ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นรัก..ขยี๊ใจ (yulsic taeny yoonseo soosun)

    ลำดับตอนที่ #4 : แค้นรัก ขยี้ใจ04

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 55


                        เด็กสาวรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ดวงตาตาคู่หวาน   เด็กน้อยรู้ผิดที่เดินไม่ระวัง แต่หนูน้อยก็กำลังจะเอื้อนเอ่ยคำขอโทษต่อนายตำรวจหญิงร่างเพรียวคนที่เพิ่งตะวาดดุเธอด้วยความไม่พอใจ   ด้วยจิตใต้สำนึกของเด็กวัยเพียงสิบขวบ   เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเสียขวัญระคนตกใจ   มือบางยกปาดน้ำตาอย่างลวกๆเพราะกลัวว่าคนเป็นแม่จะเป็นห่วง  เด็กน้อยจึงตักสินใจฉีกยิ้มให้ตัวเองดูหน้ากระจก  เดียวออกไปคุณแม่คนสวยของเธอจะเป็นกังวน

    “เฮ้ย! ตะ..ตัวอะไรนะ”หนูยุนอา เดินออกมาจากห้องน้ำ ฉีกยิ้มค้างไว้อย่างนั้นแต่ก็ต้องมายิ้มยิ้มกว้างนั้นลงทันทีที่เห็นพุ่มไม้ระหว่างทางเดินเกิดสั่นไหว  และในยามค่ะคืนแบบนี้ แม้จะเป็นในบริเวณร้านอาหารก็เถอะนะ ของมันมองไม่เห็นนิ

    “เอาน่ายุนอา ผู้เลอโฉม อย่าไปกลัว...เดียวมันก็ผ่าไป “ หนูยุนอาปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้น แต่อวัยวะส่วนล่างของเธอมันจะเริ่มไม่ทำงานแล้วนี่ซิ

    “งือ..อัวว  แหว๊ะ”   เสียงดังมาจากหลังพุ่มไม้ หนูยุนอาก็หลับตายืนกุมมือไว้กลางอก ตัวสั่น   ในใจก็ภาวนา

    “หนูยังเด็กตับไม่อร่อยหรอกนะ  จะกินอย่างอื่นก็คงไม่มีช่วยให้อายุยืนหรอกจ๊ะ รอให้มันได้รับสารอาหารให้โตก่อนค่อยมาใหม่นะจ๊ะ”

    ...อ้วกกก    หมดรึยังละเนี๊ย ฉันหมดแรง หัวหมุนหมดแล้วนะ”   คราวนี้เสียงนั้นดังมาเป็นคำพูดหนูยุนอาค่อยๆลืมตา และตั้งสติฟังเสียงนั้นอีกที  

    “น่าจะเป็นคนนะ” หนูยุนอาเปรยขึ้น แล้วค่อยๆย่างเท้าเข้าไปแหวกกิ่งไม้ดูด้วยใจลุ้น

      “ คุณน้าตำรวจค่ะ เป็นอะไรไปค่ะ  มานั่งหมดแรงตรงนี้ทำไมค่ะ “  หนูยุนอาจำได้เป็นคนที่เธอเดินชนตอนเข้าห้องน้ำ แต่ ตอนนี้ไงเลยถึงได้มาหมดสภาพอยู่แบบนี้ละ    เด็กน้อยเข้าไปถามไถ่ด้วยความมีน้ำใจลืมไปเลยว่าเคยเจอความร้ายกาจของพี่ตำรวจสาวตรงหน้ามาแล้ว

    “เห็นรึเปล่าว่าคนเมาอยู่นะ ถามมาได้”  เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เข้ามาวุ่นวายกับเธอเลยขอข่มหน่อยเถอะ (กับเด็กก็เอา)

