คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 7 : เติมเต็ม
CHAPTER 7 : เติมเต็ม
ภาพที่เจสสิก้าและยูริเห็นเมื่อเปิดประตูเข้ามาเพื่อรับทิฟฟานี่กลับบ้านนั้นทำให้หัวใจที่เพิ่งจะถูกเยียวยาให้ดีขึ้นเมื่อวานต้องเจ็บอีก เจสสิก้ารู้สึกเจ็บสุดหัวใจเมื่อเห็นทิฟฟานี่และแทยอนนอนกอดกันอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล...ถ้ารู้ว่าจะมาเจออะไรแบบนี้เธอคงเลือกที่จะไม่รับรู้ดีกว่า ร่างสูงเมื่อเห็นทั้งสองนอนกอดกันเช่นนี้ก็รู้ดีแน่ว่าร่างบางข้างๆคงไม่สามารถทนได้ เมื่อมันเห็นตำตาขนาดนี้...น้ำตาใสๆของเจสสิก้าไหลอาบแก้มทั้งสอง นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่สามารถบอกได้ที่ร่างบางต้องเสียใจกับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามทำใจอยู่แต่ถ้าเธอเห็นภาพแบบนี้ ต่อหน้าต่อตาแบบนี้...เธอก็ไม่ใจแข็งพอที่จะยอมรับได้
เจสสิก้าเดินออกจากห้องพักของทิฟฟานี่ทันที น้ำตาที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ ความเจ็บปวดที่รู้สึกถึงขั้วหัวใจที่อ่อนแอลงมากของเธอทำให้เธออ่อนใจ แค่ขอเวลาทำใจกับเรื่องนี้ก็เท่านั้นเธอไม่ได้ต้องการให้ทิฟฟานี่มารักเธออย่างที่เธอหวัง...แค่ขอเวลาทำใจ แค่ขอเวลาที่จะเยียวยาหัวใจตนเองมากกว่านี้ไม่ใช่มาเจอกับภาพบาดตาบาดใจเหมือนเมื่อกี้ ทำไมฟ้าถึงกลั่นแกล้งเธอนักนะ
ยูริเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามเจสสิก้าออกมาเพราะไม่อยากปล่อยเจสสิก้าไว้คนเดียว เขารู้ดีว่าเจสสิก้ากำลังอ่อนแอ...ที่สำคัญคือเขาไม่อยากเห็นน้ำใสๆที่หลั่งไหลออกมาจากตาของร่างบางอีกแล้ว
“สิก้าไม่เป็นไรใช่มั้ย” ยูริพูดขึ้นเมื่อเจสสิก้าหยุดอยู่ที่กระจกและเหม่อมองไปรอบนอกโรงพยาบาล
“ยูล...สิก้าเจ็บ เจ็บมาก...สิก้าไม่ไหวแล้วยูล” เจสสิก้าร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม ทำไมเวลาแบบนี้ต้องมีแต่นายด้วยนะที่คอยอยู่เคียงข้างฉัน...ยูริ
“สิก้า....” ยูริพูดพร้อมดึงคนที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่เข้ามาเพื่อรับอ้อมกอดของตน...มันกี่ครั้งแล้วตั้งแต่
“สิก้าแค่อยากได้เวลา...เวลาทำใจแต่ทำไมเหตุการณ์มันต้องเป็นแบบนี้ด้วย” ร่างบางพูดให้ร่างสูง
“สิก้า...ยูลไม่รู้ว่าจะปลอบสิก้ายังไง แต่ยูลอยากให้สิก้ารู้ไว้ว่าเมื่อไหร่ที่สิก้าไม่มีใคร..
“ขอบคุณนะ...สิก้าดีขึ้นมากแล้วล่ะ” เจสสิก้าพูดก่อนจะผละออกจากยูริ ทั้งสองมองหน้ากันและก็ต้องหัวเราะออกมา..ไม่เข้าใจจริงๆว่าเวลามีปัญหาทีไรทำไมถึงลงเอยด้วยการกอดปลอบอีกฝ่ายเสมอ
“เอ๊ะ!..อะไรติดหน้าอะยูล” เจสสิก้าเขยิบเข้าไปเช็ดหน้าให้ยูริซึ่งยูริก็ยังงงๆกับท่าทีของเจสสิก้า ใครจะไปคิดว่าคนอย่างเจสสิก้าจะอ่อนโยนเป็นแถมยังมากเกินไปด้วยซ้ำ
“อ่ะ..ไหนเหรอ” ยูริร้องถามพลางยกมือขึ้นจับหน้าตัวเองเพื่อเอาสิ่งที่ติดหน้าออก แต่จับไปจับมาดันไปขว้าเอามือของร่างบางมาซะนี่
“อันนี้หรือเปล่าที่ติดหน้ายูลน่ะ” ยูริพูดติดตลกพร้อมจับมือเจสสิก้ามากุมไว้ที่แก้มของตน ทั้งสองยิ้มให้กันและเป็นฝ่ายยูริที่เขยิบเข้าไปหาเจสสิก้า ทางด้านเจสสิก้าก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ยูริทำแบบนี้แต่เธอก็ไม่ได้ผลักไสเลยแม้แต่น้อยอาจเป็นเพราะในเวลานี้เธอต้องการใครสักคนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้าง
“ถ้าเป็นอันนี้...ยูลยอมให้ติดไปตลอดชีวิตเลย” ประโยคนี้ทำเอาเจสสิก้าหน้าขึ้นสีและรอยยิ้ม
