ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] :: WAVER HEART เธอคนนี้ ฉันขอก(อ)ด :: มีทุกคู่

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 4 : หลงรัก

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 53



    CHAPTER 4 : หลงรัก

     

                   เช้านี้ยูริตื่นขึ้นมาด้วยความขี้เกียจเพราะต้องไปเป็นตำรวจคุ้มกันแขกคนสำคัญในงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายนายพลที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกกับแทยอนในตอนหัวค่ำ

                   “เฮ้ยไอ่แท..ฉันไม่ไปได้มั้ย งานเลี้ยงอะไรนั่นน่ะ อีกอย่างเป็นถึงนายพลก็ต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลในงานอยู่แล้วจะเรียกเราไปทำไม   ยูริบ่นออกมาด้วยอารมณ์เซ็งๆแต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้เพราะเจ้านายของเธอเพิ่งโทรมาสั่งเมื่อเช้าตรู่นี้เอง

     


                   20 นาทีที่แล้ว

                   .....
                   .....

                   ..


                   So-(o)u yoko no hoshi wa omoi toori    Futari nara nozomi toori Mirai sae mo omito-oshi   Kanaete ageru   Koko ni iru wa (I’m genie for you boy) Kimi mo kureba (I’m genie for your wish)…..

     

                   เสียงโทรศัพท์ของยูริดังขึ้นขณะที่ร่างสูงกำลังหลับด้วยความสงบ ความทุกข์ก็มาเยือน

                   โอ๊ย! ใครโทรมาแต่เช้าวะ   ยูริกล่าวด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

                   ฮัลโหล..ยูริเหรอ ฉันฮโยยอนนะ   เสียงปลายสายทำให้ยูริตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

                   ค่ะ ผู้กำกับ   การกระทำของยูริตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

                   คือเย็นนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายนายพล ฉันอยากให้นายกับแทยอนไปเป็นตำรวจคุ้มครองแขกสำคัญในงานเพราะได้ข่าวว่าจะมีการลักพาตัวเกิดขึ้น พวกโจรส่งจดหมายขู่มาเมื่อวาน ฉันอยากให้นายจัดการแทนฉันที   เพราะฉันไม่ว่าง   ฮโยยอนพูดเหมือนมีใครเจาะปากมาพูด ยาวกว่าแม่น้ำไนล์ซะอีก

                   ค่ะเดี๋ยวฉันจะจัดการให้...ค่ะ...สวัสดีค่ะ   เมื่อวางเสร็จยูริก็ออกอาการเซ็งเป็นอย่างมาก  แทนที่จะได้หยุดดันต้องมาเป็นตำรวจคุ้มกันให้นายพล เซ็งเว้ย!!!!!   เมื่อยูริระบายอารมณ์ตัวเองหน้ากระจกเสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะปลุกแทยอนคู่หูของตน

     

                   ไอ่แท..ตื่น มีงานด่วนตอนเย็น เดี๋ยวต้องไปเอาเอกสารที่ทำงานก่อน   แทยอนเมื่อได้ฟังก็เด้งตัวขึ้นทันทีพร้อมเดินเข้าห้องน้ำไป  ปล่อยให้ยูริยืนเอือมอยู่ใกล้ๆ ก็เพื่อนของร่างสูงพอได้ยินคำว่างานทีไร เป็นต้องฟิตอยู่ตลอดต่างกับเธอที่ตอนนี้เบื่อมาก

     

                   (ยูริ : มันจะฟิตไปไหนล่ะ)

                   (แทยอน : ไปหาแม่แกมั้ง..ไปอาบน้ำไป๊!!!)

                   (ยูริ : แต่ห้องน้ำแกใช้อยู่นะไอ่หมาแท....หรือว่าเราจะอาบด้วยกัน จะได้สร้างกระแส TaeRi)

                   (แทยอน : แกหุบปากไปซะ ฉันรักฟานี่ได้คนเดียว ^///^)

                   (ยูริ : จ้ะๆไม่ขัดศรัทธา เพราะฉันก็ Only YulSic)

                   เมื่อทั้งสองทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็รีบเข้าที่ทำงานเพื่อไปเอาเอกสารและรายชื่อแขกที่มาร่วมงานเพื่อแบ่งทีมคุ้มกันแขกในงานให้ได้ทั่วถึง

                   ไอ่แท รายชื่อเยอะแบบนี้เราคุ้มกันเฉพาะแขกคนสำคัญดีมั้ย....ส่วนแขกคนอื่นก็ปล่อยให้ตำรวจในงานจัดการไป   ยูริเสนอความเห็นให้เพื่อนของตนเพราะงานของทั้งสองก็เยอะมากพอแล้ว..อีกอย่างก็กลัวว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึงด้วย

                   อืม ก็ดีนะ.....งั้นตกลงตามนี้   แทยอนพูดขึ้นพร้อมดูรายชื่อแขกสำคัญที่ต้องคุ้มกัน

                   แขกที่เราต้องคุ้มกันก็มีเจสสิก้า จองและทิฟฟานี่ จองลูกสาวมาเฟียรายใหญ่   ลีซันคยูลูกสาวสำนักพิมพ์ลีที่ใหญ่ที่สุดในโซลและคนสุดท้ายซอจูฮยอนหลานสาวของท่านนายพล   แทยอนไล่รายชื่อไปเรื่อยๆรวมทั้งหมดก็สี่ราย งานนี้สบายมากเพราะฝีมือของทั้งสองก็ถือว่าไม่เป็นรองใครเช่นกัน

