คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 5 : ขอโทษ
CHAPTER 5 : ขอโทษ
พลึบ!
พลึบ!
พลึบ!
พลึบ!
“เฮ้ย...ไอ่แทไฟดับ รีบไปดูสามสาวนั่นเร็ว” ยูริร้องขึ้นหลังจากไฟดับลงและเปิดไฟฉายอันเล็กที่นำติดตัวมาด้วยเพื่อนำทางเพราะในงานทั้งมืดและแออัดมาก
“เอ่อๆ ก็รีบอยู่เนี่ยแต่แกเห็นมั้ยว่าไฟมันดับอะ ฉันมองไม่ค่อยเห็น” แทยอนโต้กลับมา ใช่ว่าแทยอนไม่ห่วง
ทิฟฟานี่ซะเมื่อไหร่ แทยอนแทบจะควบคุมสติไม่อยู่เพราะกลัวว่าทิฟฟานี่จะอยู่ในอันตราย อาการที่แสดงออกมาจึงดูเป็นห่วงเกินหน้าเกินตายูริที่เดินตามไปก็อดสงสัยอาการลุกลี้ลุกลนของเพื่อนตนเองไม่ได้
เมื่อถึงโต๊ะของสามสาวยูริก็ใช้แสงไฟจากไฟฉายส่องดูตำแหน่งของทั้งสามเพื่อจะได้คุ้มกันถูก
“ฟานี่..ไม่เป็นไรนะคะ” แทยอนร้องขึ้นเมื่อเห็นทิฟฟานี่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ที่โต๊ะ
“ฮึก..ฮือ ฟานี่กลัวจังเลยแทแท ฟานี่กลัวความมืด” เมื่อทิฟฟานี่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เผชิญหน้ากับความมืดเพียงแค่คนเดียวหลังจากที่ซันนี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำได้สักพัก ทิฟฟานี่ก็ถึงกับกอดแทยอนแน่นทีเดียว
“ไม่เป็นไร..แทอยู่นี่แล้วนะคะ” แทยอนปลอบขวัญทิฟฟานี่ยกใหญ่เมื่อจู่ๆทิฟฟานี่ก็กอดแทยอนแน่นขึ้นอีก
ทำให้แทยอนหน้าขึ้นสี แต่ดีที่ไฟดับทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นใบหน้าของเขา
“เอ่อ..คุณทิฟฟานี่คะ แล้วคนอื่นล่ะคะ” ยูริร้องถามขึ้นเมื่อคนที่ควรจะอยู่ด้วยอีกสองคนหายตัวไป
“อ่อ เจสออกไปเดินเล่นคนเดียวได้สักพักแล้ว นี่ก็ยังไม่กลับมาเลย ส่วนซันนี่ไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“ถ้าเป็นห่วงมากก็ไปตามหาสิ เดี๋ยวฉันดูแลฟานี่กับคุณซันนี่ให้”
“ฝากด้วยนะไอ่แท..เดี๋ยวฉันมา” ยูริพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกตามหาคนที่ทำให้เขาไม่อยากเจอหน้าเป็นครั้งที่สามด้วยท่าทางเร่งรีบ
“นี่แกคงไม่ได้ชอบคุณเจสสิก้าหรอกนะ...เฮ้อออออ” แทยอนพูดขึ้นพลางมองร่างที่กอดตนแน่นก็นึกขำ
“แทแท..” ทิฟฟานี่ร้องขึ้น
“คะฟานี่ มีอะไรเหรอ” แทยอนถามร่างกอดเขาตัวสั่นอยู่แต่เมื่อเห็นอาการไม่ค่อยดี แทยอนจึงถอด