                        ยุนอาไม่ได้สนใจคำพ่นจากปากคุณตำรวจขี้เมาตรงหน้า หนูน้อยยืนคิดว่าจะช่วยยังไงดี  รีบลูบๆคลำๆ ตามกระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสะพายใบเล็ก ที่ติดตัวมาก็เจอกับแท่งขาวขนาดเล็ก  แล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ

    “นี่ค่ะ พี่ตำรวจค่ะ  ดมๆหน่อยนะจะได้ดีขึ้น    หนูยุนอารีบเปิดฝายาดมแล้วย่อตัวยื่นให้ผู้หญิงขี้เมาได้รับสารระเหยเหล่านั้นทันที

    “เธอมาช่วยฉันทำไม  คิดจะขอโทษกับสิ่งที่ทำไว้ละซิ   ฉันโกรธง่ายหายยากนะจะบอกให้”  สูดดมไปก็แสดงอาการปกปิด ไม่อยากให้เด็กน้อยคนนี้ได้ใจ  จ่าซอยังพูดด้วยโทนเสียงข่มขู่เช่นเคย   หนูยุนอาได้แต่เงียบไม่ได้กล่าวถ้อยคำใดออกมา  หนูน้อยนั่งนิ่งเงียบอยู่นาน

    “เอาเถอะๆ  ยังไงก็ขอบใจนะ นี่นะ “เธอบุ้ยปากไปที่ยาดมในมือ 

    “ฉัน จ่าซอ  และเธอละ  ดูซิดึกๆดื่นๆ  ออกมาเที่ยวได้ไง พ่อแม่ไปไหนถึงได้ ไม่มาตามไปสักที”  จ่าซอแนะนำตัวเพื่อทำลายความเงียบ  และก็ถือโอกาสถามชื่อหนูน้อยผู้ใจดี แต่ก็ไม่วายจิกกัดแกมบ่น ด้วยสายตาเคือง

    “หนูชื่อ ยุนอาค่ะ   มากับม๊าๆ  นั่งอยู่ในร้านค่ะ”หนุน้อยรีบตอบคำถามทันที

    “เหรอ...ลูกใครหว่า “ ลูกนายตำรวจในร้านเธอต้องรู้จักทุกคนแหละ แต่เด็กคนนี้ลูกใครหว่า  จ่าซอยังคงวนเวียนอยู่กับคำถามเดิมๆ

    “หน้าคุ้นๆนะเรา  ปีนี่อายุเท่าไหร่”

    “ปีนี่สิบขวบค่ะ ปีหน้าก็สิบเอ็ด  ก่อนหน้านั้นก็เก้าขวบค่ะ”

    “ไม่ต้องมาประชดก็ได้นะ ถามนิดเดียวเอง แต่สิบขวบตัวโตเนอะ ที่บ้านเลี้ยงด้วยอะไรนี่”  จ่าซอเริ่มชวนคุยเช่นเคย ดูซิสูงเกือบจะเท่าเธอเลย  เทียบกันแล้วอายุยี่สิบสองแต่เตี๊ยเกือบเท่าเด็กสิบขวบ   เธอสูง168 ซม  ก็คิดดูแล้วกันว่าหนูยุนอาสูงเท่าไหล่เธอนะ

    “ยุนอา!!” เสียงหวานเรียกตัวลูกสาว

    “ม๊า...ม๊ามานี่หน่อยมาช่วยลูกน้องม๊าหน่อยเร็วเขาจะตายแล้ว” หนูยุนอารีบกวักมือเรียกมารดาของเธอให้รีบมาดูพี่ตำรวจขี้เมาคนนี้

    “อุ๊ย!! ตายละหว่า”จ่าซออุทานเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาใกล้   นี่เด็กคนนี้ลูกผู้กองคนใหม่เหรอ  มิน่าถึงไม่เคยเห็นหน้าที่ไหน   อย่าฟ้องแม่หนูนะ   จ่าซอส่งสายตาอ้อนวอนเป็นความหมาย

