ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นรัก..ขยี๊ใจ (yulsic taeny yoonseo soosun)

    ลำดับตอนที่ #2 : แค้นรัก..ขยี้ใจ 02

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 55


                          ยูรินั่งรถแท็กซี่กลับมายังดอนโดที่เธอซื้อเอาไว้  อยู่ในย่านที่ถูกเรียกว่าโรงหนังเก่า   คอนโดเธอตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างหอพักสีส้ม  อีกข้างก็เป็นห้างที่เคยเป็นโรงหนังเก่าอย่างที่ถูกเรียกกันต่อๆมา   

                         หญิงสาวเหลือบมองเวลาในข้อมือ  และก็เหลือบไปเห็นร่อยรอยถลอกที่บริเวณง่ามนิ้วมือ  ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างลืมตัว  เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ทีพึ่งผ่านพ้นมา

    “จอดตรงนี้แหละ”  เสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น   กล่าวแก่คนขับรถแท็กซี่   เธอยื่นค่าตอบแทนให้และก้าวลงจากรถทันที 

                         หญิงสาวในชุดเดรสสีดำ สั้นสุดเซ็กซี่กำลังก้าวเดินด้วยรองเท้าส้นสูงปรี๊ด  คนเดียวในยามค่ำคืนที่เงียบสงัด ณ ย่านตึกร้างแห่งนี้เธอไม่ได้เกรงกลัวต่ออันตรายและความมืดอย่างที่คนทั่วไปรู้สึกกัน แต่เธอกลับชอบมัน  ไม่รู้ว่าเธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  นับจากวันที่ตัดสินใจกลับมาเกาหลีเมื่อสิบปีที่แล้ว   ความเงียบเหงามักถามหาเธอทุกครั้ง ในยามที่เธอคิดถึงใครคนหนึ่ง คนที่เธอ....ต้องรู้สึกผิดด้วยตลอดชีวิต

    “ฉันเสียใจ....ฉันมันไม่ดีเอง ฮึก..”  เสียงสะอื้นและคำขอโทษเปล่งออกมาจากริมฝีปากสวยนั้น  ยูรินั่งลงที่ม้านั่งบริเวณสวนหย่อมระหว่างตึกสีส้มและตึกคอนโดของเธอ   สายลมที่พัดผ่านไปในทุกๆวินาที   ก็เหมือนกับมันจะพัดพาเอารู้สึกผิดมาสู่ตัวเธออยู่ร่ำไป

    “ฉันรู้แล้ว!!อย่าๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ!!ขอร้องเถอะ  หยุดพูดสักทีเถอะน่า!!   เหมือนเสียงลมที่พัดผ่านจะสื่อกระซิบที่ข้างหูร่างสูง  ซ้ำไปซ้ำมาจนเธอต้องยกมือปิดใบหูทั้งสองข้าง  ตะเบ็งเสียงกรี๊ดร้อง ให้เสียงกระซิบนั้นหยุดพูดมันสักที หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้นถนนหยาบๆนั้น  ด้วยอาการตัวสั่นเทา    แววตาของเธอเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย  หวาดระแวงกับทุกสิ่งรอบตัว

    “ฉะ..ฉันต้องรีบไป!  ที่ที่ปลอดภัย ต้องรีบไป!  เธอพูดด้วยอาการหวาดระแวงระคนกลัว  บอกแต่งว่าจะต้องออกไปจากตรงนี้   และห้องนอนเธอคือที่ที่ปลอดภัยที่ดีที่สุด

     

                              คอนโดห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา    เจ้าของห้องค่อนข้างเป็นคนรักษาความสะอาดเป็นที่สุด    ทุกอย่างต้องเป็นระแบบในแบบที่ควรจะเป็น   สิ่งสกปรกมักจะทำให้เธอแถบคลั่ง   ดังนั้นภายในห้องนี้จึงต้องเน้นความสะอาดเป็นหลัก

    “เธอปลอดภัยแล้วนะมันไม่ตามมาแล้ว  ดีใจมั๊ยละ       ร่างสูงยังคงพูดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น  เธอรู้สึกปลอดภัย เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องนี้   แววตาสีหน้าท่าทางของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  เธอหัวเราะกับตัวเอง เหมือนว่าในห้องนี้มีคนอีกคนอยู่ร่วมด้วย