                   โอเคตามนั้น..งั้นเราแบ่งคนละสองนะจะได้ทำงานสะดวก ฉันเอาเจสสิก้า จองกับซอจูฮยอนนะ   ยูริเอ่ยขึ้น แทยอนพยักหน้าและพูดขึ้น

                   ได้..งั้นฉันจะดูแลทิฟฟานี่ จองและลีซันคยูเอง   เมื่อทั้งสองตกลงกันได้แล้วก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้เหมาะกับงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายท่านนายพล   ยูริเลือกใส่เสื้อเชิ้ทสีเทาและมีเสื้อนอกสีดำดูสุภาพเรียบร้อย ทั้งหล่อและสวยในเวลาเดียวกันส่วนแทยอนใส่เสื้อเชิ้ทพับแขนสีดำและสูทตัวเก่งของตนที่ซื้อมาตอนไปเที่ยวลอนดอน ดูแล้วทำให้แขกที่มาในงานอดหลงใหลทั้งสองที่เป็นตำรวจคุ้มกันแขกภายในงานไม่ได้

     

     

     

     

                   เมื่อถึงเวลาเริ่มงานแขกเริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ ตำรวจหน้าหล่อจึงต้องคอยดูรายชื่อตรงทางเข้าอย่างละเอียด

    เพื่อดูว่าแขกที่พวกเขาต้องคุ้มกันนั้นมาถึงหรือยัง  ยูริและแทยอนยืนรอหน้างานได้สักพักก็มีแสงแฟลตและเสียงชัตเตอร์ดังมาไม่ขาดสาย พร้อมผู้คนที่กรูเข้ามาเหมือนทุกสายตาต่างก็จับจ้องอยู่ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง

                   เอ๊ะ!..นั่นมันเจสสิก้ากับทิฟฟานี่ลูกสาวมาเฟียอันดับหนึ่งในกรุงโซลหนิ เดินมากับลูกสาวสำนักพิมพ์ลี สวยไม่มีที่ติทั้งสามคนจริงๆนะ  ใครได้เป็นเจ้าของหัวใจคงโชคดีน่าดู   เสียงของแขกที่คุยกันข้างๆยูริและแทยอนทำให้ทั้งสองสะดุ้งขึ้นมา   เนี่ยเหรอแขกที่เราต้องมาดูแล..ไหนขอดูหน้าหน่อยเถอะ   ยูริและแทยอนเดินตรงไปยังบุคคลทั้งสามเพื่อคอยคุ้มครองอยู่ใกล้ๆแต่ก็ไม่ลืมให้อิสระแก่แขกทั้งสามเช่นกัน



                   เมื่อสาวทั้งสามรู้สึกตัวว่ามีคนเดินตามมาได้สักพัก
      พวกเธอจึงต้องหันมาเพื่อเตือนว่า..

                   เอ่อ ขอความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะ...แต่ก็ต้องงงกับร่างสูงและคู่หูที่ยืนใส่ชุดสูทอย่างดีและเหมือนจะคอยเดินตามพวกเธออยู่เรื่อยตั้งแต่เดินเข้างานมา

                   หนิพวกคุณ...ต้องการอะไรไม่ทราบคะ   เห็นเดินตามพวกเรามาตั้งนานสองนานแล้ว   ซันนี่เอ่ยถามร่างตรงหน้าด้วยความสงสัย    (ซันนี่: คนดังก็แบบนี้แหละค่ะ)

                   เอ่อ....ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ คือว่าพวกฉันเป็นตำรวจคุ้มครองแขกคนสำคัญในงานน่ะค่ะ และพวกฉันก็ได้รับหน้าที่ให้คอยดูแลความปลอดภัยของพวกคุณอย่างใกล้ชิด   แทยอนตอบกลับไป แต่สายตาดันไปจับจ้องอยู่ที่สาวสวยร่างอวบที่ยืนเคียงคู่กับเจสสิก้า

                   มีอะไรเหรอซันนี่...   เจสสิก้าและทิฟฟานี่เมื่อคุยกับแขกในงานเสร็จก็เดินมาหาเพื่อนของตนที่เหมือนจะคุยกับคนอื่นอยู่...แต่จะใครก็ช่างเถอะนะ  เพราะสิก้าไม่แคร์!!!