    “ม๊ารีบช่วยสิ  ดูทำหน้าจะตายอยู่แล้ว”หนูยุนอาเกาะแขนคุณแม่เขย่าอย่างรีบร้อน

    “ลุกไหวมั้ย  มะ ฉันช่วยประคองคุณไปนั่งตรงโน้นค่ะ”ผู้กองเจสสิก้าช่วยประคองนายตำรวจหญิงมานั่ง     ผู้กองสาวพูดคุยแนะนำกันอย่างเรียบง่าย  และเธอก็เพิ่งรู้ว่าคนที่จัดการเรื่องบ้านให้เธอคือนายตำรวจหญิงคนนี้เอง   แล้วด้วยการสนทนาที่เป็นกันเองของผู้กองสาวทำให้จ่าซอนั้นสัมผัสได้ถึงความเป็นคนไม่ถือตัวและก็น่าจะเป็นเจ้านายที่ใจดีมากเลยทีเดียว  ทั้งสองตกลงกันเรื่องการย้ายที่พัก  โดยนัดเจอกันในวันพรุ่งนี้ ผู้กองสาวอยากจัดการเรื่องส่วนทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่เธอจะเข้าปฎิบัติหน้าที่  ทั้งสามคนเดินกลับเข้าไปในร้านอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอาการจ่าซอดีขึ้นมาก  

     

     

     

                              เชฟสาวเสร็จจากการทำหน้าที่ในโรงแรมแห่งนี้ด้วยเวลาปกติ   ร่างสูงสวมเสื้อฮู้ดทับด้วยเเจ็กเก็ตหนังสีดำ  ใบหน้าถูกปกปิดด้วยแว่นสีชา ราคาแพง   ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งก้าวออกมายืนหน้าประตูโรงแรมเพื่อรอเรียกแท็กซี่   

    “ม๊าๆ  จ่าซอขี้เมาคนนั้นจะกลับถึงบ้านมั๊ยม๊า..ดูท่าไม่น่ารอดเนอะม๊า  แล้วยังทำท่าอยากมาส่งเราอีก  ไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลย”  เสียงเจื้อแจ่วดังขึ้นเรียกร้องให้เชฟสาวผันหน้ามองหาต้นเสียง  หนูยุนอา   ก้าวลงมาจากรถแท็กซี่พร้อมคุณแม่คนสวยที่อยู่ในชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศชั้นผู้กอง

    “เด็กคนนี้อีกแล้ว  ยูริคิดในใจ    เธอกระตุกยิ้มมุมปากพอได้เห็นใบหน้าของเด็กคนนี้ชัดๆ  ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกว่ามันมีอะไรน่าสนใจ   บนหน้าอ่อนวัยนั้น  

                         หนูยุนอาก็พูดพล่ามตามประสาไปเรื่อยแม้จะถูกสายตาดุ ปรามจากเจสสิก้า  แต่หนูน้อยก็ไม่ด้วยหวาดกลัวแต่อย่างใด  พลันสายตาสะดุดกับร่างสูงที่สวมแว่นสีชาหันมามองเธอและมารดาของเธอพอดี หนูน้อยฉีกยิ้มกว้างอวดฟันสวยให้ทันที   เล่นเอาร่างสูงของเชฟสาวใจกระตุกกับรอยยิ้มนั้น  ยิ่งเห็นเด็กน้อยยกมือโบกไหวๆ   ก็ทำเป็นไม่สนใจรีบก้าวขึ้นแท็กซี่ที่เรียกไว้ทันที  

    “ยิ้มให้ใครนะยุน” เสียงหวานถามลูกสาวที่ส่งยิ้มให้คนเมื่อครู่

    “ยุนว่าต้องใช่คนที่ให้ผ้าเช็ดหน้าเราแน่เลยม๊า     “ยุนอาตอบคำถามด้วยความไม่มั่นใจ   แต่เธอก็พอจำเสี้ยวหน้าของเชฟคนสาวนั้นได้อยู่หรอกนะ  แต่พอมาอยู่ในชุดธรรมาแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

