ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Phantom Lord! กิลด์จอมป่วน ก๊วนจอมแสบ

    ลำดับตอนที่ #12 : +ตอนพิเศษ+ จอมขมังเวทย์ปะทะลูกนกหัดบิน

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 58


    ยามเย็นค่ำย่ำสายันห์มาเยือนอย่างเชื่องช้าและหอมหวานเหลือเกิน เด็กน้อยอมยิ้มกับตัวเองในห้วงจิต

     

     

         ...แทบจะรอไม่ไหวแล้ว...

     

     

     

         เสียงฝีเท้าดังขึ้นบนระเบียงไม้อย่างระมัดระมังเช่นเคย เด็กน้อยที่รอคอยโอกาสยามนี้มาเนิ่นนานได้แต่ฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวระทึกในอกซ้ายราวกลองสะบัดชัยที่ดังขึ้นในยามรบ ขณะเดียวกับก็หลบซ่อนหลังประตูไม้สักอย่างดี 

     

         ชายสูงวัยเดินเข้ามาในห้อง สอดส่ายหาร่างบอบบางที่เขาเริงรมย์ด้วยราคะที่ล้นทวีมาหลายราตรี หารู้ไม่ว่าภายใต้ความเงียบงันของตำหนักลั่นทมแห่งนี้ ยังมีดวงตาคู่หนึ่งที่คอยจับจ้องทุกอิริยาบถนั้นอยู่ ดวงตาสีพราวแปลกตานั้นคงไว้ซึ่งความไร้ชีวิต...แม้ยามที่กำลังจะดับชีวิตให้บิดาแท้ๆของตนลาจากโลกนี้ไป...

     

         เหยื่อที่จะถูกล่าในค่ำคืนนี้เริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นเมื่อไม่เห็นร่างของคนที่เขาตามหาเสียที ใบหน้าของชายคนนั้นบิดเบ้ด้วยความหวาดกลัวเหลือใจ...

     

         กลัวเหลือเกิน...กลัวว่าสิ่งที่เคยหายไปแล้วได้คืนมา...จะหายไปอีกครั้งหนึ่ง...

     

     

     

         ราวกับเด็กสาวผู้เร้นกายในความมืดจะเข้าใจในความหวาดกลัวนั้น เธอสาวเท้าบางออกมาจากเงามืดช้าๆ แสงจันทราในคืนขึ้นสิบห้าค่ำอันศักดิ์สิทธิ์ต้องผิวกายเนียนนั้นจนดูเหมือนเธอเป็นเทพธิดาที่ลงจากจากสรวงสวรรค์ เธอแย้มยิ้มที่ชายสูงวัยหวนคิดถึงตลอดเวลา สองแขนผ่ายผอมอ้าออก 

     

         "มานี่สิเจ้าคะ...ท่านพ่อ..." เสียงที่เอ่ยขึ้นเบาๆราวเสียงกระซิบที่แสนจะละมุนละไมเหลือเกินในห้องภวังค์ของผู้ที่ถูกเรียกว่าบิดา 

     

         หากเขามีสติอีกแม้เพียงนิด อาจจะได้ยินเสียงกระซิบของมัจจุราชที่กำลังเรียกเขาไปยมโลก มากกว่าเสียงอันอ่อนหวานของเทพธิดาจันทราคนนี้

     

         "อา...ปักษิกา...ในที่สุดเจ้าก็เรียกหาข้าแล้ว..." แม้ในยามนี้ เขาก็ยังเพรียกหาหญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่งของเขาอยู่ดี...

