ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] :: WAVER HEART เธอคนนี้ ฉันขอก(อ)ด :: มีทุกคู่

    ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 6 : ดูแล

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 54



    CHAPTER 6 : ดูแล

     

                    โครมมมม!!!”

     

     

     

                     ฟานี่!!!!!!!”

    .

    .

    .

     

                    แทยอนร้องตะโกนขึ้นเมื่อรถของทิฟฟานี่และซันนี่คว่ำลงข้างทางไปต่อหน้าต่อตาของเขา  แทยอนรีบดับเครื่องรถและวิ่งลงไปหาทิฟฟานี่และซันนี่ที่อยู่ในรถ...พวกเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย!! เมื่อไปถึงแทยอนจึงโทรแจ้งตำรวจ

                    แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายค่ะ   ค่ะที่ถนน....   รีบมานะค่ะ   หลังจากที่แทยอนโทรแจ้งตำรวจ  เขาก็พยายามหาทางเปิดประตูรถจนในที่สุดก็สามารถเปิดประตูได้

                    ฟานี่..ฟานี่อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ   แทมาช่วยแล้ว   แทยอนรีบเข้าไปช่วยทิฟฟานี่ซึ่งเหมือนจะได้รีบบาดเจ็บ

    แต่สัญชาตญาณของตำรวจบอกเขาว่าไม่ควรช่วยเหลือคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อบาดเจ็บยิ่งรถคว่ำแบบนี้ยิ่งไม่ควร

                    รอรถพยาบาลก่อนนะฟานี่...อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะคะ   แทยอนบอกทิฟฟานี่ซึ่งได้แต่พยักหน้าให้เขาแต่เท่านี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วว่าเธอยังปลอดภัย

                    อืม......แทแทช่วยซันนี่ด้วย   ทิฟฟานี่รวบรวมสติครั้งสุดท้ายและเอื้อนเอ่ยตอบแทยอนจนสลบไป

                    ฟานี่!!”   แทยอนตกใจมากที่ทิฟฟานี่หมดสติไป   แทยอนจึงไปดูทางด้านซันนี่และคนขับ  ทางด้านคนขับท่าทางบาดเจ็บสาหัสส่วนซันนี่เหมือนจะไม่ต่างจากทิฟฟานี่เท่าไหร่เพราะทั้งสองนั่งข้างหลังทั้งคู่

     


                   ไม่นานรถพยาบาลและรถตำรวจก็มา

                    หลีกทางหน่อยครับ...ผมจะได้ทำงานได้เร็วขึ้น   บุรุษพยาบาลรีบหามเปลพยาบาลมาช่วยคนขับ ทิฟฟานี่และซันนี่ออกจากรถและพาไปโรงพยาบาลโดยเร็ว

                    แทยอน...ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น   ฮโยยอนที่เป็นผู้กำกับกองบัญชาการร้องถามขึ้น

                    ฉันว่าอุบัติเหตุครั้งนี้มันดูแปลกๆ..เหมือนเป็นการจงใจมากกว่า ฉันว่าต้องมีคนบงการอยู่ข้างหลังแน่นอนค่ะ  แทยอนบอกความคิดของตนให้หัวหน้าฟัง..ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับฮโยยอนที่เกิดความแคลงใจในเรื่องนี้ขึ้น ถ้าพูดถึงลูกมาเฟียชื่อดังในโซลคงไม่ปล่อยให้รถของลูกสาวตัวเองเป็นแบบนี้   นอกซะจากจะมีคนตัดสายเบรก

                    โอเค..งั้นเดี๋ยวเธอดูแลคนเจ็บทั้งสามคนส่วนฉันจะจัดการรถและทำเรื่องให้เอง   ฮโยยอนพูดขึ้นซึ่งแทยอนก็เห็นด้วยเพราะเขาก็เป็นห่วงทิฟฟานี่มากๆ

     

     

     

                    เมื่อเวลาผ่านไปตำรวจก็จัดการรถและเก็บร่องรอยหลักฐานต่างๆเสร็จจึงกลับสำนักงานไป ทางด้านแทยอนก็รีบไปโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการของทิฟฟานี่จนไม่ทันสังเกตเห็นชายคนหนึ่งที่หลบอยู่ตรงต้นไม้  เมื่อแทยอนกลับไปได้สักพัก...ชายคนนั้นก็โทรรายงานนายของตน

                    นายครับ...จัดการเรียบร้อยแล้วครับแต่เหมือนคุณเจสสิก้าจะไม่ได้อยู่ในรถ   ชายปริศนารายงานผลงานอันสุดแสนจะประทับใจให้นายฟัง

                    ครับ..เดี๋ยวผมจะตามไปดูให้ครับ   ครับนาย..สวัสดีครับ   เมื่อโทรศัพท์เสร็จชายคนนั้นก็ขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกไปทันที

     

     

     

     

     

                    หนิคุณ...เจสสิก้าถึงบ้านแล้วนะ ตื่นสิ   ร่างสูงพูดใส่เจสสิก้าที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ

                    อื้อ....ขออีกสิบนาที   เจสสิก้าพูดขึ้นทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาแต่ก็ต้องลืมตาขึ้นมาเพราะลมหายใจที่รดอยู่ตรงบริเวณแก้มใสของเธอ   เมื่อร่างบางลืมตาก็ต้องตกใจกับการกระทำของร่างสูงที่เหมือนจะพยายามลักหลับเธอ

                    หนิ...ไอ่ลิงหื่นหยุดเลยนะจะลักหลับฉันเหรอ   เจสสิก้าโวยวายขึ้นมาทำเอาร่างสูงอยากจะจับกดร่างบางซะตรงนี้จะได้หยุดพูดเองเออเองสักที...อย่าให้หมดความอดทนนะ   จะจับกดไม่ให้ลืมเลยคอยดู   ^^

                    เฮ้อ...หนิคุณทำไมชอบมองความหวังดีของคนอื่นผิดแบบนี้นะ   ยูริบ่นออกมาก่อนจะยันตัวเองขึ้น

                    ก็ใครจะไปรู้ล่ะ...ตื่นขึ้นมาก็เห็นนายอยู่บนตัวฉันเนี่ย!!!”  เจสสิก้ายังโวยวายอยู่เรื่อยก่อนจะเอามือทุบตีร่างสูง

                    ฉันก็แค่จะเอนเบาะให้คุณหลับสบายมากขึ้นก็เท่านั้นเอง...คราวนี้ฉันผิดมากมั้ยเนี่ย ห้ะ!!”   ร่างสูงบอกก่อนจะงอนใส่ร่างบางที่นั่งข้างๆตน

                    ฉันขอโทษ...งอนหรือไง   เจสสิก้าขอโทษยูริแต่เหมือนยูริจะหันหน้าหนีเธอจนทำให้เธอต้องง้อร่างสูง

                    ไม่ได้งอนก็หันหน้ามาสิ   เจสสิก้าพูดกับร่างสูงที่ทำเหมือนหูทวนลมไม่ยอมหันมาสักที เธอจึงแกล้งร่างสูงด้วยการพูดจายั่วยวนใส่

                    ก็ไม่ได้งอนแต่ไม่อยากหัน   ยูริตอบออกไปแต่จริงๆก็แอบยิ้มที่มุมปาก...นี่คนอย่างเจสสิก้าง้อคนเป็นด้วยเหรอเนี่ย...แม่เจ้าสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก

                    ทำไม...กลัวหวั่นไหวหรือไง   เจสสิก้าไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าไปหาร่างสูงเพื่อจะแกล้งแต่ร่างสูงดันหันหน้ากลับมาพอดี   ทั้งสองจึงอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ...ทำไมถึงได้งดงามแบบนี้นะ เจ้าหญิงของฉัน เวลาอยู่ใกล้นายแบบนี้..รู้มั้ยว่าฉันแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว  ทำไมถึงเต้นรัวนักนะหัวใจเนี่ย   >///<   ทั้งสองเขยิบเข้าหากันเรื่อยๆ ไม่มีเสียงใดๆออกจากปากของทั้งสอง...ใบหน้าของทั้งสองเริ่มใกล้กันเรื่อยๆจนในที่สุดเหลือเพียงไม่ถึง 1 เซนติเมตร  ทั้งสองหลับตาลงช้าๆ   ใบหน้าค่อยๆขยับเข้าหากันทีละนิด...ในที่สุด

     

     

     

     

                    ....So-(o)u yoko no hoshi wa omoi toori    Futari nara nozomi toori
                    Mirai sae mo omito-oshi   Kanaete ageru   Koko ni iru wa (I’m genie for you boy)....

