ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โกดังเก็บเบ็ด

    ลำดับตอนที่ #3 : Zone C-3 : สี่หญิงงามผู้พลิกแผ่นดิน "ปักษีตกนภา"

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 57


      "ปักษีตกนภา ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงนกยังต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า" (so beautiful as to make flying geese fall)

     

    2. หวังเจาจวิน ยอดพธูผู้เสียสละสู่แดนไกล (Wang Zhaojun)

     

         ก็ตามมาติดๆกับสาวงามคนที่สอง

     

         คนงามท่านนี้เป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "หญิงงามกู้เมือง" และ "เจ้าสาวการเมือง" ที่แสนโด่งดัง

     

         หวังเจาจวินนั้น มีนามเดิมหว่า "หวังเฉียง" พระนางได้ถูกส่งตัวเข้ามาทำงานในราชวังฐานะนางกำนัลในรัชสมัยจักรพรรดิฮั่นหยวนตี้ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก และได้เสนอชื่อเข้าเป็นนางสนม การเลือกสนมในสมัยนั้น จะให้จิตรกรวาดรูปผู้ที่จะเข้ารับเลือก แล้วส่งไปให้ "พระเจ้าฮั่นหยวนตี้" เลือก และด้วยความที่หวังเจาจวินนั้นไม่ได้ติดสินบนจิตรกรเหมือนคนอื่นๆเขา (นั่น ขนาดจิตรกร...) รูปที่ออกมาเลยสวยน้อยกว่าตัวจริง (หรือว่าจิตรกรจะแอบเสียดายหว่า) โดยเมินไปโดยปริยาย

     

         ในสมัยนั้นเผ่าซงหนูกับราชวงศ์ฮั่นตะวันตกทำศึกกันอยู่พอดี "ฮูหานเสีย" หัวหน้าเผ่าซงหนูจึงเลือกใช้วิธีสงบศึกด้วยการผูกมิตรเป็นเครือญาติซะเลย ด้วยการเดินทางไปเมืองฉางอัน หมายจะขอรับพระราชธิดาไปเป็นภรรยา และตนจะได้รับยศราชบุตรเขยไปด้วย (แยบยลมาก)

     

         และแน่นอนว่าใครจะอยากยกลูกสาวให้กันล่ะ พระองค์จึงให้นำนางกำนัลมาห้าคน แล้วให้ฮูหานเสียเลือกไปคนหนึ่ง

     

         และแน่นอน หวังเจาจวินที่อยู่ในหมู่ห้าคนนั้นได้สะกดสายตาของผู้คนจนหมดสิ้นด้วยความงามของนาง พระเจ้าฮั่นหยวนตี้ก็ตาโตด้วยความตกใจในความงามเช่นกัน ด้วยความเป็นกษัตริย์จะกลับคำก็ไม่ได้ ได้แต่คิดในใจอย่างเสียดายแบบสุดติ่งว่า ขอให้ฮูหานเสียอย่าเลือกนางเลย

     

        และแน่นอน เพชรน้ำงามที่ล้ำค่าเช่นนั้นชายใดจะไม่หมายปองล่ะ ฮูหานเสียเดินเข้าไปจับมือหวังเจาจวินไว้ แล้วนำกลับเผ่าซงหนูด้วยความสุขท่ามกลางสายตาละห้อยขององค์จักรพรรดิ (อันนี้เราโม้ขึ้นมาเอง อย่าเพิ่งเชื่อนะ555)

     

         อนึ่ง บ้างเขาก็ว่าหวังเจาจวินอาสาแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าซงหนูเอง เพื่อความสงบสุขของราชวงศ์ แต่ไม่ว่าเรื่องจะเป็นเช่นไร จุดที่เหมือนกันคือ หวังเจาจวินได้ไปเป็นภรรยาฮูหานเสียแห่งเผ่าซงหนู

     

         และแน่นอน (และแน่นอนเยอะจังวะ!) เมื่อเสียเพชรน้ำงามไป ใครจะไม่กริ้ว ทรงนำรูปของหวังเจาจวินกลับมาดูใหม่ แหม พอมองแล้วมันช่างเฟคเสียจนโฟโต้ช็อปยังอาย (คือสวยน้อยลงอ่ะนะ) เลยตบรางวัลแก่จิตรกรที่ทำให้พระองค์ทรงชวดท่านหวังเจาจวินนั้น ด้วยทัวร์นรกสุดพิเศษที่ไม่มีขากลับ

     

         ต่อมาเมื่อหวังเจาจวินได้ไปอยู่ที่เผ่าซงหนูกับฮูหานเสีย ก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านเกิดอีกเลย แม้ฮูหานเสียจะเสียไปแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมเนี่ยมเผ่าซงหนูที่จะต้องแต่งงานกับผู้นำเผ่าคนใหม่ หรือก็คือพี่ชายของฮูหานเสียนั่นเอง

     

         และชาวจีนก็คงจะต้องขอบคุณหวังเจาจวิน ที่ท่านทำให้ระหว่างซงหนูและฮั่น อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขถึง 60 ปี อย่างน้อยก็นับว่าภารกิจของหวังเจาจวินก็สำเร็จไปด้วยดี

     

     

         เมื่อประวัติจบไปแล้ว ก็มาเล่าถึงที่มาของฉายา "ปักษีตกนภา" กันดีกว่า

     

         เรื่องมันมาจากตอนที่หวังเจาจวินได้เดินทางไปเผ่าซงหนู ได้พบเจอกับฝูงนกที่บินผ่านไป จึงรำพึงรำพันกับตัวเองประาณว่า "อา...เจ้าปักษาเอย เจ้ายังได้โผบินในนภากว้างอย่างเสรี กลับมาดูตัวเราสิ กลับถูกจองจำอยู่ในบ่วงแห่งสงคราม...ช่างน่าสมเพชเสียเหลือเกิน"

     

         คิดพลางหยิบพิณขึ้นมาบรรเลง กรีดนิ้วมือสวยไปที่สาย เกิดเสียงที่แสนไพเราะแต่ก็แสนจะโศกเศร้าออกมา เจ้านกน้อยที่ไ้ยินเสียงเพลงที่เพราะจับใจนั้นก็หันกลับมามอง เมื่อพบเจอกับความงามของหวังเจาจวินนั้นก็ได้หลงใหลในความงามนั้น ชมเพลินจนลืมบิน แล้วร่วงหล่นลงสู่ผืนปฐพี เกิดเป็นฉายา "ปักษีตกนภา" นั่นเอง



    ขอบคุณรูปหวังเจาจวิน จากเพจ 10_Cm(Fanpage)

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×