     

         เขาเข้าสวมกอดเด็กสาวอย่างโหยหา ยังไม่ทันให้เขาได้ดื่มด่ำกับความหอมหวานของความสุข ความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นริ้วขึ้นมาจากทรวงอก ของเหลวสีชาดพร้อมสัมผัสอุ่นวาบนั้นทำให้ชายสูงวัยทรุดตัวลงแทบเท้าของเด็กสาว

     

     

         เหมือนกับมีฟ้าฝนที่คะนองขึ้นมากระทันหัน สายฟ้าแลบแปลบปลาบได้เผยภาพของมัจจุราชผู้งดงาม

     

         เด็กสาวที่มองจากที่ต่ำขึ้นไปยามนี้ดูน่าหวาดกลัวเหลือเกิน...ทั้งดวงตาสะท้อนแสงราวสัตว์นักล่า ทั้งมีดในมือที่มีโลหิตติดอยู่ ใบหน้างามยังคงแย้มยิ้มอย่างปลอบโยนให้ชายสูงวัย

     

         "กรีดร้องเสียนะคะท่านพ่อ...กรีดร้องเสียให้พอใจ...ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกครา..."

     

         "อ๊ากกกกกกก!!!" ร่างแก่ชราดิ้นพราดๆให้หลีกหนีจากผู้ที่จะลงมือปลิดชีวิตตน ดวงตาฝ้าฟางเบิกโพลงอย่างตื่นกลัว ยามที่เด็กสาวสืบเท้าเข้ามาใกล้เขาก็ราวกับว่าด้ายชีวิตของตนกำลังถูกบั่นอย่างช้าๆ... 

     

     

         ฉึก!

     

     

         เสียงของมีคมเสียบแทงเข้าไปยังเนื้อหนังของมนุษย์ ทะลุไปจนถึงอวัยวะอันบอบบางที่ประคองชีวิตของชายสูงวัยเอาไว้อย่างแผ่วเบา...

     

         "...ขอให้ท่านได้หลับใหลอย่างเป็นสุข ในโลกที่ไร้ความโศกาอันเป็นนิรันดร์..." เสียงอวยพรแก่ผู้จากโลกนี้ไปอย่างง่ายดายดังลอดอกมาจากริมฝีปากของเด็กสาว

     

        ใบหน้าที่เปื้อนคราบโลหิตนั้นยังคงไร้ความเปลี่ยนแปลง แต่คนที่ได้สบดวงเนตรกับเธอก็คงได้เห็น...

     

         แววตาที่สั่นระริกราวอัญมณีเม็ดงามกำลังจะแตกร้าว...

     

     

     

        "พ่อหมอ!! ทางนี้เลยเจ้าค่ะ!! นังผีบ้านั่นเริ่มอาละวาดใหญ่แล้ว!!" เสียงแหลมสูงแหบแห้งบ่งบอกวัยดังขึ้นท่ามกลางสายฝน ขณะมือแห้งเหี่ยวก็กำลังลากร่างของชายวัยกลางคนท่าทางแข็งแรงแต่งตัวสมกับเป็นหมอคาถา ฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำราวกำลังชะล้างแผ่นดินนี้อยู่

     

     

         เหมือนที่เรือนของเจ้าใหญ่นายโตคนหนึ่งกำลังถูกคนที่เรือนเรียกว่าผีบ้าอาละวาดไล่ทำร้ายผู้คน เห็นว่าฆ่าเจ้าบ้านไปแล้วเสียด้วย

     

         หมอผีถอนหายใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งฝ่าฝน พลางคิดสะระตะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของผีบ้าที่ว่า

     

         หนึ่งหมอผีที่มีชื่อเสียงว่าเก่งกาจที่สุดในแดนสยาม และหนึ่งเด็กสาวผู้มิใช่มนุษย์นั้นได้โคจรมาพบกัน...กงล้อแห่งโชคชะตาก็ได้หมุนไปอีกทิศทางหนึ่งอีกครั้ง...อย่างรวดเร็ว

     

     

     

         เด็กสาวที่กักขังตัวในซอกลึกของตำหนักลั่นทมนั้นกำลังจิกทึ้งเส้นผมของตนเองอย่างรุนแรงอย่างระงับอารมณ์ ไหลบางสั่นไหวด้วยความตื่นกลัว

     

         'คนข้างนอก...เสียงดัง...น่ากลัว...'