     

                   เสียงโทรศัพท์ของยูริก็ดังขึ้นทั้งสองค่อยผละออกจากกันอย่างช้าๆ...น่าเสียดายจริงๆ เจ้าหญิงของฉัน  เฮ้อ! เกือบไปแล้วนะเรา...คนที่เรารักคือฟานี่จะไปสนใจคนอื่นทำไม!!!  ควบคุมตัวเองหน่อยสิสิก้า

                    มีอะไรไอ่แท..โทรมาได้จังหวะดีจังนะ   ยูริพูดใส่แทยอนในหูโทรศัพท์ก่อนจะมองไปยังเจสสิก้าซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเจสสิก้าที่หันมามองยูริเพื่อจะถามว่าใครโทรมาพอดีแต่ได้ยินชื่อขนาดนั้นแล้วคงไม่ต้องถามหรอกมั้ง...

                    ไอ่ยูล...รถที่ฟานี่นั่งมาคว่ำรีบมาที่โรงพยาบาล....เร็วเข้า   แทยอนบอกยูริทำเอายูริตกใจไปด้วยหนิแขกที่อยู่ในความดูแลของเขาและแทยอนได้รับอันตรายถึงสองครั้งเลยเหรอ ? 

                    โอเคจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ...แค่นี้นะ   พูดเสร็จยูริก็วางโทรศัพท์ก่อนจะหันมาพูดกับร่างบาง

                    สิก้า...ฉันว่าคุณรีบลงรถเถอะ อย่าอาบน้ำดึกนะ ฉันต้องขอตัวก่อน   ยูริพูดพลางปลดสายเข็มขัดนิรภัยให้
    เจสสิก้า
    เจสสิก้าที่อยู่ในอาการมืนงงร้องถามก่อนที่ร่างสูงจะลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูรถให้เธอ

                    เดี๋ยว...มีเรื่องอะไรเหรอ  

                    รถของคุณที่ทิฟฟานี่กับซันนี่นั่งมาคว่ำ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลฉันต้องไปรีบดูอาการ คุณรีบอาบน้ำนอนเถอะนะ  ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวฉันจะบอกให้คุณรู้เป็นคนแรกเลย   ยูริตอบเจสสิก้าซึ่งก็ทำให้ร่างบางตกใจมาก ทำไมเรื่องเลวร้ายแบบนี้ถึงได้เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันแบบนี้

                    ฟานี่!!...ยัยซัน!!   ยูริฉันขอไปด้วยนะ..ขอร้องล่ะ   เจสสิก้าพูดพร้อมน้ำตาที่หลั่งไหลออกมา วันนี้เธอร้องไห้กี่รอบแล้วนะ...เจสสิก้า   ฉันรู้สึกผิดตลอดเวลาที่เห็นน้ำตาของเธอ   หยุดร้องเถอะนะ

                    ........   ไม่มีเสียงตอบจากยูริ ร่างสูงรีบสตาร์ทเครื่องและขับไปยังโรงพยาบาลที่แทยอนได้บอกไว้

     

     

     

     

                    เมื่อมาถึงยูริและเจสสิก้าก็รีบวิ่งมาที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาลทันที

     

                    ไอ่แท..มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง   ยูริถามแทยอนขึ้นมาทำเอาแทยอนตอบไม่ทัน  

                    รถถูกตัดสายเบรก...มีคนจงใจตัดสายเบรกรถของคุณเจสสิก้า ตำรวจตรวจดูรอยขาดแล้วบอกว่ามาจากของมีคมไม่ใช่ขาดโดยการสึกกร่อน   แทยอนตอบออกไปทำเอาเจสสิก้าถึงกับปล่อยโฮออกมา

                    เจสสิก้าอย่าร้องเลยนะ...คุณต้องเข้มแข็งไว้รู้มั้ย   ยูริเดินเข้าไปหาเจสสิก้าก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าของร่างบางที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าห้องไอซียู

                    ยูริ..ทำไมเรื่องร้ายๆแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของฉันด้วย   เจสสิก้าพูดพร้อมโผเข้ากอดยูริ แทยอนมองมาทางยูริเหมือนจะมีเรื่องคุยด้วย ยูริจึงขอตัวมาคุยกับแทยอนที่ระเบียงของโรงพยาบาล

                    ไอ่แท..แกรู้มั้ยว่าที่ฉันพาสิก้ากลับก่อนเป็นเพราะอะไร   ยูริเปิดบทสนทนาขึ้น

                    ก็แกบอกว่าคุณเจสสิก้าไม่สบายเลยพากลับก่อนไง   แทยอนตอบกลับไปทำเอาเพื่อนของเขาถอนหายใจออกมา

                    สิก้าโดนลอบทำร้าย..เธอเกือบโดนข่มขืนเพราะฉัน  ฉันไม่น่าพูดกับเธอแรงๆแบบนั้นเลย   ยูริพูดพลางมองไปที่เจสสิก้าที่นั่งร้องไห้อยู่และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

                    เป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน..เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่เนี่ย   แทยอนเริ่มสงสัยกับเหตุการณ์ที่บังเอิญเกิดกับคนในครอบครัวนี้ขึ้นมา...ที่สำคัญฟานี่ของเธอต้องมาเจ็บตัวโดยใช่เหตุ  

     

     

                    แทยอนหันไปมองเจสสิก้าที่นั่งร้องไห้อยู่ก็คิดว่าเรื่องที่ยูริพูดน่าจะเป็นความจริงเพราะดูจากสภาพของเจสสิก้าตอนนี้แล้วหากไม่มีสูทของยูริแล้วคงแย่แน่ๆ

                    ฉันว่ามีคนต้องการจะทำร้ายเจสสิก้าแต่ทิฟฟานี่กับซันนี่ดันมารับเคราะห์แทน คนร้ายคงไม่รู้ว่าฉันพาสิก้ากลับไปก่อน...แกล่ะคิดว่าไง   ยูริพูดประเมินสถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้ให้แทยอนฟัง

                    งั้นคนที่บงการก็ต้องรู้จักเจสสิก้าดีและต้องรู้ว่าเจสสิก้าจะต้องมาและกลับด้วยรถคันนั้น   แทยอนพูดประเมินบ้างซึ่งก็ทำให้ยูริพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

                    ไอ่ยูล..แกไม่คิดว่าคนที่บงการจะเป็นคนนอกบ้างเหรอ   แทยอนร้องถามยูริขึ้น

                    ไม่หรอก...ถ้าเป็นคนนอกจริงหรือเพิ่งคิดแผนการขึ้นคงไม่บังเอิญเกิดติดกันแบบนี้   อีกอย่างถ้าเป็นคนนอกจริงล่ะก็คงไม่รู้หรอกว่าเจสสิก้าออกไปเดินเล่นระหว่างงานเลี้ยง ฉันว่าต้องเป็นคนในเท่านั้นและต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอสมควร   ถ้าตรวจสอบหลักฐานเราอาจจะได้อะไรเพิ่มเติมบ้างนะ   ยูริพูดขึ้น