                   อ่อ..พวกเขาเป็นตำรวจคุ้มครองแขกคนสำคัญในงานน่ะ..ไม่มีอะไรหรอก   ซันนี่ตอบเพื่อนของเธอทั้งสอง แต่เหมือนจะมีแต่ทิฟฟานี่เท่านั้นที่ฟังซันนี่ตอบ และเหมือนว่าเจสสิก้าจะไม่สนใจตำรวจสองนายนั้นสักเท่าไหร่ จนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตำรวจหนึ่งในสองนายนั้นเป็นคนที่เธอเรียกว่าไอ่ลิงหื่น   


                  
    ผ่านไป 30 วินาที เจสสิก้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าร่างสูงตรงหน้าคือคนเดียวกันกับ ไอ่บ้ากาม ไอ่ลิงหื่น ที่เธอแค้นมาตลอดสามวัน  เพราะดันมาจับของรักของห่วงของเธอ   เจอตัวก็ดี นายเสร็จแน่....หึๆ เสียงความคิดด้านลบของเจ้าหญิงน้ำแข็งดังขึ้นในหัวสมองอยู่ตลอดเวลา

     

                   อ่อ..ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ไอ่โรคจิตลิงหื่นที่ผับนั่นเอง วันนี้จะมาทำอะไรอีกล่ะห้ะ! ตำรวจในงานเขายอมให้นายเข้างานมาได้ยังไงเนี่ย  ทำงานบกพร่องซะจริง...เดี๋ยวก็ให้พ่อไล่ออกให้หมดซะนี่!!!”   เจสสิก้าโวยวายร่างสูงตรงหน้าด้วยความโกรธเคือง

                   หนิคุณ..ก็ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันไม่ใช่พวกบ้ากาม...ยืนด่าฉันฉอดๆเนี่ยดูบ้างมั้ยว่าฉันเป็นใครห้ะ!”

                   นายจะเป็นใครก็เรื่องของนาย  ฉันไม่จำเป็นต้องรู้หนิ!!”   ร่างบางตอบกลับทันควัน

                   ดี..งั้นก็หัดรู้ไว้ซะบ้างนะว่าฉันควอน ยูริเป็นตำรวจที่ต้องมาคุ้มครองแขกคนพิเศษในงานนี้และคุณก็เป็นหนึ่งในจำนวนแขกที่ฉันต้องดูแล  เข้าใจหรือยังคุณเจสสิก้า จอง   ร่างสูงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเพราะรำคาญกับเสียงสิบแปดหลอดที่โหวกเหวกโวยวายอยู่ตรงหน้าตน

                   อย่างคุณน่ะเหรอควอน ยูริ..จะมาคุ้มครองหรือลอบทำร้ายกันแน่ห้ะ!!!”   ร่างบางตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไร

    แต่มันก็ทำให้ร่างสูงโมโหขึ้นทันที  คนอุตส่าห์มาคอยคุ้มครองถึงแม้ว่าต้องทำตามหน้าที่ด้วยก็เถอะ แต่ช่วยพูดดีดีหน่อยไม่ได้หรือไง   ร่างสูงยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นสาวร่างเล็กคนนี้เดินเข้างานมาก็ถึงกับหวั่นไหวให้กับร่างบางเพราะความสวยและมีเสน่ห์   บวกกับหุ่นที่ดูดีและสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในแล้ว  มันก็ไม่แปลกที่จะทำให้ร่างสูงรู้สึกหวั่นไหวใจสั่นกับเธอคนนี้   แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของร่างบาง  ก็ทำให้ร่างสูงรู้สึกไร้ค่าและไม่อยากเจอร่างบางอีกเป็นครั้งที่สาม

     

                  ดี!..งั้นเวลาคุณจะตายก็ไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นนะ เพราะถ้าหากฉันเป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือคุณได้ในตอนที่คุณตกอยู่ในอันตราย ฉันก็จะไม่มีทางช่วยคุณเลย จำเอาไว้เจสสิก้า จอง!!!”


                   ร่างสูงตะคอกใส่ร่างบางตรงหน้าด้วยความโกรธและเดินออกจากงานไปทันที   ทิ้งให้ร่างบางอย่างเจสสิก้ายืนอึ้งอยู่นาน   เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครที่เธอยอมให้ตะคอกใส่หน้าเธอได้ยกเว้นพ่อบังเกิดเกล้าของตน   ยูริยอมรับว่าเธอโกรธมากที่ร่างบางพูดออกมาแบบนั้น..ทำไมถึงได้ดูถูกความหวังดีของคนอื่นนักนะ   แต่โกรธไปคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา  เพราะคนอย่างเจสสิก้า จองก็ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของใครอยู่แล้วหนิ หวังว่าเสร็จงานนี้เราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะเจสสิก้า....

     

     

     

                   เจส..เจสซี่...เจสสิก้า   ซันนี่และทิฟฟานี่ที่เห็นยูริและเจสสิก้าทะเลาะกันเสียงดังจึงจะเข้ามาห้าม  แต่ยูริก็เดินหนีออกไปซะก่อนปล่อยให้แทยอนยืนงงอยู่ห่างๆแต่ก็ออกไปตามไม่ได้เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่  ยังดีที่งานนี้เสียงเพลงค่อนข้างดังทำให้กลบเสียงทะเลาะกันของทั้งสอง ไม่งั้นคงได้ลงข่าวหน้าหนึ่งอีกเป็นแน่   เมื่อเดินมาถึงก็เห็นเพื่อนของตนยืนนิ่งเป็นหินอยู่จึงเข้าไปเรียก  ยัยเจสสิก้า...เธอเป็นอะไรของเธ๊อ!!!!!!!!!!!