     

         คิ้วโก่งเรียวดังคันศรขมวดเข้าหากันน้อยๆจนแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อประสาทหูที่ได้ยินชัดกว่าคนอื่นได้ยินเสียงฝีเท้าที่แปลกประหลาดในเรือนนี้...ทั้งยังกลิ่นอายเวทมนตร์แปลกๆที่เธอไม่รู้จักเสียด้วย

     

         ปัง!!

     

        เสียงบานประตูถูกเปิดออกมา รับกับเสียงกัมปนาทดังสนั่นหวั่นไหว เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะค่อยๆยืนขึ้นเต็มความสูง

     

        เงาของชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ที่ตรงนั้น รูปหน้าดุเข้ม ร่างกายสมส่วนท่าทางแข็งแรง ใส่ชุดขาวห้อยลูกประคำสะพายย่ามสีแดงสดพร้อมอักขระยันต์

     

         คนอื่นอาจเห็นเป็นเช่นนั้น แต่แก้วตาของเด็กสาวไม่ได้มองเช่นนั้น

     

        ภาพของชายหนุ่มอายุประมาณ 20 ต้นๆ รูปหน้าติดหวานเล็กๆ และค่อนข้างสวย กระนั้นยังแฝงความแข็งกร้าวของบุรุษเพศอยู่ ทำให้เขาไม่ดูตุ้งติ้งมากนัก

     

        ภาพที่ซ้อนทับกันทำให้เด็กสาวสะบัดหัวหลายๆทีเพื่อตั้งสติอีกครา เส้นผมสีประหลาดสะบัดพลิ้วไหวไปมาอย่างนุ่มลื่น กะพริบตาปริบหลายๆครั้งเพื่อมองร่างตรงหน้าให้แน่ใจ

     

     

        แต่คนที่ได้มาเห็น 'ผีบ้า' อย่างหมอผีผู้เก่งกาจนั้นตกตะลึงยิ่งกว่าเสียอีก อยู่มาจนปูนนี้ ยังไม่เคยได้เห็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่เล่าขานกันมาในโบราณเสียที...

     

        เขาเป็นจอมเวทย์...อันมีร่างกายที่หยุดนิ่ง ไม่แปลกที่ดวงตาของเด็กคนนั้นที่มองเห็นซึ่งความจริงทุกสิ่งอย่างจะเห็นภาพตัวจริงของเขา

     

        ทั้งดวงตาสีเงินสว่างล้อมกรอบด้วยแพขนตาสีฟ้า ราวกับเป็นพระจันทร์ที่เฉิดฉินขึ้นในตอนกลางวัน ผิวกายสีขาวนวลราวสีของงาช้าง เส้นผมที่หยักเป็นคลื่นดุจเปลวเพลิงสีฟ้า เครื่องหน้าทุกอย่างที่วางไว้อย่างเหมาะเจาะบนใบหน้าเรียวได้รูป

     

         ตรงกับคำกล่าวในบันทึกไม่มีผิด ถึงจะยังเด็กอยู่ แต่อีกสามปีรับรองต้องเป็นสาวงามสะพรั่งอย่างแน่นอน

     

         จอมเวทย์ในคราบหมอผีรู้สึกเปลวเพลิงแห่งการเอาชนะในร่างกายลุกโชนขึ้นมากระทันหัน ดวงตาที่ประกายแสงสีแดงวาวชั่วขณะทำให้เด็กน้อยขนลุกขึ้นมา เขาสั่งให้คนในบริเวณนั้นออกไปจากเรือนนี ก่อนจะกางวงอาคมสีแดงฉานราวโลหิตออกมา

     

         "ก่อนอื่นต้องบอกว่าเช่นไรดี? แม่นกน้อย?" เสียงที่เปล่งออกมานั้นมิใช่เสียงกร้านใหญ่เช่นเดิม แต่เป็นเสียงที่นุ่มนวลกว่านั้นและแฝงด้วยความทะเล้น ก่อนที่ร่างกายเขาจะสลัดคราบหมอผีแก่กล้าวิชาออกไป กลายเป็นชายหนุ่มรูปลักษณ์ประมาณยี่สิบต้นๆแทน

