คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 : บังเอิญ
CHAPTER 2 : บังเอิญ
สิ้นเสียงของเจสสิก้า ก็มีหญิงร่างเล็กหน้าตาดี จัดได้ว่าน่ารักเลยทีเดียว เปิดประตูออกมาจากรถดูท่าทางอารมณ์เสียพอๆกับเจสสิก้า
“หนิคุณโวยวายอยู่นั่นแหละ ใจเย็นๆก่อนสิ ค่อยๆพูดก็ได้” พอร่างเล็กพูดจบประโยคทำเอาเจสสิก้าอารมณ์เสียรอบที่สาม (หลายรอบแล้วนะ วันนี้อะ)
“คุณขับรถชนรถฉันยังจะมาพูดว่าใจเย็นอีกเหรอ พูดง่ายไปมั้ยคุณ ถ้าเพื่อนฉันเป็นอะไรขึ้นไปนะฉันไม่เอาคุณไว้แน่” เจสสิก้าโหดมาแล้ว (O_O!!)
.
.
.
.
ทันใดนั้น!!!
.
.
.
.
“ยัยเจส/ยัยซันนี่” ทั้งสองต่างร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ยัยเจส เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย!?” ซันนี่ถามอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองยืนอยู่ตรงหน้า
“ฉันต้องถามแกมากกว่า แกกลับมาจากฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อไหร่ห้ะ ทำไมไม่บอกฉันสักคำ ไม่โทรหาสักแอะ ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนสนิทอยู่มั้ยเนี่ย” เจสสิก้าดีใจมากที่เพื่อนสนิทของตัวเองกลับมาหลังจากไปเรียน (ตามคำสั่งพ่อ) ที่ฝรั่งเศส 3 ปี
“ก็ฉันคิดว่าจะไปเซอร์ไพรส์แกที่บ้านวันพรุ่งนี้น่ะสิ แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อน” ซันนี่ทำหน้าเศร้าออกมา (เพิ่งนึกได้เหรอ ว่าไปชนรถคนอื่นอะ)
“ไม่เป็นไรหรอก แกไม่เป็นไรใช่มั้ย แกนะแกถ้าเป็นคนอื่นฉันด่ายับไปแล้วนะ” เจสสิก้าที่อารมณ์เย็นขึ้นตั้งแต่เห็นหน้าซันนี่พูดเชิงต่อว่าซันนี่เล่นๆ
“ย่ะ ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ขับรถชนแกน่ะ คือว่ามือถือฉันตกน่ะเลยก้มหา เงยหน้าขึ้นมาก็เจอแกเนี่ย...แม่เทพธิดามือถือ แกเสกให้มือถือฉันตกใช่มั้ย เราเลยได้เจอกัน” ซันนี่พูดกับเจสสิก้าพร้อมทำท่าแอ๊บแบ๊วที่ฝึกมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ให้เจสสิก้า
“เสก เสิกอะไรล่ะ แกรู้มั้ยว่าแกเกือบทำให้คนที่ฉันรักมากที่สุดบาดเจ็บนะ ถ้าคนๆนั้นเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ฉันฆ่าแกเนี่ย ยัยเตี้ย!!!!!” เจสสิก้าพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
“อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันขอโทษจริงๆ ดีนะที่เป็นแก ถ้าเป็นคนอื่นเรื่องคงยาว รถแกไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ส่วนรถฉันเดี๋ยวเอาเข้าอู่สัก 3-4 วันก็น่าจะได้ละ” ซันนี่พูดอย่างรู้สึกผิดสุดๆ