     

     

     

                              ยูรินั่งแท็กซี่ไปที่สวนสาธารณะ ใกล้ๆคอนโด  เวลาดึกแบบแม้ไฟความสว่างจะยังเปิดอยู่รอบบริเวณพื้นที่  แต่ทุกครั้งที่ยูริต้องการความเงียบสงบ   เธอก็จะมานั่งในสถานที่แห่งนี้    ในความคิดของเธอกลับค่อยๆปรากฏ หน้าและรอยยิ้มของเด็กผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาฉายชัด    แววตาความเป็นกังวนของหญิงสาวอีกคนที่เจอเมื่อตอนนั้น ทำไมนะทำไม     เจอกันแค่ชั่วครู่แต่กลับมีอิทธิพลต่อความนึกคิดของเธอได้มากถึงเพียงนี้ เธอเริ่มสนใจตั้งแต่เมื่อไหร่

    “สนใจเหรอ”   ยูริพูดขึ้นลอยๆ  แล้วยิ้มขำกับความคิดตัวเอง   สักพักแววตาก็เปลี่ยนไปเกิดเสียงหัวเราะดังเบาๆในลำคอ

    “ฉันอยากรู้จักพวกเธอ”น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยออกมา   ก่อนจะยืนขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงเดินออกไปจากสถานที่อันเงียบสงัดแห่งนี้  เสียงลมพักหวิวไล่แผ่นหลังอันสง่างานนั้นอย่างกับเป็นการพลักดันให้ร่างสูงก้าวไปหาสิ่งที่น่าสนใจ

     

     

     

     

                              ในห้องนอนสีขาว สะอาดตา ทุกสิ่งถูกวางเป็นระเบียบด้วยฝีมือการจัดของร่างสูงเจ้าของห้อง  ยูริเพิ่งกลับเข้ามาได้ไม่นานก็เปิดเจ้าแท็ปเลท  ขึ้นมาตรวจเช็คอีเมลล์  

    ยูล  พี่ได้เบาะแสบางอย่าง   อีกสองวันพี่จะไปหา เจอกันที่.......”

    อ่านข้อความจบก็รู้สึกใจเต้นแปลกๆ กับข่าวที่เพิ่งได้รับจากพี่ชายที่ส่งมาบอกเธอ    ยูริทิ้งแท็ปเล็ทในมือ  ก่อนจะแสดงความเป็นกังวน ทั้งทางสีหน้า จนต้องยกนิ้วขึ้นมากัด เดินรอบบริเวณห้องนั่งเล่นวนไปวนมาอยู่หลายรอบ   ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ  ตอนนี้เธอเกิดความสับสนขึ้นในใจแต่อีกความรู้สึกหนึ่งมันก็กลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ถ้าพี่ชายเธอเจอกับผู้หญิงคนนั้น  แล้วเธอควรจะทำอย่างไรต่อ  ยิ่งคิดยิ่งสับสน  ยิ่งรู้สึกผิด  คืนนี้เธอต้องนอนไม่หลับแน่  ยูริเดินไปเปิดตู้ยาหยิบยาที่มีส่วนผสมของยานอนหลับแล้วกลืนมันลงคอตามด้วยน้ำที่ร่างสูงดื่มไปเยอะน่าดู

    “มันต้องหลับ  ต้องหลับ  เธอต้องไม่คิดถึงมันอย่าคิดนะยูริ   มันยังไม่เกิดขึ้น  หยุดความแค่แค่นั้นซะ!!  เธอพูดกับตัวเองอีกครั้ง เหมือนเป็นการย้ำเตือนในความคิด  เธอรีบจัดการตัวเอง แล้วพาร่างสูงสง่ามาทิ้งตัวลงนอน บนเตียงนุ่ม   เพื่อหยุดความคิดของเธอเสียที

     

     

     

