ะแทกลับหอ   ยูริลาซูยองและยุนอา

                   แล้วเดี๋ยวยุนจะโทรหานะ

                   อืม ดูแลตัวเองดีดีล่ะ ทั้งสองคนน่ะ”   ฝ่ายพี่บอกลาและขับรถออกไป

                   ฮึๆๆ เพื่อนยุน เลสโกทูโรงพยาบาล”   ซูยองยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยก่อนจะพาเพื่อนของตนไปโรงพยาบาล

     




                   ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง

                   แกนั่งรอแถวนี้แหละ เดี๋ยวฉันไปเอาคิวให้”   ซูยองบอกและเดินไปจัดการแทนเพื่อนที่สีหน้าซีดกว่ากระดาษซะอีก

                   ขอเชิญคุณควอน ยุนอา ที่ห้องตรวจหมายเลข 4 ค่ะ”   ผ่านไป 5 นาที ยุนอาก็เพิ่งได้ยินเสียงจากโรงพยาบาล นี่ถ้าไม่ประกาศจะนึกว่าตัดหางปล่อยวัดแล้วนะเนี่ย

                   เชิญนั่งก่อนค่ะ คุณเป็นอะไรมาคะ”   หมอที่หันหลังให้ยุนอาถามขึ้น

                   หัวแตก เจ็บมากกกกกกกกก”   ยุนอาตอบอย่างเซ็งๆเพราะเธอเกลียดโรงพยาบาลมากน่ะสิ

                   อ่อ งั้นเชิญขึ้นเตียงก่อนนะคะ หมอจะได้ทำแผลให้”   หมอหันมาพูดกับยุนอา เมื่อยุนอาเห็นหมอที่ตัวเองเพิ่งคุยด้วยแล้วก็ โอ้ แม่เจ้า หมอหรือนางฟ้าวะเนี่ย สวยได้ใจยุนยุนจริงเลย

                   อ่อ จะให้ขึ้นเตียงเลยเหรอคะ มันไม่เร็วไปเหรอ ^^”   ยุนอาถามหมอตรงหน้าด้วยคำพูดสองแง่สองง่าม

                   อ่าวคุณ ไม่รีบขึ้นเดี๋ยวเลือดก็ไหลหมดตัวพอดีสิคะ รีบขึ้นเตียงเร็ว”   หมอคนสวยยิ้มให้คนไข้ที่ทำตัวเหมือนเด็ก ระหว่างที่คุณหมอคนสวยกำลังทำแผลให้ยุนอาอยู่นั้น ยุนอาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อที่หน้าอกข้างซ้าย ซอจูฮยอน เธอทำฉันหวั่นไหวมาก รู้ตัวมั้ย’ แต่กวางอย่างยุนอาก็แกล้งถามชื่อไปเพราะอยากได้ยินเสียงหวานๆของซอจูฮยอนอีกครั้ง

                   คุณหมอชื่ออะไรเหรอคะ”   เสียงยุนอาดังขึ้นกลบความเงียบที่มีมาได้ซักพัก

                   หมอชื่อซอจูฮยอนค่ะ”   ทางด้านหมอคนสวยก็งงกับร่างสูงที่อยู่ดีดีก็ถามคำถามนี้แต่เธอก็ตอบไปอย่างไม่คิดอะไร

                   หมอซอนี่สวยจริงๆนะคะ มีแฟนรึยังเอ่ย”   ยุนอาถามซอจูฮยอน

                   ยังไม่มีค่ะ คุณถามทำไมเหรอคะ”   ทางด้านซอฮยอนก็ตอบคำถามไปตามมารยาทแต่ก็ต้องตัดสินใจถามออกไป ก็คนตรงหน้าน่ะสิ เจอหน้ากันครั้งแรกก็เล่นถามคำถามแบบนี้ออกมา

                   อ่อ เปล่าค่ะ”   ยุนอาที่ได้ยินคำตอบก็ยิ้มเริงร่าเหมือนกวางได้ผักบุ้งจนซอจูฮยอนยังเอือม  (O_!!!)