“จะบ้าเหรอ...สิก้าไม่เอาหรอกเมื่อยตายเลย” เจสสิก้าตอบกลับร่างสูงและนั่นก็ทำให้ร่างสูง
“อ๊ะ...มีอะไรติดหน้าสิก้าด้วย” ร่างสูงไม่พูดเปล่าแต่กลับใช้ริมฝีปากของตนจุมพิษที่ริมฝีปากของร่างบาง ร่างบางตกใจกับการกระทำของร่างสูงจึงร้องประท้วงออกมา..แต่ในที่สุดก็อ่อนโรยรายและปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น ตาของทั้งสองค่อยๆหลับลงอย่างช้าก่อนจะสัมผัสถึงความอบอุ่นที่ทั้งสองมีให้กัน
“อื้อ...” เสียงประท้วงของร่างบางดังขึ้นเมื่อเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจจึงทำให้ร่างสูงต้องปล่อยร่างบางเป็นอิสระ
“ยูลเอาออกให้แล้วนะ...ที่ติดอยู่ตรงหน้าสิก้าน่ะ” เมื่อปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระยูริก็พูดขึ้น
“ควอน ยูริ!!!!!” สิ้นเสียงนี้ก็ทำเอาร่างสูงกลัวจนหัวหด..จะอะไรซะอีก ก็ร่างบางกำลังจะปล่อย
“ยูลขอโทษ....สิก้าโกรธยูลเหรอ” ยูริทำเสียงอ่อย
“ไม่เห็นมีอะไรติดหน้าเลย...ไอ่ลิงเจ้าเล่ห์” เจสสิก้าพูดและเตรียมจะเดินหนีอีกคน
“ไม่มีที่ไหนล่ะ...ก็เมื่อกี้หน้าสิก้ายังมีความเศร้าติดอยู่เลยตอนนี้มันไม่มีแล้ว รู้มั้ย” เมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง” เจสสิก้าพูดขึ้นทำให้ยูริอดยิ้มไม่ได้ที่ทำให้เจสสิก้าหายเศร้าได้
“อื้ม..งั้นเอาไว้เมื่อไหร่ที่สิก้าเศร้าเดี๋ยวหมอยูลจะรักษาให้เอามั้ยคะ แต่คราวหน้ายูลอาจทำมากกว่านี้ก็ได้นะ” ยูริพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้เจสสิก้าอีกครั้ง
“หยุดเลย...ไอ่ลิงหื่น” พูดเสร็จเสียงหัวเราะก็ดังออกมา ให้มันได้อย่างนี้สิ...เสียใจทีไรเปลืองตัวตลอด
“ไปรับฟานี่กันเถอะ...เนอะ” เจสสิก้าพูดพลางยิ้มน้อยๆให้ยูริ ถึงมันจะเป็นรอยยิ้มที่ค่อนข้างจางแต่มันก็ยังดีที่ได้เห็นเจ้าหญิงยิ้มออก เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในห้องทิฟฟานี่ แทยอนและทิฟฟานี่ที่ตื่นอยู่ก่อนเล้วก็ทักทายกับทั้งสองที่เพิ่งเข้ามาใหม่รวมถึงซันนี่ก็เดินเข้ามาหาทิฟฟานี่ด้วย
“ฟานี่เป็นยังไงบ้าง...พร้อมจะกลับบ้านมั้ย” เจสสิก้าถามทิฟฟานี่ที่ดูเหมือนจะมีความสุขออกนอกหน้านอกตา คงไม่ใช่เพราะจะได้กลับหรอกมั้ง...ดูก็รู้ว่าเพราะอะไร
“ฟานี่ดีขึ้นมากแล้วล่ะ เรากลับกันเถอะ” ทิฟฟานี่ตอบเจสสิก้าแต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่แทยอนที่จัดการกับเสื้อผ้าและอาหารการกินของเธอ เจสสิก้าเมื่อเห็นอย่างนั้นก็สนองความต้องการให้ทิฟฟานี่...จะเพราะอะไรซะอีกก็น้อยใจน่ะสิ คนอุตส่าห์มารับแต่กลับสนใจคนอื่นมากกว่า
“งั้นฟานี่ให้แทยอนไปส่งละกันนะ..พอดีฉันนึกขึ้นได้ว่ามีงานต้องรีบไปด่วน” เจสสิก้าพูดพลางมองหน้ายูริเหมือนเป็นการขอความช่วยเหลือซึ่งยูริก็ยินดีจะช่วยเพราะถ้าปล่อยให้กลับด้วยกันมีหวัง...ได้เห็นหยดน้ำใสๆอีกแน่ๆ
“อ่าว..เจสไม่ว่างเหรอ ฟานี่ขอโทษที่ทำให้เจสลำบาก” ทิฟฟานี่ขอโทษเจสสิก้าเพราะคิดว่าเจสสิก้าสละเวลางานเพื่อมารับตน..แต่ในความเป็นจริงวันนี้มันเป็นวันว่างต่างหากล่ะ ฉันรีบเคลียร์งานเพื่อมารับเธอรู้บ้างมั้ยทิฟฟานี่...เฮ้อออออ!!!!
“อื้ม..งั้นฉันไปก่อนนะ” เจสสิก้าพูดเสร็จก็จับมือยูริเดินออกไปนอกห้องทันที
“เอ่อ...ซันแล้วเธอกลับยังไงไปกับฉันมั้ย” ทิฟฟานี่ถามซันนี่ที่ยืนงงอยู่เหมือนเธอเป็นส่วนเกินยังไง
(ไรเตอร์ : แล้วไปช่วยฟานี่ให้สมหวังกับแทแททำไมล่ะ...ซันนี่!!)
(ซันนี่ : ก็เพราะแกแต่งไง..ไอ่ไรเตอร์บ้า!!)