“รู้แล้วย่ะ ฉันไม่โกรธแกหรอกนะ ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับกลับเกาหลีนะจ้ะ” พอเจสสิก้าเห็นเพื่อนสนิทตัวเองทำท่าเหมือนสำนึกผิดเลยหัวเราะออกมา ซันนี่จึงยิ้มได้อย่างสบายใจแต่ก็อดแกล้งเจสสิก้าไม่ได้
“หนิ ที่บอกว่าฉันเกือบไปทำให้คนที่แกรักมากที่สุดบาดเจ็บเนี่ย ใครกันยะ บอกมาซะดีดีนะ” ซันนี่สงสัยกับคำพูดเจสสิก้ามากเพราะส่วนใหญ่คนที่มาจีบเจสสิก้าเพื่อนรักของเธอนั้น ไม่มีซักคนที่เจสสิก้าเรียกว่า ‘คนที่ฉันรักมากที่สุด’ ให้ฟังเธอฟังน่ะสิ
“อะร๊าย!!!! ฉันไม่รู้ไม่ชี้นะ” เจสสิก้าที่พูดกับซันนี่พร้อมหันหน้าหนีเพราะตอนนี้เธอเขินจนหน้าแดงไปแล้ว
“อย่าบอกนะ ว่าเป็นคนที่แกเล่าให้ฉันฟัง ที่อยู่บ้านเดียวกับเธอน่ะ” ซันนี่จำได้ว่าเจสสิก้าเคยเล่าว่าแอบรักคนๆหนึ่งที่อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่ใช่ญาติ เพราะพ่อหรือคุณจองสงสารจึงรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตั้งแต่วันที่คนๆนี้เข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับเจสสิก้า ก็ไม่มีวันไหนเลยที่เจสสิก้าไม่หวั่นไหวให้กับ ‘เธอ’ คนนี้
“เจส ฟานี่ไม่เป็นไรแล้ว เจสอย่าไปเอาเรื่องเขาเลยนะ” ทิฟฟานี่ที่พูดดักเจสสิก้าเอาไว้เพราะกลัวเจสสิก้าจะเอาเรื่องถึงขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเธอเห็นเจสสิก้าตกลงกับคู่กรณีนานแล้วยังไม่กลับมาซะที จึงเดินไปหาเจสสิก้า
“อ่าว ฟานี่ลงมาจากรถทำไม เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เจสสิก้าที่คุยกับซันนี่เพลินจนลืมนึกถึงทิฟฟานี่ไป เมื่อได้ยินเสียงของทิฟฟานี่ทักมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เจสสิก้าจึงเดินไปประคองทิฟฟานี่ที่ดูอ่อนล้าเต็มที
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ทางที่ดีเราอย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ” ทิฟฟานี่ที่ยังไม่รู้ว่าซันนี่คือเพื่อนสนิทของเจสสิก้าก็พูดขอโทษซันนี่เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต
“คิคิ ชั้นลีซุนคยู เรียกซันนี่ก็ได้ เป็นเพื่อนสนิทของเจสจ๊ะ” ซันนี่ที่เห็นท่าทางของทิฟฟานี่ก็อดขำไม่ได้ พร้อมแนะนำตัวเองและส่งยิ้มหวานให้ทิฟฟานี่ ทางด้านเจสสิก้าที่เห็นทิฟฟานี่ยืนงง ประกอบกับไม่อยากให้ซันนี่ยิ้มแบบนั้นกับทิฟฟานี่ (ก็หึงนั่นแหละ) จึงแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันอย่างเป็นทางการ