                    ฉันก็ว่าอย่างนั้น..เอ๊ะ!! เดี๋ยวนะตอนงานไฟดับน่ะ เป็นเวลาเดียวกับที่เจสสิก้าโดยลอบทำร้ายใช่มั้ย   แทยอนเริ่มระแคะระคายขึ้น

                    ใช่..และฉันก็คิดว่าเป็นการจงใจด้วย   ยูริตอบด้วยความมั่นใจ เมื่อบทสนทนาของทั้งสองจบลงหมอก็ออกมาแจ้งอาการของทิฟฟานี่และซันนี่ให้ทั้งสามได้รู้

                    เอ่อ....   หมอพูดขึ้น

                    คุณหมอ...เพื่อนฉันเป็นยังไงบ้าง..ตอบมาสิ!!!”   เจสสิก้ารีบวิ่งเข้าไปหาหมอที่เพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัดและถามอาการของทั้งสองรวมถึงคนขับรถด้วยทันที

                    ผู้ชายที่เป็นคนขับ มีรอยฟกช้ำตามตัวเล็กน้อย   หมอตอบเจสสิก้า

                    แล้วฟานี่กับยัยซันล่ะคุณหมอ...พูดมาสิ!!”   เจสสิก้าเริ่มหมดความอดทน   น้ำตาที่อุตส่าห์กลั้นไว้ สุดท้ายก็ไหลออกมา..ฟานี่ ยัยซัน   อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าทิ้งฉันไปนะ

                    คุณซันนี่ปลอดภัยดีครับ   ส่วนคุณทิฟฟานี่ก็ได้รับบาดเจ็บพอสมควรบริเวณแขนข้างขวาและมีแผลฟกช้ำมากบริเวณลำตัวครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ..คนไข้อาจจะไม่ได้สติประมาณสองสามวัน  แต่เมื่อฟื้นก็จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจนเป็นปกติเองไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขอแค่กำลังใจที่ดีก็พอครับ คุณเจสสิก้าก็ต้องพักผ่อนบ้างนะครับจะได้เป็นแรงใจที่ดีให้เพื่อนของคุณ”   คงไม่แปลกถ้าหมอจะรู้จักสาวทั้งสาม ก็โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลในเครือที่พี่ของเจสสิก้าดูแลอยู่ เมื่อพูดเสร็จหมอก็ขอตัวไปตรวจคนไข้รายอื่นต่อส่วนทางด้านคนไข้ทั้งสามก็ถูกย้ายให้ไปพักฟื้นในห้องพักคนไข้ส่วนตัว

     

     

                    แทยอนและยูริที่ยืนฟังอยู่ข้างๆก็โล่งใจไปได้เปราะหนึ่งเมื่อได้ยินว่าทิฟฟานี่และซันนี่ไม่เป็นอะไรมากทางด้านเจสสิก้าก็ยังคงร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่

                    สิก้า...กลับบ้านก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมทิฟฟานี่กับซันนี่ใหม่   ยูริพูดกับเจสสิก้าที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่หน้าห้องไอซียู

                    ไม่..นายกลับไปก่อนเถอะ ขอบคุณที่มาส่ง   เจสสิก้ายังยืนยันไม่ยอมกลับ

                    เฮ้อ...เจสสิก้าดูสภาพคุณก่อนสิ ถ้าเพื่อนของคุณตื่นขึ้นมาเห็นคุณในสภาพแบบนี้คงได้สลบต่ออีกสามวันแน่ๆ เชื่อฉันนะ...กลับบ้านไปอาบน้ำพักผ่อนก่อน...นะ   เมื่อเจสสิก้าฟังยูริพูดจบก็สำรวจตัวเอง...สภาพมันก็ดูไม่ได้จริงๆแหละ  

                    คุณเจสสิก้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ..เดี๋ยวทางนี้แทจัดการเอง   แทยอนพยายามพูดให้เจสสิก้ากลับบ้านไปพักผ่อนเพราะตอนนี้ถึงใจจะไหวแต่กายไม่ไหวก็ไม่มีประโยชน์อะไร

                    อื้ม   เป็นคำสุดท้ายที่เจสสิก้าพูดออกมาในวันนี้   ภายในรถของยูริ   ร่างสูงพยายามพูดคุยกับร่างบางเพราะไม่อยากให้ร่างบางต้องคิดมากแต่ก็ได้มาแค่รอยยิ้มบางๆกับคำว่า อืมเท่านั้น

     

     

                    เมื่อส่งเจสสิก้าเสร็จ ยูริก็กลับบ้านไปพักผ่อนเพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นมาจัดการกับเรื่องวุ่นวายต่อส่วนแทยอน
    ก็นอนเฝ้าทิฟฟานี่อยู่ที่โรงพยาบาลและไม่มีวี่แววว่าจะกลับเลย
     จนพยาบาลที่เป็นเวรคิดว่าเขากับทิฟฟานี่เป็นคู่รักกัน
    เสียแล้ว

     

     

     


                   สามวันต่อมา....

     


     

     

                    อื้อ.....   ร่างอวบที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลร้องขึ้นเมื่ออุณหภูมิภายในห้องต่ำกว่าปกติที่ควรจะเป็น   ทิฟฟานี่มองไปยังร่างเล็กที่นอนเฝ้าเธอดูจากสภาพแล้วคงยังไม่ได้กลับบ้านเพราะชุดที่ใส่มันเป็นชุดเดียวกับที่ไปงานเลี้ยง  เมื่อร่างเล็กรู้สึกเหมือนคนที่เขารักขยับตัวจึงตื่นขึ้นทำให้ร่างอวบบนเตียงต้องแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ท่าทีของคนตรงหน้า

                    คนดีของแท..ทำไมยังไม่ฟื้นอีกคะ แทรอฟานี่อยู่นะ   แทยอนพูดเมื่อสิ่งที่ตนนึกไม่เป็นอย่างที่ตนต้องการ   ร่างอวบจะรู้บ้างมั้ยนะว่าคนที่นั่งรอตรงนี้ปวดใจเหลือเกิน..รอวันที่คนที่ตนรักจะฟื้น

     

     

                   ก๊อก..ก๊อก...ก๊อก

     

     

                    อ่าว...คุณซันนี่ฟื้นแล้วเหรอคะ   แทยอนร้องขึ้นเมื่อคนที่ได้รับบาดเจ็บอีกคนเดินเข้ามายังห้องของทิฟฟานี่

                    ค่ะ..ซันฟื้นแล้ว ส่วนคนขับญาติก็มารับไปพักฟื้นที่บ้านแล้วค่ะ   ซันนี่ตอบแทยอน

                    ยัยฟานี่เมื่อไหร่จะฟื้นห้ะ...รู้มั้ยว่าทำคนอื่นเขาเป็นห่วงน่ะ   ซันนี่พูดพลางมองไปยังเพื่อนของตนเพราะรู้ดีว่าแทยอนหลงรักทิฟฟานี่ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง

                    คุณแทยอนกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ...เห็นพยาบาลบอกว่าคุณไม่ขยับไปไหนเลยตั้งแต่ทิฟเข้าโรงพยาบาล   ซันนี่พูดเชิงขอร้องเพราะสภาพแทยอนตอนนี้ดูไม่ได้เลย   หน้าตาก็ทั้งกังวลและเหนื่อยใจ...เฮ้อ เมื่อไหร่จะฟื้น ยัยหมีขาว!!  