                   เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวหมอจะให้ยาไปทานนะคะจะได้หายเร็วขึ้นแล้วก็ระวังอย่าให้แผลถูกน้ำบ่อยนะคะ เดี๋ยวจะไม่หาย”   ซอฮยอนบอกกับยุนอาที่ตอนนี้ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ

                   เฮ้ย ทำไงวะเนี่ย ทำไมมันเสร็จเร็วแบบนี้อะ ไม่เอาๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยทีเสียงความคิดของยุนอาดังขึ้นในโสตประสาท

                   โอ๊ย! คุณหมอ ฉันปวดหัวจังเลย โอ๊ย! ไม่ไหวแล้ว”   ยุนอาร้องขึ้นทำให้ซอฮยอนตกใจ

                   คุณเจ็บตรงไหนคะ”   ซอฮยอนรีบเข้าไปดูยุนอาที่จู่ๆก็ร้องครวญครางออกมา

                   ทั้งเจ็บทั้งปวดเลย คุณหมอช่วยฉันด้วย”   เสียงยุนอาที่ตอนนี้แสดงได้รางวัลออสการ์ไปแล้ว

                   หมอว่าทำสแกนสมองดีกว่าคะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร รีบไปเถอะคะ”   ซอฮยอนพูดพลางนำยุนอาไปห้องสแกนสมอง พระเจ้าช่วยกล้วยเป็นพิษ เอาไงดีวะเนี่ย เอาวะ! สแกนก็สแกนยุนอารีบเดินตามไปอย่างไม่ลืมร้องครวญครางออกมาเป็นระยะ

     

     

                   ผ่านไป 45 นาที

     

     

                   ผลตรวจออกมาแล้วนะคะ สมองคุณก็ปกติดีไม่มีอะไรที่ผิดปกติ คุณยังปวดหรือว่าเจ็บตรงไหนอยู่มั้ยคะ
      หมอสาวตรงหน้ายุนอาถามเพื่อความแน่ใจ

                   เจ็บค่ะ เจ็บมากด้วย”   ยุนอาพูดขึ้น ทำให้ซอฮยอนสงสัยว่าคนไข้ของตนนั้นเจ็บตรงไหนแต่ก็ไม่ทันที่จะถาม
    ยุนอาก็จับมือของซอฮยอนแล้วเอามาทาบกับหน้าอกข้างซ้ายของตน

                   เจ็บตรงนี้ค่ะ มันรู้สึกแปลกๆตรงนี้ตั้งแต่เจอหน้าคุณหมอ คุณหมอจะช่วยรักษาให้ฉันได้มั้ยคะ”   ยุนอาถามซอฮยอนซึ่งๆหน้าเพื่อจะเอาคำตอบ ซอฮยอนที่ตอนนี้ยังอึ้งกับการกระทำของยุนอาก็ต้องสะดุ้งเมื่อยุนอาเขยิบเข้ามาใกล้จนลมหายใจทั้งสองรดกัน ทั้งที่ใจจริงอยากจะผลักคนตรงหน้าออกไปให้ไกลก็ยังได้ แต่ทำไมวันนี้รู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่มีมัน
    หายไม่ไหนหมดแล้วก็ไม่รู้

                   ได้มั้ยคะคุณหมอ”   เมื่อเห็นซอฮยอนไม่พูด ยุนอาจึงเขยิบเข้าไปใกล้อีกจนซอฮยอนที่ถอยหนีต้องจนมุมกับกำแพง  (ซอฮยอน: ตามตำราละครไทย เป๊ะ!)

                   กะ ก็แล้วแต่คุณสิคะ”   ซอฮยอนตอบพร้อมผลักยุนอาที่กำลังจะกอดเธอและหันหน้าหนีเพราะตอนนี้เธอเขินจนไม่สามารถมองหน้ายุนอาได้แล้ว (ซอฮยอน: ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้นี่ไรเตอร์)

                   จ จริงเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ น้องซอ”   ยุนอาพูดพร้อมยิ้มจนแก้มปริ

                   ค คุณ ใครเป็นน้องคุณไม่ทราบคะ มาเรียกฉันว่าน้องทำไม”   ซอฮยอนถามยุนอาอย่างตะกุกตะกักเพราะเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว

                   ค่ะ ไม่เป็นน้องก็ไม่เป็น เป็นอย่างอื่นดีกว่าเนอะ ที่รัก”   ยุนอาได้โอกาสก็แกล้งซอฮยอนที่ตอนนี้หันหลังให้เธออยู่