    “หิวแล้วละซิ  ทานอะไรอร่อยๆในครัวกันดีกว่าจ๊ะ”  พูดชักชวนกับตัวเองอยู่คนเดียว   ยูริหยิบจับอุปกรณ์อย่างชำนาญ   จิตใต้สำนึกเธอบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เธอต้องการมันคือตัวตนของเธอเวลาอยู่กับพวกมัน    

     

     

                              “กรรมสนองกรรม   ลูกชายท่านชายชื่อดังเจอทีเด็ด จากเหล่าหญิงไม่แท้รุมสนองตันหา  คาดงานนี้หนีหน้าข้ามประเทศแน่   อ่านต่อหน้าสาม”

    “โอ๊ะ!อะไรกัน เห็นกันอยู่หยกๆเสร็จกระเทยไปแล้วซะงั้น  สมน้ำหน้า ไอ้หื่นเอ้ย”  ทิฟฟานี่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ข่าวพาดหน้าหนึ่งวันนี้อย่างสะใจ     

                         ร่างเล็กหยุดรถมองยังตึกสีส้มตรงหน้า  ที่อยู่ในสภาพที่ยังใช้การได้อีกนานเธอคิดเช่นนั้น  แทยอนหญิงสาวร่างเล็กที่เป็นถึงเจ้าของหอพักสีส้มตึกนี้   ยืนมองสิ่งที่เธอตั้งใจลงทุนใช้น้ำพักน้ำแรงของเธอสร้างมันขึ้นมา  โดยไม่พึ่งแม้สักแดงเดียวของที่บ้าน

    “อ้าวสวัสดีครับคุณแท วันนี้มาเองเลยนะครับ”  เสียงผู้ดูแลหอพักกล่าวทักทายเจ้าของหอตัวจริง   แล้วกุลีกุจีออกมาต้อนรับ  เอาน้ำเอาขนมมาเสิร์ฟให้อย่างประจบประแจง   ทิฟฟานี่ยังคงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ได้สนใจเสียงข้างๆรอบตัวสักเท่าไหร่     หารู้ไม่ว่ามีคนสำคัญมานั่งร่วมโต๊ะด้วย  ชั้นล่างของตึกนี้จะมีห้องปรับอากาศไว้ให้ผู้เช่าได้นั่งอ่านหนังสือ  จะมีโต๊ะใหญ่ๆหนึ่งตัววางไว้กลางห้อง 

                      แทยอนรับแก้วน้ำที่ผู้ดูแลหอส่งให้ด้วยรอยยิ้ม   แล้วเธอก็เกิดสนใจข่าวที่พาดหน้าหนึ่งตรงหน้าที่คนหน้าหวานอีกคนกำลังอ่านอยู่   แทยอนมองพาดหัวขาวไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เธอจึงยื่นหน้าโค้งตัวเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะได้อ่านข้อความนั้นให้ชัดๆ    แต่จังหวะเดียวกันทิฟฟานี่ลดระดับหนังสือพิมพ์ลงมาก็สะดุ้งนิดหน่อย ที่อยู่ๆเปลี่ยนจากตัวหนังสือกลายมาเป็นหน้าขาวๆ  น่ารักๆ  เป็นใครก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา

    “จะอ่านเหรอค่ะ....เอ่อ รออีกนิดนะค่ะ ฉันอ่านใกล้จบแล้ว” ทิฟฟานี่ถามสาวหน้าใสตรงหน้าและถ้าจะอ่านขอให้รอเธออีกนิด  แหมก็มันกำลังเข้มข้นนี่น่า ไม่อ่านตอนนี่ก็อดนะซิเดียวจะได้เวลางานแล้วด้วยรอพี่ๆขนอุปกรณ์มาแค่นั้นเอง

    “ไม่เป็นไรค่ะ  เชิญคุณต่อเลยค่ะ  ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ”  แทยอนกล่าวขอโทษหญิงสาวมาดเซอร์ตรงหน้า   ที่หน้าตาจัดว่าเป็นลูกผู้ดีเลยทีเดียว ผิวพรรณละเอียดลออนี่ถ้าจับแต่งตัวเข้าหน่อยนะ นางฟ้าบนดินดีๆนี่เอง  น้องแทคอนเฟิร์ม ฉิ่ง!!