“เอ่อ..ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อฉันส่งคนมารับกลับ เธอกลับเถอะ” ซันนี่พูดเสร็จก็เดินกลับไปยังห้องของตัวเอง ให้มันได้อย่างนี้สิ เพื่อนเธอคนหนึ่งมีความรักอีกคนก็ผิดหวัง....เจริญค่ะ
“ฟานี่จะกลับเลยมั้ย..เดี๋ยวแทไปส่งนะ” แทยอนพูดเสร็จก็ถือของให้ทิฟฟานี่ ทั้งสองเดินออกจากโรงพยาบาลไป ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ทางด้านซันนี่ก็รอคนของพ่อมารับจนรากงอกเลยเผลอหลับไป
ผ่านไป 30 นาที
“รุงรังจริงยัยกระรอกเตี้ย...กลับเองก็ไม่ได้” ร่างสูงเดินมาหาห้องของลูกสาวเจ้านายที่ให้มารับกลับจากโรงพยาบาล ตกลงว่าเขาเป็นนักข่าวหรือว่าคนกันแน่ เงินเดือนก็ไม่ขึ้นให้...เพราะยัยกระรอกคนเดียวเลย
“ยัยกระ...” ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาก็อึ้งกับท่าทีของร่างเล็ก เวลานอนก็ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร น่ารักเหมือนกันนะ..เธอเนี่ย เมื่อคิดเช่นนั้นซูยองก็เดินเข้าไปใกล้ๆใบหน้าของร่างสูงเริ่มค่อยๆเลื่อนเข้าหาร่างเล็กจนเกือบจะติดกัน ในที่สุดซูยองก็ตัดสินใจ
.
.
.
“ตื่นได้แล้ว....ยัยเตี้ยยยยยยยยยย!” ซูยองตะโกนออกมาทำให้ซันนี่ที่หลับอยู่อย่างสบายตกใจและลืมตาขึ้นและก็ต้องตกใจอีกเมื่อผีเปรตอยู่ตรงหน้าเธอ..เธอจึงต่อยหน้าซูยองเข้าอย่างจัง
“ไอ่ผีบ้า...มากลางวันแสกๆ” ซันนี่สบถออกมาอย่างโมโห
“ผีอะไรล่ะ...ยัยเตี้ย ฉันเอง” ซูยองที่ล้มอยู่ที่พื้นยืนขึ้นพร้อมเอามือปิดตาตัวเอง...จะเหลือมั้ยเนี่ย ตาฉัน
“ไอ่บ้า...มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ใครจะไปรู้ล่ะ” ซันนี่พูดพลางหัวเราะเยาะร่างสูง
“ตลกมากมั้ยคุณ ฉันอุตส่าห์มารับคุณนะ” ซูยองหน้าบูดเบี้ยวหันหนีไปอีกทาง
“ไปทำแผลกัน” ซันนี่พูดพร้อมยกกระเป๋าของเธอและลากซูยองมาห้องตรวจข้างล่าง
“เอ้า..เข้าไปซิ” ซันนี่พูดเมื่อพยาบาลเรียกชื่อซูยองแต่เขาก็ไม่ยอมเข้าไปสักที ร่างเล็กจึงรำคาญ เลยลากกันเข้าไปทั้งคู่
“สวัสดีค่ะ...เป็นอะไรมาเหรอคะ” หมอสาวสวยถามคนไข้
“เออคือฉันต่อยตาเพื่อนน่ะค่ะ พอดีเข้าใจผิดกันนิดหน่อย” ซันนี่กัดฟันพูดพลางหันไปมองหน้า
“งั้นหมอขอดูหน่อยนะคะ” หมอสาวสวยตรวจซูยองพร้อมกับให้ยาไป เมื่อตรวจเสร็จซันนี่และซูยองจึงขอบคุณหมอและกำลังจะเดินออกจากห้องตรวจ แต่ว่าเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!
“โอ๊ย!!” ซูยองร้องออกมาเมื่อถูกเปิดประตูใส่หน้าและที่สำคัญคือตาเขาโดนลอบทำร้ายอีกแล้ว...วันนี้ถ้าจะเป็นวันซวยจริงๆแฮะ
“เพื่อนหยอง แกมายืนขวางทางทำไมเนี่ย” เสียงคุ้นหูของซูยองเอ่ยขึ้น เมื่อซูยองเงยหน้าขึ้นเท่านั้นแหละ...ไอ่กวางเหม่งแกทำฉันเจ็บบบบบ....ฉึกๆๆ!!! --*
“ไอ่เหม่ง..ฉันเจ็บนะ เปิดประตูทำไมไม่เคาะ ไอ่ประสาท!!” ซูยองตะโกนใส่ยุนอาที่ทำหน้าระรื่นยิ้มอย่างกวนจุดยืน...^^
“ขอโทษ พอดีฉันลืมเพราะความคิดถึงที่มีให้น้องซอมันบังตาน่ะ” ยุนอาพูดพร้อมหันหน้าไปมอง
“ซอไหนอีกล่ะ...ไอ่เพื่อนนรก” ซูยองยังฉุดไม่หายที่เพื่อนของตนเองทำเขาเจ็บรอบสอง
“ก็หมอที่ตรวจแกไง...ใช่มั้ยจ้ะ น้องซอที่รักของยุน” ยุนอาพูดอย่างมีความสุขพร้อมเดินเข้าไปโอบเอวซอฮยอนทำให้ซอฮยอนส่งสายตาเอฟเฟคให้ แต่มีเหรอที่กวางทะเล้นอย่างยุนอาจะสน
“พี่ยุน..ทำอะไรอายคนอื่นบ้างสิคะ” ซอฮยอนพูดปรามร่างสูงที่โอบเธอ..มันเขินนะรู้มั้ย
“น้องซอคะ..นี่เพื่อนยุนเอง ชื่อซูยอง เพื่อนหยองนี่น้องซอที่รักของเพื่อนยุน” ยุนอาพูดแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ซูยองแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง คนดี สวย เรียบร้อยอย่างซอฮยอนเนี่ยนะ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...ซอฮยอน” ซูยองพูดพร้อมโค้งให้ซอฮยอนก่อนที่จะรู้สึกเสียวสันหลัง...เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นกระรอกเอฟเฟค น่ากลัวกว่าเป็ดอีกนะ เห็นแล้วน่าจับกดจริงๆ (ไรเตอร์ : อ่าวเฮ้ย..ไม่ใช่มั้ง!!)