     

                   หะ..ห้ะ ซันนี่อยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนเรียกทำไม   เจสสิก้าตอบเพื่อนทั้งสองของตนที่เหมือนจะงงกับเหตุการณ์เมื่อตะกี้อยู่

                   ก็เธอเล่นยืนแข็งทื่ออยู่คนเดียวตั้งแต่ทะเลาะกับคุณคนเมื่อกี้เสร็จหนิ..ฉันก็นึกว่าเธอถูกสะกดจิตซะอีก   ซันนี่ตอบออกไป..เธอล่ะอยากรู้จริงๆว่าใครที่ทำให้เพื่อนของเธอซึมไปได้ขนาดนี้

                   ก็เปล่า..ไม่มีอะไรหรอก   เจสสิก้าโกหกอย่างตั้งใจออกไป   ซันนี่!! เธอจะพูดถึงไอ่บ้านั่นทำไม...ฉันล่ะเกลียด  เกลียดจริงๆ  อย่าให้เจอกันอีกนะ ควอน ยูริ

                   เอ่อ..ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะคะที่ทำให้คุณเจสสิก้าต้องอารมณ์เสีย   แทยอนที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นเพราะไม่อยากให้เรื่องยาวไปมากกว่านี้

                   ไม่เป็นไรค่ะ..คุณคงเป็นตำรวจคุ้มกันแขกพิเศษในงานใช่มั้ยคะ   เจสสิก้าเอ่ยขึ้น

                   ใช่ค่ะ..ฉันคิม แทยอน   แทยอนตอบออกไปแต่สายตาก็ยังคงมองร่างอวบที่ยืนอยู่กับซันนี่  กินอะไรเข้าไปนะถึงได้น่ารักแบบนี้....คุณทำให้ฉันหลงรักคุณเข้าแล้ว รู้ตัวบ้างมั้ย..ทิฟฟานี่

                   เจสหิวมั้ย อยากดื่มอะไรหรือเปล่า   ทิฟฟานี่ที่พอเข้าใจทุกอย่างเสร็จก็ถามเจสสิก้าที่ตอนนี้ออร่าเจ้าหญิงน้ำแข็งช่างแผ่รัศมีไปทั่วงานจนลืมสนใจแทยอนไป

                   เจสไม่ค่อยหิวหรอก..อยากเตะคนมากกว่าน่ะ แต่อยากดื่มน้ำนิดหน่อยเพราะด่าจนคอแห้งหมดแล้ว   เจสสิก้าตอบคนพิเศษ (ในความคิด) ของตนเองไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

                   งั้นเดี๋ยวฟานี่ไปหาอะไรให้เจสดื่มดีกว่านะ รอแปปนึงนะ   เมื่อพูดเสร็จร่างอวบก็ไม่รอให้คนฟังตอบกลับ แต่เดินไปยังบาร์น้ำเพื่อไปหาเครื่องดื่มให้เจสสิก้า แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ทันดูเหมือนกันว่ามีร่างหนึ่งกำลังคอยตามเธออยู่ห่างๆด้วยความเป็นห่วงบวกกับหน้าที่ที่ตนต้องปฏิบัติ

     

                   ขอบคุณค่ะ....อ่ะ!”   ทิฟฟานี่ร้องขึ้นเมื่อถูกชายร่างหนึ่งชนขณะที่รับไวน์มาจากบาร์เทนเดอร์จนเธอเสียหลักแต่ดีที่มีร่างเล็กคอยรับเธอไว้ ไม่งั้นเธอได้เป็นหมีขาวอาบไวน์เป็นแน่

                   เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณทิฟฟานี่   แทยอนถามขึ้นหลังจากพยุงร่างอวบให้ยืนขึ้นได้แล้ว

                   ขอบคุณมากค่ะ..ว่าแต่คุณคือ..เอ่อ  ขอโทษนะคะ ฉันจำได้ว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง..   ทิฟฟานี่ถามคนตรงหน้าด้วยความงุนงง..นี่เธอดังขนาดนั้นเลยเหรอ

                   อ่อ...ฉันคิม แทยอนเป็นตำรวจคุ้มครองคุณกับเพื่อนของคุณน่ะค่ะ เมื่อกี้เราก็เจอกันแล้วแต่เหมือนว่าคุณจะไม่ได้ใส่ใจอะไร...   แทยอนตอบกลับไปด้วยสีหน้าเศร้าลงจากเมื่อกี้   และมันก็ทำให้ทิฟฟานี่นิ่งไปขณะหนึ่งเพราะเธอก็ยอมรับว่าเธอสนใจแต่เจสสิก้าและซันนี่จนไม่ได้สนใจแทยอนสักนิดเลย