    RRRRRRrrrrrrrrr

    “ฮัลโลค่ะ..อ้าวซันนี่เหรอมีอะไร..อ้อ  อยู่ที่หอนะ...ได้ๆ เดียวจะแวะไปเอาให้นะ จ้าๆๆ แล้วเขารออยู่ที่ไหนละชั้นล่างห้องแอร์  จ้าๆๆ  บาย”    แทยอนรับโทรศัพท์ที่ซันนี่ไหว้วานให้เธอแวะเอานิยายจากนักเขียนให้เธอด้วยเนื่องจากนักเขียนคนนี้เกิดติดธุระสำคัญ  เลยจำต้องให้พนักงานตามงานอย่างพวกเธอต้องออกมารับเองบ้าง

                         สาวมาดเซอร์แม้จะทำเหมือนอ่านหนังสือพิมพ์แต่หูก็แอบเงี่ยหูฟังทุกการสนทนาของผู้ตรงหน้า  

     “อืมคิดว่าคุยกับแฟน  เรื่องงานนี้เอง”  ทิฟฟานี่

    “เอ่อ.ขอโทษนะค่ะ..ฉันไม่ได้อยากแอบฟัง แต่ขอถามนะค่ะ   คุณมาจากสำนักพิมพ์บุ๊คคัลเลอร์รึเปล่าค่ะ”ทิฟฟานี่รัวคำถามที่เหมือนจะเป็นคำถามที่รอให้ตอบก่อนแล้วค่อยถามต่อ  แต่เธฮก็รัวพูดออกมาซะหมดเสียเอง

    “ใช่ค่ะ..”

    “ฉันเองค่ะ!  รอเดียวนะค่ะ” ทิฟฟานี่กระวีกระวาดลวงเข้าไปในเป้ใบ(เก่า)คลาสิก แล้วหยิบเฟ็กไดร์ยื่นให้แทยอน ด้วยรอยยิ้ม

     

                       สักพักรถทีมช่างก็มาถึง  ทิฟฟานี่รีบออกมารอทีมงานมีการพูดคุยกันเรื่องงานในแต่ส่วนที่แต่คนจะต้องแยกกันไปรับผิดชอบเพราจะได้เร็วและก็ต้องไปบริการที่อื่นอีก

    “สวัสดีค่ะ ฉันคิม แทยอนค่ะ เป็นเจ้าขอที่นี่” แทยอนเมื่อเห็นทีมช่างมาถึงก็รอโอกาศเข้าไปพูดคุยกับทางช่างว่าจะให้ทำตรงส่วนไหนห้องไหนบ้าง  โดยชั้นที่ทีมช่างจะต้องเข้าไปทำความสะอาดแอร์นั้นก็อยู่ที่ชั้นสามและชั้นสี่   ที่นี่มีทั้งเก้าชั้น   ถ้าจะให้ทีมช่างล้างให้เสร็จภายในวันเดียวก็เทพแล้ว 

                        ทิฟฟานี่และทีมช่างประมาณสามคนประจำอยู่ที่ชั้นสามที่มีห้องทั้งหมดแปดห้อง  ที่ทางเจ้าของหอพักได้แจ้งแก่ผู่พักอาศัยในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว

    “ดูท่าทางคงต้องหาอะไรมาให้พวกช่างทานด้วยแล้วซิ   พี่ยุนจาค่ะ แทวานอะไรหน่อยได้มั๊ยคะ” 

    “ครับได้ครับ 

    “ออกไปหาอาหารกลางวันมาให้พี่ทีมช่างเขาหน่อยดีกว่าค่ะ  ถือว่าเป็นน้ำใจจากหอเรา”  แทยอนสั่งผู้ดูแลห้อเสร็จก็ขึ้นไปดูความเรียบร้อยขอหอพักเผื่อว่ามีอะไรที่ต้องซ่อมแซมอีก  แต่ในระหว่างเดินตรวจตราอยู่นั้นก็ดั้นผ่านไปยังห้องที่สาวช่างมาดเซอร์กำลังขมักเขม้น ปีนขึ้นบันไดเหล็กไปหยิบๆแกะๆ สักพักก็ถอดแผ่นเหล็กหุ้มเครื่องแอร์ออกมาแล้วเริ่มทำขั้นตอนต่อไป  ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากที่คนสวยๆอย่างนี่จะออกมาทำงานที่พวกผู้หญิงร่างบอบบางเข้าไม่ทำและส่วนใหญ่ไม่คิดจะทำด้วย  เม็ดเหงื่อพุดเต็มใบหน้าขาวนั้น  แทยอนอยากยื่นผ้าเช็ดหน้าไปซับสักหน่อย ติดที่ว่าทิฟฟานี่นั้น อยู่สูงเกินไป  แถมในความเป็นจริงแทยอนเองก็ดั้นเตี๊ยเกิดไปหน่อยๆ 