“งั้นซูขอตัวนะคะ...ไอ่เพื่อนยุนขากลับก็หาทางกลับเองนะ ฉันละหายสงสัยจริงๆว่าแกจะมารับยัยเตี้ย
เอ้ย..มารับซันนี่กับฉันทำไม” ซูยองอดแขวะเพื่อนตัวเองไม่ได้ พอบอกว่าจะมารับยัยเตี้ยที่โรงพยาบาลนี้ล่ะก็รีบมาไม่กลัวเขาหักเลยนะ..กวางสมัยนี้เขารวดเร็วกว่า 5Mbp อีกแฮะ
“อื้ม..ไปดูแลคุณซันนี่เถอะ” ยุนอาพูดเพราะเหลือบไปเห็นสีหน้าของซันนี่ตอนนี้มันแอบโหดเบาเบอย่างบอกไม่ถูก เมื่อร่ำลากันเสร็จยุนอาก็ช่วยซอฮยอนเก็บของที่โต๊ะ
“น้องซอหิวมั้ยคะ” ยุนอาถามร่างตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับ
“น้องซอวันนี้เหนื่อยมั้ยคะ” ยุนอาก้มหน้าก้มตาเก็บของเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาเพราะร่างตรงหน้าไม่ตอบคำถามเขาเลย...คิดอะไรอยู่นะถึงไม่สนใจกันเลย
“น้องซอรำคาญยุนเหรอ...ก็บอกยุนตรงๆไม่ต้องเย็นชาใส่ก็ได้ ยุนรู้สึกไม่ดีเลยนะ” ยุนอาพูดพลางก้มหน้าจะร้องไห้ แผนนี้จะสำเร็จมั้ยนะ
“อะ..ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือซอคิดอะไรเพลินไปก็เท่านั้นเอง” ซอฮยอนกำลังจะเอื้อมมือไปจับข้อมือของยุนอาแต่ยุนอาก็ดันหันหลังหนีก่อนพร้อมกับทำท่าปาดน้ำตาซะนี่...คิคิ แผนนี้เวิร์คจริงอะไรจริงแฮะ
“ยุนไปนะคะ..ไม่อยากทำให้น้องซอต้องรู้สึกแย่” ยุนอาพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินแต่ก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงแรงโอบจากด้านหลังและเสียงสะอื้นไห้ของอีกคน
“ฟังซอก่อนได้มั้ย..ซอขอโทษนะคะที่ไม่สนใจ แต่อย่าทำแบบนี้เลยนะ” ซอฮยอนสะอื้นเล็กน้อยเมื่อร่างสูงกำลังจะก้าวเท้าต่อไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่อร่างสูงที่เธอคิดว่าจะเดินหนีเธอไปกลับหันหลังมาและกอดปลอบเธออย่างอ่อนโยน
“ยุนขอโทษนะคะที่ทำให้น้องซอต้องร้องไห้” ยุนอาพูดพร้อมจุมพิษที่เปลือกตาของซอฮยอนเพื่อเป็นการปลอบ ซอฮยอนก็ยอมรับสัมผัสนั้นอย่างอ่อนโยนเช่นกัน จากที่จูบที่เปลือกตามันจึงเลยเถิดลงมาถึงปากจนได้ความรักถูกส่งผ่านไปทั่วร่างของทั้งสอง ถึงจะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน ถึงจะรวดเร็วจนดูไม่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็รู้ว่าความรู้สึกที่มีให้กันนั้นมันมากมายจนเกินกว่าจะทำลายลงได้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่ไม่มีวี่แววว่าทั้งสองจะผละออกจากกันจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครืดๆๆๆ” ซอฮยอนคลายกอดยุนอาก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์
“ค่ะ..เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านนะคะ” เมื่อวางสายเสร็จรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏบนใบหน้าของยุนอา ไม่คิดเลยว่าแกล้งน้อยใจแบบนี้จะทำให้รู้ความรู้สึกของน้องซอมากขนาดนี้..ยุนจะไม่มีวันทิ้งน้องซอเด็ดขาดและที่สำคัญคือ ยุนจะไม่ยอมให้ใครเอาน้องซอไปจากยุนแน่
“ยิ้มอะไรคะพี่ยุน” ซอฮยอนที่เขินยุนอาอยู่ร้องถามขึ้นเพราะไม่เข้าใจท่าทีของร่างสูงที่เอาแต่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวมาสักพัก ก่อนที่ร่างสูงจะเขยิบเข้ามาใกล้จะหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่
“เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย..ไม่อยู่ด้วยแล้ว ไปดีกว่า” ซอฮยอนพูดพลางเก็บกระเป๋าและจะเดินออกจากห้องไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อยุนอาดึงเธอทำให้เธอเซลงไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนที่ยุนอาจะปิดกั้นทางหนีโดยการเดินเข้าไปใกล้และค่อยๆย่อตัวเข้ามาซอฮยอน ซอฮยอนตกใจกับการกระทำของยุนอาจึงหลับตาปี๋ ยุนอาเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มชอบอกชอบใจก่อนที่จะจูบที่ปากของซอฮยอนอย่างรวดเร็วและเลื่อนไปกระซิบที่หูของซอฮยอน
“เมื่อกี้ที่ยุนเดินหนีน้องซอ...ยุนแกล้งน้องซอเล่นน่ะค่ะ” เมื่อพูดจบเท่านั้นแหละความหวานที่มีก็หดหายไป..ซอฮยอนผลักยุนอาออกก่อนจะเดินหนีไปแต่ยังไม่ทันจะถึงหน้าประตูก็โดนยุนอารั้งตัวไว้ซะก่อน
“ปล่อย!!..ควอน ยุนอา” เสียงเย็นชาที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของซอฮยอนทำเอาหัวใจของยุนอาสลายไปอย่างไม่มีชิ้นดี...เจ็บนะ
“น้องซอโกรธยุนเหรอ..ยุนขอโทษนะคะ” ยุนอาพูดและพยายามดึงซอฮยอนเข้ามากอดแต่ซอฮยอนกลับผลักออกไปและเตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง
“ต่อจากนี้เราจะไม่รู้จักกันอีก...คุณควอน ยุนอา” ซอฮยอนพูดก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“น้องซออย่าทำแบบนี้เลยนะ ยุนเจ็บ ขอร้องนะคะ” ยุนอายังไม่หยุดขอร้องซอฮยอน
“ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณขอด้วยคะ..ควอน ยุนอา” ซอฮยอนยังไม่เลิกกดดันยุนอา
“ก็เพราะว่ายุนรักน้องซอ...ยุนไม่ต้องการเสียน้องซอไปให้ใคร ขอร้องนะคะอย่าทำแบบนี้เลยนะ”
“เห็นมั้ยคะ...ทีพี่ยุนยังไม่อยากเสียซอไปให้ใครเลย แล้วพี่ยุนไม่คิดบ้างเหรอคะว่าซอก็ไม่อยากเสียพี่
“พี่ยุนจำหน้าคนที่พี่ยุนจับให้ดีดีนะคะ เพราะว่าคนๆนี้จะเป็นคนที่ยอมให้พี่ยุนครอบครองได้คนเดียว”
“น้องซอ...ขอบคุณนะคะ” ยุนอาปาดน้ำตาที่ไหลเมื่อครู่และสวมกอดซอฮยอนอย่างมีความสุข
“ยุนก็จะเป็นคนที่ยอมให้น้องซอครอบครองได้แค่คนเดียวเหมือนกันค่ะ” ยุนอากระซิบบอกซอฮยอนและนั่นก็ทำให้ซอฮยอนเขินมากทีเดียว เมื่อเข้าใจกันดีแล้วทั้งสองจึงเดินไปที่รถเพื่อไปทานอาหารเย็นด้วยกัน ภาพที่เห็นก็ทำให้พยาบาลสาวแถวนั้นอิจฉากันเป็นแถวเพราะความหวานของทั้งสองนั้นมันมากจนล้นเลยน่ะสิ
(ไรเตอร์ : จะเขินทำไม...เค้าว่าซอทำมากกว่าที่ยุนยุนทำอีกนะ)
(ซอฮยอน : ก็ซอเขินนี่คะ..อย่าว่ากันสิ)
ทางด้านซูยองและซันนี่เดินเถียงกันมาตลอดทางจนถึงที่จอดรถก็ทำเอาคนแถวนั้นเครียดกันเป็นแถว ถ้าเอาไปแข่งโต้วาทีก็คงชนะเลิศระดับประเทศได้สบายๆ
“นี่เธอเดินให้มั้นเร็วๆหน่อยได้มั้ย..ห้ะ!!” ซันนี่พูดเพราะร่างสูงนั้นเดินช้า ก็ช้าเพราะใครล่ะที่เดินไปบ่นไปจนซูยองไม่กล้าอยู่ใกล้..ห่างกันสักเมตรสองเมตรก็ดีนะ ยัยกระรอก
“ก็ฉันรำคาญที่เธอบ่นเลยไม่อยากอยู่ใกล้ พอใจมั้ย อะ..พี่ยูล คุณเจสสิก้า” ซูยองยืนเถียงอยู่กับซันนี่ก็เหลือบไปเห็นยูริและลูกสาวมาเฟียชื่อดังอย่างเจสสิก้า จอง เดินมาด้วยกันจึงร้องทักออกมา
“อ่าว...ซูยองมาทำอะไรเหรอ” ยูริร้องทักขึ้นเมื่อเห็นซูยอง เมื่อกี้ก็เห็นไอ่ยุนขับรถออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยหน้ายิ้มแย้ม ไอ่เราก็นึกว่ามาด้วยกัน
“อ่อ..พอดีมารับยัยเตี้ยนี่น่ะค่ะ” ซูยองพูดและชี้ไปที่ซันนี่
“อ่าว..ซันนี่ยังไม่กลับเหรอคะ ยูลนึกว่าซันนี่จะกลับไปตั้งนานแล้ว” ยูริพูดขึ้นเพราะคิดว่าป่านนี้ซันนี่น่าจะถึงบ้านแล้ว
“ค่ะ..ก็เสียเวลาไปกับไอ่ผีเปรตเนี่ยแหละ เลยไม่ได้กลับสักที” ยูริส่งยิ้มแห้งๆให้ซันนี่ก่อนที่จะหันไปมอง
เจสสิก้าที่เดินตามหลังมาในสภาพที่หมดมาดเจ้าหญิงน้ำแข็ง เจอเรื่องนี้ทีไรห้ามมันไม่ให้ไหลไม่ได้เลยนะ น้ำตาของฉันจะขอใช้วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายกับเรื่องของเธอได้มั้ย...ทิฟฟานี่