“ฟานี่ นี่ซันนี่เป็นเพื่อนสนิทของเจสเอง ที่เจสเล่าให้ฟังว่าไปเรียนที่เมืองนอก 3 ปีไง ฟานี่จำได้มั้ย มันเพิ่งกลับมา แล้วก็โชคดีรถชนกับรถเราพอดีไง” เจสสิก้าอธิบายให้ทิฟฟานี่เข้าใจ
“ส่วนแก นี่ทิฟฟานี่ คนที่ฉันเล่าให้ฟังนั่นแหละ” เจสสิห้าที่หันไปบอกซันนี่แต่ก็ต้องหันหน้าหนีเพราะกลัวทิฟฟานี่และซันนี่จะเห็นหน้าของเธอที่ตอนนี้แดงไปหมดแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ” ทิฟฟานี่และซันนี่ทำความรู้จักกัน
“ยัยซันนี่ วันนี้ฉันกับฟานี่ต้องขอตัวก่อนนะ ฟานี่ดูเพลียมากแล้ว ฉันขอพาฟานี่กลับบ้านก่อนแล้วเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ที่บ้านฉันละกันนะ” เจสสิก้าบอกซันนี่เพราะเธอเห็นทิฟฟานี่เพลียมากจึงจะพากลับบ้าน
“จ๊ะ จะขอตัวหรือขอหัวใจก็เอาไปด้วยละกันนะ แต่อย่าลืมหัวใจตัวเองไว้ที่คนอื่นล่ะ” ซันนี่อดแกล้งเจสสิก้าไม่ได้ที่เป็นห่วงทิฟฟานี่ออกนอกหน้า
“ย่ะ ฉันไปละนะ บาย” เจสสิก้ายิ้มแก้มปริพร้อมบอกลาเพื่อนตัวเองเพราะทิฟฟานี่เหมือนจะไม่มีแรงยืนด้วยซ้ำ ทั้งสามบอกลากันและแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
อีกด้านหนึ่ง ณ ที่ไหนซักแห่งในกรุงโซล
“เพื่อนยุน เพื่อนยุน เป็นอะไรมั้ย” ซูยองถามเพื่อนคู่หูนักข่าวสุดซี้ของตัวเองหลังจากเกิดเหตุรถชน
“โอ๊ย! เพื่อนหยองเพื่อนยุนเจ็บหัวอะ” ยุนอาที่เป็นคนขับรถเอ่ยหลังจากที่รถหยุดนิ่งแล้ว
“ไหน เพื่อนยุนเจ็บตรงไหนอีกมั้ย” ซูยองถามเพื่อความแน่ใจ
“ไม่อะ มีที่หัวที่เดียว แกดูให้หน่อยสิเพื่อนหยอง” ยุนอาขอให้ซูยองตรวจดูความผิดปกติภายนอกของตน
“เฮ้ย งานเข้าละเพื่อนยุน” ซูยองตกใจเหมือนบ้านตัวเองถูกไฟไหม้
“ทำไมอะ อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิ ฉันกลัวนะ” ยุนอาที่ตอนนี้เริ่มใจเสียเพราะท่าทางของซูยองที่ตกใจเหมือนบ้านไฟไหม้ ทำให้ยุนอาน้ำตาเริ่มคลอ
“ กะ..แก....หัวแตกอะ” ซูยองบอกคู่หูของเธอ
“ห้ะ! หัวแตกฉันไม่ไปโรงพยาบาลนะเพื่อนหยอง ฉันกลัว” ยุนอาพูดห้ามซูยองไม่ให้พาเธอไปโรงพยาบาลเพราะยุนอาเกลียดโรงพยาบาลเป็นซีวิตจิตใจเลยน่ะสิ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณขับรถชนรถฉัน” แทยอนบอกเตือนสติคู่กรณี
“ค่ะ ดิชั้นต้องขอโทษด้วย รถคุณเสียหายตรงไหนมั้ยคะ มีใครบาดเจ็บรึเปล่าคะ” ซูยองที่ลงจากรถก่อนยุนอาก็จัดการตกลงเพื่อให้เรื่องรีบๆจบ