    “อ้าว  คุณแทยอน   มันฝุ่นนะคะ  ฉันว่าคุณออกไปก่อนดีกว่าค่ะ”  ทิฟฟานี่รีบร้องเตือน เพราะในช่วงการทำความสะอาดเครื่องกรองอาการนั้นจะมีฝุ่นฝุ้งกระจายไปทั่ว   อาจจะเป็นอันตรายกับคนคนเล็กนี้จึงรีบเอ่ยบอกไปอย่างนั้น

    “ค่ะๆๆ” แทยอนรับคำแล้วรีบเดินผ่านไปอย่างอ้อยอิ่ง    ก็ใจมันยังไม่อยากไปแล้วนี่น่า  ยังจะมาไล่กันทางสายตาอีก  แต่แทยอนก็ไม่ได้เดินไปไหนไกล  อยากดูอยากอยู่ใกล้คนคนนี้แม้จะอยู่ภายใต้หน้ากากนั้นก็เถอะแต่ก็สวยบากใจ แถมแอบเซ็กซี่อีกต่างหาก  แทยอนเอาผ้าปดจมูกยืนแอบอยู่ข้างๆประตูห้อง

    “เป็นบ้าอะไรของแกเนี๊ยแทยอน โรคจิตป่าวว่ะ”   แทยอนยืนบ่นตัวในใจ

    “คุณแทยอนมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ  มันมีอะรหน้าสนใจครับ”ผู้ดูแลหอแอบมายืนหลบๆด้านหลังแทยอนเพราะเห็นเจ้านายทำท่าลัลๆล่อเลยนึกใคร่รู้ขึ้นมาบ้าง

    “เปล๊า!!  ไม่ได้ดูอะไรสักหน่อย  “ แทยอนเชไช

    “เอ๊า..ไหนละข้าวกลางวันช่างเขานะ ที่สั่งไปเรียบร้อยยังละค่ะ” แกล้งดุลูกน้องแก้เก้อไปจนรอดตัว  มีอย่างที่ไหนที่คนอย่างแทยอนจะมายอมให้จับไต๋ได้ง่าย อย่าหวังซะละ

    ทีมช่างอีกชุดที่อยู่ชั้นสี่เดินลงมาพอดีเพาระเห็นว่าได้เวลาพักแล้ว จึงเดินมาเรียกทีมช่างอีกชั้นไปพักกัน

    “มาพอดีเลยค่ะ   ฉันเตรียมมื้อเที่ยงให้พวกคุณแล้วยังเชิญไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยกันนะคะ”แทยอนเอ่ยชวนทันที ทีมช่างเองก้หันมาพยักหน้าว่าเห็นด้วยทั้งจึงไปรวมตัวกันในห้องแอร์ชั้นล่าง

    “พวกพี่เป็นไงบ้าง ใกล้เสร็จรึยัง  สู้ของฟานี่ไม่ได้หรอกสะอาดรวดเร็วทันใจ ดูดิแปบเดียวเหลือแค่สามเครื่องเอง” ทิฟฟานี่ชวนพี่ๆในทีมคุยเล่นตามประสาคนขี้โม้ และก็จะจบด้วยการเดิมพันเล็กๆน้อย  ระหว่างช่างทั้งสองทีม   

                               โดยในขณะที่สาวสวยมาดเซอร์กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่นั้น  ก็มีสายตาที่มองดูทุกอิริยะบทของเธออยู่ด้วยสายตาเป็นมัน เฮ้ยเป็นประกาย   ก็ไม่รู้ทำไมในเมื่ออยากมอง  อยากเห็นเวลาที่ผู้หญิงหน้าสวยคนนี้หัวเราะ  มันดูมีเสน่ห์  เห็นหัวเราะทีไร เบ้าตานี่หายไปเป็นตาสระอิ  เออ มันก็ดูน่าดึงดูดไปอีกแบบนะเนี๊ยผู้หญิงคนนี้    