                    ไม่เป็นไรค่ะ..แททนได้   แทยอนพูดแต่อาการกลับตรงข้ามเพราะดูเหมือนแทยอนจะไม่มีแรงแม้กระทั่งยืนด้วยซ้ำ

                    นั่นไง...เดี๋ยวก็ได้ไปนอนรอยัยทิฟที่ห้องข้างๆหรอกค่ะ...กลับไปพักผ่อนบ้างนะคะ ถือว่าซันขอร้อง   ซันนี่พูดพลางเดินไปส่งแทยอนที่หน้าประตูห้อง   เมื่อส่งเสร็จก็หันหลังกลับมาหาเพื่อนตัวดีของตน

                    ร้ายนักนะ..ทิฟฟานี่!!”   ซันนี่พูดใส่เพื่อนของตนที่ตอนนี้นั่งยิ้มตาปิดอยู่ที่เตียง

                    ขอบใจย่ะที่มาช่วยตามแผน....หิวข้าวจังเลย   ทิฟฟานี่พูดขึ้นหลังจากโทรไปขอให้เพื่อนของตนที่อยู่ห้องข้างๆมาพาแทยอนกลับไปพักเพราะไม่อยากเห็นคนที่ตนรักต้องทรุดโทรมแบบนี้

                    แล้วทำไมเธอไม่ฟื้นต่อหน้าต่อตาคุณแทยอนเขาไปเลยล่ะ..จะมาหลอกทำไมว่ายังไม่ฟื้น   ซันนี่ล่ะไม่เข้าใจเพื่อนตนเองจริงๆเลย อยู่ดีดีก็หาเรื่องใส่ตัว...ดีนะที่เรื่องนี้มัน Taetif ไม่งั้นแม่จะตบสั่งสอนสักฉากสองฉาก

                    (ไรเตอร์  : ซันนี่แร๊ง!!!!!)

                    (ซันนี่  : ไม่แคร์สื่อค่ะ...แรงจริงอะไรจริง  ^^)

     

                    ก็ฉันอยากจะรู้หนิว่าแทแทเขาคิดยังไงกับฉัน...ฉันจริงจังนะยะ   ทิฟฟานี่พูดใส่หน้าซันนี่

                    ย่ะ...เดี๋ยวเจสจะมาเยี่ยมนะ ฉันโทรไปบอกเองว่าเราฟื้นแล้ว จะว่าไปก็ไม่ค่อยเจ็บตรงไหนเนอะ...เธอว่ามั้ย   ซันนี่ถามคนบนเตียง

                    อื้ม...ก็จริงแต่มึนๆน่ะ ฉันว่าคุ้มนะ อย่างน้อยแทแทก็รักฉัน   ทิฟฟานี่พูดด้วยความภาคภูมิใจ

                    แล้วเธอไม่คิดว่าคนที่แอบรักเธอจะเสียใจบ้างเหรอ..   ซันนี่พูดพลางนึกถึงเพื่อนสนิทของตนเองเพราะรู้ดีว่าเจสสิก้านั้นยอมทิ้งทุกอย่างได้เพื่อคนบนเตียงที่ออกจะสนใจแทยอนมากกว่าคำว่าเพื่อน

                    หืม...ใครเหรอ ก็ไม่เห็นมีใครหนิ   ทิฟฟานี่..เธอหนิมันไม่รู้อะไรจริงๆเล้ย

                    เธอไม่รู้จริงๆเหรอ....คนๆก็คือ...  

                    แอ๊ดดดด..   ไม่ทันที่ซันนี่จะพูดจบประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับเจสสิก้าและยูริที่มาเยี่ยมทิฟฟานี่และซันนี่

                    ฟานี่!!!..เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บตรงไหนอยู่มั้ย   เจสสิก้าพูดและวิ่งไปหาคนบนเตียงอย่างรวดเร็วทำเอาทิฟฟานี่ที่นอนอยู่บนเตียงต้องอมยิ้มออกมาเพราะไม่คิดว่าเจสสิก้าจะเป็นห่วงเธอขนาดนั้น

                    เจส...ฟานี่ไม่เป็นไรมากเหรอ ฟานี่ฟื้นแล้วเจสเห็นมั้ย   ทิฟฟานี่พูดพร้อมทำท่าเบ่งกล้ามให้เจสสิก้าดูเพื่อความมั่นใจ...โถถถถถถ   เด็กหนอเด็ก

                    ไม่ต้องมาตลกเลย...ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว รู้บ้ามั้ยว่าเจสเป็นห่วงฟานี่มากแค่ไหน   เจสสิก้าพูดขึ้นพลางจะเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มแต่ไม่ทันที่จะยกมือขึ้นมาเช็ด ผ้าเช็ดหน้าของอีกคนที่เดินตามมาข้างๆก็ถูกบรรจงเช็ดให้ร่างบางอย่างเบามือ...ทำให้คนป่วยทั้งสองต่างอึ้งกับการกระทำของร่างสูง

                    ขอบคุณนะ   เจสสิก้าเอ่ยขอบคุณยูริ

                    ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ร้องอีก...เธอหนิมันอ่อนจริงๆนะ ยัยเป็ดสิบแปดหลอด   ยูริพูดพลางยิ้มให้ร่างบางซึ่งสิ่งที่ได้รับมาก็คือ

                    ป้าปปป!!!”   ฝ่ามือของร่างบางกระทบกับไหล่ของร่างสูงอย่างจัง..ไม่เจ็บให้มันรู้ไปสิ

                    พูดให้มันดีดีหน่อย...ไอ่ลิงหื่น   เจสสิก้าพูดพร้อมส่งสายตาอาฆาตไปให้ แต่มีเหรอที่คนอย่างยูริจะกลัว

                    เออ..พวกเธอมาด้วยกันเหรอ   ซันนี่ถามขึ้นเพราะยังงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่..ที่สำคัญเจ้าหญิงของตระกูลจองเนี่ยนะจะยอมให้ใครเช็ดน้ำตาให้...Impossible!!!!

                    ค่ะ..พอดียูลไปคุยกับคุณพ่อของสิก้าเรื่องคดีมาน่ะค่ะเลยอาสามาส่งสิก้าเพราะเป็นทางเดียวกันพอดี   นั่นไง..เอาอีกแล้ว ไหนจะเรื่องที่มาด้วยกัน..คราวนี้ยังเรียกว่าสิก้า ซันบันจะบ้าตาย....ทั้งสองคนนี้มันมีซัมติ้งอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย!!!

                    ขอบคุณคุณยูริมากนะคะที่ดูแลเจส  เอ่อ..คือฟานี่ขออะไรคุณยูริหน่อยได้มั้ยคะ   ทิฟฟานี่พูดขึ้นและไม่ลืมบอกแผนที่เธอวางไว้ให้ยูริได้รู้

                    ค่ะ..ยูลยินดีช่วย   ยูริพูดขึ้นอต่ก็ยังงงอยู่..คนอย่างทิฟฟานี่เนี่ยนะจะให้ช่วยเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย?