                   อ่อ งั้นต้องขอบคุณแทยอนมากนะคะที่ช่วยฟานี่ไว้ ฟานี่ต้องขอโทษแทยอนด้วยนะคะ ฟานี่ต้องขอโทษจริงๆค่ะ คือฟานี่คงวุ่นๆอยู่กับเพื่อนของฟานี่มากไปหน่อย   ทิฟฟานี่พูดขึ้นพร้อมโค้งขอโทษขอโพยแทยอนที่ตอนนี้ก็แอบรู้สึกดีใจที่ร่างอวบตรงหน้าเธอดูเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นแม้จะเป็นเพียงแค่คนเพิ่งรู้จัก   หวังว่าแทคงคิดไม่ผิดใช่มั้ยที่หลงรักฟานี่...ที่รักของแท ^///^


                   ทั้งสองเดินเคียงข้างคุยกันตลอดทางที่เดินกลับมา..เสียงหัวเราะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รอยยิ้มที่น่ารักและสดใสเกิดขึ้นได้ง่ายๆจากใบหน้าของสาวลูกครึ่งหน้าตาดี   หากลองสังเกตดูห่างๆแล้วทั้งสองก็เปรียบเหมือนคู่รักที่สนิทสนมกันมานาน....แทยอนยอมรับว่ารู้สึกดีมากๆที่ทิฟฟานี่เป็นคนที่คุยเก่ง น่ารัก ใส่ใจคนรอบข้าง ที่สำคัญเธอมีรอยยิ้มที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้...และคิม แทยอนคนนี้กำลังเปลี่ยนไปเพราะหัวใจดวงน้อยๆกำลังพองโตขึ้นเรื่อยๆจนแทบอยากจะให้ร่างอวบตรงหน้าได้เห็น   แม้ว่าจะเป็นเพียงครั้งแรกที่ทั้งสองได้พูดคุยกันก็ตาม 

                   จากความคิดที่ว่างานต้องมาก่อนเสมอเพราะเป็นหน้าที่ที่สำคัญ   แต่ตอนนี้คิม แทยอนคนนี้ กลับคิดว่าต้องคอยดูแลและปกป้องคนตรงหน้าที่เป็นเหมือนดั่งดวงใจของเขา...แทยอนเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดกับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง   ดังนั้นเมื่อเขาตัดสินใจที่รักใครสักคนแล้ว ความคิดนั้นจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด  ถึงแม้ว่าทิฟฟานี่จะไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเขาเลยก็ตาม..ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ครอบครองทิฟฟานี่ที่เขารักแต่ทิฟฟานี่ก็จะเป็นคนที่เขารักมากที่สุดตลอดไป

     

    ...แทให้ฟานี่ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตของแทเอง เพราะฟานี่เป็นรักแรกพบและจะเป็นรักสุดท้ายของแท...

     

                   ฟานี่..ทำไมไปนานจังล่ะ   เจสสิก้าเอ่ยขึ้นเมื่อทิฟฟานี่และแทยอนเดินมาถึงโต๊ะของเจสสิก้าและซันนี่  

                   เอ่อ..งั้นแทขอตัวก่อนนะคะฟานี่   แทยอนบอกลาทิฟฟานี่เพราะอยากให้ทิฟฟานี่อยู่กับเจสสิก้าและซันนี่ ที่สำคัญเขายังต้องคอยคุ้มครองแขกคนสำคัญในงานอีกคนแทนยูริที่ตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้..ซอจูฮยอน

                   ค่ะ..ขอบคุณมากนะค่ะแทแทที่เดินมาส่ง ทำงานดีดีนะคะ   ทิฟฟานี่บอกแทยอนและหันมาคุยกับเจสสิก้าที่รอคำตอบจากทิฟฟานี่จนไม่ได้สนใจแทยอนที่ยืนหน้าแดงกับคำพูดของทิฟฟานี่เมื่อกี้  เมื่อฟังคำตอบจากทิฟฟานี่แล้วเจสสิก้าก็ขอตัวออกมาเดินเล่นคนเดียวเพราะรู้สึกไม่ค่อยดี  เพื่อนทั้งสองจึงไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าเวลาเจสสิก้ามีเรื่องหนักใจหรือกลุ้มใจอะไรมักอยากจะใช้เวลากับตัวเองมากกว่าที่อยากจะได้ที่ปรึกษา

     

                   แทแทเมื่อกี้ฟานี่เรียกเราว่าแทแท...ดีใจโว๊ย!!!!   แทแทรักฟานี่นะคะ  ^^   แทยอนเดินออกมาจากงานเพื่อตามหายูริแต่ดันเจอคนรู้จักที่เหมือนจะมีเรื่องกันมาหยกๆซะก่อน

                   อ่าวยุนอามาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย   แทยอนถามน้องของเพื่อนตัวดีของตน

                   อ่าวพี่แท ยุนก็มาทำข่าวสิคะแล้วพี่ล่ะมาทำไม   ยุนอาตอบกลับด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส

                   พี่ก็มาทำงานของพี่สิ แล้วยุนอะเห็นพี่ตัวดีของยุนบ้างมั้ย   แทยอนถามยุนอาเผื่อว่ายุนอาจะเห็นคู่หูของตนบ้าง

                   ไม่เลยพี่แท...นี่ยุนก็เพิ่งมากับเพื่อนหยองเหมือนกัน ส่วนไอ่หยองมันไปทำข่าวทางด้านโน่นน่ะ   ยุนอาตอบเสร็จ แทยอนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา...นี่เพื่อนตัวดีของตนหายไปไหนเนี่ย!!