“ยัยเจส ไหนบอกว่ามีธุระด่วนไม่ใช่เหรอ..ทำไมสภาพแกเป็นแบบนี้” ซันนี่เดินเข้าไปหาเจสสิก้าและก็ต้องตกใจกับสภาพของเพื่อนของเธอ...ทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้นะ เจสสิก้า
“ยัยซัน..ยังไม่กลับเหรอ อ่อ พอดีธุระยกเลิกน่ะ” เจสสิก้าพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาที่สงสัยของซันนี่
“มันไม่มีธุระตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรือเปล่า..เจสสิก้า” ซันนี่ที่รู้ความคิดของเพื่อนตัวเองก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ สงสารเพื่อนตัวเองจริงๆแต่ก็ไม่มีทางออกที่ดีให้เพื่อนได้..ฉันนี่มันเป็นเพื่อนที่ไม่ดีเอาซะเลยนะ เจสสิก้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนรู้เรื่องของตนดีจึงยิ้มแห้งๆตอบกลับไปเป็นเชิงว่า..ที่คิดน่ะถูกแล้ว
“ฉันเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วซันนี่....ฉันเหนื่อยใจ ฉันเจ็บมากรู้มั้ย” เจสสิก้าบอกซันนี่อย่างเหนื่อยใจ ซันนี่ที่เห็นอย่างงั้นจึงดึงเจสสิก้าเข้าไปกอดปลอบ
“ไม่เป็นไร..บางทีอยู่ในฐานะที่ไม่ใช่คนรักก็อาจจะดีกว่านะ อย่างน้อยแกก็เป็นคนเดียวที่ยัยทิฟไว้ใจที่สุด แค่นี้ก็พอเล้วไม่ใช่เหรอ หืม” ซันนี่ปลอบเจสสิก้าก็ทำให้เจสสิก้าคิดได้และรู้สึกดีขึ้น
“ความรักไม่ใช่สุขที่เกิดจากการครอบครองแต่มันเป็นสุขที่เกิดจากการให้ความรักของเราแก่คนที่เรารัก แกว่าจริงมั้ย...ฉันอยากให้แกมองคนอื่นบ้าง อย่าปิดกั้นหัวใจตัวเองอีกต่อไปเลยนะ” ซันนี่ยังคงพูดปลอบ
“นั่นสิ..ตั้งแต่คบกันมาเธอพูดได้น่าฟังที่สุดก็วันนี้แหละ ขอบใจนะซันนี่” เจสสิก้าพูดขอบคุณซันนี่และยิ้มให้..ฉันจะยอมปล่อยเธอไปทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้เริ่มอะไรเลยเพราะฉันรักเธอนะทิฟฟานี่ รักที่เห็นเธอมีความสุขถึงแม้ว่าคนที่ทำให้เธอมีความสุขจะไม่ใช่ฉันก็ตาม....ฉันยอม
“ฉันว่าแกมองคนใกล้ตัวแกบ้างก็ดีนะเจส เพราะฉันคิดว่าเขาจะไม่ทำให้เธอเสียใจแน่นอน” ซันนี่พูดพลางมองไปยังยูริที่ยืนคุยกับซูยองอยู่
“รู้แล้วย่ะ...บอกตามตรงนะว่าเวลาที่ฉันอยู่กับยูล ฉันมีความสุขมากแบบนี้เค้าเรียกว่ารักมั้ย ซันนี่”
“ไม่รู้สิ...อยากรู้ก็ลองรักยูริดูสิ มาถามฉันทำไม” ซันนี่พูดขึ้นทำเอาเจสสิก้าถึงกับหน้าขึ้นสีทันที
“ยัยบ้า..กลับบ้านได้แล้วไป๊” เจสสิก้าทำท่าไล่เพื่อนสนิทของตนที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์
“รู้แล้วย่ะ” ซันนี่ตอบเจสสิก้า ทั้งสองต่างก็เดินมายังรถของตนซึ่งจอดอยู่ข้างกันพอดี...บังเอิญได้โล่
ทางด้านของยูริและซูยองที่คุยกันเรื่อยเปื่อยจนมาถึงเรื่องของเจสสิก้าก็ทำเอายูริสะกิดใจขึ้นมา
“พี่ยูล..ตอนวันงานเลี้ยง คุณเจสสิก้าได้รับบาดเจ็บอะไรมากมั้ยคะ” ซูยองถามขึ้นเพราะรู้ว่าเจสสิก้าถูกลอบทำร้ายในวันงานเลี้ยงเมื่อสี่วันก่อน
“สิก้าเกือบโดนข่มขืน..ทิฟฟานี่และซันนี่เกือบตายเพราะรถคว่ำ ซูคิดว่าแปลกมั้ยที่เรื่องแบบี้จะเกิดขึ้นในเวลาที่ไล่เลี้ยกัน” ยูริถามซูยอง
“แปลกค่ะ.แปลกมากด้วย เอ๊ะ! รู้สึกว่าในวันงานตอนไฟดับ ซูได้ยินผู้ชายคนหนึ่งคุยโทรศัพท์กับนายของมันเรื่องจัดการกับคุณเจสสิก้าแล้วไม่สำเร็จ..แล้วพวกมันก็บอกว่า...” ซูยองบอกสิ่งที่ตนได้ยินกับยูริทำเอายูริดีใจเพราะอย่างน้อยก็ได้เบาะแสมาบ้างว่าใครที่ทำเรื่องแบบนี้ได้
“ว่าอะไร..พูดสิซูยอง” ยูริพูดใส่ซูยอง