“แทแท ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ฟานี่ไม่ค่อยหนาวหรอก
“แทไม่มีวันทิ้งฟานี่หรอกคะ...ฟานี่ไม่ต้องกลัวนะ”
“แทแทคะ” เมื่อแทยอนได้ยินก็ถึงกับหลุดจากภวังค์ของตนเอง เขาอยากจะขอโทษคนตรงหน้ามาก
“ฟานี่..แทขอโทษค่ะ แทขอโทษจริงๆ แทไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนั้นนะคะ”
“แทแท...อยู่เฉยๆสิคะ ฟานี่หนาว” ทิฟฟานี่พูดขึ้นและกระชับกอดแทยอนมากขึ้นทำให้แทยอนงงกับ
“แทขอโทษจริงๆนะคะ” แทยอนยังไม่ลดความพยายามที่จะขอโทษทิฟฟานี่ อาจเป็นเพราะเขารู้สึกผิดมากจริงๆที่ทำกับทิฟฟานี่แบบนั้นทั้งๆที่ทิฟฟานี่เองก็ไม่ได้เต็มใจ
(ไรเตอร์ : แน่ใจนะว่าไม่เต็มใจอะ )
(ทิฟฟานี่ : เอ๊ะ! ไรเตอร์แต่งเองนะ)
“แทแทคะ...มีใครเคยเรียกแทยอนแบบนี้มั้ย”
“หืม...ไม่มีหรอกค่ะ ทำไมเหรอ” แทยอนตอบไปแต่ก็แอบหวังเล็กๆว่าทิฟฟานี่อาจจะชอบตนบ้าง
“ก็ดีค่ะ...เพราะฟานี่เรียกได้คนเดียว” ทิฟฟานี่พูดขึ้นและมองหน้าแทยอนซึ่งก็
“อ..อะไรนะคะ” แทยอนถามทิฟฟานี่เพราะกลัวว่าทิฟฟานี่จะแกล้งตนเล่น
“แทแท...แทแทชอบฟานี่เหรอคะ” ทิฟฟานี่ถามแทยอนซึ่งๆหน้า ซึ่งมันก็ทำให้แทยอนอึ้งจนไปต่อไม่ถูก
“ตอบมาเถอะค่ะ...ฟานี่ไม่ว่าอะไรแทแทหรอก” ทิฟฟานี่พยายามให้แทยอนพูดคำนั้นออกมาจากปาก
“แทไม่รู้..” แทยอนตอบออกมา
“แทแทไม่รู้ แสดงว่าแทแทไม่ได้ชอบฟานี่ใช่มั้ย” ทิฟฟานี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พูดออกมาด้วยความรู้สึก
“แทไม่รู้...ไม่รู้ว่าแทมีความรู้สึกนี้เมื่อไหร่ แทไม่รู้ว่าแทชอบฟานี่ตอนไหน แต่แทรู้แค่ว่าแทชอบฟานี่
“แทบอกไปแล้ว...ฟานี่คงเกลียดแทมากใช่มั้ย แทเป็นใครก็ไม่รู้ จู่ๆมาบอกว่าชอบฟานี่
“ถ้าแทแทชอบฟานี่จริงๆ...ฟานี่จะให้โอกาสแทแท แต่ต้องรีบหน่อยนะ
“รอแทก่อนนะคะ...แทจะทำให้ฟานี่เห็นว่ารักแรกพบของแทก็สามารถเป็น
“นั่นสิ...ฟานี่ก็ไม่แน่ใจ ไหนจะคนนั้นคนนี้หล่อๆนิสัยดีเต็มไปหมด”
“แทไม่ยอมให้ฟานี่มีใครหรอก...เพราะฟานี่ต้องเป็นของแทคนเดียว” แทยอนก้มหน้าลงไปหาทิฟฟานี่และกระซิบที่หูของร่างอวบก่อนจะชิงหอมแก้มของทิฟฟานี่และมันก็ทำให้ทิฟฟานี่หน้าขึ้นสีเพราะเขินคนตรงหน้ามาก “ขอให้มันจริงเถอะ..คิมแทยอน” ทิฟฟานี่พูดเสร็จก็ตีเข้าที่แขนของแทยอนคนอะไรให้โอกาสแค่นี้เหลิงเชียวนะ...น่าหมั่นไส้จริงๆ
.