     

     

                   ผู้หญิงอะไรปากร้ายเป็นบ้า แต่ก็อย่างว่าเธอเป็นคนรวยคงไม่เคยต้องมาเสียความรู้สึกกับใครหรอกนะ...เฮ่อออ   ทำไมฉันต้องนึกถึงเธอด้วยเนี่ยเจสสิก้า จอง   เฮ่อออออ   หลังจากที่ยูริเดินออกมาจากงานได้สักพักก็หยุดดูวิวตอนกลางคืนอยู่ที่ระเบียงที่ปลอดผู้คนเพื่อสงบสติอารมณ์หลังจากที่สุดจะทนที่จะทะเลาะกับเจสสิก้า

     

                   ตึก.........ตึก..........ตึก

     

                   เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหายูริที่หันหลังอยู่ไม่ไกล   เมื่อยูริได้ยินเสียงก็เตรียมป้องกันตัวเอง   มือข้างหนึ่งเตรียมจับปืนของตัวเองที่อยู่ตรงเอวข้างขวาอย่างช้าๆ

     

                   ตึก.....ตึก.....ตึก

     

                   เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ   ยูริหลับตาลงเพื่อเตรียมสมาธิ

     

                   ตึก..ตึก..ตึก..ตึก

                 
      

                   หยุดแล้วสินะ

     

                   ควับ....

     

                   ยูริหันหลังกลับไปพร้อมกับปืนที่จ่ออยู่ที่หัวของอีกคนส่วนคนที่ถูกปืนจ่อหัวอยู่นั้นก็สะดุ้งออกมา

                   เฮ้ย!!..พี่ยูริเอาปืนจ่อหัวซูทำไมเนี่ย   ซูยองเดินออกมาถ่ายรูปบรรยากาศภายในงานเสร็จก็อยากจะสูดอากาศตอนกลางคืนบ้างจึงเดินออกมาและเห็นร่างสูงที่คับคลายคาคลาว่าจะเป็นพี่ของเพื่อนตนเองจึงเดินเข้ามาดู  ใครจะไปคิดว่าจะต้องโดนเอาปืนจ่อหัว..

                   เฮ้ย..ซูยองมาทำอะไรเนี่ย   เอาปืนจ่อหัวได้ไม่นานก็ต้องเอาลงเมื่อรู้ว่าคนที่ตนกำลังจะยิงนั้นเป็นเพื่อนของน้องตนเอง

                   พี่ขอโทษ พี่นึกว่าเราเป็นโจร พี่ขอโทษนะ   ยูริขอโทษซูยองทันทีที่ทำให้ตกใจ

                   แล้วพี่ยูริมายืนทำอะไรตรงนี้ค่ะเนี่ย มืดจะตาย..ต้องเป็นตำรวจคุ้มกันแขกในงานไม่ใช่เหรอคะ   ซูยองถามยูริที่สีหน้าดูเหนื่อยใจและอ่อนล้ามาก

                   อื้มก็จริง นี่พี่ก็ออกมาสูดอากาศนานแล้วเหมือนกันงั้นเราเข้างานพร้อมกันเลยละกันนะ   ทั้งสองจึงเดินเข้างานไปและแยกย้ายไปทำงานของตน

     


                   ไอ่ยูล ไปไหนมาวะเนี่ย!! รู้มั้ยว่าฉันหาแกทั่วงานเลยนะ   เป็นเสียงใครไปไม่ได้นอกซะจากแทยอนที่เดินตามหายูริทั่วทั้งงานมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว

                   ขอโทษว่ะ พอดีเดินออกไปสูดอากาศข้างนอกงานมาน่ะ เจอซูยองด้วย   ยูริตอบแทยอนไปด้วยสีหน้ารู้สึกผิด   ไม่ใช่ว่ายูริไม่รู้ว่าออกไปนอกงานนานแค่ไหนแล้ว  แต่เป็นเพราะรู้ว่าแทยอนต้องคอยคุ้มกันเจสสิก้าและเพื่อน  ยูริจึงไม่อยากเจอหน้าเจสสิก้าจึงเป็นเหตุผลที่แทยอนต้องคอยเดินตามหายูริจนขาแทบลาก

                   เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกเมื่อกี้ฉันก็เจอยุนอาคงทำข่าวอยู่ทางโน่นน่ะ   แทยอนพูดพลางชื้นิ้วไปทางเวทีแต่ไม่ทันที่บทสนทนาจะดำเนินต่อเสียงพิธีกรบนเวทีก็ดังขึ้น แขกทุกคนในงานจึงให้ความสำคัญกับเจ้าของงานบนเวที

                   ขออนุญาตแขกผู้มีเกียรติทุกท่านดื่มต้อนรับให้กับคุณอก แทคยอนลูกชายท่านนายพลที่เพิ่งเรียนจบจากอิตาลีครับทุกท่าน   พีธีกรพูดขึ้นพลางยกแก้วแสดงความยินดีซึ่งแขกด้านล่างก็ทำตามเช่นกัน

                   โอกาสนี้ขอเชิญคุณอก แทคยอนกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านด้วยครับ  