                    คือ..อย่าเพิ่งบอกแทแทได้มั้ยคะว่าฟานี่ฟื้นแล้ว..รวมถึงเธอด้วยซันนี่ แล้วก็เจสด้วยนะถือว่าฟานี่ขอร้อง   ยูริยืนอ้าปากค้าง..นี่ทิฟฟานี่เรียกไอ่หมาแทว่าแทแทเหรอ พระเจ้ามันเรื่องอะไรกันเนี่ย

                    ทำไมล่ะฟานี่...จะไปแกล้งเขาทำไม   เจสสิก้าร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าความคิดของทิฟฟานี่มันไม่เข้าท่าเอาซะเลย

                    ก็ฟานี่อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างน่ะสิ...อ่อ ลืมบอกไปว่าฟานี่จะแกล้งความจำเสื่อมด้วย ทุกคนอย่าทำแผนแตกนะ..ฟานี่ขอร้องล่ะ   เมื่อทุกคนได้ยินแล้วก็อยากจะบ้าตาย...นี่คือความคิดของหมีน้อยนักเรียนนอกแน่เหรอเนี่ย...

     

     


                    ทั้งสี่นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานจนเวลาล่วงเลยมานานพอสมควรซันนี่จึงขอตัวกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ทางด้านเจสสิก้าและยูริจึงขอตัวกลับเพราะมีธุระที่ต้องทำและอยากให้ทิฟฟานี่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน ในห้องจึงมีเพียงร่างอวบที่นอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับแผนของตัวเองบนเตียงจนเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเธอจึงรีบแกล้งหลับเพราะกลัวว่าคนที่เคาะจะเป็นคนที่เธอหวังไว้...และมันก็ใช่เมื่อคนที่เดินเข้ามาเป็นหญิงร่างเล็กที่เธอคุ้นเคยเพียงเวลาไม่นาน

                    ฟานี่...วันนี้แทเหงามากเลยฟานี่รู้มั้ย ฟื้นมาคุยกับแทหน่อยสิคะ   แทยอนพูดเพื่อสร้างความหวังให้ตัวเองเพราะเขาอยากให้คนตรงหน้าฟื้นขึ้นมาใจจะขาด มือของร่างเล็กเลื่อนมากอบกุมมือข้างขวาของคนที่นอนอยู่อย่างอ่อนโยนพร้อมเอามาแนบไว้กับแก้มของตนเองด้วยความห่วงหา

                    ฟานี่ได้ยินแทมั้ย...ว่าคนตรงนี้ต้องการฟานี่มากแค่ไหน รีบฟื้นนะคะคนดีของแท   แทยอนยังไม่ยอมเลิกบ่นพึมพำคนเดียว...หารู้ไหมว่าร่างบนเตียงต้องแอบอมยิ้มมาแล้วกี่รอบ..เล่นพูดตรงๆแบบนี้ก็เขินเป็นนะ

                    อื้อ......   ร่างบนเตียงเริ่มร้องครวญครางตามแผนของตน

                    ฟานี่!! ฟื้นแล้วเหรอคะ   แทยอนรีบโผเข้ากอดร่างตรงหน้า

                    อะ..นี่คุณเป็นใครเหรอคะ   ทิฟฟานี่ทำหน้าใสซื่อใส่คนตรงหน้าเล่นเอาคนที่ดีใจเมื่อครู่ไปต่อไม่ถูก

                    ฟานี่...แทเองคะ ฟานี่จำแทไม่ได้เหรอ   แทยอนเริ่มใจเสียมากขึ้นเมื่อร่างที่ตนรอให้ฟื้นไม่มีทีท่าว่าจะรู้จักตนเลยแม้แต่นิด

                    เอ่อ...ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้จริงๆ...แล้วคุณเป็นใครคะ   น้ำใสๆเกือบไหลรินอาบแก้มของร่างเล็กแต่ยังดีที่เขากลั้นไว้ได้ก่อนจะเอ่ยตอบไป

                    ฉันชื่อคิมแทยอน...เป็นคนที่หลงรักฟานี่ยังไงล่ะคะ   แทยอนตอบออกไปตามตรงเผื่อคนบนเตียงจะจำอะไรได้บ้าง แต่เหมือนว่าความหวังนั้นจะลดน้อยลงเต็มที

                    คุณหลงรักฉันอย่างนั้นเหรอคะ   ทิฟฟานี่พูดพลางชี้หน้าของตัวเองทั้งที่ในใจเธอแทบอยากจะโผเข้ากอดแทยอน...น่ารักแบบนี้ฟานี่ไม่ปล่อยให้แทแทเป็นของใครหรอกนะคะ

                    ใช่ค่ะ...รักตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ...ฟานี่จำไม่ได้เลยเหรอ   แทยอนพูดพลางฝืนยิ้มบางๆ ยอมรับได้คำเดียวว่าเขาเจ็บมาก..ไม่ได้เจ็บที่เธอจำเขาไม่ได้แต่เจ็บที่เขาไม่สามารถดูแลคนที่เขารักได้อย่างเต็มความสามารถ

                    ค่ะ...ขอโทษจริงๆนะคะ คุณคิมแทยอน   ทิฟฟานี่พูดพลางหันหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของคนตรงหน้า

                    ไม่เป็นไรค่ะ..งั้นฉันขอเป็นเพื่อนฟานี่ละกันนะคะ วันนี้ให้ฉันดูแลฟานี่นะคะ   แทยอนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะเรียกความทรงจำของคนที่รักกลับคืนมาพร้อมกับดูแลทิฟฟานี่อย่างดี

     




                    เสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานรวมถึงท่าทีที่ดูสนิทสนมมากกว่าเพื่อน  รอยยิ้มที่ทิฟฟานี่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแม้กระทั่งเธอ  ความรักที่เหมือนจะก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆแต่มั่นคง..อุ่นไอรักที่ทั้งสองส่งให้กันแม้จะไม่สามารถมองเห็นได้  แต่ดูเท่านี้ก็คงเพียงพอ...ทำเอาคนที่ลืมของและเดินกลับมาเอาอย่างเจสสิก้าอดน้อยใจไม่ได้...นี่คนที่เธอรักอุตส่าห์ลงทุนแกล้งความจำเสื่อมเพื่อร่างเล็ก...นี่เจสสิก้าคงแพ้ตั้งแต่ยังไมได้เริ่มเลยสินะ  ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแท้ๆ...จนคิดว่าไม่มีใครสามารถพรากทิฟฟานี่ไปจากเธอได้แต่คงเป็นเพราะว่าความใกล้กันเกินไปทำให้ทิฟฟานี่มองข้ามเธอไปเช่นกัน...ฉันคงไม่ใช่คนที่เธอรัก ไม่สิเธอไม่คิดจะรักฉันเลยใช่มั้ย ทิฟฟานี่

                    น้ำตาที่คิดว่าจะหยุดไหลเมื่อรู้ว่าคนที่ตนรักฟื้นกลับต้องไหลรินออกมาอีกครั้งด้วยความเสียใจ เสียใจที่ปล่อยให้คนที่ตนเองรักอยู่กับคนอื่น...คนที่ทิฟฟานี่พร้อมจะมอบใจให้ เจ็บที่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้จะเป็นคนที่ใกล้ชิดมากที่สุดแต่กลับเจ็บใจมากที่สุด เพียงเพราะเราใช้นามสกุลเดียวกันเหรอ..แต่เราก็ไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆซะหน่อย..หรือเพราะฉันไม่ดีพอที่เธอจะรัก ตอนนี้คงทำได้เพียงมองดูเธออยู่ห่างแค่เพียงเห็นเธอมีความสุขและยิ้มได้...เท่านั้นคงพอเป็นสิ่งเยียวยาให้ฉันได้สินะ ความพ่ายแพ้ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มนี่มันเจ็บจริงๆ



                    เจสสิก้าปิดประตูอย่างเบาๆเพราะไม่อยากรบกวนคนในห้อง เธอกำลังจะหันหลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่เธอบอกให้รออยูในรถยืนคอยเธออยู่