.
.
.
“ไอ่ลิงบ้า...กล้าดียังไงมาด่าฉันห้ะ! รู้มั้ยว่าฉันลูกใคร..ไอ่ลิงบ้า อ๊ายยยยยยยย!!!”
“หนีสิ..ฉันจะกลับเข้างาน!!” ร่างบางนึกว่าชายทั้งสามเป็นตำรวจทั่วไปที่มาคุมงานจึงตะคอกใส่หน้าไป
“เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ..เพราะคุณต้องไปกับพวกเรา” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นและวิ่งเข้ามาจับตัวของเจสสิก้า
“กรี๊ด.....ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!” ถุงกระสอบขนาดใหญ่ถูกคลุมตัวของเจสสิก้าส่งผลให้เสียงของ
“เจสสิก้า!!...อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ” ยูริที่เดินออกตามหาเจสสิก้าได้สักพักก็เดินออกมาดูที่สวนภายนอกงาน
“เฮ้ย..ก็ข้าเป็นคนจับมาข้าก็ต้องได้ยัยนี่เป็นเมียก่อนสิวะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“เฮ้ย..ได้ไงวะ ก็ข้าเป็นหัวหน้าข้าก็ต้องได้ก่อนสิ” ชายผู้เป็นหัวหน้าพูดขึ้น
“งั้นก็ทีละคนเลยละกัน จัดการให้เสร็จๆจะได้จบๆ” สิ้นเสียงชายคนที่สามถุงกระสอบก็ถูกเปิดออก
“ดี!..งั้นเวลาคุณจะตายก็ไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นนะ เพราะถ้าหากฉันเป็นคนเดียวที่ช่วย
เหลือคุณได้ในตอนที่คุณตกอยู่ในอันตราย ฉันก็จะไม่มีทางช่วยคุณเลย จำเอาไว้เจสสิก้า จอง!!!”
“ฮือ...ปล่อยฉันไปเถอะ..ฉันขอร้องล่ะนะ พวกนายอยากได้อะไรเดี๋ยวฉันจะบอกพ่อฉันให้
“มันคงไม่ทันแล้วล่ะ ทนหน่อยแล้วกัน เจ็บแป๊ปเดียวก็หาย” หนึ่งในชายทั้งสามพูดขึ้นพร้อมฉีกเสื้อผ้าของร่างบางออกทีละส่วนเพื่อให้สะดวกต่อกิจกรรมที่จะดำเนินต่อไป เสียงสะอื้นไห้ไม่มีทีท่าว่าหยุดมีแต่จะดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ทันที่กิจกรรมเลวทรามของชายทั้งสามจะเริ่มขึ้นก็........
“ปัง! ปัง!” ยูริใช้ปืนเก็บเสียงยิงเข้าเข้าที่ลำตัวของชายสองคนที่มัวแต่ถอดอาภรณ์ของร่างบางอยู่
“ปัง!” “อ๊าย!” เสียงปืนดังขึ้นตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของร่างบางที่สภาพไม่ต่างจากหญิงชาวบ้านธรรมดา
“เจสสิก้า! คุณเป็นอะไรมั้ย เจ็บตรงไหนมั้ย” ยูริถอดเสื้อสูทของตนให้เจสสิก้าเพื่อปกคลุม
“เจสสิก้า...คุณตอบฉันสิ ไอ่เลวพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรคุณใช่มั้ย” ยูริถามร่างบางแต่เหมือนไม่มีเสียง
“ฮึก.....ฮึก....ฮือ....ฮือ..” ร่างบางโผเข้ากอดร่างสูงตรงหน้า ตอนนี้ร่างบางคงช็อกและหวาดกลัวไปหมด
“คุณไม่เป็นไรนะ...ฉันอยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำอะไรคุณได้แล้วนะ” ยูริกอดปลอบร่างบาง ยูริไม่น่าพูดแรงๆ
.