                   ครับ ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มางานเลี้ยงต้อนรับผมนะครับ ผมรู้สึกดีใจมากจริงๆ  ผมสัญญาครับว่าจะทำงานให้ดี ให้สมกับที่ได้เล่าเรียนมา และให้สมกับที่เป็นลูกของพ่อเช่นกันครับ   แทคยอนกล่าวก่อนมองหน้าพ่อของตนและยิ้มให้กันอย่างปลื้มปิติ   เสียงปรบมือจากแขกร่วมงานดังขึ้นก่อนที่ท่านนายพลจะกล่าวขึ้น

                   ผมต้องขอบคุณแขกทุกท่านเช่นกันครับ งานนี้นอกจากจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายของผมแล้วจะถือว่าเป็นงานแถลงข่าวไปด้วยละกันนะครับ คืออีกไม่นานผมจะแต่งตั้งหลานสาวของผม ซอจูฮยอนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ผมได้ดูแลอยู่ครับ   สิ้นเสียงของนายพล  เสียงพูดคุยกันจากข้างล่างเวทีก็ดังขึ้น  ซอฮยอนที่ไม่คิดว่านายพลที่มีศักดิ์เป็นคุณลุงของตนจะประกาศอะไรแบบนี้ออกมา   เมื่อมองไปยังคุณลุงของตนก็ได้รับสายตาที่เป็นเชิงบอกว่าให้ขึ้นมาบนเวที   ซอฮยอนจึงจำใจเดินขึ้นไปอย่างมึนงง

                   พูดอะไรหน่อยสิหลาน...ลุงอุตส่าห์ทำเซอร์ไพรส์หลานเลยนะ”   นายพลพูดกับซอฮยอนหลังขึ้นไปบนเวทีได้สักพักหนึ่ง

                   เอ่อ...คือ...ซอก็เพิ่งทราบพร้อมกับทุกคนเมื่อกี้นี้เองค่ะ..ซอจะไม่ขอพูดอะไรมาก แค่ซอรักโรงพยาบาลนี้มากและซอจะทำหน้าที่ของซอให้ดีที่สุดเช่นกันค่ะ

     

     

                   ซอฮยอนพูดเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีกครั้ง  เมื่อเธอเดินลงจากเวทีต่างก็มีแสงแฟลตพร้อมกับนักข่าวมากมาย

    ที่กรูเข้ามาจนเธอไม่สามารถเดินหนีออกจากกลุ่มนักข่าวได้   แต่โชคดีที่มีมือข้างหนึ่งดึงเธอให้ออกมาจากกลุ่มของนักข่าวพวกนั้นและเดินมายังมุมหนึ่งของงานที่ค่อนข้างปลอดผู้คน

                   น้องซอ...เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนมั้ย   ยุนอาถามคนที่ตนรักด้วยอาการที่ดูเป็นห่วงออกนอกหน้านอกตา

                   ยุน! มาที่นี่ได้ยังไงคะ   เมื่อหยุดเดินแล้วซอฮยอนก็ต้องตกใจเมื่อคนที่ดึงเธอออกมาคือคนที่เดินไปส่งเธอที่รถเมื่อวาน...ดูเหมือนว่าคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันจะจริงแฮะ

                   ก็ยุนเป็นนักข่าวก็ต้องมาทำข่าวสิคะ ว่าแต่น้องซอเป็นอะไรมั้ยคะ คงไม่ชินที่มีนักข่าวรุมกันแบบนั้นใช่มั้ย   ยุนอายังคงมองดูซอฮยอนเผื่อว่าร่างตรงหน้าจะบาดเจ็บตรงไหนจะได้ช่วยได้ทัน

    (ไรเตอร์ : พูดเหมือนว่าไปรบมายังงั้นอะ)

                   ค่ะซอไม่ค่อยชิน  แล้วก็ไม่ค่อยชอบด้วยสิพวกนักข่าวเนี่ย ดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้   ซอฮยอนตอบไปแต่ก็ลืมว่าร่างสูงตรงหน้าก็เป็นนักข่าวด้วยเช่นกันเธอจึงหัวเราะออกมา

                   น้องซออะ..แต่ยุนไม่ได้น่ากลัวแบบนั้นนะ น้องซออย่าเข้าใจผิดนะ   ยุนอาเมื่อรู้ว่าซอฮยอนแอบแกล้งตนก็รีบแก้ตัวทันควัน

                   เชื่อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้...ซอไม่ได้เป็นอะไรยุนไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ   ซอฮยอนได้ทีก็แกล้งยุนอาอีกแต่คราวนี้ดันมาแกล้งเดินหนีด้วยเนี่ยสิ  แต่มีเหรอที่คนอย่างควอน ยุนอาจะยอม  มือข้างเดียวกับตอนที่ช่วยซอฮยอนจากนักข่าวของยุนอาคว้าเอาแขนของซอฮยอนอีกครั้งและออกแรงดึงเล็กน้อยจึงทำให้ซอฮยอนเซเข้าสู่อ้อมกอดของยุนอา   รอยยิ้มบนใบหน้าของยุนอาเผยให้เห็นอีกครั้งหลังซอฮยอนงอนแก้มป่องอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง

                   นี่ไง..พวกนักข่าวน่ากลัวจริงๆด้วย   ซอฮยอนพูดขึ้นหลังจากที่พยายามใช้มือดันร่างสูงที่กอดอยู่ให้ปล่อยแต่ก็ไม่สามารถเพราะแรงของร่างสูงมีมากกว่าอยู่แล้ว

                   ใครบอก นักข่าวไม่ได้น่ากลัวแต่น่ารักต่างหาก ไม่เชื่อน้องซอก็ลองมารักยุนดูสิคะ   ยุนอาทำหน้าทะเล้นใส่ซอฮยอนที่อยู่ในอ้อมกอดของตนเองอีกครั้ง

                   เรื่องอะไรซอต้องรักยุนด้วยล่ะในเมื่อซอมีคนที่ซอชอบอยู่แล้ว   ซอฮยอนนึกอยากแกล้งให้คนตรงหน้าปล่อยตนจึงพูดออกไปทั้งๆที่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคือใคร  และมันก็ได้ผลเพราะว่ายุนอายอมปล่อยมือจากซอฮยอนและมีสีหน้าที่ดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

                   น้องซอมีคนที่ชอบแล้ว ใครเหรอบอกยุนได้มั้ย   ยุนอาถามไปแต่ก็ไม่กล้ามองหน้าซอฮยอนอีกอยู่ดีได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น  ซอฮยอนจึงได้แต่คิดในใจว่าทำไมคนๆนี้ถึงได้ดูน่ารักเวลาน้อยใจหรือว่าเข้าใจผิดแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ

                   อยากรู้เหรอ เงยหน้าสิคะ   สิ้นเสียงนี้ยุนอาก็ทำตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง   มือทั้งสองข้างของซอฮยอนค่อยๆยกขึ้นมาจับแก้มของยุนอาเบาๆเพื่อให้เงยหน้าขึ้น ยุนอาตกใจมากที่จู่ๆริมฝีปากของซอฮยอนก็จรดอยู่กับริมฝีปากของตนอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนก่อนที่จะค่อยๆถอนออกมาอย่างน่าเสียดาย  แต่ก็ทำให้ยุนอายืนอึ้งอยู่ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ

                   ซอชอบคนที่ซอเพิ่งจูบไปเมื่อกี้นี้ ที่นี้ยุนรู้หรือยัง   ซอฮยอนตอบออกไปอย่างเขินอาย  อีกอย่างเธอก็ไม่เคยจูบใครก่อนแบบนี้ด้วย

                   จริงนะ น้องซอพูดจริงๆนะ ยุนดีใจที่สุดเลยรู้มั้ยคะ   สีหน้าของยุนอาเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้มากทำให้ซอฮยอนอดที่จะขำกับท่าทางของคนตรงหน้าไม่ได้

                   ยุนรักน้องซอที่สุดเลย   ยุนอาพูดพร้อมดึงซอฮยอนเข้าสู่อ้อมกอดของตนอีกครั้ง

                   ยุนอย่าทำตัวเหมือนเด็กสิคะ..เดี๋ยวคนอื่นก็มาเห็นหรอก   ซอฮยอนบอกยุนอาไปแต่จริงๆเธอก็กอดตอบยุนอาเหมือนกัน ได้ยินอย่างนั้นยุนอาจึงคลายกอดจากซอฮยอน

                   เข้างานกันเถอะเนอะ น้องซอของยุน

                   อะ..อื้ม   ทั้งสองจูงมือกันก่อนจะเดินเข้างานแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

     

                   พลึบ!

                   พลึบ!

                   พลึบ!

                   พลึบ!

     

                   ไฟทั่วทั้งงานดับลงตามความประสงค์ของใครบางคนและตามมาด้วยเสียงร้องโวยวายของแขกภายในงานที่ตกใจกันยกใหญ่   เมื่อตำรวจรู้ถึงความผิดปกติก็รีบแบ่งทีมและกระจายไปดูแลแขกภายในงานรวมถึงยูริและแทยอนด้วยที่รู้ว่าต้องคอยดูแลใคร   ทั้งสองจึงรีบวิ่งไปหาโต๊ะที่หญิงทั้งสามนั่งอยู่ทันที  โดยที่ไม่รู้เลยว่าแผนการบางอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้น

     

     

     

     

       ..TO BE CONTINUED..

     

     

     

     

    ไรเตอร์ : เรื่องกำลังจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆนะ  อย่าเพิ่งเบื่อกันนะรีดเดอร์ เรากลัวว่าแต่งมาจะไม่มีใครอ่าน...

    อยากจะให้ช่วยกันติดตาม  จริงๆนะเนี่ย  ^^  ถ้าเม้นเยอะจะลงตอนต่อไปเร็วๆเลย  สัญญาๆ  อยากดูคอนเอสเอ็มที่แอลเอบ้างจัง...ทำไมปีนี้ไม่จัดที่ไทยด้วยนะ แต่ถึงมีเราจะมีตังค์ไปรึเปล่าเนี่ยสิ  อิอิ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×