                    มาทำไม..บอกให้รอที่รถไง   เจสสิก้ารีบปาดน้ำตาแต่ไม่ทันที่จะได้ยินคำตอบ   ยูริก็ดึงเธอไปกอดอย่างอ่อนโยน

                    อย่าร้องเลยนะเจ้าหญิง   ยูริพูดขึ้นพร้อมกอดปลอบโยนร่างบางในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม

                    ฮึก...ทำไม..ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย   ยูริรู้ดีว่าเจสสิก้าหมายถึงเรื่องใดเพราะเขาก็แอบรู้มาจากซันนี่ว่าเจสสิก้าแอบรักทิฟฟานี่มานาน...ความรักที่ไม่เอ่ยออกมามันไม่สามารถทำให้คนที่รักรู้ได้เลยเหรอ หรือว่าแสดงออกน้อยเกินไป...หรือแสดงออกมากเท่าไหร่คนที่เรารักก็ไม่เคยรู้เลย

                    ไม่เป็นไรสิก้ายังมียูลนะ ยูลจะอยู่เป็นเพื่อนสิก้าเอง   ยูริพูดเสร็จก็พยุงร่างบางไปที่รถพร้อมบรรจงใส่เข็มขัดนิรภัยให้

                    สิก้าอยากไปไหนมั้ย...ยูลจะพาไป   ยูริถามคนที่นั่งข้างๆ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากดูแลและเป็นห่วงร่างบางมากเหลือเกิน...อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของร่างบางอีก  แค่นี้มันก็มากพอสำหรับเจ้าหญิงอย่างเจสสิก้าแล้ว....ความรู้สึกแบบนี้สงสารหรือหลงรักกันแน่นะ

                    สิก้าอยากไปสวนสาธารณะ   เจสสิก้าตอบร่างสูงซึ่งก็ทำเอาร่างสูงสะดุ้งกับสรรพนามของร่างบางที่ใช้เรียกแทนตนเอง

                    ได้เลย..คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้   ไม่นานรถของยูริก็ขับมาถึงสวนสาธารณะใกล้ๆซึ่งก็เป็นเวลาเย็นแล้วจึงมีคู่รักมาเดินเล่นกันมากมายจนไม่มีใครสนใจว่าเจ้าหญิงแห่งตระกูลจองจะมาเดินในที่แบบนี้

                    สิก้าดีขึ้นบ้างมั้ย   ยูริถามเจสสิก้าเมื่อเดินเล่นมาได้สักพัก

                    อื้ม...ขอบคุณนะยูล รู้มั้ยว่ายูลเป็นคนแรกเลยที่สิก้าชวนมาเดินเล่น   เจสสิก้าพูดพลางหัวเราะออกมา...เรื่องแค่นี้จะพูดให้อีกคนรู้ทำไมกันนะ

                    งั้นยูลก็ต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่เลย....ว่ามั้ย   ยูริพูดพลางกระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากร่างบางได้

                    นั่นสิ..เพราะสิก้าดังจะตายไม่ค่อยมีเวลาว่างแบบนี้หรอก   สิ้นเสียงนี้ทั้งสองก็หยอกล้อกันไปมาท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจ...พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแต่หัวใจของบางคนก็ยังคงบอบซ้ำอยู่ อาจจะดีขึ้นบ้างหากมีคนคอยดูแลเวลาที่ใจอ่อนแอเกินไป

                    ค่ำแล้ว...กลับกันเนอะ   ยูริพูดขึ้นก่อนจะเดินนำหน้าไปแต่ก็ต้องหันหลังกลับมาเมื่อรู้สึกถึงแรงกระตุก
    ที่เสื้อของตนเอง

                    หืม..   ยูริร้องออกมาเมื่อรู้ว่าคนที่ดึงเสื้อของเขาคือร่างบาง

                    สิก้ามีอะไรเหรอ   ไม่มีเสียงตอบรับจะมีก็แต่มือข้างขวาของร่างบางที่กอบกุมมือข้างซ้ายของร่างสูง...ทั้งสองเดินไปที่รถอย่างเชื่องช้าไม่มีเสียงใดๆ เหมือนยูริจะรู้ว่าเจสสิก้าตอนนี้นั้นอ่อนแอและเจ็บมากเพียงใด...สิ่งที่ร่างสูงให้ได้คงเป็นเพียงความห่วงใยที่แสดงออกมาให้เห็นก็เท่านั้น..เสียงรถขับออกไปซึ่งแน่นอนว่าจุดมุ่งหมายคือบ้านของร่างบาง

     


     

                    สิก้า..ถึงบ้านแล้วนะ   ยูริปลุกเจสสิก้าที่นอนอยู่เหมือนกับวันที่มาส่งวันแรกไม่มีผิด...ขี้เซาจริงนะเจ้าหญิง

                    ถึงแล้วเหรอยูล   เจสสิก้าพูดพร้อมปรือตาขึ้นมองบ้านของตัวเอง

                    ใช่..ถึงแล้ว สิก้าอย่าลืมอาบน้ำนอนเร็วๆนะเดี๋ยวไม่สบายแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ยูลจะมารับไปโรงพยาบาลนะ   ยูริอาสามารับมาส่งเจสสิก้าเพราะเหมือนกับจะรู้ว่าไม่มีใครที่รู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเจสสิก้าดีเท่ากับตน

                    หนิ...มาเป็นคนขับรถให้สิก้าเลยมั้ย   เจสสิก้าพูดติดตลกให้ยูริ ทั้งสองยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

                    เอ่อ...คือว่า..ยูล  

                    มีอะไรเหรอยูล   เจสสิก้าถามขึ้นเมื่อคนที่นั่งข้างๆอ้ำอึ้งอยู่นาน

                    ยูลขอเรียกสิก้าแบบนี้ได้มั้ย...คือเรียกเจสมันไม่ติดปากน่ะ   ร่างสูงพูดพร้อมเอามือเกาหัวตัวเอง..จะอะไรซะอีก   เหตุผลเดียวชัดเจน...ขอ-เออ-นอ..เขิน

                    คิดว่าได้มั้ยล่ะ...ควอนยูริ!!”   ร่างบางทำเสียงเย็นชาใส่ร่างสูงเพราะนึกอยากจะแกล้ง...จะมาขอทำไมตอนนี้ก็เห็นเรียกแต่ไหนแต่ไรแล้ว

                    ถ้าคุณไม่ให้ฉันก็ขอโทษนะ   ร่างสูงหน้าเสียจึงรีบกล่าวขอโทษร่างบางไป

                    หนิ..หันหน้ามาซิ   ร่างบางบอกพลางหันข้างเพื่อจะได้มองร่างสูงได้สะดวก

                    ห้ะ....อื้อ......อืม   ร่างบางจุมพิษร่างสูงอย่างแผ่วเบาและเนิ่นนานก่อนที่จะถอนออกมา

                    อยากเรียกก็เรียก..ใครห้ามล่ะ   เจสสิก้าพูดก่อนจะเปิดประตูเพื่อลงรถแต่ยูริเมื่อได้สติก็ฉุดข้อมือของร่างบางไว้

                    เดี๋ยว...มาทำให้อยากแล้วจากไปเลยนะ..ยัยเป็ด   ยูริพูดขึ้นก่อนจะออกแรงกระตุกแขนร่างบางจนร่างบางต้องล้มลงกลับมานั่งที่เดิม

                    แล้วทำไมยะ..ไอ่ลิงหื่น   เจสสิก้าก็ไม่ยอม..ต่อล้อต่อเถียงกันอยู่ในรถนานสองนานจนเถียงกัน  ภายในรถ
    จึงมีเสียงหัวเราะที่แสดงให้เห็นถึงความสุขของกันและกัน
    แต่เถียงกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ร่างบางถึงไปนั่งอยู่บนตักของร่างสูงซะได้...นี่มันในรถนะเนี่ย...โอ้ววว!!!