.
เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที
.
.
ร่างบางคลายกอดร่างสูงอย่างช้าๆ
“เพราะนาย...นายคนเดียว ฮือๆๆ” ร่างบางโทษร่างสูงที่เช็ดน้ำตาให้เธอตรงหน้า ก็ถ้าไม่ใช่ความผิดของ
“ฉันขอโทษ...ขอโทษจริงๆ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของฉันเอง” ร่างสูงกล่าวขอโทษก่อนที่จะดึง
“ทำไมนายต้องพูดแบบนั้นด้วย...ฉันเกลียดนาย...ฉันเกลียดนาย! ได้ยินมั้ย ควอน ยูริ ฮือๆๆ”
“ฉันขอโทษนะเจสสิก้า..ใช่ มันเป็นความผิดฉันเอง เจ้าหญิงแบบคุณไม่คู่ควรกับคำด่าที่บั่นทอนจิตใจ
“ขอบคุณนะ...แล้วก็ขอโทษที่พูดไม่ดีใส่คุณ” เจสสิก้าเอ่ยขอโทษขึ้นมา หากทิฟฟานี่มาได้ยินคงอึ้งไปสามวัน คนอย่างเจสสิก้า จองน่ะเหรอจะขอโทษคนอื่นเป็น
“อื้ม..มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ฉันต้องขอโทษคุณด้วยที่พูดแบบนั้นใส่” ยูริได้ทีก็ขอโทษร่างบางบ้าง
“แต่นายก็อย่ามาพูดแบบนั้นใส่ฉันอีก..เข้าใจมั้ย ไอ่ลิงหื่น” เจสสิก้าได้ทีก็แกล้งร่างสูงตรงหน้า
“นั่นไง..ทำคุณบูชาโทษซะจริง รู้แล้วน่า..ยัยเป็ดสิบแปดหลอด!!” ยูริสบถออกมาแต่แน่นอนว่าคำสุดท้าย
“คราวหลังก็อย่าออกมาเดินสุ่มสี่สุ่มห้าคนเดียวแบบนี้อีกนะคุณ ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
“รู้แล้ว..ไม่ต้องพูดถึงมันอีกได้มั้ย เอ่อฉันขอถามอะไรคุณหน่อยสิควอน ยูริ”
“หืม...อะไรเหรอ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ”
“ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยฉันได้ในตอนที่ฉันมีปัญหา...คุณเลือกที่จะไม่ช่วยฉันจริงๆน่ะเหรอ”
“ฉันตอบคุณไปแล้วหนิ...เมื่อกี้น่ะ ถึงคุณจะมีปัญหาหรือไม่มีฉันก็พร้อมจะช่วยคุณเสมอไม่ใช่เพราะหน้าที่
ร่างบางเมื่อได้ยินร่างสูงพูดเช่นนั้นก็เงียบไปทำให้ร่างสูงสงสัยจึงสะกิดร่างบางที่ทำหน้าเหมือนจะ
“เป็นอะไรหรือเปล่า..เจสสิก้า” ยูริร้องถามขึ้น
“ปะ..เปล่า ฉันมันไม่ได้เรื่องเลยนะ มองความหวังดีของคนอื่นผิดไป ฉันมันแย่จริงๆ”
“คุณน่ะไม่ผิดหรอก ไม่เคยผิดเลยด้วยซ้ำ อย่าร้องเลยนะ ฉันน่ะไม่มีค่าพอที่คุณจะร้องไห้ให้หรอก”
เมื่อเธอมีปัญหา เธอมักจะใช้เวลากับตัวเองแม้แต่พ่อของเธอก็ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเลยด้วยซ้ำ
“................”