“ทางฉันไม่มีใครเป็นอะไรมากหรอกค่ะ รถก็ไม่ได้เสียอะไร ทางคุณล่ะคะ” แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“นิดหน่อยน่ะค่ะ เอาเป็นว่าเราต่างคนต่างจัดการเรื่องของตัวเองดีมั้ยคะ เพราะแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครเป็นอะไรมาก” ซูยองเสนอขึ้นเพราะต้องรีบพายุนอาไปโรงพยาบาล ในขณะที่ซูยองกำลังเคลียร์กับแทยอนอยู่ ยุนอาก็เปิดประตู
รถลงมา
“ยุน / ไอ่ยุน” แทยอนและยูริร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นน้องที่พวกเขารู้จักและสนิทเป็นอย่างดี
“พี่ยูล พี่แท” ยุนอาที่ดูเหมือนจะอึ้งกับการได้เจอพี่และเพื่อนของพี่ตัวเองร้องขึ้น
“อ่าว หนิแกรู้จักกันเหรอ เพื่อนยุน” ซูยองถามด้วยความงุนงง
“ไม่ใช่แค่รู้จักหรอก คลานตามกันมาเลยแหละ” ยูริที่นิ่งเงียบมานานพูดขึ้น
“ใช่ นี่พี่ยูริพี่ฉันเอง ส่วนนี่พี่แทยอนคูหู่สุดซี้ของพี่ฉันเอง” ยุนอาแนะนำยูริและแทยอนให้ซูยองรู้จัก
“พี่ยูล พี่แท นี่ซูยองแฟนยุนเอง” ยุนอาแนะนำซูยองให้พี่ทั้งสอง
“ห้ะ!” เสียงของลิงและหมาประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ฮ่าฮ่า ยุนล้อเล่น นี่เพื่อนสุดซี้ของยุนเอง เพื่อนหยอง” ประโยคนี่ทำให้ลิงกับหมาที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกในตอนแรกกลับสู่สภาพปกติ (อันที่จริงต้องเป็นลิงกับหมาที่ตาแตก)
“ตกลงไม่ได้เป็นอะไรกันใช่มั้ย?” ยูริถามเพื่อความแน่ใจ
“ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกค่ะ” ซูยองรีบบอกยูริและแทยอนเพื่อไม่ให้ถูกเข้าใจผิด
“แล้วไป...แล้วนี่แกขับรถท่าไหนห้ะ ยุนอา ทำไมถึงประมาทแบบนี้ ถ้าคนที่แกชนไม่ใช่พวกฉันแล้วรู้มั้ยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น อย่าให้มีคราวหน้านะ ควอน ยุนอา” ยูริสวดน้องตัวเองเปรียบได้กับแม่คนที่ 2 ของยุนอา
“ยุนต้องขอโทษจริงๆ ยุนทำงานหนักเลยหลับในน่ะ” ยุนอายอมรับผิดแต่โดยดี
“ยังดีนะ ที่มีซูยองมาด้วยไม่งั้นแกเป็นหนักกว่านี้แน่” ยูริยิ้มส่งให้ซูยอง
“แล้วยุนเป็นอะไรมากมั้ย บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า” แทยอนถามน้องที่ตนเองซี้ด้วยความเป็นห่วง
“แค่หัวแตกน่ะค่ะ ซูกำลังจะพามันไปโรงพยาบาล” ซูยองตอบแทนยุนอา
“ก็ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก แล้วเรื่องรถแกล่ะ” ยูริเอ่ยปากถามยุนอา