                   ฉันไม่ใช่ที่รักคุณซักหน่อย อย่าเหมารวมเอาเองสิคะ”   ซอฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่หน้าตากลับตรงข้ามกับเสียงอย่างสิ้นเชิง

                   ไหนบอกว่าให้โอกาสฉันแล้วไงคะ อย่าลืมที่พูดสิที่รัก”   ยุนอายังไม่หยุดแกล้งซอฮยอนแถมยังจับมือซอฮยอนเพื่อให้หันมาทางตน

                   อีกอย่าง อย่าเรียกว่าคุณได้มั้ยคะ มันดูห่างเหิน เรียกว่ายุนได้มั้ย”   ยุนอามองตาซอฮยอน ตาทั้งสองที่สอดประสานกัน ต่างฝ่ายต่างมองตากัน อาจเป็นเพราะอยากรู้จักอีกฝ่ายให้มากกว่านี้

                   ก็ได้ แต่คุณช่วยปล่อยมือฉันก่อนได้มั้ยคะ

                   อุ๊บ!” ยุนอาประกบปากตัวเองเข้ากับซอฮยอน ทำให้ซอฮยอนตกใจผลักยุนอาออกอย่างรวดเร็ว

                   บอกแล้วไงคะ อย่าเรียกว่าคุณ ไม่งั้นยุนจะจูบน้องซออีกจริงๆด้วย”   ยุนอาบอกซอฮยอนด้วยท่าทางที่เหมือนเด็กอนุบาล 3

                   อย่าทำแบบนั้นนะคุณ เอ่ยยุน”   ซอฮยอนที่กลัวยุนอาจะจูบตนอีกก็รีบเปลี่ยนสรรพนามทันที ทำให้ยุนอาขำกับท่าทีของหมอสาวสวยตรงหน้า

                   ไว้วันพรุ่งนี้ยุนจะมาหาน้องซออีกนะคะ”   พูดเสร็จยุนอาก็หอมแก้มซอฮยอนแล้วก็เดินออกจากห้องตรวจไป
    ไม่ทันให้ซอฮยอนพูดอะไรซักคำ

                   คนบ้า คุณเป็นใครกันนะ”   ซอฮยอนพูดพร้อมเหลือบไปดูบัตรตรวจของยุนอา

                   ควอน ยุนอาสิ้นเสียงนี้ซอฮยอนก็ทำงานต่อไป

     

                   เฮ้ย ไอ่เพื่อนยุนทำไมทำแผลนานอะหัวแตกเองนะ”   ซูยองที่นั่งรอยุนอาจนรากงอกถามเพื่อนตัวดีของเธอที่เดินมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มจนน่าถีบ

                   เพื่อนหยอง ฉันตกหลุมรักหมอคนสวยเข้าแล้วล่ะ”   ยุนอาตอบซูยองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่าถีบเช่นเดิม

                   อย่าบอกนะว่าที่มาช้าเนี่ย ไปจีบหมอมา”   ซูยองละอยากจะถีบคนตรงหน้าซักสามรอบจริงๆ

                   ทำมากกว่าจีบอีกล่ะ เพื่อนหยองกลับหอกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งงานให้บก.ไม่ทัน”   ยุนอาพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถทิ้งให้ซูยองหมั่นไส้อยู่ข้างหลัง (ซูยอง: ก็ใครล่ะวะที่มัวแต่ไปนั่งจีบหมอ งานไม่เสร็จฉันฆ่าแกแน่ ไอ่กวางเหม่ง)

     


     

    ..TO BE CONTINUED..

     

     

     

     

    ไรเตอร์ : หวัดดีจ้ารีดเดอร์ พอเดากันถูกมั้ยจ๊ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ ใครรอยูลสิก แททิฟ ซูซันอีกไม่นานเกินรอนะจ๊ะ หลับตาแล้วลืมตาเดี๋ยวก็มา (เร็วไปปะ) ตอนหน้าซูซันนะจ๊ะ (แล้วเมื่อไหร่จะได้อ่านแททิฟกะยูลสิกเนี่ย) ใจเย็นๆๆนะจ๊ะ แล้วเราจะรีบอัพนะ ถ้ามีคนอยากอ่านอะนะยังไงก็ฝากผลงานของเราด้วยนะ ขอกำลังใจด้วยนะคะ รักรีดเดอร์จ้า Saranghae  >///<

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×