ไร้เสียงเอื้อนเอ่ยใดๆจากร่างบาง เมื่อร่างสูงเห็นเช่นนั้นจึงจับมือร่างบางเพื่อแสดงให้เห็นว่าร่างบางยังมีเขาอยู่
“เข้างานกันเนอะ...แต่ชุดคุณเป็นแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย” ร่างสูงเพิ่งนึกได้ว่าสภาพของร่างบางตอนนี้
“ฉันว่าฉันพาคุณกลับบ้านก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวทางนี้ฉันให้ไอ่แทจัดการให้”
“แล้วฟานี่ล่ะ...ฉันจะไปหาฟานี่” ร่างบางเพิ่งนึกได้ว่าคนที่แอบเธอรักยังอยู่ในงานจึงไม่ยอมกลับไปกับร่างสูง
“คุณทิฟฟานี่มีไอ่แทดูแลอยู่น่ะ...ฉันว่าสิก้ากลับบ้านก่อนนะ ดูสภาพสิ” ร่างสูงบอกร่าบางตรงหน้า
“เอ่อ...ขอโทษนะที่เรียกคุณแบบนั้น ฉันขอโทษ” ยูริขอโทษร่างบางเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาพูดจาที่ดู
“อะ..อื้ม ไม่เป็นไรช่างมันเถอะ” เจสสิก้าพูดออกไปเหมือนไม่ได้คิดอะไรแต่ทำไมอวัยวะที่อยู่ข้างในด้าน
ซ้ายของอกเธอถึงได้เต้นรัวและแรงแบบนี้เนี่ย!!!
“งั้นเรากลับกันนะ...ไปกันเถอะ” ยูริพูดพร้อมจูงมือเจสสิก้าไปที่รถและสตาร์ทรถขับออกไป
ซูยองเมื่อรู้ว่าไฟดับจึงออกมาถ่ายรูปข้างนอกเพราะอย่างน้อยก็ยังมีแสงจันทร์สาดส่องมาทำให้ดูสว่างขึ้นบ้าง
เมื่อซูยองถ่ายรูปจนเบื่อแล้วก็เดินกลับเข้าไปในงาน แต่ก็นะ..คนเราดื่มน้ำไปเยอะก็ต้องปวดปัสสาวะเป็นธรรมดา ร่างสูงจึงเดินไปที่ห้องน้ำแต่เมื่อเปิดออกก็ต้องตกใจกับเสียงสะอื้นไห้ที่ดังมาจากไหนก็ไม่รู้
“เฮ้ย..งานเลี้ยงนี้มันมีผีด้วยเหรอวะเนี่ย” ซูยองร้องขึ้นมาเสียวหลังก็เสียวแต่ถ้าผีมาด้านหน้าล่ะจะทำยังไง
“ฮือๆๆๆ...ฮือๆๆ” เสียงร้องไห้ดังขึ้นอีกครั้ง
“หนิ..คุณผีถ้าจะมาหลอกกันมาเป็นตัวเลยก็ได้ ไม่ต้องมาแต่เสียงฉันกลัว..”
“ฮือ...ช่วยฉันด้วยค่ะ ฉันไม่ใช่ผีนะ” เจ้าของเสียงร้องขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นซูยองจึงเดินไปตามเสียงนั้นเพื่อหาต้นเสียงที่เธอคิดว่าน่าจะยังเป็นคนอยู่...หรือเปล่าวะ
“เฮ้ย...ยัยเตี้ยมาทำอะไรตรงนี้” ร่างสูงร้องขึ้นเมื่อเห็นคนที่คุ้นเคยนั่งกอดเข่าอยู่คนเดียวตรงมุมห้องน้ำ
“ซูยองช่วยฉันด้วยสิ...ฉันกลัว” ซันนี่ร้องขึ้นเมื่อรู้ว่าคนที่เดินมาหาเธอคือใคร..จะมีใครได้ล่ะ ก็คนที่เรียกเธอว่ายัยเตี้ยนอกจากเจสสิก้าแล้วก็มีแต่ไอ่สูงไม่แคร์โลกอย่างซูยองเท่านั้น
“ออกมาเร็ว...มัวไปนั่งอยู่ตรงนั้นทำไมล่ะ” ซูยองยื่นมือให้ซันนี่เพื่อดึงเธอให้ลุกขึ้นมาแต่ก็ต้องร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดเพราะเขาดันไปลื่นล้มไม้ถูพื้นในห้องพอดี
“นายครับ...ไอ่สามคนนั้นที่นายให้ไปจัดการมันพลาดท่าโดนยิงไปแล้วครับ” ชายคนนั้นพูดขึ้น
“ครับ...ได้ครับ..เดี๋ยวผมจะจัดการตามแผนต่อไปว่าแต่ตอนนี้ผมว่าได้เวลาแล้วนะครับ จะให้เปิดไฟเลยมั้ยครับ”
“รับทราบครับนาย...รับรองงานนี้ไม่พลาดครับ” เมื่อชายคนนั้นพูดจบก็เดินไปที่ห้องควบคุมไฟและจัดการตามแผนที่ได้คุยกับนายปริศนาของตนและเดินหายไป...