“ไม่เป็นไรพี่ยูล เดี๋ยวยุนให้เพื่อนหยองจัดการ บ้านมันเปิดอู่รถน่ะ” ยุนอามองซูยองเพื่อแสดงว่า ‘เค้าฝากรถเค้าให้ตัวเองดูแลนะ’ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ^^
“อ่อ ฉันว่าแกรีบไปโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าทำแผลแล้วก็รีบกลับไปพักผ่อนที่หอซะ อย่าไปซ่าส์ที่ไหนอีกล่ะ เข้าใจมั้ย!!” ยูริที่เป็นห่วงน้องตัวเองพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เดี๋ยวซูดูแลให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ว่าแต่พวกพี่ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยคะ” ซูยองถามด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ พี่ไม่เป็นไรมากหรอก พี่ขอตัวนะ พรุ่งนี้มีงานน่ะ.....ป่ะแทกลับหอ” ยูริลาซูยองและยุนอา
“แล้วเดี๋ยวยุนจะโทรหานะ”
“อืม ดูแลตัวเองดีดีล่ะ ทั้งสองคนน่ะ” ฝ่ายพี่บอกลาและขับรถออกไป
“ฮึๆๆ เพื่อนยุน เลสโกทูโรงพยาบาล” ซูยองยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยก่อนจะพาเพื่อนของตนไปโรงพยาบาล
ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
“แกนั่งรอแถวนี้แหละ เดี๋ยวฉันไปเอาคิวให้” ซูยองบอกและเดินไปจัดการแทนเพื่อนที่สีหน้าซีดกว่ากระดาษซะอีก
“ขอเชิญคุณควอน ยุนอา ที่ห้องตรวจหมายเลข 4 ค่ะ” ผ่านไป 5 นาที ยุนอาก็เพิ่งได้ยินเสียงจากโรงพยาบาล นี่ถ้าไม่ประกาศจะนึกว่าตัดหางปล่อยวัดแล้วนะเนี่ย
“เชิญนั่งก่อนค่ะ คุณเป็นอะไรมาคะ” หมอที่หันหลังให้ยุนอาถามขึ้น
“หัวแตก เจ็บมากกกกกกกกก” ยุนอาตอบอย่างเซ็งๆเพราะเธอเกลียดโรงพยาบาลมากน่ะสิ
“อ่อ งั้นเชิญขึ้นเตียงก่อนนะคะ หมอจะได้ทำแผลให้” หมอหันมาพูดกับยุนอา
“อ่อ จะให้ขึ้นเตียงเลยเหรอคะ มันไม่เร็วไปเหรอ ^^” ยุนอาถามหมอตรงหน้าด้วยคำพูดสองแง่สองง่าม
“อ่าวคุณ ไม่รีบขึ้นเดี๋ยวเลือดก็ไหลหมดตัวพอดีสิคะ รีบขึ้นเตียงเร็ว” หมอคนสวยยิ้มให้คนไข้ที่ทำตัวเหมือนเด็ก
“คุณหมอชื่ออะไรเหรอคะ” เสียงยุนอาดังขึ้นกลบความเงียบที่มีมาได้ซักพัก
“หมอชื่อซอจูฮยอนค่ะ” ทางด้านหมอคนสวยก็งงกับร่างสูงที่อยู่ดีดีก็ถามคำถามนี้แต่เธอก็ตอบไปอย่างไม่คิดอะไร
“หมอซอนี่สวยจริงๆนะคะ มีแฟนรึยังเอ่ย” ยุนอาถามซอจูฮยอน
“ยังไม่มีค่ะ คุณถามทำไมเหรอคะ” ทางด้านซอฮยอนก็ตอบคำถามไปตามมารยาทแต่ก็ต้องตัดสินใจถามออกไป ก็คนตรงหน้าน่ะสิ เจอหน้ากันครั้งแรกก็เล่นถามคำถามแบบนี้ออกมา
“อ่อ เปล่าค่ะ” ยุนอาที่ได้ยินคำตอบก็ยิ้มเริงร่าเหมือนกวางได้ผักบุ้งจนซอจูฮยอนยังเอือม (O_!!!)