“บอกว่าจัดการคุณเจสสิก้าพลาดเลยจะจัดการกับแผนขั้นต่อไปให้สำเร็จ..ประมาณนี้น่ะค่ะ” ซูยองพูดจบก็ทำให้ยูริยิ่งเครียดกว่าเดิม...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย
“ซู...งั้นเดี๋ยวพี่ขอรูปที่เราถ่ายตอนวันงานมาให้พี่ด้วยนะ เผื่อจะได้อะไรมากขึ้น แล้วที่ซูได้ยิน ยังมีใครได้ยินอีกมั้ย” ยูริถามซูยองเพื่อความแน่ใจ
“คิดว่าไม่มีนะคะเพราะตอนนั้นซูอยู่ที่ห้องน้ำ...จะมีก็แต่ยัยเตี้ยนี่แหละค่ะ” ซูยองพูดพลางชี้ไปที่ซันนี่ที่ยืนรอพวกเขาอยู่
“โอเค..งั้นเดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง ซูก็ไปเอารูปที่พี่ขอมาให้ด้วยนะ แล้วพี่ขออะไรอย่างได้มั้ย” ยูริพร้อมขอร้องซูยอง
“เรื่องอะไรคะ...พี่ยูล” ซูยองถามยูริ
“อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครนอกจากพี่คนเดียวเท่านั้น...ได้มั้ย” ยูริทำหน้าอ้อนวอนใส่ซูยองทำเอาซูยองไปไม่ถูกเลยทีเดียว
“ได้สิคะ เรื่องแค่นี้เอง...ซูว่าเราแยกย้ายกันเถอะค่ะ ก่อนที่ยัยกระรอกนั่นจะอาละวาด” ซูยองพูดพร้อมเดินนำ
ยูริไป เมื่อถึงรถทั้งสองคู่ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านไป
ภายในรถของยูริ
“สิก้า..ทำไมอารมณ์ดีขึ้นเร็วจังล่ะ” ยูริถามเจสสิก้า เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาเหมือนเจสสิก้าจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวมานาน
“ยูล...สิก้าจะตัดใจจากฟานี่แล้ว” เจสสิก้าตอบยูริทำเอายูริเครียดมากกว่าเดิม ถ้าเจสสิก้าตัดใจได้มันก็ดีอยู่หรอกนะ...แต่ถ้าต้องการลืมแล้วหลอกตัวเองว่าตัดใจได้แล้วก็ไม่ประโยชน์อะไร ยิ่งเป็นการทำร้ายตัวเองให้เจ็บกว่าที่เป็นอยู่ด้วยซ้ำ
“สิก้าแน่ใจแล้วเหรอ..ยูลไม่อยากเห็นสิก้าเสียใจเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว รู้มั้ย”
“สิก้าแน่ใจ เพราะสิก้าคิดว่าสิก้ารู้ความรู้สึกตัวเองดี ว่าสิก้าชอบใคร” เจสสิก้าพูดด้วยความร่าเริงทำเอายูริที่ได้ยินก็แอบน้อยใจ...มีคนชอบอยู่แล้วเหรอ ไม่มีโอกาสแล้วสิเรา...เฮ้ออออออ
“งั้นเหรอ...ก็ดีแล้วล่ะ หวังว่าเขาคนนั้นคงจะไม่ทำให้สิก้าเสียใจนะ” ยูริพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อยลง
“ยูลคิดว่าสิก้าจะบอกชอบคนๆนั้นดีมั้ย” เจสสิก้าตีหน้านิ่งถามยูริไป
“ดีสิ..ยูลว่าสิก้าบอกชอบคนที่สิก้าชอบไปเลย ดีกว่าเก็บไว้แล้วไม่มีโอกาสได้บอกนะ” ยูริตอบเจสสิก้า แต่ถึงจะแนะนำไปยังงั้นก็เถอะ...ถึงทีตัวเองก็คงไม่กล้าบอกเหมือนกัน เลยไม่มีโอกาสได้บอกความรู้สึกที่มีให้เธอรู้เหมือนอย่างตอนนี้ไงล่ะ เจสสิก้า
“นั่นสิ..งั้นเดี๋ยวยูลจอดรถแปปนึงได้มั้ย” เจสสิก้าพูดแบบนี้ก็เล่นทำให้ยูริงงไปใหญ่..นี่จะโทรบอกชอบคนๆนั้นตอนนี้จริงๆน่ะเหรอ ฉันเจ็บเป็นนะเจสสิก้า เมื่อได้ยินเช่นนั้นยูริจึงจอดรถข้างทางตามที่เจสสิก้าบอก
“ยูลช่วยหลับตาแปปนึงได้มั้ย” ยูริได้ฟังก็งงรอบสอง..นี่ไม่อยากให้ฉันเห็นหน้าเธอตอนบอกชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันยินดีทำให้เธอ ถึงแม้ว่าฉันจะเจ็บ ยูริหลับตาลงทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าของเจสสิก้า ร่างบางค่อยๆโน้มตัวลงช้าๆจนริมผีปากของเธอจรดกับริมฝีปากของร่างสูง ร่างสูงที่รับรู้ได้ถึงสัมผัสนั้นก็ตกใจแต่ก็ยอมให้กับร่างบางเพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ร่างบางจะทำแบบนี้...เพราะเจสสิก้ามีคนที่ชอบแล้ว จูบที่เนิ่นนานและอยากที่จะหาจุดจบ จนเจสสิก้าจำเป็นต้องถอนริมฝีปากออกมาเพราะไม่อย่างงั้นเธอได้ขาดอากาศหายใจเป็นแน่