พลึบ!
พลึบ!
พลึบ!
พลึบ!
ในที่สุดไฟก็มา คนในงานต่างก็ดีอกดีใจกันยกใหญ่ที่เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนจะกลับเข้าสู่ปกติสักที
“ยัยเตี้ย..เธอได้ยินอย่างที่ฉันได้ยินมั้ย” ซูยองถามเพื่อความแน่ใจเพราะเกิดมายังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง
“ก็อยู่ด้วยกันจะให้ฉันได้ยินใครที่ไหนล่ะห้ะ!” ซันนี้ตอบซูยองไป
“หนิ..อย่ามาเนียนเลยไอ่สูงไม่แคร์โลก ลุกไปจากตัวฉันได้แล้ว” ซูยองรีบเด้งตัวขึ้นทีนทีก่อนที่หน้าจะขึ้นสีเพราะเขาดันลืมไปซะสนิทเลยน่ะสิว่านั่งทับตัวของร่างเล็กอยู่
“ข..ขอโทษนะ” ทั้งสองรีบเดินออกจากห้องน้ำทันที
“ทิฟ..เธอเป็นยังไงบ..” ไม่ทันที่ซันนี่จะพูดจบประโยคก็ต้องตกใจกับท่าทางของเพื่อนของเธอและตำรวจคุ้มครองที่เหมือนจะทำมากกว่าคุ้มครองซะอีก...เล่นกอดกันซะกลมขนาดนั้นเนี่ย!! ยิ่งโต๊ะที่พวกเธอนั่งเป็น
(ไรเตอร์ : อิจฉาเหรอจ้ะซันบัน)
(ซันนี่ : หุบปากไปซะไอ่ไรเตอร์บ้า!! เดี๋ยวเคลียร์กันหลังไมค์ แกให้ฉํนอยู่ห้องน้ำได้ยังไงมันเหม็นนะรู้มั้ย!!)
(ไรเตอร์ : ตายห่าละตู..)