                           ห้องท่านรองประธานผู้ส่งออกเครื่องดื่มยี่ห้อดังของเกาหลี  ชายหนุ่มหน้าตาดีเข้าขั้นหล่อ แต่งตัวเนี้ยบดูดี น่าเกรงขาม  นั่งอยู่หลังโต๊ะท่านรองประธานบริษัท   ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ฉาวแววกังวน  ก่อนหน้านี้เขาได้ทราบข่าวเพื่อนสนิทร่วมรุ่นที่ถูกหญิงล่อลวงไปทำร้าย แต่พอได้พูดคุยกับเจ้าตัวกลับไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง  คนอย่างคิม จี ฮุนไม่น่าเสียท่าได้ง่ายๆหรอก    และจากที่ผ่านๆมา ก็ไม่เคยมีใครแค้นมากถึงได้กล้าลงมือ

    “คุณซีวอนค่ะ   เอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ  รอทางคู่สัญญาติดต่อมาค่ะ” เลขารายงาน

    “ครับ  “เขารับคำกับเลขาสาวด้วยรอยยิ้ม

    “ตารางงานของวันนี้หมดแล้วค่ะ  “เลขารายงานต่อ   ซีวอนถอนหายใจพยักหน้ารับแล้วลุกออกจากห้องทันที

    ซีวอนนั่งดื่มในผับแห่งนี้นานพอสมควร  จนในเลือดของเขาน่าจะเริ่มมีแอลกฮอลล์สะสมอย่มากที่เดียว   ชายหนุ่มไล่สายตามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบผู้หญิงในลักษณะที่คล้ายกับคำบอกเล่าของเพื่อนเขาเลยสักนิด   ซีวอนตัดสิ้นใจกลับทันที น่าเสียดายที่มาแล้วไม่เจอ

    ร่างชุดดำสวมหมวกไหมพรมสีดำ  นั่งมองซีวอนด้วยสายตาไร้ความรู้สึก  ไม่อาจบอกได้ว่าตอนนี้เขารู้สึกเช่นไร  เมื่อเห็นเป้าหมายลุกออกไปก็จับตามองไปด้วยสายตาแข็งกร้าว  

    “มันถึงเวลาของแกแล้ว ไอ้ตัวดี” เรียวปากขยับถ้อยคำด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะบิดเจ้าบิ๊กไบท์คู่ใจตามประกบ 

                    เสียงรถไล่หลังทำให้ซีวอนมองผ่านกระจกหลังไป  แล้วแสยะยิ้มขึ้นที่มุมปากทันที

    “อยากลองดีกับนักแข่งเก่าอย่างฉันนักรึไง ได้  แล้วแกจะได้รู้ว่าใครจะชนะ” ซีวอนสวมคราบนักแข็งเก่าเหยียบคันเร่งปาดซ้ายปาดขวาแข่งกับบิ๊กไบท์ที่ไล่หันมา  แต่ด้วยสติที่ไม่ครบถ้วนจึงไม่สามารถประคองรถไว้ได้  รถเบนท์คันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนขอบกั้นทางพลิกคว่ำ   ร่างสูงฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ ก่อนจะขับเจ้าบิ๊กไบท์คู่ใจหายไปในค่ำคืนนี้ 

    “ฉันคงนอนหลับได้สักทีสะใจเป็นบ้า”

     

     

                       หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บ้านช่องเรียงรายดื่นดาษ ละลานตา ตลอดระยะทางที่รถเชื้อสายญี่ปุ่นแล่นเข้าหมู่บ้านมาเด็กน้อยในรถดูท่าทางจะสนอกสนใจกับความสวยงานของสถานเคหะแห่งนี้มากอยู่ไม่ใช่น้อย   ชี้ไม้ชี้มือบอกคนเป็นแม่ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  

    “ถึงแล้วค่ะผู้กอง   ก็ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า “จ่าซอ จอดรถหน้าบ้านหลังหนึ่ง  ตัวบ้านทรงทันสมัย  ด้วยการออกแบบที่มีสไตร์  ดูไม่เหมือนใคร