                    สิก้า...คืนนี้ฝันดีนะ   ร่างสูงพูดก่อนจะกระชับกอดร่างบางที่อยู่บนตักและซบลงที่หลังของร่างบาง

                    อื้ม..รู้แล้ว ก็ปล่อยสักทีสิมือเนี่ย   เจสสิก้าพูดพลางมองดูมือที่โอบกอดเธอจากด้านหลัง...น่าขันสิ้นดีเมื่อกี้ยังทะเลาะกันอยู่เลย เสียท่าจนได้นะเรา   เฮ้อออออออ....

                    พรุ่งนี้เจอกันนะ...แล้วก็..เอ่อ..   ร่างสูงพูดเสียงติดขัดแต่มือก็ยังไม่ยอมปล่อยจากร่างบางแต่ร่างบางก็ไม่ได้ร้องขัดขืนแต่อย่างใด

                    แล้วก็อะไร...พูดให้มันดีดีนะ   ร่างบางพูดขึ้น เธอยอมรับว่าเมื่อเห็นทิฟฟานี่อยู่กับแทยอนเธอเจ็บมาก...แต่ก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีให้ยูริมันเรียกว่ารักหรือเปล่า...แค่รู้ว่าทุกครั้งที่มีปัญหาคนๆนี้จะเข้ามาช่วยเธอเสมอ แม้จะเป็นเวลาไม่นานแต่ก็สามารถสัมผัสได้...บอกตามตรงว่ารู้สึกดี...^^

                    แล้วก็...เอ่อ...อย่าลืมห่มผ้านะยูลเป็นห่วง   เพียงแค่คำพูดสั้นๆเพียงเท่านี้ทำเอาร่างบางบนตักเขินอายจนหน้าแดงไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้

                    รู้แล้ว...ยูลก็นอนเร็วๆนะเดี๋ยวไม่สบาย ตอนกลางคืนอากาศมันเย็น   เจสสิก้าพูดพร้อมหันหลังเพื่อมองร่างสูง มือข้างหนึ่งของร่างบางจับที่ปลายคางของร่างสูงพร้อมเชยคางขึ้นและจุมพิษเบาๆที่จมูกของอีกคนทำเอาคนที่อยู่ใต้ร่างบางสะท้านไปทั่วร่างกาย

                    รู้แล้ว   สิก้าไปอาบน้ำเลย..เหม็นจะแย่อยู่แล้ว   ยูริพูดพลางเปิดประตูรถและอุ้มร่างบางลง

                    ย่ะ...ไอ่ลิงหื่น ฝันถึงกันบ้างนะ   เจสสิก้าพูดและวิ่งเข้าบ้านไปทิ้งให้ยูริยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า แบบนี้เค้าเรียกว่ารักมั้ยนะ...ยูลไม่รู้ว่ายูลรักสิก้ามั้ย..แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าสิก้ารักยูลหรือเปล่า..รู้แค่ว่ายูลไม่อยากเห็นสิก้าร้องไห้อีก..
    ยูลจะดูแลสิก้าเอง
     เมื่อนึกได้เช่นนั้นยูริก็ขับรถกลับหอไปเพราะอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจะได้มารับเจ้าหญิงของตัวเอง

     

     

     



     

                    ทางด้านทิฟฟานี่และแทยอนที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนเวลาล่วงเลยมาจนค่ำและดึก

                    เดี๋ยวแทขอไปคุยงานแปปนึงนะฟานี่   แทยอนพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปแต่ซันนี่ก็เดินสวนเข้ามาพอดี

                    ไม่หลับไม่นอนนะ...ซันนี่   ทิฟฟานี่พูดพลางมองดูเพื่อนของตนเองที่ทำหน้าจะกินเลือดกินเนื้อเธออยู่แล้ว

                    ยัยทิฟ...เธอไม่ควรโกหกคุณแทยอนเขาแบบนั้นรู้มั้ย...มันเสียความรู้สึกนะ   ซันนี่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพื่อนของเธอทำมันผิด..

                    ซันนี่ก็...ก็ฟานี่อยากรู้ว่าแทแทเขาจะเป็นห่วงฟานี่มั้ยถ้าฟานี่เป็นอะไรขึ้นมา   ทิฟฟานี่พูดขึ้น

                    เธอก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะ...ถ้าเขาไม่ห่วงเธอคงไม่มาเฝ้าตั้งแต่เธอยังไม่ฟื้นจนเธอฟื้นขึ้นมาหลอกเขาแบบนี้หรอก..ยัยหมีขาว   ซันนี่สวดยาวเพื่อนของตน...แผนบ้าอะไร..ทำแบบนี้แม่ไม่ว่าเหร๊อ!!!

                    รู้แล้วน่า...ซันนี่ก็   ทิฟฟานี่ร้องขึ้น   ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกผิด..แต่เธอก็มีสิทธิที่จะรู้ไม่ใช่เหรอว่าคนที่เธอกำลังจะยินยอมมอบหัวใจให้เป็นคนดีอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า

                    แล้วถ้าคุณแทยอนเขารู้เธอจะทำยังไง   ซันนี่ร้องถามขึ้น

                    รู้ว่าอะไร....   เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังซันนี่แต่ก็ไม่ทันที่จะห้ามซันนี่ก็หลุดปากพูดไป

                    ก็รู้ว่าเธอโกหกเขาว่าความจำเสื่อมน่ะสิ   ซันนี่รีบปิดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าเธอพูดอะไรออกไป

                    ซันขอตัวนะ   ซันนี่ผู้มีความรับผิดชอบสูงวิ่งหนีกลับไปยังห้องของตนทันที

                    แทแท...   ทิฟฟานี่ร้องขึ้นเมื่อสีหน้าของแทยอนแสดงให้เห็นถึงอารมณ์โกรธและน้อยใจ

                    ฟานี่โกหกแททำไม   น้ำเสียงแข็งถูกเอื้อยเอ่ยออกมาจากปากของร่างเล็ก

                    ฟานี่ขอโทษ...ฟานี่ก็แค่อยากจะรู้ว่าถ้าฟานี่เป็นอะไรขึ้นมา แทแทยังจะรักและเป็นห่วงฟานี่อยู่มั้ย   ทิฟฟานี่พูดขึ้นพร้อมจ้องตาของร่างเล็กเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอพูดจริง

                    คงไม่จำเป็นหรอกมั้ง...เพราะเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันคุณทิฟฟานี่   สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ทิฟฟานี่สะดุ้งกับท่าทางของร่างเล็ก

                    แทแท...อย่าทำแบบนี้ ฟานี่ขอร้อง   ทิฟฟานี่พูดพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลรินของตน

                    อย่าร้องเลย...เราไม่รู้จักกันแล้วคุณจะร้องไห้ให้ฉันทำไม   ร่างเล็กยังไม่เลิกประชด...นี่เห็นฉันเป็นของเล่นหรือไงทิฟฟานี่

                    ฟานี่ขอโทษจริงๆ...แทแท   ทิฟฟานี่ไม่พูดเปล่า   เธอเดินลงมาจากเตียงและโผกอดร่างเล็กตรงหน้า ทำให้ร่างเล็กตรงหน้าสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงน้ำตาของร่างอวบ