     

         "...ก่อนอื่นท่านต้องหลบทางเรา" เสียงหวานที่แหบแห้งเล็กน้อยดังขึ้นอย่างชัดเจนที่สุด "แล้วไสหัวไป!!" เสียงตวาดกร้างนั้นเกือบทำให้ร่างของขมังเวทย์เกือบทำตาม เพราะพลังของวาจาประกาศิตอ่อนๆที่แฝงมากับสายเลือด แม้จะยังเป็นพลังที่เจือจางนัก แต่หากขัดเกลาเสียหน่อย ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้แน่นอน

     

         "น่าเสียดายเหลือเกินแม่นกน้อย หากแต่เราไม่สามารถไสหัวไปได้หรอก ก็รับงานมาแล้วนี่นะ"

     

         "งานของท่านคือขับไล่ผีบ้ามิใช่หรือ ตอนนี้ผีบ้าตนนั้นก็จักอัปเปหิตนเองอยู่แล้ว ถือว่างานของท่านจบไปแล้ว ไยมิยอมหลีกทางให้เรา" เสียงตวัดเป็นเชิงเย่อหยิ่ง และคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาที่ถูกลับให้เฉียบแหลมภายในเวลาไม่ถึงชั่วยาม

     

         "ใช่ งานนั้นจบลงไปแล้วแม่นกน้อย...แต่ใครบอกว่างานของเรามีเพียงงานนั้นเล่า!!"

     

     

     

         สิ้นเสียง ทั้งสองร่างก็ทะยานขึ้นบนท้องฟ้าภายในเวลาเดียวกัน เด็กสาวกางปีกเพลิงสีฟ้าที่แผ่รังสีเยือกเย็นออกมา แต่จอมขมังเวทย์อย่างเขารู้ซึ้งถึงพิษสงของมันว่าอันตรายกว่าที่เห็นนัก!

     

         "เอาล่ะ ตามมารยาทที่ดีในงานเต้นรำ ฝ่ายชายต้องเริ่มนำคู่เต้นก่อน...ฉะนั้น ขอเริ่มเลยแล้วกัน!" เขารู้ดีว่าสำหรับสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะอย่างนกเพลิงสีฟ้านี้ ยิ่งจบการต่อสู้กันได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีต่อตัวเอง การต่อสู้ยืดเยื้อกับชนเผ่านกเพลิงนั้นเป็นการกระทำที่โง่มาก

     

         วงอาคมสีแดงโลหิตกางวูบวาบ เด็กสาวตั้งท่าระมัดระวังอย่างเต็มที่ พลันวงอาคมกว่าสิบอันที่กางเรียงรายก็ปล่อยพลังเวทออกมาในรูปแบบต่างๆนาๆมากมายจนตั้งรับแทบไม่ทัน ความเยาว์ทำให้แม้จะเป็นเจ้าป่าผู้เกรียงไกรก็พ่ายแพ้ต่อหลุมพรางกับดักของนายพรานมือฉกาจได้

     

         ไม่นานนั้นเอง

     

        "กรี๊ดดดด!!!!" เสียงกรีดร้องดังขึ้นและสิ้นลง พร้อมๆกับกรงอาคมสีแดงครอบกาย ไอพลังสีฟ้าครามถูดูดออกมาจากร่างกายผ่ายผอมของเด็กสาวอย่างต่อเนื่อง จอมขมังเวทย์ยกยิ้มอย่างพอใจ พลางร่ายคาถาเพียงสองสามคำ ร่างของทั้งสองก็หายวับไปจากท้องฟ้า

     

     

         'จะชำแหละยังไงดีนะ...หึๆๆๆๆ น่าสนุกดีจริงๆ'


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×