เมื่อทิฟฟานี่และแทยอนได้ยินเสียงที่ค่อนข้างคุ้นหูทั้งสองจึงผละออกจากกันอย่างเร็ว
“ซันนี่..เธอหายไปไหนมารู้มั้ยว่าฉันต้องนั่งอยู่คนเดียวตลอดเวลาที่ไฟดับ” ทิฟฟานี่สวดยาวใส่เพื่อนตัวเอง
“แหมๆๆ...คนเดียวแน่เหรอทิฟ ที่ฉันเห็นน่ะมันสองคนชัดๆเลยนะ” ซันนี่ตอบกลับพลางมองหน้าของแทยอนซึ่งมันก็ทำให้แทยอนหน้าขึ้นสี...ก็ตอนไฟดับทำอะไรลงไปบ้างล่ะยิ่งคิดยิ่งเขิน
“อ่าว...พี่แทมาทำงานเหรอคะ” ซูยองถามแทยอนตอนแรกเขานึกว่ายูริจะมาทำงานแค่คนเดียวแต่ก็นะ
“ค่ะ พี่มาทำงานน่ะ...เห็นไอ่ยูลบอกว่าเราก็มา” แทยอนหันไปตอบซูยอง
“ใช่ค่ะซูมากับเพื่อนยุนน่ะค่ะ...แต่ตอนนี้มันคงไปหาหมอคนสวยของมันล่ะมั้งค่ะ” ซูยองแฉเพื่อนของตน
เพราะตั้งแต่มางานยุนอาก็เดินตรงมาหาซอฮยอนจนแทบไม่เป็นอันทำงาน...นี่ก็หายไปไหนก็ไม่รู้
“นี่ก็ดึกแล้ว..ฉันว่ากลับกันเถอะนะ” ทิฟฟานี่พูดขึ้น
“อ่าว...ยัยเจสล่ะ” ซันนี่ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเพื่อนตัวดีของเธอ
“อ่อ...คุณเจสสิก้ากลับไปกับยูริเพื่อนฉันแล้วค่ะ เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายน่ะ” แทยอนตอบขึ้นเมื่อซันนี่
“ค่ะงั้นซูก็ขอตัวนะคะ...จะไปตามไอ่ยุนมัน ฉันไปก่อนนะยัยเตี้ย” ซูยองพูดขึ้นพลางมองไปที่ร่างเล็กที่
“ย่ะ..ไอ่สูงไม่แคร์โลก!!” ซันนี่พูดขึ้นก่อนที่จะเหลือบไปเห็นสายตาของทิฟฟานี่ที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“อะไร...ไม่ต้องมามองแบบนี้เลยนะทิฟ ไอ่นั่นเป็นนักข่าวของสำนักพิมพ์พ่อฉันเองแหละ” ซันนี่สาธยายยาว
ออกมาทั้งๆที่ทิฟฟานี่ยังไม่ได้ถามสักคำ
ไม่นานซูยองก็เจอยุนอาแต่ก็ต้องนั่งรอยุนอาร่ำลากับซอฮยอนก่อนที่ทั้งสองจะกลับหอของตนไป
ภายในรถของทิฟฟานี่และซันนี่
“นี่ทิฟบอกมาเลยนะว่าคุณแทยอนอะไรนั่นน่ะเป็นอะไรกับเธอ”
“อะไร..ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยหนิ ว่าแต่เธอกับซูยองล่ะเป็นอะไรกัน” ทิฟฟานี่อ้ำอึ้งก่อนจะตอบ
“ฉันกับไอ่สูงนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย..ทิฟบ้าหรือเปล่าเนี่ย” ซันนี่พูดขึ้นก่อนที่คนขับรถจะชักสี
“คุณหนูทิฟฟานี่ คุณหนูซันนี่ครับคือว่ารถเบรกแตกครับ!” คนขับบอกออกมาด้วยน้ำเสียงกังวลปนตกใจ
“อะไรนะ...........อ๊ายยยยยยยย!!” ทิฟฟานี่พูดขึ้นก่อนที่รถจะหลบรถอีกคันข้างหน้าจนต้องคว่ำลงข้างทาง
“ฟานี่!!!”
..TO BE CONTINUED..
ไรเตอร์ : ตอนนี้ยาวมากๆ ฟานี่จะเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย...แล้วใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ ตอนนี้เรื่องจะเข้มข้นขึ้นมาจากเมื่อก่อนนะคะ ทุกคู่ก็เจอกันแล้วนะอย่าลืมติดตามตอนหน้านะจ้ะ รับรองว่าตอนหน้าแทแทของเราหวานมาก รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้หรืออยากให้เรื่องเป็นแบบไหนส่งความคิดเห็นมาได้นะจ๊ะ เรายินดีปรับเพื่อ
ลงให้ใหม่นะเจ้าๆๆ บ๊ายบายๆ
ความคิดเห็น