                    ฟานี่ไม่ได้แกล้งแทแทนะ...ฟานี่แค่อยากมั่นใจกับความรู้สึกของแทแทว่าแทแทรักฟานี่จริง...ฟานี่ต้องการแค่นี้ไม่ได้มีเจตนาจะโกหกแทแทนะ   เมื่อร่างเล็กฟังก็ถึงกับอมยิ้มออกมา...ดีนะที่เมื่อกี้ไอ่ลิงมันโทรมาบอกงานเลยรวดบอกแผนของทิฟฟานี่หลังจากไปส่งคุณเจสสิก้าเสร็จ ไม่งั้นฉันคงไม่มีทางตามแผนของเธอทันแน่แน่...ทิฟฟานี่

                    แล้วคุณทำแบบนี้ทำไมในเมื่อคุณก็ไม่ได้รักฉัน   ร่างเล็กยังไม่เลิกเล่นละคร

                    ใครบอกว่าฟานี่ไม่รักแทแท   ฟานี่พูดทั้งน้ำตา

                    รักแน่เหรอ..คุณทิฟฟานี่   ร่างเล็กเริ่มกดดันร่างอวบในอ้อมกอดมากขึ้น

                    ฟานี่มั่นใจแล้วว่าฟานี่รักแทแท...รักมากด้วย   ขอร้องล่ะอย่าทำแบบนี้กับฟานี่เลย...ฟานี่เจ็บ   ทิฟฟานี่อ้อนวอนร่างเล็กที่ตอนนี้ได้แต่ยิ้มหน้าบาน...จะอะไรซะอีก   ก็ร่างอวบสารภาพรักกับเขาน่ะสิ...คงเลิกเล่นได้แล้วมั้ง

                    แทแทก็รักฟานี่..รักมากด้วย คนดีของแทอย่าร้องนะคะ   ร่างเล็กกอดตอบร่างอวบอย่างโหยหา...นี่แค่เวลาไม่นานเพียงแค่สี่วัน..ทำไมถึงได้รู้สึกรักคนตรงหน้าแบบนี้นะ

                    ฮึก..มะกี้แทแทว่าไงนะ   ร่างอวบเพิ่งนึกได้ว่าร่างเล็กบอกรักเธอจึงถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ

                    หยุดร้องได้แล้วนะ...แทรู้แผนของฟานี่หมดแล้ว...แทแค่แกล้งฟานี่เล่นเอง อย่าร้องนะ   แทยอนปลอบคนตรงหน้า

                    แทแท!”   ทิฟฟานี่เมื่อรู้ว่าตนเองถูกเอาคืนก็งอนคนตรงหน้า...ไอ่เราก็นึกว่าโกรธจริงๆ

                    โอ๋...อย่างอนนะคะ   แทง้อๆ   แทยอนพูดและชูนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อให้ร่างอวบเกี่ยวก้อยและก็อย่างว่า...คนงอนก็คือคนงอนใครจะยอมกันง่ายๆล่ะ เมื่อแทยอนเห็นว่าอีกคนไม่ยอมและเดินหนีเขาจึงเดินถามจนถึงเตียง

                    ไปไหนก็ไปเลยคนนิสัยไม่ดี   ทิฟฟานี่พูดใส่คนที่เดินตามเธอ

                    แต่ฟานี่แกล้งแทก่อนนะ...แทก็แค่เอาคืนเองง่ะ   แทยอนพูดพร้อมฉุดข้อมือร่างอวบไว้...แต่มีเหรอที่ร่างอวบจะยอม ร่างอวบสบัดทิ้งและรีบเดินขึ้นเตียงไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อบนเตียงไม่ได้มีแค่เธอแต่กลับมีร่างเล็กอยู่ข้างๆด้วย แทยอนใช้มือของตนโอบกอดร่างอวบไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้อีก...ตอนนี้ทั้งคู่กอดกันอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล  
    จะติดอยู่ก็แค่ร่างอวบไม่ได้หันหน้ามาสบตาร่างเล็กเท่านั้นเอง

                    แทขอโทษนะคะ...ฟานี่อย่างอนแทนะ   แทยอนพูดและเอาหน้าซบลงที่ไหล่ของร่างอวบ

                    แทแทอะ....อื้อ..   ร่างอวบร้องขึ้นเมื่อเธอรู้สึกว่าคนข้างๆจะทำมากกว่าง้อเธอซะแล้ว ก็แทยอนเล่นสำรวจคอของเธออย่างกับว่าเป็นของเล่นชิ้นใหม่...นี่ถ้าเธอเคลิ้มไปด้วยจะว่ายังไง

                    ฟานี่น่ากินจัง..   แทยอนพูดขึ้นทำเอาทิฟฟานี่หันหน้ามามองทันที

                    แทยอนทะลึ่ง!!”   แทยอนอมยิ้มกับแผนของตัวเองที่ทำให้ร่างอวบหันมาได้

                    ทะลึ่งแล้วรักมั้ยล่ะ   คำถามนี้ทำเอาหน้าของทิฟฟานี่ขึ้นสีทันที...โอ๊ยยยย!!   เขินนนนน

                    บ้า!”   ทิฟฟานี่คงไม่สามารถตอบได้มากกว่านี้เพราะเธอเขินจนพูดไม่ออกแล้ว

                    ลงไปเลยฟานี่จะนอนแล้ว   ทิฟฟานี่พูดไล่ร่างเล็กที่กอดเธอและไม่มีวี่แววว่าจะปล่อย

                    ก็นอนด้วยกันนี่แหละ อุ่นดีออก   แทยอนพูดพลางหลับตาลงช้าๆและกระชับกอดร่างอวบมากขึ้น

                    แทแทเจ้าเล่ห์...ฝันดีนะคะ   ทิฟฟานี่พูดพร้อมกับซุกหน้าของตนเข้าที่ไหล่ของแทยอนเพื่อความอบอุ่น

                    ฝันดีคะ แม่หมีของแท   สิ้นเสียงนี้ทั้งสองก็เข้าสู่ห่วงนิทรา   ค่ำคืนนี้เหมือนจะมีแต่สองคนที่สัมผัสได้ถึงความรักของกันและกันโดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำใดๆออกมา...เพียงแค่ยังรู้ว่าคนที่ตนรักก็รักตนเช่นกัน   เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้นของความรัก..หรืออาจจะมากไปด้วยซ้ำ

     

                   

     

     

     

     

       ..TO BE CONTINUED..




     

     

     

     

    ไรเตอร์ : ตอนนี้ยาวมากๆๆๆๆๆ   แททิฟก็หวานได้อีก...ยูลสิกก็ไม่แพ้กัน   บางทีไรเตอร์ว่าความรักอาจไม่ต้องการเวลาก็ได้...บางทีเวลาเราเจอใครครั้งแรกก็สามารถหลงรักได้โดยไม่มีเหตุผล   และบางทีเวลาที่เราอ่อนแอถ้าหากได้ใครสักคนเข้ามา...ความรู้สึกบางอย่างอาจเข้ามาทำให้เราไขว้เขวได้เช่นกัน ไม่รู้ว่ารีดเดอร์คิดเหมือนไรเตอร์หรือเปล่า อย่าลืมให้กำลังใจกันนะจ้ะ...ไรเตอร์อยากบอกว่าอาจจะหายไปอาทิตย์กว่าๆนะจ้ะเพราะไรเตอร์ต้องอ่านหนังสือสอบ ประมาณต้นเดือนหน้าถ้าปิดเทอมแล้วจะขยันลงให้บ่อยๆเลย   ยังไงก็อ่านตอนนี้ชดเชยไปนะจ้ะเพราะยาวมากๆ อย่าทิ้งกันนะ...
    ไรเตอร์สัญญาสอบเสร็จจะลงทันทีเลยจ้ะ
     โชคดีกับการสอบปลายภาคนะคะทุกคน (บอกตัวเองหรือเปล่า)   5555555+

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×