“ยูลขอโทษค่ะ” ยูริกล่าวขอโทษเพราะรู้ดีว่าเป็นเพราะความอยากของตนทำให้เจสสิก้าเกือบขาดอากาศหายใจไป
“ยูลเคยจูบกับใครแบบนี้มั้ย” เจสสิก้าถามยูริก็ทำเอายูริหน้าขึ้นสีกว่าเดิม
“ยูลไม่เคยจูบกับใครมาก่อน...สิก้าเป็นคนแรก” ยูริพูดออกไปอย่างติดขัด..ใครจะไปกล้าบอกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่ได้จูบแรกของเขาไป
“อยากรู้มั้ยว่าสิก้าเคยจูบกับใครแบบนี้หรือเปล่า” เจสสิก้าพูดพลางใช้นิ้วลูบไล้ใบหน้าของยูริเหมือนกับจะแกล้งให้ทรมานเล่น
“ถ้าสิก้าอยากบอก ยูลก็จะรับฟัง” ยูริก็แอบเข้าข้างตัวเองเหมือนกันว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ได้สิทธิ์ตรงนั้นไป แต่มันจะเป็นไปได้เหรอในเมื่อเจ้าหญิงตระกูลจองมีโอกาสเลือกคนอื่นมากกว่าเขา
“สิก้าไม่เคยยอมให้ใครจูบและจูบใครก่อน ยูลเป็นคนแรกที่ได้มันไป” เจสสิก้ามองยูริอย่างค้นหา ยูริก็ไม่แพ้กันเพราะรู้สึกว่าหัวใจจะเต้นแรงเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้จูบเจ้าหญิงตระกูลจองอย่างเจสสิก้า
“สิก้าชอบยูล เวลาที่ยูลอยู่เคียงข้างสิก้าและคอยปลอบโยน มันทำให้สิก้ารู้สึกว่าขาดยูลไม่ได้” เมื่อยูริได้ยินอย่างนั้นถึงกับอึ้ง..ยอมรับว่าอึ้งจริงๆ ฉันดีใจนะที่เธอคิดเหมือนกัน เจสสิก้า
“ย ยูลไม่คิดว่าสิก้าจะชอบยูล แต่ยูลดีใจมากเลยรู้มั้ยเพราะยูลคิดว่ายูลอาจจะต้องเสียสิก้าไปเพราะความไม่กล้าของตัวเอง ไม่กล้าที่จะบอกชอบสิก้า สิก้าช่วยบอกให้ฟังชัดๆอีกทีได้มั้ย” ยูริจ้องตาเจสสิก้าอย่างหาคำตอบแต่เจสสิก้านึกอยากแกล้งจึงไม่เล่นด้วย
“ของดีมีรอบเดียว...ไม่พูดแล้ว กลับบ้านกันเถอะ” เจสสิก้าตีหน้านิ่งบอกยูริแต่มีเหรอที่ยูริจะไม่รู้
“ยูลก็ชอบสิก้า..แล้วยูลก็จะไม่ปล่อยให้คนที่ยูลชอบต้องเจ็บหรือมีน้ำตาอีก ยูลสัญญา” ยูริพูดพร้อมยกยิ้มทำให้เจสสิก้าหมั่นไส้จึงตีที่แขนไปทีหนึ่ง...ให้มันได้อย่างนี้สิ ให้ฉันเป็นฝ่ายบอกชอบก่อนมันไม่แมนเลยรู้มั้ย ควอน ยูริ....
หลังจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้ากลับมายังบ้านของเจสสิก้า บ้านที่ถ้าหากรวมราคาแล้วคงต้องเอาเงินเดือนคูณกับโบนัสไปถึงชาติหน้าก็ยังไม่พอ ยูริลงรถและไปเปิดประตูให้เจสสิก้าเพื่อให้ร่างบางได้ไปพักผ่อน
“เข้าไปข้างในก่อนสิ..ไอ่ลิง” เจสสิก้าพูดพลางเดินนำหน้ามาปล่อยให้ยูริยืนเป็นรูปปั้นลิงอยู่สักพัก
“เดี๋ยวยัยเป็ดสิบแปดหลอด!!!” ยูริรีบวิ่งไปพร้อมกับสอดประสานมือของเขาเข้ากับของร่างบาง เมื่อร่างบางรู้สึกถึงสิ่งที่กอบกุมมือข้างหนึ่งของเธอก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทั้งสองเดินเข้าบ้านไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนที่อยู่ในบ้านกลับมีทิฟฟานี่และแทยอนที่นั่งรอพวกเธออยู่ พร้อมกับคุณจองผู้เป็นบิดาของเจ้าหญิงแห่งตระกูลจอง
“มาพอดีเลย..พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก รวมทั้งคุณด้วย คุณควอน”
..TO BE CONTINUED..
ไรเตอร์ : กลับมาแล้วค่ะ ลงช้าหน่อยนะเพราะเอาคอมไปลงวินโดใหม่เลยช้าค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ตอนหน้าจะเริ่มสนุกขึ้นแน่นอน..สาวกแทนี่อย่าเพิ่งโกรธนะคะที่แทนี่มีน้อยเพราะคู่นี้เวลาจะหวานกันทีก็น้ำเชื่อมเรียกทวดค่ะ...มีคนเรียกร้องคู่ยุนซอมา ไรเตอร์เลยจัดให้ค่ะ..ต้องขอโทษคนที่ไรเตอร์บอกว่าจะลงวันที่ 2 ตุลาด้วยนะคะ...แต่ตอนนี้ก็เลยมาไม่มากนะแค่ชั่วโมงกว่าๆเอง อิอิ อย่าลืมติดตาม GEE JAPAN ของพี่สาวนะคะ บ๊าย บาย
ความคิดเห็น