“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวหมอจะให้ยาไปทานนะคะจะได้หายเร็วขึ้นแล้วก็ระวังอย่าให้แผลถูกน้ำบ่อยนะคะ เดี๋ยวจะไม่หาย” ซอฮยอนบอกกับยุนอาที่ตอนนี้ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ
‘เฮ้ย ทำไงวะเนี่ย ทำไมมันเสร็จเร็วแบบนี้อะ ไม่เอาๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยที’ เสียงความคิดของยุนอาดังขึ้นในโสตประสาท
“โอ๊ย! คุณหมอ ฉันปวดหัวจังเลย โอ๊ย! ไม่ไหวแล้ว” ยุนอาร้องขึ้นทำให้ซอฮยอนตกใจ
“คุณเจ็บตรงไหนคะ” ซอฮยอนรีบเข้าไปดูยุนอาที่จู่ๆก็ร้องครวญครางออกมา
“ทั้งเจ็บทั้งปวดเลย คุณหมอช่วยฉันด้วย” เสียงยุนอาที่ตอนนี้แสดงได้รางวัลออสการ์ไปแล้ว
“หมอว่าทำสแกนสมองดีกว่าคะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร รีบไปเถอะคะ” ซอฮยอนพูดพลางนำยุนอาไปห้องสแกนสมอง
ผ่านไป 45 นาที
“ผลตรวจออกมาแล้วนะคะ สมองคุณก็ปกติดีไม่มีอะไรที่ผิดปกติ คุณยังปวดหรือว่าเจ็บตรงไหนอยู่มั้ยคะ”
หมอสาวตรงหน้ายุนอาถามเพื่อความแน่ใจ
“เจ็บค่ะ เจ็บมากด้วย” ยุนอาพูดขึ้น ทำให้ซอฮยอนสงสัยว่าคนไข้ของตนนั้นเจ็บตรงไหนแต่ก็ไม่ทันที่จะถาม
ยุนอาก็จับมือของซอฮยอนแล้วเอามาทาบกับหน้าอกข้างซ้ายของตน
“เจ็บตรงนี้ค่ะ มันรู้สึกแปลกๆตรงนี้ตั้งแต่เจอหน้าคุณหมอ คุณหมอจะช่วยรักษาให้ฉันได้มั้ยคะ” ยุนอาถามซอฮยอนซึ่งๆหน้าเพื่อจะเอาคำตอบ ซอฮยอนที่ตอนนี้ยังอึ้งกับการกระทำของยุนอาก็ต้องสะดุ้งเมื่อยุนอาเขยิบเข้ามาใกล้จนลมหายใจทั้งสองรดกัน ทั้งที่ใจจริงอยากจะผลักคนตรงหน้าออกไปให้ไกลก็ยังได้ แต่ทำไมวันนี้รู้สึกว่าเรี่ยวแรงที่มีมัน
หายไม่ไหนหมดแล้วก็ไม่รู้
“ได้มั้ยคะคุณหมอ” เมื่อเห็นซอฮยอนไม่พูด ยุนอาจึงเขยิบเข้าไปใกล้อีกจนซอฮยอนที่ถอยหนีต้องจนมุมกับกำแพง (ซอฮยอน: ตามตำราละครไทย เป๊ะ!)
“กะ ก็แล้วแต่คุณสิคะ” ซอฮยอนตอบพร้อมผลักยุนอาที่กำลังจะกอดเธอและหันหน้าหนีเพราะตอนนี้เธอเขินจนไม่สามารถมองหน้ายุนอาได้แล้ว (ซอฮยอน: ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้นี่ไรเตอร์)
“จ จริงเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ น้องซอ” ยุนอาพูดพร้อมยิ้มจนแก้มปริ
“ค คุณ ใครเป็นน้องคุณไม่ทราบคะ มาเรียกฉันว่าน้องทำไม” ซอฮยอนถามยุนอาอย่างตะกุกตะกักเพราะเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว
“ค่ะ ไม่เป็นน้องก็ไม่เป็น เป็นอย่างอื่นดีกว่าเนอะ ที่รัก” ยุนอาได้โอกาสก็แกล้งซอฮยอนที่ตอนนี้หันหลังให้เธออยู่