    ”ว้าววว  นี่บ้านใหม่เราเหรอม๊า  โอ้วววสวยจัง  กี่ตังค์เนี๊ย”  ประโยคหลังหันมากระซิบถามผู้เป็นมารดาเสียงอ่อย   ก็รู้อยู่ว่าแม่ของเธอเป็นตำรวจ  ลำพังจะไปมีเงินเก็บมากมายเหมือนนักธุรกิจพันล้านได้ไง  แม่เธอเคยสอนไว้จะใช้จ่ายอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังและวางแผนการใช้จ่ายให้รัดกุม   แม่ไม่ได้งกนะแต่แม่เป็นคนหารายได้เข้าบ้านคนเดียว  เลยต้องกลายเป็นคน  ติดจะตระหนี่ไปเล็กน้อยเอง

    “ป่ะ ขนของเข้าข้างในกัน  ป่ะยุนช่วยม๊าหน่อยจะได้เสร็จไวๆ” ผู้กองเจสสิก้า เอ่ยชวนและไม่ลืมจะย้ำกับลูกสาวคนเดียวของเธอที่ทำท่าจะวิ่งเข้าไปในบ้านตัวเปล่า

                              บ้านสองชั้น มีสองห้องนอน อยู่ชั้นบน และด้านล่างถูกจัดแบ่งได้อย่างลงตัวทั้งห้องครัวที่ดูจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าห้องกว้างน่าจะพอๆกับห้องนั่งเล่นกลางบ้าน ภายในถูกทาด้วยสีชมพูอ่อนๆดูสบายตา

     

    “หนักก็หนักจะขนอะไรใส่ไปข้างในเยอะแยะนะ”หนูยุนอาบ่นทุกทีที่ต้องยกกระเป๋าขึ้นไปไว้ในห้อง ท่าทางทุลักทุเลก็เลยถูกจ่าสาวที่มาด้วยหลุดขำก๊าก ออกมา หยูยุนอาเลยตวัดสายตาไม่พอใจมาให้ทันที

    “นี่จ่าซอ..หยุดเดียวนี้นะ” หนูยุนอา ขึ้นเสียงใส่คนที่เอาแต่หัวเราะ ตัวก็ใหญ่กว่าแต่แทนที่จะมาช่วยเด็กยกก็ไม่ได้

    “น้ำใจนะมีไหมค่ะคุณตำรวจ”  นั่นไง  เล่นถึงตำแหน่งหน้าที่เลย  จ่าซอหุบกริยานั้นทันทีพร้อมยิ้มหน้าเจือนเดินขึ้นบันไดไปช่วย

    “ก็เห็นว่าเป็นเด็กก็น่าจะแรงเยอะ เผื่ออยากโชว์เพาว์ไง”  ปากก็พูดไปมือก็ช่วยเด็กน้อยถือกระเป๋าใบใหญ่เข้าห้องนอนไป

    “”ไม่ต้องเลยค่ะ  ยุนจะหมดแรงอยู่แล้ว  ว่าแต่คุณแม่เสร็จรึยังนะ”ว่าแล้วก็วิ่งออกจากห้องไปอีกห้องหนึ่งทันที

    “อ้าว..ทิ้งเราซะงั้น” จ่าซอส่ายหน้ากับอาการของเด็กน้อย   ขึ้นชื่อว่าเด็กเดาอารมณ์ยากจัง  แล้วก็เลยถือวิสาสะจัดการเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าเข้าตู้ให้เรียบร้อย   ผู้กองของเธอจะได้ไม่เหนื่อย

    ปิงป๋อง  ๆๆ

    “ใครนะม๊า  “หนูยุนอามองผ่านหน้าต่างห้องนอนผู้กองเจสสิก้าด้วยความสงสัย เห็นมีชายหญิงแก่คู่หนึ่งถือของพวกผลไม้มาเต็มไม้เต็มมือ