                              แทยอนนั่งพิเคราะห์พิจารณาสาวหน้าสววอย่างเงียบๆ   หน้าตาก็ดูดี ผิวพรรณก็ใช้ได้   เสื้อยืดน่าจะได้จากของแถมนะ  กางเกงยืนสีเก่า กับรองเท้าผ้ายี่ห้อคลาสสิกของวัยรุ่น   อืม...กริริยาอาการถ้าจับมาอบรมนิดหน่อย  มันก็ลูกคุณหนูตกอับดีๆนี้เอง

    “เป็นอะไรครับคุณแท...อย่าว่าผมเสือ....ก..เรื่องคุณแทเลยนะครับ   ผมว่าคุณแทไม่ปกตินะครับวันนี่”   ผู้ดูแลหออธิบายอาการของเจ้านายสาว

    “ยังไงอีกละ  ฉันไม่ปกติตรงไหน     แทยอนถามอย่างเอาเรื่อง

    “ก็คุณแทเอาแต่มองช่างหนูฟานี่มาตลอดตั้งแต่คุณแทเข้ามาแล้วนะครับ”

    “เอ้ยจริง!” แทยอนอุทานเสียงหลง  นี่ตาผู้ดูแลหอช่างสังเกตดีจริงๆ  แต่มาสังเกตอะไรเรื่องของฉ้านนนย๊ะ

    “จริงครับ    แต่หนูฟานี่เธอก็โสดนะครับ  เท่าที่ทราบมา”  อืมน่าตบโบนัสสิ้นปีงามๆ

     

              หมดเวลาพักทีมช่างก็ขึ้นไปปฎิบัติหน้าที่ต่อ   แต่คราวนี้แทยอนไม่ได้ขึ้นไปเฝ้าสังเกตการสาวหน้าสวยอย่างทิฟฟานี่อีกเพราะเธอต้องเอางานเขียนของทิฟฟานี่ไปส่งให้กับซันนี่ที่ทำหน้าที่โดยตรงในการเลือกและคัดกรองความถูกต้องของบทความของทุกคนก่อนจะถูกนำลงพิมพ์  หน้าที่นี่ก็หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน 

    “จ๊ะเอ๋!!   แทยอนโผล่หน้ามาทักทายสาวพิสูจน์อักษรยามบ่ายอย่างเป็นกันเอง  ก็ในนี้มนห้องส่วนตัว จะมีใครกล้าว่าอะไรละ  ห้องกระจกฝ้าสีทึบขนาดนี้ ต่อให้จะมีอะไรกันก็ไม่มีใครมองเห็นหรอก (เหรอ)  

    “ว่าไง  เรียบร้อยดีหรือเปล่า”   ซันนี่ถามไถ่แต่ตาก็ยังมองเจ้าสมองกลตรงหน้าอยู่  เธอล่สายตาอ่านอย่างมีสมาธิ

     

    “นี่จ๊ะ...โหทีหลังนะถ้าจะให้ไปรับงานอีกเนี๊ยบอกแทยอนคนนี้นะคะ” 

    “ไม่มีแล้ว   “ซันนี่ตอบอย่างเฉยเมย

    “ไม่ใช่ฉันหมายถึงถ้าคุณทิฟฟานี่ให้ไปรับงานอีกนะ”

    “อ้อ..ไม่มีหรอกนานๆครั้งนะที่จะต้องไปรับกับเธอเอง” 

    “ว้า..เอาไงดีละเนี๊ย”   แทยอนทำเสียงรู้สึกเสียดาย จนซันนี่ต้องหันไปสนใจเพื่อนร่างเล็กอย่างจริงๆจังๆ

    “ทำไม...เกิดสนใจอะไรคุณทิฟฟานี่นางขึ้นมาละ  แหมทำท่าเรียกร้องเสียจริงนะเธอ”  ซันนี้จับจุดเพื่อนสาวร่างเล็กอย่างรู้ทัน   เวลาเกิดมีใจถูกชะตากับใครก็จะสะดิ้ง  หาทางอยากเข้าใกล้เขาไปตลอดเวลาที่มีโอกาส   แต่ก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่ามันทะเม่งๆ  คล้ายๆใครหว่า  เหมือนคุ้นๆคุ้น  

    “หูยแก....หน้าอย่างกับลูกคุณหนูตกอับขนาดนั้น   ดูมีอะไรน่าค้นหานะแก”  ประโยคที่คล้ายจะชม  คนถูกกล่าวถึง  นี่ถ้าเจ้าตัวมาได้ยินเขาไม่โกรธเพื่อนเธอเหรอเนี๊ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×