“ฉันไม่ใช่ที่รักคุณซักหน่อย อย่าเหมารวมเอาเองสิคะ” ซอฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่หน้าตากลับตรงข้ามกับเสียงอย่างสิ้นเชิง
“ไหนบอกว่าให้โอกาสฉันแล้วไงคะ อย่าลืมที่พูดสิที่รัก” ยุนอายังไม่หยุดแกล้งซอฮยอนแถมยังจับมือซอฮยอนเพื่อให้หันมาทางตน
“อีกอย่าง อย่าเรียกว่าคุณได้มั้ยคะ มันดูห่างเหิน เรียกว่ายุนได้มั้ย” ยุนอามองตาซอฮยอน ตาทั้งสองที่สอดประสานกัน ต่างฝ่ายต่างมองตากัน อาจเป็นเพราะอยากรู้จักอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
“ก็ได้ แต่คุณช่วยปล่อยมือฉันก่อนได้มั้ยคะ”
“อุ๊บ!” ยุนอาประกบปากตัวเองเข้ากับซอฮยอน ทำให้ซอฮยอนตกใจผลักยุนอาออกอย่างรวดเร็ว
“บอกแล้วไงคะ อย่าเรียกว่าคุณ ไม่งั้นยุนจะจูบน้องซออีกจริงๆด้วย” ยุนอาบอกซอฮยอนด้วยท่าทางที่เหมือนเด็กอนุบาล 3
“อย่าทำแบบนั้นนะคุณ เอ่ยยุน” ซอฮยอนที่กลัวยุนอาจะจูบตนอีกก็รีบเปลี่ยนสรรพนามทันที ทำให้ยุนอาขำกับท่าทีของหมอสาวสวยตรงหน้า
“ไว้วันพรุ่งนี้ยุนจะมาหาน้องซออีกนะคะ” พูดเสร็จยุนอาก็หอมแก้มซอฮยอนแล้วก็เดินออกจากห้องตรวจไป
ไม่ทันให้ซอฮยอนพูดอะไรซักคำ
“คนบ้า คุณเป็นใครกันนะ” ซอฮยอนพูดพร้อมเหลือบไปดูบัตรตรวจของยุนอา
“ควอน ยุนอา” สิ้นเสียงนี้ซอฮยอนก็ทำงานต่อไป
“เฮ้ย ไอ่เพื่อนยุนทำไมทำแผลนานอะหัวแตกเองนะ” ซูยองที่นั่งรอยุนอาจนรากงอกถามเพื่อนตัวดีของเธอที่เดินมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มจนน่าถีบ
“เพื่อนหยอง ฉันตกหลุมรักหมอคนสวยเข้าแล้วล่ะ” ยุนอาตอบซูยองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มน่าถีบเช่นเดิม
“อย่าบอกนะว่าที่มาช้าเนี่ย ไปจีบหมอมา” ซูยองละอยากจะถีบคนตรงหน้าซักสามรอบจริงๆ
“ทำมากกว่าจีบอีกล่ะ เพื่อนหยองกลับหอกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งงานให้บก.ไม่ทัน” ยุนอาพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถทิ้งให้ซูยองหมั่นไส้อยู่ข้างหลัง (ซูยอง: ก็ใครล่ะวะที่มัวแต่ไปนั่งจีบหมอ งานไม่เสร็จฉันฆ่าแกแน่ ไอ่กวางเหม่ง)
..TO BE CONTINUED..
ไรเตอร์ : หวัดดีจ้ารีดเดอร์ พอเดากันถูกมั้ยจ๊ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ ใครรอยูลสิก แททิฟ ซูซันอีกไม่นานเกินรอนะจ๊ะ หลับตาแล้วลืมตาเดี๋ยวก็มา (เร็วไปปะ) ตอนหน้าซูซันนะจ๊ะ (แล้วเมื่อไหร่จะได้อ่านแททิฟกะยูลสิกเนี่ย) ใจเย็นๆๆนะจ๊ะ แล้วเราจะรีบอัพนะ ถ้ามีคนอยากอ่านอะนะยังไงก็ฝากผลงานของเราด้วยนะ ขอกำลังใจด้วยนะคะ รักรีดเดอร์จ้า Saranghae >///<
ความคิดเห็น