    “ลงไปดูกันป่ะ  หรือจะเป็นเพื่อนบ้านเราก็ได้นะ”  ผู้กองเจสสิก้าจูงมือลูกสาวลงมา

    “อ้อ..ผู้กองมาพอดีเลยคะ  ผู้กองค่ะนี่คุณควอนและภรรยา  เพื่อนบ้านหลังข้างๆนี้ค่ะ”จ่าซอแนะนำทั้งสี่คนให้รูจักกัน  และดูเหมือนหนูยุนอาจะเข้ากับเพื่อนบ้านต่างวัยได้ดีมาก  ถึงขั้นผู้ใหญ่ทั้งเอ่ยปากขออนุญาติกับผู้กองเจสสิก้าว่าให้หนูยุนอาไปเล่นที่บ้านบ้าง  คนแก่จะได้ไม่เหงา   ผู้กองเจสสิก้าก็ดีใจจากบ้านจากเมืองมาด้วยหน้าที่และการตามหาคนสำคัญ   เธอก็ห่วงอยู่ว่ายุนอานั้นจะปรับตัวไม่ได้  แถมพอได้คุยกับเพื่อนบ้านทั้งสองเธอเลยอุ่นใจขึ้นเยอะเวลาที่เธอต้องออกไปปฎิบัติหน้าที่จะได้ฝากฝังยุนอากับกับท่านให้ช่วยสอดส่องดูแลด้วย

    “งั้นเอางี้  เรียกฉันว่าย่าก็ได้นะหนูยุน  ฉันมองหน้าหนูยุนแล้วคิดถึงลูกชายขึ้นมาทันทีเลย”คุณนายควอนพูดขึ้นมือแห่งริ้วรอยก็ลูบผมสลวยเด็กน้องข้างกายด้วยความเอ็นดู 

     

     

     

     

    บ้านครอบครัวคุณควอน

    “คุณแน่ใจนะ...ว่าสืบเรื่องมาถูกต้องไม่ผิดตัวอีก”

    “เอ้า! แน่สิคุณคราวนี้ถูกตัว  ก็ดูหน้าแม่หนูยุนอาสิ เหมือนใครละ”  ก็แน่ละคุณนายควอนก็ต้องถามให้แน่ใจ เดียวได้เหมือนคราวที่แล้วอีก  ไปตามหาทายาทผิดตัว  อ้ายอาย  อุตส่าไว้ใจให้ตามสืบเรื่องอยู่ตั้งนาน

    “อืม  ก็ขอให้ใช่ละนะ”  คุณนายควอนครางรับเบาๆ  จะใช่ไม่ใช่อย่างน้อยๆก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ อยากรู้อยากเจอก็ได้รู้กันแหละ

    “แล้วจะบอกเจ้าตัวเขาหรือเปล่า  พักนี้ฮยอกจุน บอกว่าเขาบ่นออกมาว่ารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”  คุณนายควอนปรึกษาสามี   สีหน้าดูจริงจังขึ้น 

    “ผมกลัวแม่หนูเคราะห์ร้ายคนนั้นจะแก้แค้นลูกของเรานะซิ  ทำเขาไว้ซะขนาดนั้น  แล้วท่าทางญาติแม่หนูนั้นก็ตามๆคนของเราอยู่เหมือนกัน “ คุณควอนตอบเสียงเครียดแต่ตาก็มองไปที่บ้านหลังข้างผ่านกระจกเห็นหนูน้อยยุนอากำลังวิ่งเล่นอยู่รอบๆตัวผู้กองสาวอย่างสนุกสนาน เลยอดยิ้มตามไม่ได้

    “แหม นี่ขนาดยังไม่รู้จะใช่หลานแท้ๆรึเปล่าดูท่าคุณตาควอนจะหลงหนูยุนอาเข้าแล้วละ” คุณนายควอนเหน็บสามี ด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

     

     

     

                          

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×